Sanjay Jha ซีอีโอของ Motorola Mobility พูดที่งานสัมมนาของ Merrill Lynch โดยเผยสถิติว่า 70% ของลูกค้าที่นำมือถือมาคืน เกิดจากไม่พอใจในประสิทธิภาพของแอพที่รันบนมือถือ
Jha บอกว่าปัญหาเกิดจากนโยบายของ Android Market ที่เปิดกว้างจนเกินไป และไม่ยอมตรวจสอบเรื่องประสิทธิภาพการทำงานของแอพว่ากระทบต่อซีพียูและแบตเตอรี่มากน้อยแค่ไหน
Motorola มีแผนแก้ปัญหานี้โดยพัฒนาให้อินเทอร์เฟซ Motoblur ของบริษัทสามารถเก็บสถิติการทำงานของแอพได้ และถ้าแอพตัวไหนกินแบตเตอรี่เกิน 35% (เข้าใจว่าตัวเลขเปลี่ยนแปลงได้นะครับ) Motoblur จะแจ้งเตือนผู้ใช้และเลือกให้ปิดแอพได้
เมื่อเดือนที่ผ่านมา ผมได้เปลี่ยนโทรศัพท์มือถือเครื่องหลักที่ทำหน้าที่โทรศัพท์จริงๆ จากเดิม WellcoM W3319 มาเป็น Motorola Charm โดยเครื่องโทรศัพท์หลักของผมแม้จะใช้โทรศัพท์เป็นหลัก แต่ก็มีเงื่อนไขส่วนตัวว่าต้องการคีย์บอร์ด QWERTY เพื่อใช้งานพิมพ์อื่นๆ หลังจากทางตัวแทนจำหน่ายลดราคา Motorola Charm มาเหลือราคา 4,990 บาท มันก็อยู่ในความสนใจพออยู่สักระยะจนกระทั่งตัดสินใจใช้งานมันเป็นเครื่องหลัก
เว็บไซต์ Droid-life รายงานข่าวว่า Motorola Droid X2 ซึ่งเป็นรุ่นต่อของ Droid X มือถือจอใหญ่ที่วางขายเมื่อปีที่แล้ว จะเริ่มขายกับเครือข่าย Verizon ในวันที่ 26 พ.ค. นี้
รูปลักษณ์ภายนอกของ Droid X2 เหมือนกับ Droid X แทบทุกประการ คือเป็นมือถือจอ 4.3" แบบไม่มีคีย์บอร์ด แต่ไส้ในเปลี่ยนเกือบหมด เพราะ Droid X2 เป็นมือถือที่ใช้ซีพียู Tegra 2 ดูอัลคอร์ 1GHz, หน้าจอ qHD ความละเอียด 960×540, หน่วยความจำภายใน 8GB, แถม Micro SD อีก 8GB และระบบปฏิบัติการ Android 2.3 Gingerbread
ผู้ที่ใช้แท็บเล็ต Motorola XOOM ในสหรัฐเริ่มได้อัพเกรดเป็น Android 3.1 กันแล้ว เว็บไซต์ CrunchGear ทดสอบและค้นพบของใหม่ดังนี้
หลังจากปล่อยให้นักวิเคราะห์คาดเดากันมานานว่า XOOM ขายดีแค่ไหนกันแน่ ในที่สุด Motorola ก็ออกมาเปิดเผยยอดขายอย่างเป็นทางการในการแถลงผลประกอบการประจำไตรมาส โดยไตรมาสแรกของปี 2011 สามารถขาย XOOM ได้ 250,000 เครื่อง เยอะกว่าที่หลายสำนักคาดการณ์กันไว้
ไตรมาสนี้ Motorola ขายผลิตภัณฑ์ได้ทั้งหมด 9.4 ล้านเครื่อง ในจำนวนนี้เป็นสมาร์ทโฟน 4.1 ล้านเครื่อง ส่วนรายรับเพิ่มขึ้น 22% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน บริษัทยังขาดทุนอยู่แต่ด้วยอัตราที่ลดลงจากเดิม
