เว็บไซต์ The Verge ได้เอกสารหลุดแผนงานของ Lenovo ซึ่งมีข้อมูลใหม่ของ ThinkPad รุ่นหน้า 2 ประการ
จาก สัมผัสแรก Lenovo ThinkPad Tablet และ Lenovo IdeaPad Tablet K1 ก็นานพอสมควรเลย วันนี้เลยได้ขอนำมาลงเสริมจากงานวันนั้นเสียหน่อย อาจจะเป็นลักษณะพูดเก็บตกเสียมากกว่า เพราะในกระทู้ต้นเรื่องก็ละเอียดมากอยู่แล้ว ซึ่งเครื่องที่นำมาลองเล่นนี้ก็ไม่ได้ใช้งานเต็มที่สักเท่าไหร่ แต่ก็มากพอที่จะเก็บตกจากที่ได้บอกข้างต้น
ต้องบอกก่อนเลยว่าส่วนตัวแล้วนั้นตัว App อาจจะไม่ได้พูดถึงสักเท่าไหร่ อาจจะเพราะมีเวลาเล่นไม่มากพอ โดยผมจะเน้นไปด้านการใช้งานทั่วไปเป็นหลักเสียมากกว่าครับ
ผมได้รับเครื่องนี้มาใช้งานอยู่ได้สักพักใหญ่ๆ ได้เล่นเยอะมากครับ แบกไปทำงานอยู่วันนึง นั่งเล่นเรื่อยๆ อยู่ที่ร้านกาแฟ แบก ไปคุยงานกับลูกค้าบ้าง โดยรวมต้องบอกว่าเหมาะกับคนที่อยากได้เครื่องเล็กๆ พกพาสะดวกเป็นหลัก
ต้องขอเท้าความก่อนว่า ThinkPad Edge Series นั้นออกแบบมาโดยที่ไม่ได้เอาทุกความสามารถของ ThinkPad Classic Series มาทั้งหมด เนื่องจากตัว ThinkPad Edge เน้นสวยและดูทันสมัยมากกว่า ไม่ได้อนุรักษ์นิยมแบบรุ่นพี่ซึ่งแน่นอนว่าคงไม่สามารถทำให้แข็งแรงได้เท่ากับรุ่นพี่แน่ๆ
ซึ่งส่วนที่แตกต่างหลักๆ คือ…
ThinkPad Edge เป็น ThinkPad สายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่ถึง 2 ปี โดยมันถูกวางตลาดให้จับกลุ่มผู้ใช้หน้าใหม่ ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงามดึงดูดคนทั่วไปมากกว่า ThinkPad รุ่นพี่ แต่ภายในยังคงประสิทธิภาพไว้ พร้อมทั้งตุ่มแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของ ThinkPad และการมี body สีแดงให้เลือก จึงไม่แปลกเลยที่สาวๆ หลายคนจะเริ่มหันมาสนใจ ThinkPad กันบ้างแล้ว
และวันนี้ ผมจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ ThinkPad Edge E320 กันครับ
ทิ้งช่วงไปนานนับจาก สัมผัสแรก Lenovo ThinkPad X1 จากงาน ThinkPad X1 "Truly In A Class Of Its Own" อยู่นานเลยทีเดียวครับสำหรับ Review ตัวนี้ สำหรับ Lenovo ThinkPad X Series นั้น ในปัจจุบันนั้นแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ เลยคือตัว
สัมผัสแรก Lenovo ThinkPad Tablet และ Lenovo IdeaPad Tablet K1 และรายงานการเปิดตัวแคมเปญ Lenovo - For Those Who Do
ผมได้อีเมลเชิญเข้าร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัว tablet พร้อมเปิดตัวแคมเปญ Lenovo - For Those Who Do อย่างเป็นทางการในวันพุธที่ 31 สิงหาคม 2554 ที่ผ่านมาในรอบ blogger ที่โรงแรม Four Points by Sheraton สุขุมวิท 15
จากข่าว เลอโนโววางขาย ThinkPad Tablet วันที่ 23 ส.ค.นี้ ตั้งราคา 16GB ไว้ที่ $479.00 และ 32GB ที่ $589.00 วันนี้เป็นวันขายจริงใน US ราคาออกมาคือ
