เมื่อปี 2023 อินเทลเสนอสถาปัตยกรรม x86S เป็น 64 บิตล้วน ถอดส่วนที่เป็น 32 บิตออก เพื่อเป็นแนวทางผลักดันสถาปัตยกรรม x86 ต่อไปในอนาคต ประหยัดภาระในการดูแลโค้ดส่วน 32 บิตที่แทบไม่มีใครใช้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดโฆษกของอินเทลยืนยันกับ Tom's Hardware ว่าโครงการ X86S ไม่ได้เดินหน้าต่อแล้ว โดยไม่ระบุเหตุผลว่าเพราะอะไร
อินเทลเพิ่งจับมือกับ AMD และพาร์ทเนอร์รายอื่นๆ ก่อตั้งกลุ่ม x86 Ecosystem Advisory Group วางมาตรฐาน x86 ในยุคถัดไป กลุ่มนี้ยังทำงานกันต่อไป เพียงแต่จะไม่เดินหน้าในแนวทาง X86S อีกแล้ว
หลังอินเทลวางขายจีพียู Intel Arc Battlemage B580 และทำผลงานออกมาได้ดี กลายเป็นจีพียูที่มีประสิทธิภาพต่อราคาดีมากๆ ในตลาด โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับคู่แข่งระดับเดียวกันอย่าง GeForce 4060 และ Radeon 7600 ที่ราคาแพงกว่า และให้แรมน้อยกว่า (12GB vs 8GB)
สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็เดาได้ไม่ยากว่า สินค้าขายดีจนขาดตลาด
Mark Anthony Ramirez โฆษกของอินเทลให้ข้อมูลกับ The Verge ยืนยันว่า B580 มีความต้องการสูง บริษัทคาดว่าจะเติมสต๊อกได้ในสัปดาห์นี้ และกำลังทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ค้าปลีกช่องทางต่างๆ เพื่อให้มีสินค้าขายได้สม่ำเสมอ
หลังอินเทลเปิดตัว Core Ultra 200S สำหรับเดสก์ท็อป (Arrow Lake-S) แล้วเจอปัญหาประสิทธิภาพไม่เป็นไปตามที่โฆษณาไว้ อินเทลหายไปเดือนกว่าๆ และกลับมาพร้อมคำแถลงว่าปัญหาคืออะไร
หลังสอบสวนแล้ว อินเทลบอกว่าพบปัญหาถึง 5 อย่างที่แตกต่างกัน ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของซีพียู (แล้วพี่ปล่อยมาได้ไงแต่แรก)
ใกล้งาน CES 2025 ก็เริ่มมีข่าวหลุดของซีพียูชุดใหม่อินเทลที่จะเปิดตัวในงานออกมา ก่อนหน้านี้อินเทลได้เปิดตัวซีพียูในซีรีส์ Core Ultra 200 มาแล้ว 2 ชุดคือ ซีพียูโน้ตบุ๊ก Core Ultra 200V Lunar Lake และ ซีพียูเดสก์ท็อป Core Ultra 200S Arrow Lake
ข่าวลือของซีพียูชุดถัดๆ ไปที่จะเปิดตัวในงาน CES 2025 ได้แก่
ในช่วงที่ NVIDIA และ AMD ยังไม่มีจีพียูใหม่ออกวางขายในปี 2024 ก็มีจีพียูที่น่าสนใจออกมาทำตลาคดือ Intel Arc Battlemage ที่ออกมาสองรุ่นย่อยคือ Intel Arc B580 แรม 12GB ที่วางขายแล้ว และ B570 แรม 10GB ที่จะเริ่มขายในเดือนมกราคม
Intel Arc B580 มีจุดเด่นด้านเป็นจีพียูระดับกลาง (ระดับเดียวกับ GeForce 4060) ที่ให้แรมเยอะกว่า (12GB vs 8GB) และราคาถูกกว่า (ราคาอย่างเป็นทางการ 249 ดอลลาร์ vs 299 ดอลลาร์) จึงเป็นจีพียูที่น่าสนใจในแง่ประสิทธิภาพต่อราคา
หัวข้อหนึ่งที่มีการพูดถึงหลังอินเทลปลด Pat Gelsinger ออกจากตำแหน่งซีอีโอ คืออินเทลจะยังเดินหน้าแผนแยกบริษัทส่วนที่เป็นโรงงานผลิตชิปออกไปหรือไม่ (ข่าวก่อนหน้านี้บอก Gelsinger ไม่เห็นด้วย)
หลังข่าวการประกาศลาออกของ Pat Gelsinger ซีอีโอ Intel ที่กลับเข้ามา (หวัง) กอบกู้บริษัทรอบที่ 2 โดยยังคงไม่มีเบื้องหลังแน่ชัดถึงการลาออกครั้งนี้