ที่มา - BGR
ข่าวนี้ไม่มีอะไรมากครับ สำหรับคนที่ได้ซื้อมือถือ Android จากโมโตโรล่าไปใช้คงจะมีเฮได้ หลังจากที่เว็บ AusDroid อ้างว่าได้รับการยืนยันจากโมโตโรล่าเอเชียเหนือ (Motorola North Asia) ว่าบริษัทมีแผนที่จะปลดล็อค Bootloader ให้กับมือถือทุกเครื่องภายในปีนี้
โมโตโรล่ายังบอกอีกว่าบริษัทต้องการที่จะให้ Bootloader ของมือถือโมโตโรล่าที่ใช้ Android ทุกเครื่องสามารถใช้งานได้เหมือนกับ Motorola XOOM ที่สามารถจะทำการปลดล็อคหรือกลับมาล็อคใหม่ได้ตามใจผู้ให้บริการเครือข่าย
คงไม่นานเกินรอครับ :)
แม้ Motorola จะไม่ได้เปิดเผยยอดขายผลิตภัณฑ์ของตัวเอง แต่นักวิเคราะห์จากบริษัท Pacific Crest ได้เช็คข้อมูลกับช่องทางการจัดจำหน่ายของ Motorola และพบว่ายอดขายของมือถือ Atrix 4G กับแท็บเล็ต XOOM อยู่ในระดับ "น่าผิดหวัง" (disappointing) ทีเดียว
กรณีของ Atrix เกิดจากสงครามราคาระหว่างมือถือของค่าย AT&T กันเอง โดย Atrix ต้องสู้กับ iPhone 3GS ที่ลดราคาลงมา และ HTC Inspire ที่จับตลาดล่าง
ส่วนกรณีของ XOOM ก็คงรู้กันดีอยู่แล้วว่าราคาแพงกว่าคู่แข่งและระบบปฏิบัติการ Honeycomb ที่ยังไม่พร้อมมากนัก แถมมีปัจจัยเรื่อง iPad 2 ที่ร้อนแรงกว่ามากมาเบียดบังอีกด้วย
เว็บไซต์ Informationweek รายงานข้อมูลจากวงในว่า Motorola Mobility ได้จ้างนักพัฒนาด้านเว็บและอุปกรณ์พกพาจำนวนหนึ่ง เพื่อมาพัฒนาระบบปฏิบัติการบนมือถือของตัวเอง
ตามข่าวบอกว่า ระบบปฏิบัติการตัวนี้จะเป็นทางเลือกหนึ่งนอกเหนือจาก Android และอิงอยู่บนเทคโนโลยีของเว็บเป็นหลัก (เหมือนกับ webOS?) โครงการนี้เริ่มเดินหน้ามา 9 เดือนแล้ว และทีมพัฒนาบางคนก็มาจาก Apple และ Adobe ด้วย
นักวิเคราะห์การเงินของ Deutsche Bank บอกว่าได้ข่าวนี้มาเช่นกัน ซึ่งก็ตรงตามหลักทั่วไปว่า Motorola ไม่ควรพึ่งพาผู้ผลิตซอฟต์แวร์เพียงรายเดียว แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าโครงการนี้จะจริงจังแค่ไหน
หลังจากถูกโจมตีว่า "แพง" มาสักระยะ Motorola ก็เปิดเผยรายละเอียดของ XOOM รุ่น Wi-Fi (ไม่มี 3G) แล้ว
XOOM รุ่น Wi-Fi มีรุ่นย่อยเดียวคือพื้นที่เก็บข้อมูล 32GB ตั้งราคาที่ 599 ดอลลาร์ เท่ากับ iPad 2 แบบ Wi-Fi 32GB ส่วนวันวางขายในสหรัฐคือ 27 มีนาคมนี้ ประเด็นเรื่อง Flash Player นั้น Motorola ระบุว่าผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด Flash 10.2 Beta ได้จาก Android Market กันเอง
