Google ATAP ประกาศเปิดโอเพนซอร์สมาตรฐาน API ใหม่ที่ชื่อว่า Ripple (คลื่นกระเพื่อม) ซึ่งเป็น API ที่พัฒนาต่อยอดมาจากเซ็นเซอร์ Soli ที่ถูกใช้งานบน Pixel 4 และเผยแพร่บน Github แล้ว
ตัว API น่าจะช่วยให้การใช้งานเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว หรือเกิดการสั่งงานด้วย hand gesture ใหม่ๆ มากขึ้น ซึ่ง Ivan Poupyrev ผอ.ด้านวิศวกรรมของ Google ATAP บอกว่าจุดเด่นของ Ripple คือไม่ต้องพึ่งกล้องหรือไมโครโฟน ทำให้ความเป็นส่วนตัวในการใช้งานมีมากยิ่งขึ้น
กูเกิลเปิดตัวหน้าจออัจฉริยะ Nest Hub รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นภาคต่อของ Google Home Hub ที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2018 โดยมาพร้อมกับการปรับดีไซน์ใหม่, ซีพียูแรงขึ้น และลำโพงที่ดังและเสียงดีกว่าเดิม แต่ของสำคัญจริงๆ คือการนำ Soli เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวที่กูเกิลเคยใส่ใน Pixel 4 แล้วถอดออกไปใน Pixel 5 กลับเข้ามาอยู่ใน Nest Hub เพื่อใช้ตรวจวัดคุณภาพการนอนหลับ
กูเกิลเปิดตัวหน้าจออัจฉริยะ Nest Hub รุ่นที่สอง (รุ่นแรกออกในปี 2018 ตอนนั้นใช้ชื่อ Google Home Hub) มีฟีเจอร์เด่นคือใส่เซ็นเซอร์ Soli แบบเดียวกับ Pixel 4 ลักษณะเดียวกับที่ใช้ใน Nest Thermostat รุ่นล่าสุด
มีข่าวลือออกมาไม่ทันไร กูเกิลก็เปิดตัว Nest Thermostat รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ
Nest Thermostat รุ่นแรกที่ออกในปี 2011 ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างชื่อให้บริษัท Nest (ก่อนโดนกูเกิลซื้อในปี 2014) แต่มันก็ไม่เคยถูกปรับเปลี่ยนดีไซน์ครั้งใหญ่เลย ยังคงใช้อินเทอร์เฟซแบบหมุนเพื่อควบคุมมาตลอดเกือบสิบปี
Nest Thermostat รุ่นปี 2020 ปรับโฉมครั้งใหญ่ให้หน้าตาโฉบเฉี่ยวขึ้น กรอบบางลง อินเทอร์เฟซแบบหมุนของเดิมถูกเอาออกไป แต่กลายมาเป็นการแตะขอบด้านข้างแล้วลากแทน (ดูคลิปประกอบ) นอกจากนี้ยังเพิ่มสีให้เลือกเป็น 4 สี เข้าได้กับฝาผนังหลากหลายรูปแบบ
ไม่นานหลังจากที่หัวหน้าฝ่ายฮาร์ดแวร์ของ Google บอกว่า Project Soli จะกลับมาในฮาร์ดแวร์ในอนาคต ซึ่งพูดเหมือนจะต้องรอนาน แต่ล่าสุด Google เตรียมจะเปิดตัวและวางขาย thermostat ที่มาพร้อมเรดาร์ Soli ภายในไม่กี่สัปดาห์นี้
thermostat ตัวใหม่จะใช้ระบบสั่งงานด้วยท่าทาง (gesture) แทนระบบทัชแบบเดิม ส่วนเรื่องท่าทางที่รองรับอาจต้องรอรายละเอียดจากการเปิดตัวจริง thermostat ตัวนี้วางราคาอยู่ที่ 129 เหรียญ ถูกกว่าตัว Learnign Thermostat เรือธงที่ขายอยู่ที่ 249 เหรียญและ Thermostat E ที่ 169 เหรียญ เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การขายฮาร์ดแวร์ราคาถูกของ Google หลังจากเริ่มมาตั้งแต่ Pixel 3a