ล่าสุดเว็บไซต์ WCCFTech คาดการณ์ว่า หนึ่งในเบื้องหลังอาจเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งถึงแนวทางของบริษัท อย่างการแยก Intel Foundry ออกมาเป็นบริษัทย่อย ซึ่งไม่ใช่แนวทางของเขาใน IDM 2.0
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า บริษัทผู้ผลิตชิปรายเล็กอย่าง Marvell มีราคาหุ้นเพิ่มสูงขึ้นมากในปี 2024 จนตอนนี้ Marvell มีมูลค่าบริษัทตามราคาหุ้น (market cap) ที่ 98.22 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าอินเทล ที่มูลค่าปัจจุบัน 90.22 พันล้านดอลลาร์แล้ว ทั้งที่อินเทลมีรายได้เข้าบริษัทมากกว่า Marvell ถึง 10 เท่า
เหตุผลที่หุ้นของ Marvell เพิ่มขึ้นมากก็เป็นสิ่งที่หลายคนน่าจะคาดเดาได้ว่า "AI"
Tom Peterson ผู้บริหารของอินเทล ไปออกรายการช่อง The Full Nerd Podcast ของ PCWorld ในโอกาสเปิดตัว Intel Arc Battlemage
สิ่งที่น่าสนใจคือ Peterson เล่าถึงจีพียู Arc สองรุ่นถัดไป ที่เคยประกาศโค้ดเนมไว้แล้วชื่อ Celestial และ Druid (C-Series และ D-Series)
อินเทลประกาศแต่งตั้งกรรมการเข้าร่วมบอร์ดบริษัทเพิ่ม 2 คน เพื่อร่วมในกระบวนการสรรหาซีอีโอคนใหม่แทน Pat Gelsinger ซึ่งอินเทลบอกว่าทั้งสองคนมีพื้นฐานมาจากธุรกิจการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ตามที่ David Zinsner ซีอีโอรักษาการณ์ของอินเทลเพิ่งให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้
กรรมการคนแรกคือ Eric Meurice อดีตซีอีโอและประธาน ASML ผู้ผลิตเครื่องจักรที่สำคัญในกระบวนการผลิตชิป ส่วนอีกคนคือ Steve Sanghi ซึ่งปัจจุบันเป็นประธานและรักษาการณ์ซีอีโอที่ Microchip Technology โดยตำแหน่งของทั้งสองคนที่อินเทลมีผลทันที
หลังจากอินเทลได้ตัดสินใจปลดซีอีโอ Pat Gelsinger ออกจากตำแหน่ง ประเด็นหนึ่งที่หลายคนกังวลคือซีอีโอคนใหม่ อาจเน้นไปที่การตลาดหรือการเงิน แตกต่างจาก Gelsinger ที่มีพื้นฐานจากสายวิศวกรรม (Bob Swan ซีอีโอคนก่อนหน้า Gelsinger มาจากสายการเงิน) อย่างไรก็ตามอินเทลก็ดูจะทราบความกังวลนี้
David Zinsner ซึ่งตอนนี้เป็นซีอีโอรักษาการณ์ร่วมของอินเทล กล่าวในงานสัมมนาของ UBS ว่ากลยุทธ์หลักของอินเทลจะยังดำเนินต่อไป และซีอีโอคนใหม่ต้องมีทั้งความเข้าใจในกระบวนการผลิตชิป ขณะเดียวก็ต้องเข้าใจฝั่งธุรกิจที่นำสินค้าออกไปจำหน่ายด้วยเช่นกัน
อินเทลเปิดตัวจีพียู Intel Arc รุ่นที่สอง B-Series โค้ดเนม Battlemage โดยชุดแรกมี 2 รุ่นย่อยคือ Intel Arc B580 และ B570 เน้นจับตลาดเกมมิ่งที่ความละเอียด 1440p ที่เริ่มกลายเป็นกระแสหลักแทนที่ 1080p
Intel Arc B-Series ใช้สถาปัตยกรรมจีพียู Xe2 ที่มี Ray Tracing Unit เวอร์ชันที่สอง ภาพรวมประสิทธิภาพมากขึ้น 70 ต่อคอร์ และประสิทธิภาพต่อวัตต์ดีขึ้น 50%, หากเทียบประสิทธิภาพการเล่นเกมของ B580 กับ A750 รุ่นก่อนหน้า ดีขึ้นเฉลี่ย 24% บนความละเอียด 1440p
