เรื่องสำคัญเวลาจะเปลี่ยนระบบปฏิบัติการคือการหาไดรเวอร์สำหรับอุปกรณ์ที่มีอยู่ โดยสมัย Windows XP นั้นยังไม่น่ากลัวเท่าใหร่เพราะใช้ไดรเวอร์ร่วมกับ Windows 2000 ได้ แต่การอัพเกรดไปวิสต้าอาจจะยุ่งยากกว่านั้นมาก แต่ข่าววันนี้อาจจะเป็นข่าวดีสำหรับคนที่สนใจจะอัพเกรดไปใช้วิสต้า เพราะไมโครซอฟท์จะรวมเอาไดรเวอร์กว่า 19500 ตัวมาในดีวีดีตั้งแต่แรก พร้อมกับอีกกว่า 11700 ตัวที่สามารถดาวน์โหลดได้ผ่านทาง Windows Update ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับไดรเวอร์ประมาณ 10000 ตัวใน Windows XP และเพียง 2000 กว่าตัวในวินโดวส์อัพเดต ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะทุกวันนี้อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์เยอะขึ้นมา
ตอนผมไปเล่น Vista ที่งาน ICT Expo ก็งงๆ กับปุ่ม Shutdown ของ Windows Vista แต่ก็ไม่ได้คิดว่าเป็นประเด็นใหญ่ เผอิญ Joel Spolsky บล็อกเกอร์คนดังแห่ง Joel on Software เขียนถึงเรื่องนี้ แล้วมันพัวพันไปถึงเรื่องการออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้ที่ดีด้วย เลยเอามาลงเผื่อใครจะสนใจ
Joel กดปุ่มลูกศรข้างๆ ปุ่ม Shutdown ใน Start Menu ของ Vista ให้ดูว่าเรามีตัวเลือกถึง 7 อันตอนจะเลิกใช้เครื่อง ซึ่งได้แก่
MSNBC มีสกู๊ปเบื้องหลังเสียงเพลงตอนเข้า Windows Vista ว่าเพลงยาวแค่ 4 วินาทีแต่ใช้เวลาทำถึง 18 เดือน
ถ้าใครดูวิดีโอตอนแถลงชื่อ Windows Vista เมื่อต้นปีอาจจะพอจำได้ว่ามีนักดนตรีมาเล่นอยู่คนนึง หมอนี่คือ Robert Fripp แห่งวง King Crimson และเป็นผู้แต่งคลิปยาว 4 วินาทีนี้ (เข้าไปฟังได้ตามลิงก์) Fripp สร้างเพลงให้ทีมงานของไมโครซอฟท์เลือกหลายแบบ ก่อนจะตัดสินใจเลือกเพลงนี้ที่ไม่ระคายหูจนเกินไปถ้าเปิดซ้ำกันหลายๆ รอบ
ถ้าลองฟังดู ตอนต้นมันมี 4 จังหวะ มาจาก 4 คอร์ด เป็นตัวแทนของการอ่านคำว่า "Win-dows Vis-ta" ออกมาเป็นเสียง (ไม่รู้มีอะไรกับเลข 4 รึเปล่า) นอกจากนี้ใน Vista ยังมีเพลงใหม่อีก 45 เพลงสำหรับเหตุการณ์ต่างๆ เช่น มีอีเมลใหม่ เป็นต้น
Paul Thurrott คอลัมนิสต์ที่มีชื่อเสียงด้านผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ (ถ้ายังจำกันได้ เค้าซื้อแมคให้เมียใช้) ได้เริ่มรีวิว Windows Vista ตัวจริงผ่านเว็บ SuperSite for Windows ของตัวเองแล้ว
รีวิวฉบับนี้ยาวมากมีทั้งหมด 8 ตอน ขณะที่ผมเขียนเพิ่งออกมา 3 ตอนถึงแค่เรื่องการติดตั้ง Windows Vista เนื้อหาละเอียดมาก เหมาะกับผู้ที่สนใจจะอัพเกรดมาใช้ Vista เป็นอย่างยิ่ง สำหรับการเลือกว่าจะซื้อ Vista รุ่นไหนนั้น Thurrott ให้คำแนะนำเป็นตัวหนาว่า Do not purchase or use Windows Vista Home Basic. (ฮา)
ข่าวเก่า: Microsoft Office 2007 เสร็จแล้ว
ตอนนี้ Windows Vista ก็เข้าสู่สถานะ RTM พร้อมสำหรับงานเปิดตัววันที่ 30 มกราคม 2007 แล้ว ลิงก์ที่เกี่ยวข้องมาเป็นชุด
