European Union
Meta ประกาศเพิ่มบริการแชทบอตปัญญาประดิษฐ์ Meta AI ให้กับผู้ใช้งานในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปแล้วตั้งแต่วันนี้ มีผลในทุกแอปทั้ง Facebook, Messenger, Instagram และ WhatsApp ซึ่งช้ากว่าที่อื่นในโลก และนับจากเปิดตัวก็กว่าหนึ่งปี
เหตุผลที่กลุ่มประเทศสหภาพยุโรปเพิ่งได้ใช้ Meta เพราะถูกหน่วยงานกำกับดูแลของไอร์แลนด์ดำเนินการสอบสวน เรื่องการนำข้อมูลผู้ใช้งานไปเทรน ตลอดจนประเด็นความเป็นส่วนตัว ทำให้ Meta ประกาศเลื่อนให้บริการออกไปตั้งแต่กลางปีที่แล้ว
นอกจากแอปเปิลแล้ว คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission - EC) ได้ออกคำเตือนไปยัง Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล เรื่องพบการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายดิจิทัล DMA ของยุโรปใน 2 บริการ ซึ่งมีสถานะ Gatekeeper ที่เป็นแพลตฟอร์มมีผู้ใช้งานจำนวนมาก สามารถจำกัดการเข้าถึงของคู่แข่งได้
บริการแรกคือ Google Search โดย EC ระบุว่ากูเกิลเลือกแสดงผลค้นหา ส่วนที่เป็นบริการของกูเกิลเองเช่น ช้อปปิ้ง, จองโรงแรม, การเงิน และผลการแข่งขันกีฬา มีตำแหน่งที่โดนเด่นหรือได้อันดับที่สูงกว่า มองเป็นการปฏิบัติที่ไม่ยุติธรรมต่อเว็บไซต์ภายนอก
คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission - EC) ออกคำสั่งให้แอปเปิลต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดเรื่องการทำงานร่วมกันของอุปกรณ์ โดยสั่งให้ iOS ต้องรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ 3rd Party เช่น สมาร์ทวอทช์, หูฟัง, ทีวี ให้เข้าถึงความสามารถต่าง ๆ เท่ากับการใช้อุปกรณ์เหล่านี้ของแอปเปิล เช่น การแจ้งเตือน, การเชื่อมต่อ P2P, NFC, การจับคู่ที่ทำได้ง่าย เป็นต้น
เมื่อธันวาคมปีที่แล้ว EC ได้ออกเอกสารรับฟังความเห็น เกี่ยวกับการออกคำสั่งนี้ โดยมองว่าจะทำให้ผู้ผลิตอุปกรณ์ 3rd Party มีโอกาสสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่กับผู้ใช้งานในยุโรป
กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีฝั่งยุโรปกว่า 100 องค์กร รวมตัวกันในชื่อ EuroStack เขียนจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้รัฐบาลยุโรป เข้ามาลงทุนในเทคโนโลยีของยุโรปเอง เพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีของต่างชาติ โดยเฉพาะสหรัฐ
EuroStack เป็นชื่อเรียกกว้างๆ ที่มีความหมายครอบคลุมตั้งแต่ระดับฮาร์ดแวร์ (ลงไปถึงระดับชิป) ซอฟต์แวร์ และบริการออนไลน์ต่างๆ ว่ายุโรปควรทำได้เอง ถึงแม้ในเอกสารข้อเสนอไม่ได้ระบุชื่อแบรนด์มากนัก แต่กรณีตัวอย่างคือรัฐบาลยุโรปควรหาโมเดลแหล่งทุนสนับสนุนเบราว์เซอร์ในยุโรป เพื่อไม่ให้ต้องพึ่งพารายได้จากโฆษณาของกูเกิล เป็นต้น
