เพื่อเป็นการร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในประเทศญี่ปุ่น สองค่ายเกมได้ประกาศลดราคาเกมบน iOS สำหรับ iPhone และ iPod Touch ลงเป็นพิเศษและรายได้ทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่ายจะนำไปบริจาคต่อไป ซึ่งค่าย Sega ได้ประกาศลดราคา Sonic the Hedgehog ทั้ง 4 ภาคลงโดย Sonic Spinball เหลือ $0.99, Sonic the Hedgehog เหลือ $1.99, Sonic the Hedgehog 2 เหลือ $2.99 และ Sonic The Hedgehog 4 Episode I เหลือ $3.99
ขณะที่ Capcom ก็ประกาศลดราคา Street Fighter IV ลงเหลือ $0.99 เช่นกัน กิจกรรมนี้สำหรับ Street Fighter จะมีถึงวันที่ 22 มีนาคมนี้ ส่วนเกมตระกูล Sonic จะมีไปจนถึงวันที่ 20 มีนาคม
อันนี้จะถือเป็นการตลาดบนการทำบุญอีกหรือเปล่าเนี่ย?
ข่าวดักแก่กันอีกแล้วครับ คนที่ทันเล่น "โซนิค" เม่นสีน้ำเงินผู้ว่องไว สัญลักษณ์ของค่าย SEGA คงจำกันได้ว่า Sonic the Hedgehog โด่งดังมาจากเกมสองมิติ 3 ภาคบนเครื่อง Mega Drive ก่อนจะหันมาเอาดีด้านสามมิติ (ซึ่งก็ไปได้ไม่ดีนักเมื่อเทียบกับ 3 ภาคแรก)
ในยุคสมัยที่ค่ายเกมต่างๆ หันมาออกภาคต่อของเกมดังในอดีต "โซนิค" ก็ร่วมวงกับเขาด้วย โดย Sonic the Hedgehog 4: Episode 1 ออกวางจำหน่ายแล้วบน Xbox 360, PS3, Wii และ iPhone หลังจากที่เว้นระยะไปถึง 16 ปี
หน้าตาเป็นอย่างไร ดูกันได้จากวิดีโอครับ รีวิวออกมาค่อนข้างดี ใครเล่นแล้วช่วยให้ความเห็นด้วย
แม้ว่า iPhone จะมีโปรแกรมอีมูเลเตอร์สำหรับเล่นเกมเก่าๆ ให้เลือกใช้เป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่เคยมีตัวไหนที่ค่ายเกมทำออกมาเองอย่างเป็นทางการ ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว เพราะเซก้าไปขุดเกมดังในอดีตบนเครื่อง Mega Drive หรือที่ฝรั่งเรียก Genesis มาขายบน iPhone ในชื่อ Ultimate Genesis
รูปแบบของโปรแกรมจะต่างจากอีมูเลเตอร์ + หารอมแยกของแต่ละเกม แต่เซก้าจะขายเกมแต่ละเกมแยกจากกัน และในแต่ละเกมจะรวมอีมูเลเตอร์ของ Mega Drive อย่างเป็นทางการมาให้ (ถ้าซื้อหลายเกมก็แชร์อีมูเลเตอร์ด้วยกันได้ และซื้อเกมเพิ่มในภายหลังได้) ตอนนี้มีเกมขาย 4 เกม ได้แก่
วันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 นอกจากจะมีกิจกรรมมากมายให้เป็นที่กล่าวถึงแล้ว มันยังมีความสำคัญอีกอย่างคือเป็นวันฉลอง 10 ปีของเครื่อง Dreamcast จากเซก้า ซึ่งออกวางขายในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 9 เดือน 9 ปี 1999 (ที่ญี่ปุ่นขายก่อนหน้านั้นเกือบปี)
เซก้าจะไม่ประสบความสำเร็จกับ Dreamcast ต้องเลิกผลิตไปในปี 2001 (ถ้าใครพอจำได้ ข้อตกลงที่เซก้าไปเป็นสปอนเซอร์กับทีมอาร์เซนอลยังอยู่ยาวกว่าตัว Dreamcast ด้วยซ้ำ ทำให้ปีถัดมาต้องเปลี่ยนจากโลโก้ Dreamcast เป็นโลโก้บริษัทเซก้าแทน) ซึ่งถือเป็นการปิดฉากสายการผลิตเกมคอนโซลของเซก้า และหันมาจับธุรกิจซอฟต์แวร์เพียงอย่างเดียว