เลอโนโวประกาศวางขาย ThinkPad Tablet ในสหรัฐฯ วันที่ 23 ส.ค. นี้ ส่วนทวีปอื่นจะวางขายในไตรมาสสามของปีนี้ สำหรับราคาเป็นดังนี้
ส่วนราคาของคีย์บอร์ดพร้อมกระเป่าสำหรับใส่ตัวเครื่องจะอยู่ที่ 99 ดอลลาร์ (ราว 3,000 บาท) เลอโนโวยังบอกว่าจะปล่อยรุ่นรองรับการเชื่อมต่อ 3G หลังจากการเปิดตัวรุ่นรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi ไม่นานนัก
ภายในปีนี้แทบทุกยี่ห้อคงมีแท็บเล็ตเป็นของตัวเองอย่างน้อยก็หนึ่งรุ่น ในส่วนของ Lenovo นั้นเนื่องจากมีสองแบรนด์ในบริษัทเดียวคือ IdeaPad และ ThinkPad ก็เปิดตัว ThinkPad Tablet ออกมาด้วย
ThinkPad Tablet นั้นจะเน้นสำหรับผู้ใช้องค์กรเป็นหลัก โดย Android 3.1 ที่มากับมันมันจะโหลดซอฟต์แวร์สำหรับทำงานร่วมกับ Cisco AnyConnect, สามารถเชื่อมต่อการล็อกอินเข้ากับเครือข่ายขององค์กร, ตัวเฟิร์มแวร์เข้ารหัสทั้่งหมดเป็นมาตรฐาน, และมีระบบป้องกันการขโมยมาในตัว
จากข่าวลือของ Lenovo ThinkPad Tablet เมื่อหลายเดือนก่อนแล้วก็เงียบหายไป มากวันนี้ช่วงเช้าประเทศไทยใน Facebook Fan Page ของ Lenovo ได้โพสรูปของ Lenovo ThinkPad Tablet ขึ้นมาให้ชมกัน 4 รูป ที่นี่
ซึ่งในเวลาไม่นานนัก Micro Site ของ ThinkPad Tablet ก็ขึ้นมาพร้อมๆ กับ IdeaPad Tablet K1 โดยถูกประกาศอยู่บน Facebook Fan Page ของ Lenovo เช่นกัน เรามาดูกันว่ามีอะไรน่าสนใจกันบ้าง
Lenovo ThinkPad Tablet
Specifications
ThinkPad x120e นั้นเป็น ThinkPad ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่องาน CES ต้นปีที่ผ่านมา แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างมันถูกหยุดขายไปอย่างรวดเร็ว และวันนี้มันก็กลับมาใหม่ในชื่อ x121e แล้ว
ThinkPad x121e ถูกออกแบบตัวถังใหม่ให้ "โค้ง" มากขึ้นกว่าเดิม และเพิ่มตัวเลือกซีพียูจากเดิมที่มีเพียง AMD Fusion E-350 กลายเป็น Intel Core-i3, AMD Fusion E-350, และ AMD Fusion C-50 ทำให้เราน่าจะได้เห็น x121e ในช่วงราคาที่กว้างกว่าเดิมมาก
น้ำหนักอยู่ที่ 1.4 กิโลกรัมเมื่อใส่แบตเตอรี่ 3 เซลล์ และ 1.55 กิโลกรัมเมื่อใส่แบตเตอรี่ 6 เซลล์ สามารถใส่แรมได้ 8GB
ราคาไม่แจ้ง แต่เหมือน x120e จะเน้นตลาดญี่ปุ่น, ยุโรป, และสหรัฐฯ มากกว่า แฟนๆ บ้านเราอาจจะต้องรอ ThinkPad E125 กันแทน
ผมได้อีเมลเชิญเข้าร่วมงานแถลงข่าวเลอโนโวเปิดตัว ThinkPad X1 ในประเทศไทยที่จัดในวันพฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน 2554 ที่ผ่านมา แน่นอนว่าสเปคเครื่องต่างๆ คงหาได้ไม่ยากนัก สิ่งที่ยากกว่าคือการได้สัมผัสตัวเป็นๆ และได้ทดลองใช้งานจริงกับตัวเครื่องจริงๆ นั้นเอง