Bloomberg มีรายงานข้อมูลเพิ่มเติมของ Pat Gelsinger อดีตซีอีโออินเทล ที่ถูกบอร์ดบริษัทลงมติให้ออกจากตำแหน่ง โดยเขาเลือกใช้การประกาศเกษียณจากตำแหน่งตามข้อเสนอของบอร์ด โดยเขาจะได้รับเงินชดเชยที่ถูกปลดจากตำแหน่งประมาณ 10 ล้านดอลลาร์
อินเทลยื่นเอกสารรายงานต่อ SEC ว่า Gelsinger จะได้รับเงินชดเชยเท่ากับเงินเดือน 18 เดือน (ต่อปี 1.25 ล้านดอลลาร์) และเงินโบนัสอีก 1.5 เท่าจากเป้าหมายที่กำหนดไว้ 3.4 ล้านดอลลาร์ การจ่ายเงินชดเชยนี้จะแบ่งจ่ายเป็นเวลา 18 เดือน นอกจากนี้อาจได้โบนัสเพิ่มเติมอีก 11/12 ส่วนของปี 2024 ด้วย
Bloomberg มีรายงานเพิ่มเติมจากแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง หลังจากอินเทลประกาศว่า Pat Gelsinger ได้เกษียณจากตำแหน่งซีอีโอและบอร์ดบริษัทซึ่งมีผลทันที โดยบอกว่า Gelsinger ได้ร่วมประชุมบอร์ดบริษัทเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของประกาศนี้
บอร์ดแสดงความกังวลว่าอินเทลตอนนี้ไม่มีสินค้าที่จะชนะคู่แข่งได้อย่างโดดเด่นในตลาด รวมทั้งมองว่าธุรกิจรับผลิตชิปจากลูกค้าภายนอก ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญของ Gelsinger ก็ไม่ได้ถูกผลักดันมากพอ แม้ทุกอย่างจะดำเนินไปได้ดีตามแผนที่เขาประกาศไว้ บอร์ดจึงเสนอให้เปลี่ยนตัวซีอีโอและขอให้ Gelsinger อยู่ช่วยอินเทลต่ออีกระยะหนึ่ง แต่ Gelsinger ไม่ต้องการแบบนั้น ทำให้บอร์ดตัดสินใจให้ข้อเสนอเขาสองทาง ระหว่างประกาศเกษียณจากตำแหน่ง หรือให้บอร์ดประกาศไล่เขาออก ซึ่งเขาก็เลือกวิธีแรก
Pat Gelsinger ซีอีโออินเทล ประกาศเกษียณจากตำแหน่ง และลาออกจากการเป็นกรรมการบอร์ดบริษัท มีผลตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2024 เป็นต้นไป โดยแต่งตั้งซีอีโอรักษาการณ์ขึ้นมาทำงานร่วมกันสองคนคือ David Zinsner ซีเอฟโออินเทล และ Michelle (MJ) Johnston Holthaus หัวหน้าส่วนธุรกิจ Intel Products นอกจากนี้บอร์ดยังแต่งตั้งให้ Frank Yeary เป็นรักษาการณ์ประธานบอร์ด ในระหว่างการสรรหาผู้มาดำรงตำแหน่งซีอีโอคนใหม่
Gelsinger กล่าวในแถลงการณ์ของอินเทลว่าการได้เป็นซีอีโอของอินเทล ถือเป็นเกียรติในชีวิตของเขา เขาภาคภูมิใจในทีมงานทุกคนที่เดินทางร่วมกันมา และสิ่งต่าง ๆ ที่ได้ส่งมอบ หนึ่งปีที่ผ่านมาเป็นความท้าทายของพวกเราทุกคน แต่เป็นการตัดสินใจที่จำเป็นสำหรับอินเทลในสภาพตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
กระทรวงการค้าสหรัฐประกาศให้เงินอุดหนุนอินเทลภายใต้กฎหมาย CHIPS Act เพื่อส่งเสริมการตั้งโรงงานผลิตชิปในประเทศเป็นเงิน 7,865 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากตัวเลขที่เคยประกาศเบื้องต้นเมื่อต้นปีซึ่งอยู่ที่ 8,500 ล้านดอลลาร์
อินเทลบอกว่าเงินสนับสนุนนี้จะนำมาใช้กับโรงงานและศูนย์วิจัยใน Arizona, New Mexico, Ohio และ Oregon