หลังจากเป็นหนึ่งในโปรเจ็คที่ฟูมฟักมานาน ปีที่แล้ว Google ก็นำเรดาร์ Soli ออกสู่ผลิตภัณฑ์ผู้บริโภคเป็นครั้งแรก แต่อาจจะด้วยปัญหา economies of scale ทำให้ต้นทุน Soli ค่อนข้างสูง จนส่งผลให้ Pixel 4 ราคากระโดดและก็ถูกนำออกไปใน Pixel 5
แต่การหายไปของ Soli ไม่ได้หมายถึงจุดจบของตัวผลิตภัณฑ์ Rick Osterloh หัวหน้าฝ่ายฮาร์ดแวร์ของ Google ให้สัมภาษณ์กับ The Verge ยืนยันว่า Soli และ Motion Sense จะกลับมาในฮาร์ดแวร์แน่ ๆ ในอนาคต เพียงแต่ว่าตอนนี้ต้นทุนมันสูงเกินไปที่จะใส่เข้ามาในฮาร์ดแวร์ตอนนี้
Google Pixel 4 ที่เพิ่งเปิดตัวไปพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่อย่าง Motion Sense ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสั่งงานได้ด้วยการโบกไม้โบกมือเหนือหน้าจอสมาร์ทโฟน แม้ฟีเจอร์ลักษณะนี้ (Hand Gesture) จะไม่ใช่ของใหม่แกะกล่องเสียทีเดียว แต่ก็นับเป็นครั้งที่ฟีเจอร์นี้ถูกนำมาใช้งานผ่านเซ็นเซอร์ที่เป็นเรดาร์บนสมาร์ทโฟน (กรณีของ LG G8 ใช้กล้อง ToF)
เซ็นเซอร์ดังกล่าวมาจากโปรเจ็คพัฒนาภายในของ Google เองที่ชื่อ Project Soli อยู่ภายใต้ Google ATAP (Advanced Technology and Projects) ซึ่งเดิมเคยเป็นส่วนหนึ่งของ Motorola ก่อนจะมาอยู่ภายใต้ Google และเป็นหนึ่งในส่วนที่ Google เลือกจะเก็บเอาไว้ ไม่ขายให้กับ Lenovo ไปพร้อมกับธุรกิจสมาร์ทโฟน
หนึ่งในฟีเจอร์ที่ถูกจับตามองที่สุดของ Google Pixel 4 คงหนีไม่พ้นเซ็นเซอร์ Soli ที่ใช้ท่าทางของมือ (Gesture) เพื่อควบคุมสมาร์ทโฟนแน่นอน กูเกิลจึงร่วมมือกับทาง Pokémon Company เพื่อพัฒนาแอพใหม่ที่นำมาใช้กับฟีเจอร์นี้โดยเฉพาะ และแอพนี้ชื่อว่า "Pokémon Wave Hello!"
โดยแอพนี้จะให้เราทดลองเล่นกับโปเกม่อนทั้งหมด 5 ตัว ได้แก่ พิคาชู, อีวุย, ซารุโนริ (Grookey), เมซซอน (Sobble), ฮิบานี่ (Scorbunny) จะมีคำสั่งง่าย ๆ เช่นโบกมือ, ลูบหัวและอื่น ๆ พอเราเล่นครบทั้งห้าตัวแล้วก็สามารถวนกลับมาเล่นอีกรอบได้ (สามารถดูตัวอย่างได้ในที่มา)
กูเกิลประกาศเพิ่มเซ็นเซอร์ Soli ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2015 และเซ็นเซอร์จับภาพใบหน้าสามมิติ ลงในโทรศัพท์ Pixel 4 ทำให้โทรศัพท์สามารถปลดล็อกด้วยใบหน้า และควบคุมการใช้งานผ่านทางท่าทาง (gesture) โดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ
ฟีเจอร์ชุดแรกของเซ็นเซอร์ Soli เรียกว่า Motion Sense สามารถเลื่อนเพลง, เลื่อนเวลาปลุก (snooze), และปิดเสียงเมื่อมีโทรศัพท์เข้า โดยหลังจากนี้จะมีฟีเจอร์อื่นๆ เพิ่มเข้ามา
กูเกิลระบุว่าจะเปิด Motion Sense ในบางประเทศเท่านั้น
Project Soli หนึ่งในโครงการน่าทึ่งของ ATAP ที่ใช้เซ็นเซอร์เรดาร์ตรวจการเคลื่อนไหวของนิ้วมือเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ ได้รับการเปิดตัวเป็นครั้งแรกในงาน Google I/O 2015 ผ่านมา 1 ปี ในงาน Google I/O 2016 ที่เพิ่งจัดไปเมื่อสัปดาห์ก่อน Google ก็มีข่าวคราวความคืบหน้าของโครงการนี้มานำเสนอ