Vista จะเปิดแชร์ไฟล์บน IPV6 และระบบจัดการ DNS ที่คล้ายกับ P2P ชื่อว่า Windows Internet Computer Name ซึ่งเป็นระบบที่พัฒนาขึ้นมาจากระบบ P2P ของไมโครซอฟท์เอง (Peer Name Resolution Protocol - PNRP)
Windows Internet Computer Name จะทำงานคล้ายๆกับระบบ P2P ทั่วไป ทุกครั้งที่เปิดเครื่อง Vista จะประกาศ Peer name ไปยัง Vista เครื่องอื่นๆ หลังจากนั้นจะอนุญาิิตให้เชื่อมต่อเข้ามาโดยตรงผ่าน IPV6 address
อ้างอิง : Noah Horton's Blog, apcmag.com
ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวไมโครซอฟท์จะบีบไม่ให้ผู้ใช้ทั้งหลายลงวิสต้าซ้ำในเกินสองครั้งบนเครื่องที่ต่างกัน หลังการประกาศครั้งนั้นไมโครซอฟท์ก็โดนสวดยับเนื่องจากการเป็นการบีบไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนฮาร์ดแวร์ไปในตัว ยังดีที่วันนี้ไมโครซอฟท์ยอมแก้ไขเงื่อนไขดังกล่าว โดยยอมให้ผู้ใช้สามารถลงวิสต้าในเครื่องใดที่ต้องการ แต่ไม่สามารถใช้งานพร้อมกันได้ ซึ่งก็ไม่แปลกอะไร
ไมโครซอฟท์ระบุว่าความตั้งใจแรกของการกำหนดจำนวนครั้งของการลงวิสต้านั้นเป็นไปเพื่อการป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ แต่เนื่องจากเงื่อนไขดังกล่าวมีผลกระทบต่อลูกค้าที่ต้องการดัดแปลงเครื่องเองจึงถอดเงื่อนไขดังกล่าวออกไป
หลังจากประะกาศการอัพเกรดฟรีเพื่อขัดตาทัพ ไมโครซอฟท์ก็ประกาศวันวางจำหน่ายวิสต้าอย่างเป็นทางการแล้ว โดยแยกเป็นสองช่วงคือการขายสำหรับกลุ่มธุรกิจ (น่าจะหมายถึงผู้ผลิตคอมพิวเตอร์) และการขายสำหรับผู้ใช้ทั่วไป สำหรับลูกค้าธุรกิจนั้นจะเริ่มเปิดตัวในวันที่ 30 พฤศจิกายน หรือสิ้นเดือนนี้นั่นเอง ส่วนลูกค้าทั่วไปนั้นต้องรอถึง 30 มกราคมปีหน้า
การเปิดตัวครั้งนี้เป็นการเปิดตัวพร้อมกันทั้งวิสต้า และ Office 2007 (และ Exchange 2007 ด้วย) อย่างที่เรารู้ๆ กันว่า Office 2007 นั้นเสร็จก่อนมาระยะหนึ่งแล้วแต่รอเปิดตัวพร้อมกับวิสต้ามาหลายเดือน
หลังเลื่อนมาหลายรอบ Windows Media Player 11 ตัวจริงก็เปิดให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดเสียที (ลิงก์) โดยเวอร์ชัน XP นี้มีให้ดาวน์โหลดทั้งแบบ 32 บิตและ 64 บิต ในแหล่งข่าวไม่ได้บอกว่าเช็ค WGA หรือเปล่า ใครโหลดมาแล้วช่วยรายงานด้วยครับ
ที่มา - BetaNews
อีกข่าวคือไมโครซอฟท์เผยโฉมกล่องของ Windows Vista และ Office 2007 โดยจะทำเป็นกล่องพลาสติกขอบมนดีไซน์เฉพาะ ในรูปที่โชว์ให้ดูมี Vista 4 เวอร์ชัน (Home Basic, Home Premium, Business และ Ultimate) กับ Office 2007 อีก 2 แบบ
Jim Wong รองประธานของ Acer ได้แสดงความเป็นห่วงว่า Windows Vista เวอร์ชัน Home Basic จะไม่มีลูกค้าของ Acer สนใจ
ใน Vista จะมีรุ่นสำหรับผู้ใช้ตามบ้านแยก 2 รุ่นคือ Home Basic กับ Home Premium ที่เพิ่ม Aero Glass และฟีเจอร์ด้าน Media Center เข้ามา โดยขึ้นราคาอีก 40 เหรียญ