Pat Gelsinger ซีอีโออินเทลบอกว่าเทคโนโลยี Intel 3 อยู่ในกำลังการผลิตที่สูง ส่วน Intel 18A จะเริ่มการผลิตในปีหน้า ซึ่งจะทำให้อินเทลเป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ของอเมริกาที่ผลิตในอเมริกาแท้จริง
เดิมอินเทลมีแผนรับเงินกู้เพิ่มอีก 11,000 ล้านดอลลาร์ แต่บริษัทมีข้อสรุปไม่รับเงินกู้ส่วนนี้ โดยจะขอรับเครดิตภาษีแทน
ก่อนหน้านี้มีข่าวที่หลายคนก็ไม่ค่อยเชื่อนักว่าจะจริงนั่นคือ Qualcomm สนใจซื้อกิจการ Intel ผ่านมาสองเดือนก็ยังไม่มีความคืบหน้าออกมา และล่าสุดข่าวนี้ก็อาจจะซาไปจริง
มีรายงานว่า Qualcomm เริ่ม "สนใจน้อยลง" ที่จะซื้อกิจการ Intel โดยมีเหตุผลหลักคือความซับซ้อนและรายละเอียดต่าง ๆ หากจะซื้อกิจการทั้งหมด แต่ยังมีความเป็นไปได้ที่ Qualcomm อาจซื้อกิจการบางส่วนของ Intel มากกว่า
ในตอนนั้น Intel ปฏิเสธว่าไม่ได้รับข้อเสนอจาก Qualcomm ขณะที่ Qualcomm ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อข่าวนี้ ส่วนในรายงานล่าสุดทั้งสองบริษัทก็ยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นใด ๆ
อินเทลมีกำหนดออกจีพียู discrete รุ่นที่สองคือ Intel Arc "Battlemage" ภายในสิ้นปี 2024 แต่บริษัทยังไม่ยอมบอกสักทีว่าจะเปิดตัวเมื่อไร
แต่ก็บังเอิญมีการ์ดจอ ASRock Arc B580 เผลออัพโหลดข้อมูลขึ้นหน้าเว็บ Amazon ก่อนเวลาอันควร ทำให้เรามีโอกาสเห็นสเปกบางส่วนของ Battlemage ก่อนกำหนด
จีพียู Battlemage ใช้สถาปัตยกรรม Xe2-HPG โดยเป็นสถาปัตยกรรม Xe2 ตัวเดียวกับจีพียูของ Core Ultra 200V Lunar Lake แต่เป็นเวอร์ชันเดสก์ท็อป (HPG) ที่สมรรถนะย่อมแรงขึ้น
Robert Hallock ผู้บริหารของอินเทลให้สัมภาษณ์กับช่อง HotHardware ยอมรับปัญหาของซีพียู Core Ultra 200S หรือ Arrow Lake ที่ให้ประสิทธิภาพของการเล่นเกมไม่ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับซีพียูเจ็นก่อนหน้า Raptor Lake
Hallock บอกว่าสาเหตุของปัญหาเกิดจากทั้ง BIOS และการตั้งค่าระดับ OS ผสมผสานกัน และอินเทลกำลังเตรียมออกแพตช์แก้ปัญหาให้ประสิทธิภาพของซีพียูออกมาดีขึ้น แต่ยังไม่บอกว่าจะออกแพตช์มาเมื่อไร
ที่มา - Tom's Hardware
เว็บข่าว Semafor อ้างแหล่งข่าวว่านักการเมืองสหรัฐอเมริกา เริ่มกังวลต่อปัญหาการเงินของอินเทล และเริ่มหารือกันว่าอาจมีมาตรการช่วยเหลือ เพื่ออุ้มบริษัทเซมิคอนดักเตอร์สัญชาติอเมริกันเอาไว้
อินเทลได้เงินสนับสนุน 8.5 พันล้านดอลลาร์จากกฎหมาย CHIPS Act ที่ส่งเสริมให้สร้างโรงงานผลิตชิปบนแผ่นดินสหรัฐ แต่จนถึงปัจจุบัน การเบิกจ่ายมีความล่าช้า และอินเทลยังไม่ได้รับเงินแม้แต่ดอลลาร์เดียว ซึ่งตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นเพราะเหตุใด
Globes เว็บข่าวธุรกิจจากอิสราเอล รายงานว่าอินเทลปลดพนักงานในศูนย์วิจัยที่อิสราเอลจำนวน "หลายร้อยคน" (several hundreds) เพื่อลดค่าใช้จ่าย