OpenAI ประกาศว่าปัญญาประดิษฐ์สร้างวิดีโอ Sora เปิดให้ใช้งานแล้วสำหรับประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปหรือ EU, สหราชอาณาจักร, สวิตเซอร์แลนด์, นอร์เวย์, ลิกเตนสไตน์ และไอซ์แลนด์ หลังจากเครื่องมือนี้เปิดให้ผู้ใช้งานเกือบทั่วโลกมาตั้งแต่ธันวาคมปีที่แล้ว
Sora ยังจำกัดให้เฉพาะลูกค้าเสียเงิน Plus และ Pro เท่านั้น โดยลูกค้า Plus สร้างวิดีโอความละเอียด 720p 5 วินาที ได้ 50 วิดีโอ (1,000 เครดิต) ส่วนลูกค้า Pro ได้ 500 วิดีโอ (10,000 เครดิต) เพิ่มความละเอียดเป็น 1080p 20 วินาที ไม่มีลายน้ำ
ที่มา: TechCrunch
แอปเปิลแจ้งนักพัฒนาแอปที่มีแอปเผยแพร่ใน App Store ของประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป ว่าแอปที่ไม่ได้ระบุสถานะผู้ค้า (Trader Status) ได้ถูกนำออกจาก App Store ของกลุ่มประเทศดังกล่าว มีผลทันที จนกว่านักพัฒนาจะเพิ่มข้อมูลสถานะผู้ค้าในภูมิภาคยุโรปผ่านระบบ App Store Connect ให้แอปเปิลตรวจสอบอีกครั้ง
WhatsApp แพลตฟอร์มแชทของ Meta เป็นบริการล่าสุดที่เข้าเกณฑ์แพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่ (VLOP - Very Large Online Platform) ของกฎหมายดิจิทัล DSA แห่งสหภาพยุโรป ซึ่งมีข้อกำหนดว่าต้องเป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานในภูมิภาคมากกว่า 45 ล้านคน
การเข้าเงื่อนไข VLOP ของกฎหมาย DSA ทำให้ WhatsApp ถูกตรวจสอบและกำกับดูแลจากหน่วยงานมากขึ้น เช่น การเปิดเผยรายละเอียดการดูแลความเป็นส่วนตัวผู้ใช้งาน การกำกับดูแลเนื้อหาและลบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมในเวลาที่เร็วขึ้น ตลอดจนรายละเอียดการทำโฆษณาแบบเจาะจงผู้ใช้งาน เป็นต้น
ปัจจุบันบริการของ Meta ที่เข้าเงื่อนไข VLOP อยู่แล้วได้แก่ Facebook และ Instagram
ประธานาธิบดี Donald Trump กล่าวปาฐกถาแบบวิดีโอไปยังงานประชุม World Economic Forum ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ มีประเด็นน่าสนใจที่เขาโจมตี EU ว่าพยายามรีดเงินอย่างไม่เป็นธรรมจากบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติอเมริกัน เช่น แอปเปิล กูเกิล Meta เป็นจำนวนเงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์
คดีที่ Trump พูดถึงอย่างเจาะจงคือ แอปเปิลแพ้คดีภาษีในไอร์แลนด์ ต้องจ่ายค่าปรับ 1.3 หมื่นล้านยูโร และพูดถึงกูเกิลโดนปรับอีกหลายพันล้านยูโรด้วย
Trump ใช้คำว่า EU พยายามหาวิธีเก็บภาษีในรูปแบบต่างๆ (a form of taxation) เช่น จากค่าปรับในคดีความต่างๆ และเขาบอกว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สหรัฐอเมริกาจะร้องเรียนไปยัง EU ด้วย