ตอนนี้ราคาลงมาเท่ากันแล้ว (อย่างน้อยก็รุ่น 32GB) ที่เหลือก็วัดกันที่ซอฟต์แวร์และจำนวนแอพ (ซึ่งฝั่ง Android ยังเป็นรองอยู่) แล้วล่ะครับ
เฟชบุ๊กของโมโตโรล่ายุโรปได้ประกาศว่าเครื่อง Milestone กำลังจะได้รับอัพเกรด Android 2.2 Froyo กันแล้วในที่สุด อย่างไรก็ประกาศนี้ระบุว่ามีเพียงบางประเทศเท่านั้นที่จะได้รับการอัพเกรด และยังไม่มีประกาศว่าประเทศใดบ้างจะได้รับเป็นกลุ่มแรก
ที่น่าสนใจคือในเฟชบุ๊กนั้นมีการระบุอย่างชัดเจนว่าเมื่ออัพเกรด Froyo แล้ว Milestone จะสามารถทำ Wi-Fi tethering ได้ ขณะปีที่แล้วผู้ใช้ในสหรัฐฯ ต้องผิดหวังเมือการอัพเกรดในสหรัฐฯ ไม่ได้ให้ความสามารถนี้มาด้วย โดยโมโตโรล่าอ้างว่าเป็นข้อจำกัดของฮาร์ดแวร์
ข่าวนี้เป็นเรื่องสืบเนื่องจากรายงานของ Sanford C. Bernstein ที่ว่าทำไม iPad จึงราคาถูกกว่าแท็บเล็ตค่ายอื่น โดย The New York Times ได้ไปสอบถามผู้ผลิตแท็บเล็ตค่ายต่างๆ รวมทั้งนักวิเคราะห์อีกหลายท่านเพิ่มเติมถึงประเด็นนี้
Rhoda Alexander นักวิเคราะห์จาก IHS iSuppli บอกว่าการเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนเองนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าบริษัทนั้นพอผลิตสินค้าส่งขายภายในกันเองจะได้ราคาที่ต่ำที่สุดกว่าคนอื่น ทั้งนี้เป็นเพราะการคิดต้นทุนอาจแยกส่วนกันได้
ประเด็นเรื่องราคาของ Motorola XOOM ยังเป็นประเด็นข่าวอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดบริษัท UBM TechInsights ออกมาวิเคราะห์ราคาต้นทุนส่วนประกอบของ XOOM แล้ว
UBM TechInsights ประเมินว่าต้นทุนค่าวัสดุและส่วนประกอบของ XOOM อยู่ที่ 278 ดอลลาร์ต่อเครื่อง ในขณะที่ iPad อยู่ที่ 245 ดอลลาร์ จุดหลักที่ทำให้ต้นทุนของ XOOM แพงกว่าคือกล้องหน้า-หลัง (14 ดอลลาร์) และจอภาพที่ละเอียดกว่าของ iPad (ราคาต่างกัน 5 ดอลลาร์) ส่วน iSuppli บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านวิเคราะห์ส่วนประกอบยังบอกว่า XOOM ใช้ซีพียูแบบสองคอร์ รวมถึงมีแรมมากกว่า iPad ด้วย
ปัจจัยชี้ขาดสำหรับการใช้มือถือสำหรับองค์กรคือความปลอดภัยของข้อมูล และความสามารถในการจัดการจากระยะไกล แชมป์ในวงการนี้ยังเป็นของ BlackBerry (มี Windows Mobile ตามมาห่างๆ และ iPhone ที่มาแรงในระยะหลัง) ส่วน Android แม้จะมีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยอยู่บางส่วน แต่ถ้าเทียบกับผู้นำแล้วยังตามอีกไกล