อินเทลประกาศแผนปลดพนักงาน 15% ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ซึ่งการปลดพนักงานในอิสราเอลเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการปลดพนักงานครั้งนี้ด้วย โดยอินเทลมีทั้งศูนย์วิจัยและโรงงานผลิตชิปในอิสราเอล มีพนักงานรวม 11,000 คน การปลดพนักงานครั้งนี้เกิดที่ฝั่งศูนย์วิจัย (มีพนักงานประมาณ 7,000 คน) เป็นหลัก โดย Globes รายงานว่าพนักงานกลุ่มนี้รับแพ็กเกจชดเชยของอินเทลแล้วไปหางานใหม่กันแล้ว
ในยุคที่บริษัทผู้ผลิตชิปต่างออกชิปเร่งความเร็วประมวลผล AI ฝั่งอินเทลก็มีชิปแบบนี้เช่นกันในตระกูล Gaudi ซึ่งรุ่นล่าสุดที่เปิดตัวเมื่อต้นปีคือ Intel Gaudi 3 อย่างไรก็ตามดูเหมือนอินเทลจะยังทำยอดขายส่วนนี้ไม่ได้ตามแผน
Pat Gelsinger ซีอีโออินเทลให้ข้อมูลในช่วงแถลงผลประกอบการไตรมาสที่ผ่านมา ยอมรับว่าบริษัทจะขายชิปตระกูล Gaudi ไม่ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้คือ 500 ล้านดอลลาร์ ในปี 2024 ซึ่งเขาให้เหตุผลว่าเป็นเพราะเรื่องการเปลี่ยนผ่านจาก Gaudi 2 มาเป็น Gaudi 3 ของลูกค้า รวมทั้งความง่ายในการใช้งานซอฟต์แวร์
ของใหม่อย่างหนึ่งของ Core Ultra 200V หรือโค้ดเนม Lunar Lake คือการฝังหน่วยความจำลงในตัวแพ็กเกจชิปเลย (on-package memory) แบบเดียวกับชิปตระกูล M ของแอปเปิล ข้อดีของแนวทางนี้คือลดการใช้พื้นที่ลง และลดระยะการส่งข้อมูลระหว่างซีพียูกับหน่วยความจำลงได้
อย่างไรก็ตาม Pat Gelsinger ซีอีโอของอินเทล กล่าวในงานแถลงผลประกอบการว่า สถาปัตยกรรมแบบนี้จะใช้ครั้งเดียวใน Lunar Lake เท่านั้น โดยชิปโน้ตบุ๊กรุ่นถัดๆ ไปอย่าง Panther Lake, Nova Lake จะกลับไปใช้หน่วยความจำแยกจากตัวชิปเหมือนเดิม (off-package memory)
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average) หรือที่หลายคนอาจคุ้นว่าดัชนีหุ้นดาวโจนส์ของสหรัฐอเมริกา ประกาศการเปลี่ยนแปลงบริษัทที่ใช้คำนวณมูลค่าดัชนี มีผลวันที่ 8 พฤศจิกายน 2024 โดย NVIDIA ถูกเพิ่มมาคำนวณ และถอด Intel ออกจากรายชื่อ
การเปลี่ยนแปลงนี้อาจมีผลต่อราคาหุ้นไม่มากนัก เนื่องจากดัชนีดาวโจนส์ไม่เป็นที่นิยมอ้างอิงสำหรับกองทุนต่าง ๆ เท่ากับ S&P 500 (ซึ่งทั้งสองบริษัทนี้ต่างอยู่ในดัชนี) เพราะเป็นดัชนีที่คำนวณด้วยค่าเฉลี่ยราคาต่อ 1 หุ้น ของบริษัท 30 แห่ง ที่สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่ดัชนีหุ้นส่วนใหญ่คำนวณจากมูลค่ากิจการของบริษัท (รวมทั้ง SET Index ของไทย) แต่การสลับที่กันของ NVIDIA กับ Intel ครั้งนี้ก็ดูเป็นสัญลักษณ์บางอย่างทันที
อินเทลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2024 รายได้รวมตามบัญชี GAAP อยู่ที่ 13,284 ล้านดอลลาร์ ลดลง 6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และขาดทุนสุทธิ 16,989 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลจากการบันทึกด้อยค่าสินทรัพย์ 1.59 หมื่นล้านดอลลาร์ และค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างองค์กร 2.8 พันล้านดอลลาร์ โดยซีเอฟโออินเทล David Zinsner บอกว่าทั้งหมดเป็นไปตามแผนของการลดค่าใช้จ่ายบริษัท