Jim Wong มองว่าสุดท้ายแล้ว Home Basic จะไม่มีคนใช้จริง (คงเหมือน Windows Starter Edition) และในเมื่อราคาของ Home Basic เท่ากับ XP Home ดังนั้นมันจะเหมือนการเขยิบราคาของ Windows สำหรับผู้ใช้ตามบ้านขึ้นไปอีก 40 เหรียญแบบอ้อมๆ
หลายๆ คนที่ไม่อยากใช้วินโดวส์เถื่อน แต่ก็ไม่อยากจ่ายแพง ทางเลือกหนึ่งคือการซื้อเครื่องที่แถมวินโดวส์มาด้วยในตัว แต่พอวิสต้าใกล้ออกเข้าทุกขณะ หลายๆ คนคงเลือกที่จะรอให้วิสต้าออกมาก่อน แล้วค่อยซื้อเครื่องใหม่กัน กระแสนี้เริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ จนไมโครซอฟท์ต้องออกมากระตุ้นตลาดด้วยโครงการ Vista Express Upgrade ให้เปิดโอกาสให้ผู้ที่ซื้อเครื่องที่รองรับวิสต้าอยู่แล้ว สามารถอัพเกรดไปเป็นวิสต้าได้ฟรี
แม้ทางไมโครซอฟท์จะไม่คิดเงินสำหรับการอัพเกรดนี้ แต่ผู้ผลิตก็อาจจะคิดค่าบริการในการส่งแผ่นซีดีและค่าบริการอื่นๆ ซึ่งก็ยังถูกกว่าการซื้อวิสต้ามาลงเองมากแล้ว
เนื่องจากความขี้กลัวสินค้าผิดลิขสิทธิ์ของ Microsoft ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกี่ยวกับ license ของ Windows Vista โดยต่อไปนี้ผู้ที่ใช้ Windows Vista สามารถ"ย้าย" Vista จากเครื่องหนึ่งไปอีกเครื่องหนึ่งได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น โดยถ้าเกิดจะต้องย้ายเป็นครั้งที่สองนั้น จะต้องทำการซื้อ Vista ใหม่ กฏนี้รวมไปถึง Vista ที่ลงใน Virtualization ทั้งหลายด้วย (เช่น บนเครื่อง Mac) สามารถทำได้เพียงครั้งเดียวเช่นกัน
สามารถอ่านความคิดเห็นจากหลาย ๆ คนในวงการคอมพิวเตอร์ได้จากที่มานะครับ
ที่มา - CNET News
คนของไมโครซอฟท์ให้สัมภาษณ์ในงานประชุมที่ลอนดอนว่า "ไมโครซอฟท์พร้อมจะเปิดตัว Vista, Office 2007 และ Exchange 2007 พร้อมกันในวันที่ 5 ธันวาคม 2006" นี้ อย่างไรก็ตามข่าวนี้ของ ZDNet ได้ถูกลบออกไปโดยคาดว่าไมโครซอฟท์ขอร้องมา
ตามที่ไมโครซอฟท์เคยบอกไว้ Vista รุ่นสำหรับธุรกิจจะวางจำหน่ายในเดือน พ.ย. ส่วนรุ่นขายปลีกทั่วไปจะเป็นเดือน ม.ค. ปีหน้า ระหว่างที่เรายังไม่รู้ว่าข่าวนี้ยืนยันแน่นอนหรือเปล่า ก็อ่านรีวิว Windows Vista ไปพลางๆ ก่อน
ที่มา - OSNews
ไมโครซอฟท์ออก Vista RC2 ซึ่งจะเป็นรุ่นทดสอบรุ่นสุดท้ายก่อนรุ่น RTM (Release To Manufacturere) โดยแก้บั๊กจาก RC1 ไปเยอะพอสมควร (Jim Allchin ประธานฝ่าย Windows บอกว่าเป็นจำนวน "thousands") ตอนนี้เปิดให้บรรดาสมาชิกเครือข่าย นักพัฒนาของไมโครซอฟท์ดาวน์โหลดแล้ว
ที่มา - Windows Vista Team Blog
Microsoft ได้ออกมาประกาศว่ามีระบบป้องกันการลง Windows Vista แบบไม่ได้ Activate ใหม่ โดยที่ถ้าไม่มีการ Activate ภายใน 30 วันนั้น จะมีการจำกัดให้เล่นได้เพียง 1 ชั่วโมง แล้วก็ปิดเครื่องไปเลย หรือให้ Register ผ่านทางอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์เท่านั้น
ดูซิว่า cracker จะหาวิธีสู้แบบใหม่ได้หรือไม่
ที่มา - CNET News