กฎหมายมาตรฐาน USB-C ของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปเริ่มมีผลบังคับใช้แล้วในวันนี้ (28 ธันวาคม 2024) โดยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กและขนาดกลางทั้งหมด ที่ขายในประเทศ EU จะต้องรองรับการชาร์จและเชื่อมต่อด้วยพอร์ต USB-C
อุปกรณ์ที่เข้าเงื่อนไขกฎหมายนี้ได้แก่ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต กล้องถ่ายรูป หูฟัง คอนโซลวิดีโอเกม ลำโพงพกพา E-Reader คีย์บอร์ด เมาส์ และอุปกรณ์พกพาอื่น โดยมีเป้าหมายให้สามารถใช้สายชาร์จประเภทเดียวร่วมกันได้ทั้งหมด เป็นการลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์หรือ E-Waste เพราะลูกค้าต้องสามารถเลือกไม่รับหัวชาร์จไฟได้ด้วย
ตามที่ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปได้ออกกฎหมายดิจิทัล DMA เพื่อกำหนดให้ผู้บริการแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ ต้องเปิดให้คู่แข่งเข้ามาเชื่อมต่อระบบได้ ทำให้ไม่เป็นการกีดกันนักพัฒนารายย่อย หนึ่งในบริษัทที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายนี้คือแอปเปิล ซึ่งกรณีใหญ่ก็คือการเปิดให้ลงสโตร์ภายนอกตั้งแต่ iOS 17.4 และปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียมนักพัฒนา หรือล่าสุดคือการเปิด NFC ใน iPhone ให้แอปจ่ายเงินเข้าถึงได้ตามคำสั่งของสหภาพยุโรปหรือ EU รวมทั้งต้องปฏิบัติตามคำร้องขอของนักพัฒนาหากต้องการเข้าถึงส่วนอื่นเพิ่มเติม
มีรายงานว่าแอปเปิลจะหยุดขาย iPhone 14 ทุกรุ่น และ iPhone SE ในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปภายในวันที่ 28 ธันวาคมนี้ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายบังคับใช้พอร์ต USB-C กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใหม่ที่จะมีผลตั้งแต่ 28 ธันวาคม เช่นกัน
สินค้าอื่นที่แอปเปิลขายในยุโรปและยังใช้พอร์ต Lightning ก็จะหยุดขายในภูมิภาคเช่นกัน ซึ่งตอนนี้แอปเปิลมีไลน์สินค้าที่เป็น USB-C มารองรับอยู่แล้ว
ที่น่าสนใจคือแม้แอปเปิลจะเลิกขาย iPhone 14 และ iPhone SE แต่ข่าวลือเรื่อง iPhone SE 4 รุ่นใหม่ที่จะขายปีหน้า ก็มีสเป็กเป็นพอร์ต USB-C ที่ใช้บอดี้ของ iPhone 14 เท่ากับว่าสินค้าที่เลิกขายก็จะกลับมาในร่างใหม่ และขายในยุโรปได้นั่นเอง
กูเกิลประกาศการเปลี่ยนแปลงวิธีแสดงผลการค้นหามีผลเฉพาะในภูมิภาคยุโรป โดยบอกว่าเป็นผลจากกฎหมายดิจิทัล DMA ที่กูเกิลได้พยายามปรับให้เป็นไปตามข้อกำหนดในช่วงที่ผ่านมา
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับเว็บเปรียบเทียบราคาสินค้า ได้แก่ โรงแรม สายการบิน และร้านค้าปลีก ซึ่งมีเว็บเปรียบเทียบราคา 3 ราย ร้องเรียนกับหน่วยงานกำกับดูแลของสหภาพยุโรปว่าทราฟิกเว็บพวกเขาลดลง 30% หลังจากกูเกิลเปลี่ยนวิธีแสดงผลค้นหา ที่กูเกิลบอกว่าทำให้การเปรียบเทียบราคาดูง่ายมากขึ้น เช่น ผลค้นหาโรงแรมถูกแสดงในรูปแบบแผนที่ ที่มีรูปภาพโรงแรม พร้อมราคาจากเว็บที่ถูกที่สุด เป็นต้น