ด้วยจอภาพขนาด 13.3 นิ้ว แบบ Gorilla Glass screen ป้องกันรอยขีดข่วน นั้นคงไม่ใช่อะไรใหม่สำหรับวงการมือถือ แต่ในวงการคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลนั้นถือว่าเป็นเรื่องใหม่ แน่นอน
หลังจากมีข้อมูลและภาพหลุดของ ThinkPad X1 โน้ตบุ๊กแบรนด์ ThinkPad ที่บางที่สุดเท่าที่เคยมีมา ล่าสุดช่อง LenovoVision บนยูทูบซึ่งเป็นช่องของเลอโนโวอย่างเป็นทางการ ก็ได้เผยคลิปวีดีโอโฆษณาโน้ตบุ๊กรุ่นดังกล่าวแล้ว สำหรับรายละเอียดที่โชว์ในคลิปนั้น อาทิ มีคีย์บอร์ดมีไฟ backlit และป้องกันน้ำหกไม่ให้ไหลลงไปที่บอร์ด (spill-resistant) มีหน้าจอชนิด Gorilla Glass
ท้ายคลิปยังระบุด้วยว่าวันที่ 17 พ.ค. นี้เลอโนโวจะเผยโฉมโน้ตบุ๊กรุ่นดังกล่าว สำหรับสาวก ThinkPad คงจะต้องคิดมากกันซะหน่อย เพราะจากข่าวหลุดก่อนหน้านี้ระบุราคาไว้ว่า 2,585 ฟรังก์สวิส (ประมาณ 87,000 บาท)!
เว็บไซต์ Thisismynext (เว็บชั่วคราวของกลุ่มอดีตนักเขียน Engadget ที่ลาออกมา) ได้โพสต์สไลด์ของ Lenovo ที่หลุดออกมา ซึ่งแสดงให้เราเห็นแท็บเล็ตแบรนด์ ThinkPad (หรืออาจใช้ชื่อว่า Think Slate) ที่เตรียมออกมาจับผู้ใช้ภาคธุรกิจโดยเฉพาะ
ThinkPad Tablet ใช้หน้าจอ IPS ขนาด 10.1" ความละเอียด 1280x800, หน่วยประมวลผลใช้ Tegra 2, กล้องหน้าหลัง, พื้นที่เก็บข้อมูล 16GB/32GB/64GB, มีทั้งรุ่น Wi-Fi และ 3G, เชื่อมต่อแบบ USB 2.0/Micro USB/Mini HDMI/SD card, ระบบปฏิบัติการเป็น Android 3.0 Honeycomb ซึ่งจากภาพจะเห็นว่าใช้อินเทอร์เฟซของ Lenovo เอง
เว็บไซต์ Tell IT ของสวิตเซอร์แลนด์ ลงภาพและข้อมูลของ ThinkPad X1 ซึ่งเป็นโน้ตบุ๊กแบรนด์ ThinkPad ที่บางที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยความหนาของเครื่องในจุดที่บางที่สุดคือ 16.5 มิลลิเมตร (หนาสุด 21.5 มิลลิเมตร) ซึ่งก็ชวนให้คิดถึงรุ่นพี่อย่าง X300 เมื่อหลายปีก่อน
ThinkPad X1 ใช้หน้าจอขนาด 13.3" ความละเอียด 1366x768 และมี Gorilla Glass, ซีพียูเป็น Core i5-2520M 2.5GHz บนแพลตฟอร์ม Centrino "Huron River", แรม 8GB แบบสล็อตเดียว, SSD 160GB, USB 3.0, DisplayPort, Windows 7 Pro 64 บิต, เลือกเพิ่ม 3G Broadband เองได้
ได้เครื่องมาเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2554 ผ่านทาง Media Agency ของ Lenovo (Thailand) มีเวลาทดสอบอยู่ประมาณ 3 วัน ในสภาพทำงานจริง ทั้งแบกไปทำงาน ใช้งาน ฯลฯ แน่นอนว่าได้ลองทำงานบนรถประจำทาง และรถไฟฟ้าด้วย เพื่อให้เข้ากับวิธีทำงานของหลายๆ คน ที่ชอบทำงานบนรถ
แม้จะยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่เว็บไซต์ของ Lenovo ได้อัพโหลดเอกสารระบุสเปกของ ThinkPad X220 โน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ในสาย X แล้ว (หลังจากเปิดตัวสาย T/L/W ไปก่อนแล้ว) จุดขายของมันคือซีพียูตระกูล Sandy Bridge และอายุแบตที่ใช้งานได้สูงสุด 23 ชม.
