TCL แบรนด์สมาร์ททีวีจากจีน เปิดตัวทีวีเรือธงมากมายใหม่ในงาน CES 2017 หนึ่งในนั้นคือ X2 (จอแบน) และ X3 (จอโค้ง) ทั้งสองรุ่นมาพร้อมเทคโนโลยี Quantum Dot (QD), เทคโนโลยีภาพ Dolby Vision HDR, MEMC (เทคโนโลยีการชดเชยการเคลื่อนไหวของภาพ ช่วยให้ภาพไม่แตกเบลอ), ระบบเสียง Harman Kardon และดีไซน์ความบางที่ 7.9 มม.สำหรับ X2 และ 6.9 มม. สำหรับ X3
ฟังก์ชั่นอื่นที่มาด้วยใน X2 และ X3 คือ Bluetooth Audio ผู้ใช้สามารถเปิด TV เป็นลำโพงโดยเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนกับทีวีและฟังเพลงได้แม้หน้าจอ TV จะปิดอยู่ และยังมี Sound Return ส่งสัญญาณเสียงไปยังสมาร์ทโฟนผ่านทาง WiFi ผู้ใช้ดู TV ในขณะที่ใส่หูฟังได้โดยไม่รบกวนผู้อื่น
LG ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้างัดข้อแบรนด์อื่นด้วยการตั้งมาตรฐานใหม่ของสมาร์ททีวีในปี 2017 ว่า SUPER UHD TV ทุกรุ่นจะต้องมีเทคโนโลยี NANO CELL ที่สามารถประมวลภาพสมจริง และให้สีที่ดีกว่า
NANO CELL คือการใช้อนุภาคขนาด 1 นาโนเมตรที่มีอย่างสม่ำเสมอ สร้างภาพและสีที่ลึกซึ้งและให้มุมมองกว้างกว่า เหมาะสำหรับทีวีจอใหญ่ที่จอภาพมีความละเอียดสูง และยังดูดซับความยาวคลื่นจากแสงส่วนเกิน การแสดงผลสีจะตรงตามที่โปรดักชั่นผลิตคอนเทนต์ต้องการจะสื่อออกไป นาโนเซลล์ยังช่วยลดความซีดจางของภาพลงด้วย
ทีวี SUPER UHD TV ทุกรุ่นของ LG ต่อจากนี้จะประกอบด้วยเทคโนโลยี Active HDR และ Dolby Vision ให้ผู้ใช้เข้าถึงคอนเทนต์ภาพคมชัด และระบบปฏบัติการสมาร์ททีวีรุ่นล่าสุดของ LG ด้วย
Samsung ประเทศไทย เปิดตัวสมาร์ททีวี SUHD Curved TV รุ่นใหม่ปี 2016 หน้าจอโค้ง บุกตลาดพรีเมี่ยม นำเอาเทคโนโลยีด้านภาพ เสียง ดีไซน์แบบ Borderless (มีส่วนขอบจอที่บางกว่า) และการใช้งานสมาร์ททีวีให้ง่ายขึ้นเป็นจุดขาย
TP Vision เปิดตัวทีวีแบรนด์ Philips (ปัจจุบัน Philips ไม่ได้ทำทีวีเองแล้ว ใช้วิธีไลเซนส์แบรนด์) โดยเป็นทีวีธรรมดา ไม่ใช่สมาร์ททีวีที่รัน Android แต่ก็รองรับโพรโทคอล Google Cast สามารถส่งคลิปจากมือถือ-แท็บเล็ตขึ้นบนจอได้ เหมือนกับการใช้ Chromecast
ทีวีรุ่นนี้เรียกว่า 6000 series Google Cast มีความละเอียด UHD 4K 3840x2160p มีทั้งหมด 4 ขนาดคือ 43/49/55/65 นิ้ว ทุกตัวมี Wi-Fi 802.11ac และมีตัวถอดรหัสวิดีโอ HEVC/VP9 ให้มาในตัว
สินค้าจะเริ่มขายในสหรัฐอเมริกาช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมนี้ ตัวถูกสุด 43 นิ้ว ราคา 649.99 ดอลลาร์ ถือว่าจับต้องได้สำหรับคนที่อยากได้ทีวี UHD แต่ไม่ต้องการฟังก์ชันของสมาร์ททีวี