คณะกรรมาธิการแห่งสหภาพยุโรปหรือ European Commission (EC) เปิดเผยความคืบหน้าประเด็นการสอบสวน Corning เรื่องมีพฤติกรรมต่อต้านการแข่งขันตลาดกระจอหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่เริ่มการสอบสวนไปเมื่อต้นเดือน โดยทาง Corning ได้ยื่นข้อเสนอเพื่อแก้ไขในประเด็นต่าง ๆ ที่ EC ระบุก่อนหน้านี้
ประเด็นที่ EC ระบุเกี่ยวกับ Corning ได้แก่ การทำสัญญากับผู้ผลิตสมาร์ทโฟนให้สั่งซื้อคราวละจำนวนมาก การห้ามรับข้อเสนอส่วนลดคล้ายกันจากคู่แข่ง รวมทั้งข้อตกลงแบบเดียวกันกับซัพพลายเออร์วัตถุดิบกระจก
ศึกรอบใหม่ระหว่างสหภาพยุโรปหรือ EU กับแอปเปิลได้เริ่มอีกครั้ง โดยคราวนี้คณะกรรมาธิการแห่งยุโรปหรือ EC ได้แจ้งแอปเปิลว่าบริษัทอาจละเมิดกฎของ EU เรื่องการต่อต้านการบล็อกทางภูมิศาสตร์ (Geo-blocking) ของบริการออนไลน์ของแอปเปิลได้แก่ App Store, Apple Music, Apple TV+ ฯลฯ
Meta ประกาศการเปลี่ยนแปลงมีผลเฉพาะผู้ใช้งานในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปหรือ EU ของ Facebook และ Instagram ซึ่งปัจจุบันผู้ใช้งานมีตัวเลือกสมัครแพ็คเกจไม่มีโฆษณาในราคา 9.99 ยูโรต่อเดือน แต่หน่วยงานกำกับดูแลของ EU บอกว่าละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค
Meta บอกว่าแนวทางจากนี้จะเป็นสองทางเลือกเหมือนเดิมคือ จ่ายเงินแลกกับไม่มีโฆษณา แต่จะลดราคาลง 40% เหลือ 5.99 ยูโรต่อเดือนสำหรับการสมัครผ่านเว็บต่อหนึ่งบริการ โดยเพิ่มอีก 4 ยูโรหากไม่ต้องการแสดงโฆษณาทั้ง Facebook และ Instagram ซึ่ง Meta บอกว่าเป็นราคาที่ถูกที่สุดแล้วเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มคู่แข่ง
คณะกรรมาธิการแห่งสหภาพยุโรปหรือ European Commission (EC) ประกาศเริ่มการสอบสวน Corning ว่าอาจมีพฤติกรรมต่อต้านการแข่งขันในตลาดกระจกหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
EC อ้างข้อมูลประกอบการสอบสวนว่า Corning มีข้อกำหนดกับผู้ผลิตสมาร์ทโฟน ให้เปิดคำสั่งซื้อกระจกแบบ Alkali-Aluminosilicate ที่บริษัทผลิต คราวละทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดที่มี โดยบริษัทจะให้ส่วนลดเพิ่มเติม นอกจากนี้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนต้องให้ข้อมูลกับ Corning หากได้รับข้อเสนอจากผู้ผลิตกระจกหน้าจอรายอื่นด้วย และห้ามรับข้อเสนอเหล่านั้นเว้นแต่ Corning ไม่สามารถทำราคาสู้ได้
นอกจากนี้ EC ยังบอกว่า Corning ทำข้อตกลงคล้ายกับฝั่งซัพพลายเออร์วัตถุดิบกระจก ให้รับคำสั่งซื้อทั้งหมดจากบริษัทโดยมีผลตอบแทนเพิ่ม
