โจทย์ของการจัดการข้อมูลสำหรับองค์กรในปัจจุบันไม่ได้เป็นเพียงการวางแผนระยะสั้นอีกต่อไป เนื่องจากข้อมูลมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยเหตุนี้เองการวางกลยุทธ์เพื่อจัดการแพลตฟอร์มด้านข้อมูลจึงกลายเป็นแผนระยะยาวที่ต้องรองรับการขยายตัวได้แทบไร้ขีดจำกัด นอกจากนี้แพลตฟอร์มยังต้องเปิดกว้างรองรับโซลูชันได้หลายประเภททั้ง Block Storage, File Storage หรือแม้กระทั่งการใช้งาน Object ที่ได้รับความนิยมในแอปพลิเคชันสมัยใหม่ รวมไปถึงต้องไม่ปิดกั้นเฉพาะโซลูชัน Storage เจ้าใดเจ้าหนึ่งเท่านั้น
ในยุคที่ AI กลายเป็นหัวใจสำคัญของการประมวลผลข้อมูลอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ระบบ Edge Computing จึงมีบทบาทสำคัญในการทำให้เทคโนโลยีเหล่านี้ตอบสนองความต้องการขององค์กรต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ IBM ในฐานะผู้นำด้านโซลูชัน AI ระดับองค์กร ได้พัฒนา IBM Power S1012 เซิร์ฟเวอร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่องานประมวลผล Edge Computing โดยเฉพาะ เพื่อรองรับการใช้งานในอุตสาหกรรมหลากหลาย เช่น ค้าปลีก ขนส่ง สุขภาพ และการผลิต ในบทความนี้ เราจะพาไปเจาะลึกถึง 6 คุณสมบัติสำคัญของเซิร์ฟเวอร์รุ่นนี้ว่าทำไมมันถึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับงาน Edge Computing
ปัจจุบันนี้แทบทุกองค์กรได้มีการนำข้อมูลมาใช้ขับเคลื่อนธุรกิจ โดยจะมีขั้นตอนและกระบวนการในการรวบรวมข้อมูลต่างๆ หรือเรียกว่าการทำ Data Pipelines ก่อนที่จะนำข้อมูลไปใช้งาน แต่ด้วยปริมาณของข้อมูลที่มากขึ้นและการนำข้อมูลไปใช้งานมีความซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ ทำให้บางครั้งการนำเอาข้อมูลไปใช้งานเกิดความผิดพลาดหรือคุณภาพของข้อมูลไม่เพียงพอ เมื่อเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น สิ่งที่ Developer หรือ Data Engineer จะต้องทำคือการ monitor ข้อมูลเพื่อหาสาเหตุของปัญหาตั้งแต่ข้อมูลปลายทางย้อนกลับไปตามกระบวนการของ Data Pipeline เรื่อยๆ จนกว่าจะเจอต้นเหตุของปัญหา เพื่อแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง ซึ่งทำให้เสียเวลาเป็นอย่างมากและอาจจะทำให้เกิดผลกระทบในนำข้อมูลไปใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจอีกด้วย