เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมตำรวจดูไบให้สัมภาษณ์กับ GulfNews ว่าแว่นตาอัจฉริยะของกูเกิลกำลังถูกทดสอบโดยกรมตำรวจ เพื่อใช้ในส่วนงานจราจร สำหรับตรวจหารถที่กำลังเป็นที่ต้องการของทางการ และใช้ในการจับและปรับผู้ขับขี่ผิดกฎ โดยทางกรมตำรวจได้พัฒนาแอพพลิเคชันสองตัว สำหรับรองรับการใช้งานดังกล่าว
Google Glass สามารถช่วยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบหารถที่เป็นที่ต้องการ ได้ด้วยการตรวจสอบจากฐานข้อมูลของกรมตำรวจจราจร เมื่อเจ้าหน้าที่มองไปที่ทะเบียนรถ และถ่ายรูปจุดเกิดเหตุของการกระทำผิดกฎ ซึ่งจะถูกอัพโหลดขึ้นระบบโดยอัตโนมัติ พร้อมวันเวลาและพิกัดสถานที่เกิดเหตุ และหาก Google Glass ผ่านเกณฑ์การทดสอบและเกิดประโยชน์ในการใช้งานจริง ทางกรมตำรวจจึงจะสั่งซื้อ Google Glass และเริ่มให้เจ้าหน้าที่ใช้
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมตำรวจนิวยอร์ก (NYPD) ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ VentureBeat ว่า ทางกรมได้สั่งซื้อ Google Glass มาทดสอบว่าจะเป็นประโยชน์ในการบังคับใช้กฎหมายหรือไม่ โดยเฉพาะกับงานตำรวจสายตรวจ
โฆษกของกูเกิลชี้แจงกับ VentureBeat ว่า กูเกิลไม่ได้ดำเนินการทดสอบแว่นตาร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายแต่อย่างใด ดังนั้นจึงดูเหมือนทางกรมได้สั่งซื้อแว่นตาผ่าน Glass Explorer Program มาทดสอบกันเอง
ที่มา: The Telegraph
หนังสือพิมพ์ The Telegraph เปิดเผยเอกสารลับที่ระบุว่า สหภาพยุโรปจะพัฒนาระบบที่ตำรวจสามารถสั่งการจากส่วนกลางให้ดับเครื่องยนต์ของรถยนต์ได้ทันที
ถึงแม้ระบบสั่งดับเครื่องยนต์จากระยะไกลจะไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เพราะผู้ผลิตรถยนต์บางรายได้พัฒนาและติดตั้งระบบนี้ในรถยนต์ของตนแล้ว อาทิ ฟีเจอร์ Stolen Vehicle Slowdown ในระบบนำทางอัจฉริยะและสั่งงานด้วยเสียงภายในรถยนต์ที่ชื่อ OnStar ของเครือรถยนต์ GM แต่เป้าหมายของสหภาพยุโรปคือจะทำให้ระบบนี้เป็นมาตรฐานในรถยนต์ทุกคันที่ขายในประเทศในสหภาพยุโรปและสามารถสั่งการจากตำรวจได้โดยตรง ไม่ใช่สั่งการจากผู้ผลิตรถยนต์
ช่วงนี้ข่าวการเมืองและตำรวจมีเยอะจนอาจจะกลบข่าวด้านไอทีของตำรวจไป แต่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็กำลังทดสอบระบบจัดการข้อมูลคดีความต่างๆ ไว้ที่ศูนย์กลางทีเดียวกันเรียกว่าระบบ CRIMES
ระบบ CRIMES (Criminal Record Information Management Enterprise System ) จะรวมระบบจัดการคดีต่างๆ ให้สามารถสืบค้นจากทุกสถานีตำรวจได้ พร้อมกับระบบตรวจค้นประวัติคนร้าย
ตอนนี้ระบบยังไม่มีการใช้งานจริง แต่อบรมไปแล้วหลายสน. เท่าที่ดูความเห็นในเฟซบุ๊กยังมีปัญหาอยู่มาก ระบบไม่มีการจัดการลายนิ้วมือ, ไม่สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์เก่าได้ อย่างไรก็ดีระบบช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงการเตรียมพร้อมเท่านั้น
กสทช. จับมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และโอเปอเรเตอร์ทั้ง 5 ราย เปิดตัวบริการ SMS 191 หรือการแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายผ่าน SMS ไปยังหมายเลข 191 นอกเหนือไปจากการโทรแจ้งตามปกติ