Bloomberg รายงานว่าคณะกรรมาธิการยุโรป เตรียมออกคำสั่งปรับเงินแอปเปิล เนื่องจากทำผิดกฎหมายดิจิทัล DMA เรื่องการออกระเบียบทำให้นักพัฒนาแอปไม่มีอิสระ ในการนำเสนอทางเลือกจ่ายเงินที่ราคาถูกกว่านอก App Store ซึ่งทางคณะกรรมาธิการเคยออกคำเตือนไปก่อนหน้านี้
ในช่วงที่ผ่านมาแอปเปิลได้ปรับปรุงเงื่อนไขหลายอย่าง สำหรับแอปในภูมิภาคยุโรปเพื่อให้เป็นไปตาม DMA อย่างไรก็ตามการจำกัดการเผยแพร่ข้อมูลในแอปเป็นหนึ่งในประเด็นที่แอปเปิลถูกทักท้วงมา ซึ่งรายงานบอกว่าคณะกรรมาธิการยุโรปอาจออกคำสั่งปรับเงินภายในเดือนนี้
ตามกฎหมาย DMA แอปเปิลอาจถูกปรับสูงสุด 5% ของรายได้เฉลี่ยแอปเปิลทั่วโลกในช่วงที่ทำผิด ซึ่งอาจสูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์
แอปเปิลอัปเดตข้อมูลการเปิดให้ใช้งานความสามารถปัญญาประดิษฐ์ Apple Intelligence ในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปหรือ EU ซึ่งยังไม่สามารถใช้งานได้ตอนนี้ ขณะที่ประเทศอื่นสามารถใช้งานได้แล้วโดยตั้งค่าเครื่องเป็นภาษาอังกฤษแบบอเมริกา เพราะแอปเปิลต้องตรวจสอบประเด็นกฎหมายของดิจิทัล DMA ก่อน
ล่าสุดแอปเปิลบอกว่า Apple Intelligence จะใช้งานในประเทศกลุ่ม EU ได้ในเดือนเมษายนนี้ พร้อมกับอัปเดตซอฟต์แวร์ที่รองรับภาษาอื่นมากขึ้นในตอนนั้น ซึ่งรวมทั้งภาษาฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี
แอปเปิลอัปเดตเอกสารสำหรับนักพัฒนาเกี่ยวกับ iOS 18.2 ที่ออกเวอร์ชันเบต้าเมื่อต้นสัปดาห์ โดยเพิ่ม API ให้เบราว์เซอร์ 3rd Party สามารถเพิ่มไอคอนเว็บแอปในหน้า Home (PWA - Progressive Web App) ที่ไปเรียกเบราว์เซอร์นั้นได้แล้ว
คณะกรรมการธิการยุโรปหรือ EC (European Commission) ออกคำตัดสินว่า X ไม่เข้าเกณฑ์แพลตฟอร์มที่ต้องกำกับดูแลเพิ่มเติม ภายใต้กฎหมายดิจิทัล DMA ที่มีเป้าหมายควบคุมบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ มีจำนวนผู้ใช้งานเยอะ
เกณฑ์ของกฎหมาย DMA จะมีผลกับแพลตฟอร์มขนาดใหญ่เรียกว่า gatekeeper มีผู้ใช้งานในประเทศกลุ่มสหภาพยุโรปจำนวนมาก หรือมีผลกับลูกค้าธุรกิจ โดยแพลตฟอร์มโซเชียลปัจจุบันที่เข้าเกณฑ์นั้นมี Facebook, Instagram และ TikTok รวมอยู่ด้วย
ตามที่แอปเปิลเปิดตัว iPad mini รุ่นใหม่ รุ่นที่ 7 เมื่อคืนนี้ อาจมีคนสงสัยล่วงหน้าว่าคราวนี้แอปเปิลจะเอาอะไรออกไปจากในกล่องสินค้าอีก เพราะช่วงที่ผ่านมาแอปเปิลก็ขยันนำของแถมในกล่องออกอย่างจริงจัง ตั้งแต่ ที่ชาร์จ-หูฟัง ใน iPhone 12, AirPods 4 ก็ไม่ให้สายชาร์จเลย หรือล่าสุดสติกเกอร์แอปเปิลใน iPhone ก็ไม่แถมมาแล้ว
สำหรับลูกค้าในไทยนั้น iPad mini ยังได้ที่ชาร์จและสายชาร์จมาในกล่องตามปกติ แต่คนยุโรปจะไม่ได้แบบนั้น