บอดี้ของเครื่องจะเหมือนกับ X201 ที่ออกมาช่วงต้นปี 2010 แต่ปรับขนาดจอจาก 12.1" มาเป็น 12.5" พร้อมความละเอียดที่เพิ่มมาเป็น 1366x768 จอมีให้เลือกสองรุ่นคือรุ่นปกติ กับรุ่น Premium HD ที่เป็นจอ IPS
หลังจากในงาน CES มีการอัพเดต ThinkPad Edge ไปก่อนแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาของตระกูลหลักอย่าง ThinkPad T, L, และ W กันแล้ว โดยการอัพเดตนี้เป็นเป็นตามรอบของการอัพเดตซีพียูของอิลเทลไปในตัว เพราะฉะนั้นเครื่องทั้งหมดจะเปลี่ยนไปใช้ Sandy Bridge กันหมดแล้ว
ThinkPad T นั้นได้รับการอัพเกรดเป็น T420 และ T420S โดยตัว T420 จะทำงานได้สูงสุด 15 ชั่วโมงเมื่อติดตั้งแบตเตอรี่ 9 เซลล์ ส่วน T420S นั้นอายุแบตเตอรี่จะต่ำกว่าโดยทำงานได้ 11 ชั่วโมงเมื่อติดตั้งแบตเตอรี่ก้อนที่สองผ่านทางช่อง ultrabay ส่วน T520 นั้นสเปคคล้ายกันแต่มีหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ทั้งหมดรองรับแรมสูงสุด 8GB และเลือกซีพียูได้ทั้ง Core i3, i5, และ i7 ราคาเริ่มต้น 999 ดอลลาร์
UPDATE: คุณ FordAntitrust ผู้ดูแลเว็บ ThaiThinkPad.com แจ้งว่าทาง Lenovo ได้โทรมาเพื่อแจ้งว่าประกันทั้งหมดได้ถูกปรับกลับไปเป็น On-Site แล้วโดยทาง Lenovo จะทำหนังสือชี้แจงต่อไปในสัปดาห์หน้า
มีรายงานจากกลุ่มผู้ใช้โน้ตบุ๊ก ThinkPad ในเว็บ ThaiThinkPad.com ว่าเครื่องรุ่น X201i 3323 (EAT และ L7T) ซึ่งเคยได้รับประกันแบบบริการถึงที่ 3 ปี (On-Site) ถูกปรับลดการรับประกันลงเป็นแบบต้องนำเครื่องไปส่งยังศูนย์บริการเอง (Carry-in) โดยไม่ได้แจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้า
แฟน ๆ ThinkPad หลายคนอาจจะทราบว่า Lenovo จะเริ่มมีการอัพเกรดไลน์สินค้าของตนเองหลังจากการประกาศตัวซีพียูใหม่ ๆ จากทาง Intel ไม่นานเสมอ และในที่สุดตอนนี้สเปคของรุ่น T420 (จอ 14") และ T520 (จอ 15") ก็ได้หลุดออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ
สำหรับความเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ ของ T series จากรุ่นเดิมมีดังนี้ครับ
งาน CES ปีนี้เพิ่งเริ่มต้น ก็ได้เวลาของการอัพเกรดโน้ตบุ๊กยกตระกูล ThinkPad กันอีกครั้ง โดนตอนนี้มียืนยันออกมาแล้วสี่รุ่นเล็กคือ X120e, Edge E220s, Edge E420s, และ Edge E520