TCL บริษัทผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สัญชาติจีน เปิดตัวสมาร์ททีวีระดับพรีเมี่ยมที่เรียกว่า QUHD หลายรุ่นในประเทศไทย ได้แก่ Q770 Series และ H9800 Series ชูจุดเด่นด้านการออกแบบที่ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยม ด้วยหน้าจอโค้ง และบาง 9.9 มม. ขนาดจอกว้างสุดถึง 65 นิ้ว พร้อมหน่วยประมวลผล 64 bit รองรับการใช้งานผ่านอินเทอร์เน็ตในตัว
กลุ่ม HDMI Licensing, LLC ซึ่งประกอบไปด้วยผู้ผลิตอุปกรณ์และสายสัญญาณที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีนี้ ล่าสุดออกตราสัญลักษณ์ HDMI Premium Certified Cable
สายสัญญาณไหนที่ได้ตรานี้ไปแปะ แปลว่าผ่านสเปกการสตรีมข้อมูลในระดับ 18Gbit/s (HDMI 2.0) และมีระดับสัญญาณ EMI รบกวนต่ำอยู่ในเกณฑ์ สามารถสตรีมภาพระดับ HDR, 4K หรือ UltraHD และค่าสี color gamut กว้างๆ ได้
สมาชิกที่ร่วมกลุ่มนี้สามารถนำตรานี้ไปใช้กับสินค้าตัวเองได้แล้วครับ (ดูภาพด้านใน)
เก็บตกข่าว CES 2015 กันต่อนะครับ ในฝั่งของทีวีที่เป็นสินค้าหลักของงาน CES มาโดยตลอด รอบนี้ซัมซุงประดิษฐ์คำใหม่ SUHD TV มาเรียกทีวีความละเอียดสูงของตัวเอง (แนวเดียวกับที่เรียกจอ Super AMOLED ให้ดูต่างจาก AMOLED ธรรมดา แต่รอบนี้ไม่ระบุว่า S ย่อมาจากอะไร)
SUHD TV ชุดแรกของซัมซุงมีด้วยกัน 3 รุ่นคือ JS9500, JS9000, JS8500 จุดต่างคือขนาดหน้าจอ (ตัวท็อปสุด JS9500 ขนาด 88 นิ้ว) สิ่งที่ทุกรุ่นมีเหมือนกันคือเป็นจอโค้ง LCD (ไม่ใช่ OLED) ความละเอียด UHD 4K แบบ Quantum Dot โดยใช้วัสดุทำเม็ดพิกเซลเป็น nano-crystal ที่ให้สีสันสดใสและแม่นยำกว่าทีวีปกติ 64 เท่า, มีระดับความเข้มของสีดำ-ความสว่างของสีขาวมากกว่าทีวีปกติ 2.5 เท่า
แม้ว่าปี 2014 จะมีทีวีความละเอียดสูงระดับ 4K ออกมาให้เห็นบ้างแล้ว แต่ความต่างระหว่างจอ LCD กับ OLED ที่ห่างกันมากก็ทำให้ลูกค้ายังไม่สนใจจะซื้อทีวี 4K กันเนื่องจากของดีเอื้อมไม่ถึง ของที่เอื้อมถึงก็กลับไม่ดีพอ ซึ่งปี 2015 นี้ LG ออกมาโชว์ก่อนแล้วว่าจะโชว์เทคโนโลยีใหม่สำหรับเพิ่มคุณภาพของทีวี 4K แบบหน้าจอ LCD ด้วยเทคโนโลยี Quantum Dot เร็วๆ นี้
Quantum Dot เป็นเทคโนโลยีที่ประกอบด้วยส่วนหลักๆ สองส่วน ส่วนแรกคือนาโนคริสตัลขนาด 2-10 นาโนเมตรที่สามารถเปล่งสีได้ต่างกันตามขนาดของคริสตัล ทำงานร่วมกับฟิล์มตัวใหม่ที่ช่วยเพิ่มเฉดสี และความสว่างได้จากเดิมที่หน้าจอ IPS ทำได้ดีอยู่แล้ว เทียบกับของเดิม Quantum Dot จะทำให้ทีวีแสดงผลเฉดสีได้มากขึ้นอีก 30% ด้วยกัน