กระบวนการรับแจ้งคือ SMS จะเข้าไปที่ศูนย์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แล้วส่งเรื่องต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ (กระบวนการเดียวกับการโทรแจ้ง 191 ที่สายจะเข้าไปที่ศูนย์ 191 อยู่แล้ว) โดยงานนี้ กสทช. มอบทุนช่วยสนับสนุนโครงการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย 500,000 บาท
การส่ง SMS เข้าเบอร์ 191 ไม่คิดค่าบริการครับ
พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มีคำสั่งภายในราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใจความว่าให้นำเทคโนโลยีการสื่อสารมาใช้ในการป้องกันการปราบปรามอาชญากรรม ซึ่งปัจจุบันมีโปรแกรมที่ทำงานได้รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนอกจากค่าบริการอินเทอร์เน็ต โดยปัจจุบันทางตำรวจภูธรภาค 3 และภาค 4 ได้นำโปรแกรม LINE มาใช้ในการบริหารสั่งการแล้วและเกิดประโยชน์ดี
ในคำสั่งจึงระบุว่าให้ผู้บัญชาการแต่ละหน่วยกำหนดแนวทางการใช้ LINE เพื่อเป็นช่องการสื่อสารเพิ่มเติมนอกเหนือจากช่องทางปกติ โดยให้ใช้ LINE ติดต่อกันภายใน ตลอดจนใช้รายงานคดีสำคัญกับประชาชนและสื่อมวลชน มีผลตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคมเป็นต้นไป
งานจราจรนครบาล (น.3) โดยคำสั่งจากพล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รอง ผบช.น. ได้สั่งการให้ตำรวจจราจรทุกสน. รวมถึงจราจรของ บก.จร. เข้ามาตรวจสอบเรื่องร้องเรียนที่ร้องเรียนผ่านระบบของโครงการจราจรตาเพชร โดยตำรวจต้องรายงานผลการติดตามเรื่องร้องเรียนภายในสามวันหลังการร้องเรียน
ก่อนหน้านี้โครงการนี้เคยมีการเปิดตัวไปก่อนแล้วแต่การส่งต่อเรื่องไปยังสน. ท้องที่นั้นใช้เวลานาน โดยรวมจะมีการรายงานผลภายใน 30 วัน นอกจากนี้ยังมีปัญหาเซิร์ฟเวอร์และเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ ตลอดจนปัญหาน้ำท่วมทำให้โครงการต้องหยุดไป
หน่วยอาชญากรรมอิเล็กทรอนิกส์ของตำรวจอังกฤษ ประกาศข่าวการจับกุมตัวชายวัย 19 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นแกนนำของกลุ่มแฮ็กเกอร์ LulzSec
ชายคนนี้คือคนที่ใช้นามแฝงว่า "Topiary" ซึ่งเป็นโฆษกของกลุ่ม เขามีความเกี่ยวข้องกับกลุ่ม Anonymous ด้วย
ตามข่าวบอกว่าเขาโดนจับบนเกาะ Shetland ทางตอนเหนือของสก็อตแลนด์ (ไม่บอกว่าเป็นที่อยู่อาศัยจริงๆ หรือเป็นถิ่นที่ย้ายไปภายหลัง) และตอนนี้โดนนำตัวมาที่ลอนดอน ตำรวจก็ค้นบ้านของเขาเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมด้วย
ที่มา - Metropolitan Police, Gawker
สำนักงานตำรวจแห่งชาติอังกฤษออกมาเปิดเผยว่าจะให้ความสำคัญกับสื่อออนไลน์อย่าง Twitter มากขึ้นในการติดตามการเคลื่อนไหวชุมนุมประท้วงของผู้คน โดยยกตัวอย่างกลุ่ม UK Uncut ที่รวมตัวกันทาง Twitter เพื่อออกมาประท้วงการลดค่าบำรุงสาธารณะของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม เคยมีการศึกษาพบว่า ตำรวจอังกฤษจำนวนมากยังใช้ Twitter กันไม่เป็น เช่น สมัครแล้วไม่ทวีต ทวีตความคิดเห็นส่วนตัวในเรื่องคดี หรือไม่ก็ทวีตทำนองเหยียดผิวครับ
ตำรวจไทยว่าไงเอ่ย
ตำรวจในคานางาวะ ประเทศญี่ปุ่น ใช้โปรแกรม Mii ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับสร้างตัวอวตาร (Avatar) ซึ่งเป็นตัวละครเล็กๆ ของผู้เล่นเกม ภายในเครื่องเล่นเกม Wii เพื่อสเก็ตช์ภาพคนร้าย และลงประกาศในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเพื่อความคืบหน้าของคดีแทนวิธีการให้ศิลปินมาสเก็ตช์ภาพแบบที่เคยปฏิบัติกันมา