ธนาคาร OCBC ในสิงคโปร์เปิดบริการ OCBC MyOwn Account ให้บริการเด็กอายุ 7-15 ปี เพื่อให้สามารถจ่ายเงินผ่านการสแกนหรือบัตรเดบิตได้
บัญชีธนาคารเป็นชื่อเด็กเหมือนบัญชีปกติ แต่จากเดิมที่ตัวเด็กจะเปิดบัญชีออนไลน์และทำบัตรเดบิตได้ต้องมีอายุ 16 ปีขึ้นไป บริการใหม่นี้จะเปิดให้ผู้ปกครองอนุญาตให้เด็กทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ทั้งการสแกนจ่ายผ่าน QR และการจ่ายผ่านบัตรได้ด้วย โดยที่ฝั่งผู้ปกครองจะมีความสามารถดูรายการธุรกรรมทั้งหมด, จำกัดวงเงิน, ได้รับแจ้งเตือนเมื่อเด็กจ่ายเงิน, และสามารถรีเซ็ตรหัสบัตรหรือแจ้งบัตรหายได้จากฝั่งผู้ปกครองเอง
ธนาคาร OCBC ของสิงคโปร์เปิดตัวระบบ kill switch เป็นระบบสำหรับสั่งฟรีซบัญชีทุกอย่างของลูกค้า หากลูกค้าสงสัยว่าบัญชีอาจถูกฉ้อโกงด้วยวิธีใดก็ตาม
วิธีเปิด kill switch ของ OCBC ในสิงคโปร์ ลูกค้าจะต้องโทรเข้าคอลเซ็นเตอร์ของธนาคาร และกดหมายเลข 8 หรือทำรายการที่เครื่องเอทีเอ็มของ OCBC เท่านั้น
เมื่อ kill switch เปิดใช้งานแล้ว บัญชีทั้งหมดของลูกค้า ทั้งบัญชีเดินสะพัดหรือบัญชีออมทรัพย์ ทั้งบัญชีในนามของตนเองหรือบัญชีร่วมจะถูกฟรีซทั้งหมด ไม่สามารถทำธุรกรรมได้ทั้งช่องทางสาขา, เอทีเอ็ม, บัตรเดบิต, บัตรเครดิต ไปจนถึงช่องทางดิจิทัลและแอป OCBC Pay Anyone แม้กระทั่งระบบตัดชำระเงินรายเดือนหรือตั้งโอนเงินล่วงหน้าก็จะถูกระงับเช่นกัน (อธิบายง่าย ๆ คือจะไม่มีธุรกรรมใด ๆ วิ่งผ่านบัญชีเลย)
เพียงไม่กี่วันหลังจาก iPhone X เริ่มวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่าน ลูกค้าธนาคาร OCBC สิงคโปร์ สามารถสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนเข้าใช้งานแอปต่างๆ ของธนาคารด้วย Face ID ได้แล้ว โดยใช้ชื่อบริการว่า OCBC OneLook ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยให้ลูกค้าธุรกิจและลูกค้ารายย่อยของธนาคาร ใช้งานแอป OCBC Mobile Banking ได้สะดวกยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ลูกค้าของ OCBC ยังสามารถใช้ Face ID โอนเงินให้ผู้อื่นผ่านแอป OCBC Pay Anyone หรือติดตามการลงทุนผ่านแอป OCBC OneWealth ได้อีกด้วย
สิงคโปร์เปิดบริการ PayNow หลังไทยมาหลายเดือน แต่ตอนนี้ธนาคาร OCBC ในสิงคโปร์ก็พยายามก้าวไปอีกขั้นด้วยการจ่ายเงินผ่าน QR ที่ไม่ต้องบอกข้อมูลใดๆ ไม่ว่าจะเป็นเบอร์โทรศัพท์, หมายเลขบัตรประชาชน, หรือแม้แต่หมายเลขบัญชี