Motorola ซึ่งจับตลาดระบบสื่อสารขององค์กรมานาน หวังจะบุกตลาดนี้โดยยกเครื่องระบบความปลอดภัยของ Android เสียใหม่ โดยผ่านบริษัท 3LM ที่เพิ่งซื้อมา แนวทางคือเพิ่ม API ด้านความปลอดภัยและการบริหารจัดการลงไปที่ระดับระบบปฏิบัติการ เพื่อให้มือถือของ Motorola สามารถควบคุมจากซอฟต์แวร์บริหารจัดการอุปกรณ์พกพาที่นิยมในท้องตลาด เช่น Good Technology, MobileIron, Zenprise ได้
Sanjay Jha ซีอีโอของ Motorola Mobility แถลงข่าวต่อนักลงทุน เขาเผยแผนการด้านมือถือและอุปกรณ์พกพาเพิ่มอีก 2 เรื่อง
อย่างแรกคือ Laptop Dock อุปกรณ์เสริมของ Motorola Atrix ที่แปลงมือถือเป็นโน้ตบุ๊ก จะขยายไปยังมือถือรุ่นอื่นๆ ที่จะวางขายในครึ่งหลังของปีนี้ ทาง Motorola ยังไม่บอกว่าทุกรุ่นจะใช้อุปกรณ์เสริมร่วมกันได้หรือว่าต้องของใครของมัน นอกจากนี้ยังบอกว่าเหตุผลที่ Droid Bionic (มือถือคู่แฝดของ Atrix แต่คนละเครือข่าย) ยังไม่มี Laptop Dock เป็นเพราะเรื่องเวลาในการพัฒนาล้วนๆ - Engadget
Motorola XOOM แท็บเล็ต Honeycomb ตัวแรกออกวางขายแล้วในสหรัฐ และตอนนี้ก็มีรีวิวออกมาแล้วหลายเจ้าครับ
ฮาร์ดแวร์
โดยรวมแล้วรูปร่าง-น้ำหนักไม่ต่างกับ iPad มาก หน้าจอแสดงผลได้ดี ซีพียูแรงพอที่จะทำงานได้ไม่หน่วง (เร็วกว่า Galaxy Tab อย่างเห็นได้ชัด) ระบบเสียงเป็นสเตอริโอ คุณภาพของกล้องถือว่าใช้ได้ (ไม่ถึงกับดีมาก แต่ก็ไม่แย่)
XOOM มี 2 ช่องที่ไม่ได้ใช้คือ Micro SD ที่ Honeycomb ยังไม่รองรับ (จะอัพเดตเพิ่มในอนาคต) และช่องเสียบซิม 4G LTE ของ Verizon ที่จะใช้ได้ในไตรมาสที่สอง (ตอนนี้ต่อ 3G ไปก่อน)
Engadget ติเรื่องปุ่มปรับเสียงและปุ่ม power ตื้นและกดยาก วางตำแหน่งยังไม่ดีนัก
แบตเตอรี่อยู่ได้นานแต่ยังไม่นานเท่ากับ iPad
ไม่น่าเชื่อแต่ก็เป็นไปแล้วครับ เมื่อ "จอมล็อค bootloader" อย่าง Motorola ได้ยืนยันผ่านทวิตเตอร์ว่าแท็บเล็ต XOOM จะใช้ bootloader แบบปลดล็อคได้ เพื่อให้นักพัฒนาเข้าถึงฮาร์ดแวร์ได้อย่างเต็มที่
สงสัยว่าในฐานะ "ว่าที่แท็บเล็ต Honeycomb ตัวแรก" อาจต้องเอาใจนักพัฒนาเยอะๆ หน่อยกระมัง
ที่มา - Android Central
แม้ค่าย Android จะใช้ Flash เป็นจุดขายเหนือกว่าอุปกรณ์ค่ายแอปเปิล แต่แท็บเล็ตที่เป็น "เรือธง" อย่าง Motorola XOOM กลับยังเล่น Flash ไม่ได้เหมือนกัน?