กูเกิลยื่นคำร้องกล่าวหาไมโครซอฟท์ ต่อหน่วยงานกำกับดูแลป้องกันการผูกขาดตลาดแห่งสหภาพยุโรป ในประเด็นการแข่งขันของบริการประมวลผลบนคลาวด์ โดยระบุว่าไมโครซอฟท์ใช้อำนาจที่มีในตลาดซอฟต์แวร์องค์กร ผลักดันให้ลูกค้าใช้งาน Azure และใช้วิธีการที่ทำให้ลูกค้าต้องอยู่กับบริการนี้ต่อไป (Lock-In)
ตัวแทนของไมโครซอฟท์ชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้บริษัทได้เจรจายุติการร้องเรียนในลักษณะเดียวกัน กับผู้ให้บริการคลาวด์ในยุโรป จึงเชื่อว่าคำร้องเรียนของกูเกิลต่อสหภาพยุโรปก็จะไม่มีผลเช่นกัน
ปัจจุบันบริการคลาวด์ของกูเกิลมีส่วนแบ่งตลาดรวมเป็นอันดับ 3 รองจาก AWS ของ Amazon และ Azure ของไมโครซอฟท์
แอปเปิลประกาศการเปลี่ยนแปลงสำหรับผู้ใช้งานเฉพาะประเทศกลุ่มสหภาพยุโรปหรือ EU จะสามารถดาวน์โหลดแอปใน iPadOS ระบบปฏิบัติการสำหรับ iPad ผ่านสโตร์ 3rd Party ได้แล้ว เหมือนกับที่ดาวน์โหลดแอปจากสโตร์อื่นได้ใน iOS ก่อนหน้านี้
ประกาศของแอปเปิลนี้ไม่ใช่เรื่องเกิดคาดหมาย เพราะคณะกรรมาธิการยุโรปลงมติเมื่อเดือนเมษายนให้ iPadOS เข้าข่ายเป็น Gatekeeper ที่เป็นตัวกลางซึ่งมีอิทธิพลต่อผู้ใช้งาน แม้จำนวนผู้ใช้งานจะยังไม่สูงถึงเกณฑ์ แต่กลุ่มลูกค้าภาคธุรกิจมีจำนวนที่สูงกว่าเกณฑ์มากจึงเข้าข่าย และต้องปฏิบัติแบบเดียวกับที่ iOS เจอก่อนหน้านี้
ศาลยุติธรรมของสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นศาลสูงสุดของสหภาพฯ ออกคำตัดสินในคดีที่กูเกิลถูกกรรมการธิการสหภาพยุโรปสั่งปรับเงิน 2.4 พันล้านยูโร เรื่องการแสดงผลเปรียบเทียบราคาสินค้า Google Shopping ที่เหนือกว่าคู่แข่ง โดยตัดสินยืนตามศาลทั่วไปซึ่งเป็นศาลอุทธรณ์
คณะกรรมการธิการสหภาพยุโรปได้สั่งปรับกูเกิล 2.4 พันล้านยูโร เมื่อปี 2017 ประเด็นที่ Google Shopping แสดงผลเปรียบเทียบราคาสินค้าโดยผลค้นหาของกูเกิลมีการแสดงผลที่ดีกว่าเว็บไซต์อื่น ทำให้ทราฟิกเว็บไซต์อื่นลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งกูเกิลได้ปรับแนวทางแสดงผลค้นหาหลังจากนั้น รวมทั้งอุทธรณ์คำตัดสินนี้
ศาลยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรปออกคำตัดสิน ยืนยันคำตัดสินของคณะกรรมาธิการยุโรปในปี 2016 ที่บอกว่าแอปเปิลเลี่ยงภาษีในไอร์แลนด์ ช่วงปี 1991-2014 คิดเป็นมูลค่า 1.3 หมื่นล้านยูโร ซึ่งนี่เป็นคำตัดสินสูงสุดแล้ว ไอร์แลนด์จึงต้องเรียกภาษีที่ไม่ได้จ่ายคืนจากแอปเปิล
ย้อนไปในปี 2020 หลังจากแอปเปิลแย้งในชั้นอุทธรณ์ว่าข้อกล่าวเลี่ยงภาษีนั้นเกินจริง ทำให้ศาลทั่วไปยุโรปกลับคำตัดสิน บอกว่าไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนพอว่าไอร์แลนด์ได้ให้สิทธิประโยชน์พิเศษทางภาษีกับแอปเปิล แอปเปิลจึงไม่ต้องจ่ายภาษีส่วนนี้ แต่ก็มีการอุทธรณ์ถึงชั้นสูงสุด