อีกสิ่งหนึ่งที่ Samsung หอบหิ้วไปโชว์ในงาน IFA 2014 ซึ่งจัดขึ้นที่ Berlin ประเทศเยอรมนี คือบรรดาทีวีที่ Samsung แสนจะภูมิใจ แต่ที่โดดเด่นที่สุด เห็นจะเป็นทีวีจอยักษ์ขนาด 105 นิ้ว ที่มาพร้อมความละเอียดของภาพแบบ 4K ซึ่งมีทั้งแบบจอโค้งอย่างที่เคยปรากฎเป็นข่าวให้เห็นกันมาเป็นระยะ และแบบจอ "ดัดได้" ที่ผู้ใช้เลือกที่จะปรับให้จอภาพเป็นแบบโค้งหรือแบบเรียบได้เพียงแค่ปลายนิ้วกดปุ่มสั่งการ
ทีวีทั้ง 2 ตัวที่กล่าวถึงมีหน้าจอขนาด 105 นิ้ว จำนวนเม็ดสี 11 ล้านพิกเซล (5120*2160 พิกเซล) สัดส่วนหน้าจอเป็นแบบ 21:9 มีรัศมีความโค้งของหน้าจอ 4200 มิลลิเมตร รุ่นจอโค้งปกติมาพร้อมลำโพงขนาด 160W ฝังอยู่ภายในตัว ส่วนรุ่นที่เป็นจอแบบดัดได้นั้นสามารถเลือกความโค้งได้หลายระดับ
ดูเหมือนตลาดของทีวี 4K จะแข่งขันกันเรื่องราคาเร็วพอตัว หลังจาก Polaroid ที่โด่งดังจากการทำกล้องในอดีต เปิดตัวทีวีความละเอียดสูงระดับ 4K ในราคาไม่แรงนักที่ 999.99 เหรียญเท่านั้น (ประมาณ 33,000 บาท)
ทีวีรุ่นนี้มาในรหัส 50GSR9000 ใช้หน้าจอ LED ขนาด 50" ความละเอียด 3840x2160 พิกเซล (4K) สเปคตอนนี้ยังออกมาไม่มากนักบอกเพียงแค่มีพอร์ต HDMI สามพอร์ตเท่านั้น
LG เปิดตัวทีวี UHD (หรือ ultra high definition) จอโค้งขนาด 105 นิ้ว อัตราส่วนของจอ 21:9 รุ่นแรกของบริษัท (รหัส 105UB9) ซึ่ง LG บอกว่านี่คือทีวีหน้าจอโค้งที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา โดยเครื่องนี้จะมาพร้อมหน้าจอความละเอียด 5120 x 2160 (ตามทฤษฎีเขาไม่จัดว่าเป็นจอชนิด 5K)
น่าเสียดายที่ว่า ในรุ่นนี้ยังคงใช้จอ TFT LCD อยู่ (แต่เป็นรุ่นที่ปรับแต่งสำหรับหน้าจอโค้งเรียบร้อยแล้ว เพื่อการแสดงผลที่ดีกว่า) โดยทาง LG ระบุว่าเทคโนโลยีการผลิดของ OLED ยังไม่สามารถทำให้โค้งแบบดี ๆ ได้
ทีวีตัวนี้จะมีกำหนดโชว์ตัวในงาน CES 2014 ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกาครับ
ในขณะที่ฝั่งผู้ผลิตพร้อมทำอุปกรณ์ให้รองรับคอนเทนต์ความละเอียดสูงระดับ Ultra HD (หรือ 4K) และเริ่มวางขายกันบ้างแล้วทั้งเครื่องเล่น และโทรศัพท์ แต่ก็ดูเหมือนว่าผู้บริโภคอย่างเราๆ จะยังไม่พร้อมจ่ายเสียเท่าไหร่
แล้วก็เริ่มมีสัญญาณดีจากฝั่งผู้ผลิตให้เราได้มีความหวังกันบ้างแล้ว หลังจากผู้ผลิตโทรทัศน์ 4K สองรายใหญ่ทั้งซัมซุง และโซนี่ต่างก็นัดกันลดราคาเจ้าโทรทัศน์ความละเอียดสูงกันวูบใหญ่ ในโมเดลหน้าจอขนาด 55" ปรับลงมาถึง 1,000 เหรียญ ราคาตอนนี้ของซัมซุงรุ่น UN55F9000 จึงอยู่ที่ 4,499.99 เหรียญ (ประมาณ 144,000 บาท) ส่วนโซนี่รุ่น XBR-55X900A อยู่ที่ 3,999.99 เหรียญ (ประมาณ 128,000 บาท)