เรื่องก็คือมีคนตาดีไปเห็นข้อความตัวเล็กๆ บนหน้าของ XOOM ในเว็บไซต์ของ Verizon ว่า "Adobe Flash expected Spring 2011"
ตอนนี้ยังไม่มีคำอธิบายใดๆ จาก Motorola/Verizon ในเรื่องนี้ แต่คาดว่าเป็นเพราะปัญหาด้านประสิทธิภาพของ Flash บน XOOM/Honeycomb ซึ่งต้องรอทาง Adobe ตรวจสอบและแก้ไขนั่นเอง
ที่มา - Reghardware
Motorola Atrix 4G เป็นมือถือ Android ที่แรงที่สุดที่มีขาย ณ ขณะนี้ ในสหรัฐจะเริ่มวางขายกับเครือข่าย AT&T เร็วๆ นี้ และทาง AT&T ก็ส่งเครื่องให้เว็บไซต์หลายแห่งรีวิวแล้ว
ทิศทางของการรีวิวก็ออกมาคล้ายๆ กันคือ Atrix เป็นมือถือ Android ที่ดีที่สุดในท้องตลาด (นับถึงตอนนี้) แต่อุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่ Motorola หวังจะให้เป็นจุดขายเหนือมือถือคู่แข่งอื่นๆ กลับยังไม่ทำงานได้ดีอย่างที่ควรจะเป็น
Atrix มีทุกสิ่งทุกอย่างที่มือถือตลาดบนในปี 2011 ควรมี ไม่ว่าจะเป็น
หลังจากที่ Motorola เปิดราคาของ XOOM ที่ 799 ดอลลาร์ แพงกว่า iPad รุ่นเท่ากันอยู่ 70 ดอลลาร์ จนถูกวิจารณ์พอสมควร
ซีอีโอ Sanjay Jha ก็ออกมาปกป้องราคานี้ โดยเขาให้เหตุผลว่า "799 ดอลลาร์คุณจะได้ความจุ 32GB, เครือข่าย 3G และอัพเกรดเป็น 4G ฟรี เมื่อคุณได้ใช้เน็ตความเร็ว 50Mb/s จะเห็นความคุ้มค่าของมันเอง"
ส่วนรุ่น Wi-Fi เขายังไม่บอกตัวเลข แต่ให้สัมภาษณ์ว่าตลาดนี้ถูก iPad กำหนดราคาที่ 599 ดอลลาร์ไปแล้ว อุปกรณ์ของ Motorola ก็คงอยู่ในระดับเดียวกัน
ในการสัมภาษณ์เดียวกัน Sanjay ยังพูดถึงประเด็นอื่นๆ ดังนี้
หลังจากมีข่าวให้ตกใจเล่นว่า XOOM จะขายที่ 1,199 ดอลลาร์ ตอนนี้ราคาอย่างเป็นทางการมาแล้วครับ
Sanjay Jha ซีอีโอของ Motorola ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า XOOM จะขายกับเครือข่าย Verizon แบบไม่ติดสัญญาที่ 799 ดอลลาร์ (ประมาณ 25,000 บาท) ส่วนรุ่น Wi-Fi อย่างเดียวจะอยู่ราวๆ 600 ดอลลาร์ (ประมาณ 18,000 บาท)
Sanjay ยังพูดถึงกรณีของโนเกีย-ไมโครซอฟท์ว่า เขาอยากให้มีระบบปฏิบัติการอยู่ในตลาด 3-4 ตัว แม้ว่าเขาจะรัก Android แต่ไม่ควรจะมีระบบปฏิบัติการเดียวในตลาด
ที่มา - Reuters
Christy Wyatt ผู้บริหารระดับสูงของ Motorola ให้สัมภาษณ์ว่าเธอไม่เห็นโอกาสที่บริษัทจะใช้ Windows Phone แม้จะไม่ถึงขนาด "ไม่มีวันใช้" ก็ตาม แต่ตอนนี้ Windows Phone ไม่ใช่สิ่งที่ Motorola ให้ความสนใจ
เธอบอกว่าตอนนี้ Motorola เป็นผู้ผลิตมือถือรายเดียวที่ใช้ Android ทั้งหมด 100% และเหตุผลหนึ่งที่ไม่เลือก Windows Phone ก็เพราะต้องการใช้ระบบปฏิบัติการที่เปิดซอร์สมากกว่า