แนวทางของ OCBC เป็นการสร้างตั๋วเงินโดยระบุจำนวนเงินที่ต้องการจ่ายสร้างเป็น QR แล้วส่งไปให้ผู้รับ โดยจะแสกนโดยตรงจากโทรศัพท์หรือส่งทางอีเมลหรือแชตใดๆ ก็ได้ เมื่อผู้รับใช้แอป Pay Anyone สแกนตัว QR ก็จะได้รับเงินเข้าบัญชี โดยก่อนหน้านี้ตัวแอป Pay Anyone สแกน QR สำหรับจ่ายเงินผ่านระบบ NETS ที่ร้านค้าบางร้านจะมีหน้าจอสำหรับแสดง QR เพื่อรับเงินได้อยู่แล้ว
OCBC ธนาคารในสิงคโปร์ประกาศความสำเร็จในการทดสอบระบบโอนเงินระหว่างธนาคารข้ามประเทศผ่านเครือข่าย Blockchain เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
การทดลองครั้งนี้ร่วมมือกับ BCS Information Systems (BCSIS) สร้างเครือข่าย blockchain สำหรับโอนเงินระหว่างธนาคาร โดยทดสอบการโอนเงินระหว่าง OCBC Malaysia และ Bank of Singapore นับเป็นการทดสอบข้ามธนาคารและข้ามประเทศครั้งแรกในอาเซียน
ระบบของ OCBC ทำให้ไม่มีตัวกลางระหว่างการโอนเงิน การโอนเงินระหว่างสองธนาคารจากเดิมใช้เวลาหนึ่งวันจะเหลือเพียง 5 นาที (ยังไม่มีข้อมูลเทคนิคภายในว่า blockchain ของ OCBC มีการสร้างบล็อคถี่เพียงใด) ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการโอนเงินถูกลงเพราะไม่มีตัวกลาง
บริการ OCBC Pay Anyone บริการจ่ายเงินระหว่างบุคคลด้วยช่องทางหลากหลายทั้งโทรศัพท์, อีเมล, หรือเฟซบุ๊ก ประกาศเพิ่มช่องทางการใช้งานด้วย Siri และ iMessage ในแอปเวอร์ชั่นล่าสุด นับเป็นธนาคารแห่งแรกในเอเชียแปซิฟิก
ทาง OCBC ระบุว่าการใช้งาน Pay Anyone เติบโตเฉลี่ยเดือนละ 10% แม้ว่าผู้ส่งเงินจะต้องเป็นลูกค้าของ OCBC เองแต่ผู้รับเงินจะเป็นลูกค้าของธนาคารใดก็ได้ที่อยู่ในเครือข่าย FAST ที่มีอยู่ 19 ธนาคาร
Aditya Gupta หัวหน้าฝ่าย e-Business ของ OCBC ระบุว่าลูกค้าไม่ต้องการเริ่มการโอนเงินจากแพลตฟอร์มของธนาคาร แต่อยากให้บริการธนาคารอยู่ในบริการที่กำลังใช้งานอยู่มากกว่า ทาง OCBC จึงพัฒนาแพลตฟอร์มนี้
ธนาคาร OCBC ของสิงคโปร์ ประกาศเปิด API เพื่อให้นักพัฒนาสามารถเข้าใช้งาน (แบบเดียวกับ Visa) โดยเรียกว่า Connect2OCBC
OCBC ระบุว่า API ที่จะเปิดให้ใช้มี 4 อันหลักในตอนนี้คือ Branch Locator API สำหรับการหาสาขา, ATM Locator API สำหรับการหาตู้ ATM, Smart Card Advisor API สำหรับการแนะนำใช้บัตรเครดิตให้เหมาะสมกับที่ใช้ (เช่น ใช้ที่ร้านอาหาร A จะได้ส่วนลดสูงสุด เป็นต้น) และ Foreign Exchanges Rates API ไว้สำหรับเรียกใช้หาข้อมูลอัตราแลกเปลี่ยน
OCBC ระบุว่ากำลังพิจารณาที่จะเปิด API ใหม่ๆ เรื่อยๆ ใครสนใจสามารถเข้าดูรายละเอียดเพิ่มได้จากเว็บไซต์ของธนาคารครับ