Shawn Layden อดีตบอสของ PlayStation Studios ที่ออกมาแสดงความเห็นต่ออุตสาหกรรมเกมบ่อยครั้ง (เรามอบแท็กของเขาให้แล้ว) ล่าสุดไปออกช่อง Kiwi Talkz พูดถึงยุทธศาสตร์ใหม่ของไมโครซอฟท์ที่นำเกมของตัวเองมาวางขายบนแพลตฟอร์มคู่แข่ง (กรณีล่าสุดคือ Forza Horizon 5 บน PS5)
Layden บอกว่ายุทธศาสตร์ขายเกมข้ามแพลตฟอร์มเป็นสิ่งจำเป็น ในโลกยุคที่ต้นทุนค่าพัฒนาเกมแพงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแน่นอนว่าต้องส่งผลกระทบต่อแบรนด์ Xbox เพราะไม่สามารถสร้างอารมณ์ fear of missing out (FOMO) ให้คนมาซื้อฮาร์ดแวร์ Xbox เพราะต้องการเล่นเกมเอ็กซ์คลูซีฟของ Xbox ได้อีกต่อไป
ช่วงหลายปีที่ผ่านมา Sega ได้ออกเครื่องเกมย้อนยุคต่อเนื่องตั้งแต่ Mega Drive Mini ปี 2018, Game Gear Micro ปี 2020 และ Mega Drive Mini 2 ปี 2022 พอเข้าปี 2024 ก็คงมีคำถามว่าแล้วยังไงต่อ?
Yosuke Okunari ผู้บริการ Sega คงทราบถึงคำถามนี้เช่นกัน เขาจึงโพสต์ใน X และบอกแฟนของ Sega ว่า ปีนี้บริษัทไม่มีแผนออกฮาร์ดแวร์ขนาดเล็กย้อนยุค แถมยังแนะนำให้ดูประกาศของบริษัทในปี 2022 อีกครั้ง เผื่อจะลืมว่าบริษัทประกาศอะไรไปเยอะมากเมื่อสองปีที่แล้ว
เราเห็น Sega ออกเครื่องเล่นเกมย้อนยุคขนาดมินิมาหลายตัว เช่น Mega Drive Mini, Game Gear Micro, Mega Drive Mini 2 เป้าหมายต่อไปที่ทุกคนคาดกันย่อมเป็น Sega Saturn
อย่างไรก็ตาม Yukio Sugino ประธานของ Sega ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าโปรเจค Saturn Mini นั้นยากกว่าที่คิด เพราะ Saturn มีสมรรถนะเครื่องสูงกว่า Mega Drive และการย่อส่วนเครื่องลงนั้นมีความยากสูง แต่เขาก็จะพยายามต่อไปโดยจะร่วมกับทีมที่คุ้นเคยกับฮาร์ดแวร์ Saturn และ Dreamcast เป็นอย่างดี (แปลว่าโปรเจคต่อไปอยากทำ Dreamcast Mini ต่อด้วยเลย)
ยุคสมัยแห่งเครื่องเกมย้อนยุคกลับทำใหม่มาขายเวอร์ชันมินิ เราเห็นค่าย Sega ออก Mega Drive Mini และ Game Gear Micro กันไปแล้ว ล่าสุดผู้บริหาร Sega เริ่มออกมาพูดถึงไอเดียการทำ Dreamcast Mini แล้ว
Yosuke Okunari ผู้บริหารของ Sega ให้สัมภาษณ์กับ Famitsu นิตยสารเกมของญี่ปุ่น ตอบคำถามว่าบริษัทมีแผนจะออกเครื่องเกมมินิตัวไหนต่อ คำตอบของเขาคืออาจเป็นได้ทั้ง SG-1000 Mini หรือ Dreamcast Mini ก็ได้
วันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 นอกจากจะมีกิจกรรมมากมายให้เป็นที่กล่าวถึงแล้ว มันยังมีความสำคัญอีกอย่างคือเป็นวันฉลอง 10 ปีของเครื่อง Dreamcast จากเซก้า ซึ่งออกวางขายในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 9 เดือน 9 ปี 1999 (ที่ญี่ปุ่นขายก่อนหน้านั้นเกือบปี)
เซก้าจะไม่ประสบความสำเร็จกับ Dreamcast ต้องเลิกผลิตไปในปี 2001 (ถ้าใครพอจำได้ ข้อตกลงที่เซก้าไปเป็นสปอนเซอร์กับทีมอาร์เซนอลยังอยู่ยาวกว่าตัว Dreamcast ด้วยซ้ำ ทำให้ปีถัดมาต้องเปลี่ยนจากโลโก้ Dreamcast เป็นโลโก้บริษัทเซก้าแทน) ซึ่งถือเป็นการปิดฉากสายการผลิตเกมคอนโซลของเซก้า และหันมาจับธุรกิจซอฟต์แวร์เพียงอย่างเดียว