พอร์ต MHL ที่ใช้ตัวพอร์ตร่วมกับ USB ในโทรศัพท์มือถือ ประกาศมาตรฐานใหม่ MHL 3.0 รองรับภาพ 4K แบบ 2160p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
มาตรฐานใหม่นี้ยังมีการปรับปรุงในอีกหลายส่วน เช่น การรับไฟผ่านพอร์ตทำได้ถึง 10W, รองรับระบบเสียง Dolby TrueHD และ DTS-HD, รวมถึงการรองรับหลายจอ
ตัวมาตรฐานจริงจะเปิดให้สมาชิกเข้าดาวน์โหลดได้ในเดือนกันยายนนี้
ที่มา - MHL Tech
ในปีนี้กระแสคอนเทนต์ความละเอียดสูงในระดับ Ultra HD (หรือที่เราคุ้นกันในชื่อ 4K) เริ่มมีมาบ้างแล้ว ทางฝั่งที่ดูจะพร้อมสุดในตลาดนี้คงเป็นโซนี่ที่เปิดตัวเครื่องเล่นมาก่อน พร้อมบอกว่าจะให้ลูกค้าที่ซื้อทีวี Ultra HD ยืมไปเล่นที่บ้านได้ ตอนนี้มีรายละเอียดเพิ่มเติมมาแล้ว
นอกจากราคาตัวเครื่องเล่นที่เปิดมา 699.99 เหรียญ โซนี่ได้เผยราคาค่าเช่า และราคาซื้อขาดภาพยนตร์บนความละเอียด 4K ออกมา โดยค่าเช่าจะเริ่มต้นที่ 7.99 เหรียญต่อเรื่อง และซื้อขาดเริ่มต้นที่ 29.99 เหรียญ ซึ่งสูงกว่าความละเอียด 1080p ที่ค่าเช่าไม่เกิน 5 เหรียญ และซื้อขาดไม่เกิน 20 เหรียญอยู่พอตัว
ข่าวนี้ต่อจาก โซนี่เตรียมแจก "เซิร์ฟเวอร์หนัง 4K" ลูกค้าทีวีความละเอียด Ultra HD ยืมไปดูถึงบ้าน ล่าสุดโซนี่เปิดตัวฮาร์ดแวร์อย่างเป็นทางการแล้ว
ชื่อของมันคือ FMP-X1 4K Media Player ในตัวมาพร้อมกับภาพยนตร์ 4K จำนวน 10 เรื่อง (ตัวอย่างรายชื่อคือ Bad Teacher, Battle: Los Angeles, The Bridge on the River Kwai, The Karate Kid 2010, Salt, Taxi Driver, That’s My Boy, The Amazing Spider-Man, The Other Guys, Total Recall 2012) และภาพยนตร์สั้นอีกจำนวนหนึ่ง
หมายเหตุ: อัพเดตเนื้อหาใหม่ ตามความเห็นของคุณ kookai
ปีนี้เราเห็นผู้ผลิตทีวีพร้อมใจกันเปิดตัวทีวีความละเอียด 4K หรือ UHDTV แต่หลายคนคงมีคำถามว่า ถ้าซื้อทีวี 4K มาจริงๆ แล้วจะดูอะไรถึงจะคุ้มกับความละเอียดระดับนี้
สหภาพโทรคมนาคมสากล (ITU) ฝ่ายการสื่อสารด้วยคลื่นวิทยุ (ITU-R) ออกมาตรฐาน "ทีวีความละเอียดสูงมาก" (Ultra High Definition Television หรือ UHDTV) ที่เหนือกว่า HDTV ในปัจจุบันแล้ว
มาตรฐาน UHDTV รุ่นแรกแบ่งความละเอียดออกเป็น 2 ระดับ ได้แก่
ลำดับต่อไปทางผู้บริหารของ ITU จะต้องเซ็นรับรองมาตรฐานนี้ (ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีใครเห็นรายละเอียด เลยยังไม่มีข้อมูลทางเทคนิคอื่นๆ เช่น ความถี่หรือปริมาณสีที่ใช้) แต่ตอนนี้เราคงพอรู้กันบ้างแล้วว่าทีวีในอีก 3-4 ปีข้างหน้าจะนำประเด็นไหนมาโฆษณา