เธอยังพูดถึงนโยบายการอัพเกรดเฟิร์มแวร์ว่า ในปีที่ผ่านมากระบวนการพัฒนาเฟิร์มแวร์ล่าช้าไปบ้าง เพราะ Motorola แยกเฟิร์มแวร์ตามมือถือแต่ละรุ่น แถมแยกตามเครือข่ายในประเทศต่างๆ แต่ตอนนี้เริ่มปรับปรุงกระบวนการอัพเกรดเฟิร์มแวร์บ้างแล้ว ผู้ใช้น่าจะเห็นผลชัดเจนขึ้นในการอัพเป็น Gingerbread
ขอเตือนหลายๆ คนที่รอเจ้า Motorola XOOM อยู่ว่า "ระวังหัวใจวาย"
เพราะว่าวันพฤหัสบดีที่ 17 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ทางร้าน Best Buy ก็จะเปิดให้ Pre-order เจ้า Motorola XOOM แล้วครับ อ๊ะ! อ๊ะ! แต่อย่าเพิ่งดีใจไปเพราะอยากให้ตั้งใจฟังราคากันให้ดีๆ
1,199 US Dollar หรือประมาณ 37,169 บาท (เทียบจาก 1 US Dollar = 31 บาท)
ต้องขอพูดเป็นภาษาวัยรุ่นว่า "ฟังราคาแล้วปวดตับยิ่งนัก"
Update: ต้นฉบับออกมาแก้ข่าวแล้วครับว่าราคาขายจริงน่าจะอยู่แถวๆ 800 US Dollar หรือประมาณ 24,800 บาท (ขอบคุณคุณ EsaOsy ครับ)
ที่มา - engadget
คงมีหลายคนใช้มือถือ Android จากค่าย Motorola แล้วได้แต่มองตาปริบๆ ที่เห็นคนอื่นได้ชิมโยเกิร์ตแช่แข็งหรือขนมปังขิง แต่ตอนนี้ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้นอีกต่อไปแล้ว เพราะทาง Motorola ประกาศออกมาแล้วว่าจะไม่อัพเดทโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าให้ใช้ Android รุ่นใหม่ได้อีกต่อไป
โทรศัพท์รุ่นที่ถูกประกาศลงทัณฑ์ ตอนนี้มี 4 รุ่น คือ Motorola Clique Xt, i1, Flipout และ Charm โดยสองรุ่นแรกจบที่ 1.5 และสองรุ่นหลังจบที่ 2.1 เพราะฉะนั้นที่เคยหวังกันไว้ริบหรี่ ตอนนี้คงเลิกหวังกันได้แล้วล่ะครับ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Motorola ปล่อยทีเซอร์ของโฆษณาแท็บเล็ต XOOM ที่เปรียบเทียบปี 1984 กับปี 2011 มาให้ดูเรียกน้ำย่อย วันนี้โฆษณาแบบเต็มๆ เปิดตัวในการแข่งขัน Super Bowl นัดชิงชนะเลิศ
โฆษณานี้มีความยาว 1 นาที เป็นเรื่องของพนักงานหนุ่มที่อาศัยอยู่ใน "โลกไร้จิตใจ" เลียนแบบนิยายเรื่อง 1984 ซึ่งประชากรในโลกนี้ใส่หูฟังสีขาว พนักงานคนนี้ใช้แท็บเล็ต XOOM ที่ทำอะไรได้มากกว่า (เช่น ถ่ายภาพ และ Google Maps 5.0) จนเปลี่ยนใจของสาวคนหนึ่งได้
ที่มา - Electronista
จากที่กูเกิลเปิดตัว Android 3.0 Honeycomb ไปเมื่อวันก่อน หลังงานแถลงข่าว สื่อฝรั่งหลายค่ายมีโอกาสได้จับแท็บเล็ต Motorola XOOM ที่ติดตั้ง Android 3.0 รุ่นสมบูรณ์ เลยรวบรวมเนื้อหา+วิดีโอบางส่วนมาให้ดูกันครับ
Engadget ลองเล่นเกม Monster Madness ที่เดโมบนเวที บอกว่ายังมีกระตุกบ้างเล็กน้อย แต่โดยรวมถือว่าเยี่ยม เล่นเกมที่พอร์ตมาจากคอนโซลแบบเกมนี้ได้อย่างไม่มีปัญหา