เป็นโน้ตบุ๊กตัวแรกที่ประกาศใช้ AMD Zecate โดยมีให้เลือกทั้ง E-240 (คอร์เดี่ยว 1.5GHz) และ E-350 (ดูอัลคอร์ 1.6GHz) พร้อมการ์ดจอ AMD Radeon HD 6310, ฮาร์ดดิสก์ 7200 รอบต่อนาทีขนาด 160GB หรือ 320GB และแรมสูงสุด 4GB น้ำหนักเริ่มต้นที่ 2.9 ปอนด์หรือ 1.3 กิโลกรัม ราคาเริ่มต้นที่ต่ำกว่า 400 ดอลลาร์หรือ 12,000 บาท
หลายวันก่อนคุณ FordAntitrust มาชวนผมไปงานมีตติ้งของเว็บ ThaiThinkpad.com และชวนบางคนใน Blognone ไปงานกัน เนื่องจากที่นั่งมีจำกัด ผมจึงเชิญผ่านทาง mailing list แทน และวันนี้ก็ได้เวลารายงานว่างานนี้มีอะไรกันบ้าง
งานนี้จัดขึ้นที่ห้อง Globe โรงแรม Grand Centara ที่ Central World
โดยตัวงานแล้ว ทาง Lenovo เองต้องการรับฟังความเห็นจากผู้ใช้ ThinkPad วงใน พร้อมๆ กับโปรโมทให้ ThinkPad Edge 11 ที่เพิ่งเข้ามาไปพร้อมๆ กัน
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนที่ได้ใช้ ThinkPad มาก่อนแล้วจะรู้สึกชอบมันมากจนไม่อยากเปลี่ยนไปใช้อย่างอื่น เพราะการออกแบบมาเป็นของสำหรับ "ใช้งาน"ตั้งแต่ภายนอกจนถึงภายใน แต่ความจริงที่ต้องยอมรับคือสำหรับคนทั่วไปแล้ว ThinkPad นั้นอาจจะขาดแรงดึงดูดที่จะให้เริ่มใช้กันสักหน่อย ผู้ใช้ ThinkPad หลายคน (รวมถึงผมเอง) ก็มองเห็นประเด็นนี้ และ ThinkPad Edge คือจุดเริ่มต้นจาก Lenovo ที่จะพา ThinkPad เข้าหาผู้ใช้ทั่วไปมากยิ่งขึ้น
เป็นครั้งแรกที่ผมได้ใช้ ThinkPad EDGE Series อย่างจริงจัง ส่วนใหญ่จะจับๆ เล่นๆ ตาม Shop เสียมากกว่า แต่ครั้งนี้ผมได้นำมาใช้งานก่อนงานเปิดตัวในวันที่ 27 ตุลาคม 2553 ถึง 4 วันด้วยกัน
ท้าวความก่อนว่า Lenovo ได้เปิดตัว ThinkPad EDGE Series และ X100e (e ที่ผมคิดว่ามาจากคำว่า EDGE นั้นเอง) โดยเป็นการแยก Class ออกมาเป็น 2 ส่วนคือ EDGE Series และ Classic Series โดยที่ EDGE Series ออกมาเพื่อรองรับในกลุ่มตลาดธุรกิจที่เน้นความสดใส ออกแนววัยรุ่นมากกว่า Classic ที่หลายๆ คนมองว่าแก่และดูล้าสมัย (อันนี้ผมก็เฉยๆ นะ แต่ EDGE มันก็สวยไปอีกแบบ และไม่ได้มีแต่สีดำที่หลายๆ คนบอกเชย)
เลอโนโวจีนประกาศว่าบริษัทกำลังค่อยๆ ถอน X300/X301 ออกจากจีนภายในปีนี้ โดยจะวางตัว T400s/T410s มาแทนที่ เนื่องจากสเปคของ X300/X301 นั้นด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ถ้าจำกันได้ X300 นั้นเปิดตัวมาหลัง MacBook Air เพียงไม่กี่เดือน โดยโฆษณาว่าใส่ซองจดหมายได้เหมือนกันแถมไม่ต้องพกอุปกรณ์ต่อพ่วงไปมากมาย
จุดสำคัญคือไม่มีความชัดเจนจากทางเลอโนโวว่าการปรับครั้งนี้จะมีผลเฉพาะในจีนหรือทั้งโลก ก็คงต้องรอผู้บริหารโซนอื่นๆ มาให้ข่าวกันอีกที
ที่มา - Trading Market