บริษัทความปลอดภัย Check Point ประกาศเตือนภัยคุกคามแบบใหม่ที่มาทาง "ซับไตเติล" ของภาพยนตร์ ส่งผลให้แฮ็กเกอร์สามารถควบคุมเครื่องพีซีได้ผ่านช่องโหว่ของโปรแกรมเล่นหนังหลายๆ ตัว เช่น VLC หรือ Kodi
Check Point ระบุว่าโปรแกรมเล่นหนังหลายตัวมีระบบโหลดซับไตเติลจากอินเทอร์เน็ตโดยอัตโนมัติ และไฟล์ซับไตเติลมักอยู่ในรูป text ที่ดูไม่มีพิษไม่มีภัย ส่งผลให้แฮ็กเกอร์สามารถสร้างไฟล์ซับไตเติลที่ฝังสคริปต์บางอย่าง แล้วรอให้โปรแกรมเล่นหนังมาดาวน์โหลดไปอ่าน เพื่อโจมตีที่ช่องโหว่ของโปรแกรมเหล่านั้น
Popcorn Time โปรแกรมดูหนังออนไลน์แบบเดียวกับ Netflix แต่เบื้องหลังของมันคือการโหลดไฟล์หนัง (เถื่อน) จาก BitTorrent (ข่าวเก่า) โครงการนี้เคยปิดตัวไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่เนื่องจากมันเปิดเผยซอร์สโค้ด ทำให้มีนักพัฒนาหลายกลุ่มชุบชีวิตมันขึ้นมาใหม่และพัฒนาเพิ่มฟีเจอร์อย่างต่อเนื่อง
โครงการ fork ที่ดังที่สุดคือ Time 4 Popcorn ตั้งเป้าว่าจะเข้าถึงผู้ใช้ "ทุกแพลตฟอร์ม" ปัจจุบันออกแอพบน 4 แพลตฟอร์มคือวินโดวส์ แมค ลินุกซ์ แอนดรอยด์ และเตรียมออกแอพเวอร์ชัน iOS ภายในเดือนสิงหาคมนี้ (ถึงแม้มีโอกาสลง App Store ยาก แต่สำหรับผู้ใช้ที่ jailbreak คงไม่มีปัญหา)
แอพที่ถูกจับตามากในแวดวงภาพยนตร์ออนไลน์คือ Popcorn Time ที่ลักษณะการใช้งานคล้าย Netflix แต่เบื้องหลังการทำงานของมันจะไปค้นหาภาพยนตร์ (เถื่อน) จาก BitTorrent และเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องมาให้อัตโนมัติ
Popcorn Time ถูกกดดันจากบรรดาบริษัทสื่อทั้งหลายจนต้องปิดตัวเองเมื่อเดือนมีนาคม 2014 แต่เนื่องจากมันเป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส ทำให้นักพัฒนากลุ่มอื่นชุบชีวิตมันขึ้นมาภายใต้ชื่อเดิม (แต่เปลี่ยน URL)
หลังจากที่เปิดตัวมาได้เพียงไม่กี่วันเท่านั้น Popcorn Time บริการสตรีมมิ่งหนังผ่าน torrent ในลักษณะคล้ายกับ Netflix ฟรีได้ถูกปิดตัวลงแล้ว โดยทีมงานไม่ได้ระบุเหตุผลใด นอกเสียจากว่าทีมงานต้อง “move on ในการใช้ชีวิตต่อไป”
Popcorn Time ใช้วิธีดึงข้อมูลผ่าน API ต่าง ๆ ในการให้บริการสตรีมมิ่งหนังฟรี โดยตัว torrent ได้มาจาก YIFY ส่วนซับไตเติลได้มาจาก OpenSubtitles ในขณะที่ข้อมูลปกหนังและเมต้าดาต้าของหนังได้มาจาก TheMovieDB
สำหรับประเด็นทางกฎหมาย เชื่อว่าทีมงานที่อยู่เบื้องหลังไม่น่าจะถูกดำเนินคดีในขณะนี้ เพราะว่าการให้บริการดังกล่าวไม่ได้เก็บเงินลูกค้าแต่อย่างใด อีกทั้งบริการยังไม่ได้โฮสข้อมูลใด ๆ บนเซิร์ฟเวอร์ของตัวเองทั้งสิ้น