ใน Vista นั้นไมโครซอฟท์ปรับกลยุทธด้านความปลอดภัยของตัวเองเสียใหม่ จากเดิมที่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรก็ลงมาทำธุรกิจอย่างเต็มตัว จะเห็นได้จากการรวมเอา Windows Defender (Anti-Spyware) มาใน Vista และขายแอนตี้ไวรัสแยกในชื่อ Windows Live OneCare
มองในแง่ผู้บริโภคก็อาจจะดี แต่คู่แข่งอย่าง McAfee หรือ Symantec/Norton คงไม่ยอมแน่นอน เรื่องยิ่งเลวร้ายเมื่อผู้พัฒนาโปรแกรมด้านความปลอดภัยไม่สามารถเข้าถึงเคอร์เนลของ Vista ได้ด้วยเหตุผลที่ไมโครซอฟท์บอกว่าเป็นเรื่องความปลอดภัย (แต่ทีม OneCare ของไมโครซอฟท์เองย่อมทำได้) ทำให้ทั้ง McAfee และ Symantec ออกมาโวยวายในเรื่องนี้แล้ว
เผอิญมีข่าว Vista หลายเรื่องพร้อมกัน รวมเป็นข่าวเดียวเลยนะครับ
ฟีเจอร์ใหม่ๆ ในวิสต้าน่าจะเป็นที่ดึงดูดใจให้กับผู้ใช้จำนวนมาก แต่คงไม่ใช่กับพันธมิตรที่กำลังจะกลายเป็นคู่แข่งอย่างไซแมนเทคและอโดบี เนื่องจากมีแนวโน้มค่อนข้างสูงว่าในวิสต้านั้นจะมีฟีเจอร์ที่ทำให้ไมโครซอฟท์ได้เปรียบทั้งสองบริษัทอย่างชัดเจน
ด้านไซแมนเทคนั้นต่อต้านเทคโนโลยี PatchGuard ที่ป้องกันไม่ให้ผู้ผลิตซอฟต์แวร์อื่นนอกจากไมโครซอฟท์เข้าไปยุ่งกับตัวเคอร์เนล กรณีค่อนข้างแน่ว่าตัวไมโครซอฟท์เองจะได้เปรียบ เพราะซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยของไมโครซอฟท์เองจะสามารถเข้าถึงทุกส่วนของเคอร์เนลได้อย่างอิสระ
ผมเคยไปสัญญาไว้แถวไหนไม่รู้ว่าจะรีวิว Vista ให้อ่านกัน ตอนแรกกะเขียนยาวๆ เป็น technical whitepaper แต่เอาเข้าจริง เขียนไปได้นิดเดียวก็หมดไฟซะอย่างนั้น เพื่อไม่ให้เสียของ เอากลับมาเขียนเป็นรีวิวแบบเดิมละกัน
เตรียมตัวเตรียมใจพบกับระบบปฏิบัติการตัวใหม่ในรอบ 5 ปีของไมโครซอฟท์!!!
ข่าวใหญ่ช่วงนี้คือผู้เชี่ยวชาญด้าน DNS ออกมาให้ข่าวว่าการที่ Vista สนับสนุนทั้ง IPv4 และ IPv6 ทำให้ต้องเรียก DNS สองรอบ ซึ่งจะส่งผลให้ DNS ของบรรดา ISP ได้รับปริมาณข้อมูลเพิ่มขึ้นมาก อาจทำให้อินเทอร์เน็ตใช้งานไม่ได้ในที่สุด
ไมโครซอฟท์ออกมาตอบโต้ข่าวนี้โดยบอกว่าระบบเรียกข้อมูลจาก DNS ของ Vista ได้รับการออกแบบมาอย่างดี และมีกรณีน้อยมากที่จะเรียก 2 ครั้ง
นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ ก็มีความเห็นแตกต่างกันออกไป บางคนก็เห็นด้วยว่า Vista จะทำให้ปริมาณข้อมูลผ่าน DNS มีมากขึ้น แต่ขนาดจะทำให้อินเทอร์เน็ตพังก็ออกจะเวอร์เกินไปนิด
ช่วงนี้ข่าว Vista จะเยอะหน่อย (พวกนี้ก็แบ่งๆ กันไปตามแต่กระแสใครจะแรง)
Ars Technica มีสกู้ปเกี่ยวกับฟีเจอร์ด้านเสียงใน Vista ซึ่งมีของเด็ดๆ หลายอย่าง เช่น Loundness Equalizer (ปรับระดับความดังให้คงที่), Speaker fill (เพิ่มเสียงให้ลำโพงตัวที่เหลือ เช่น มีลำโพง 7 ตัว แต่เสียง 2.1 ก็จะเติมให้), Speaker Phantoming (กรณีที่ลำโพงพังไปตัว ก็จะแบ่งไปออกตัวใกล้เคียงให้อัตโนมัติ) เป็นต้น รายละเอียดก็อ่านกันเองตามลิงก์
จะเห็นได้ว่าไมโครซอฟท์กะยึดห้องนั่งเล่นแบบเบ็ดเสร็จด้วย Windows Media Center เลยนะนั่น
ออก RC1 แบบจำกัดวงไปได้ไม่ถึงอาทิตย์ ไมโครซอฟท์ก็เปิดให้คนทั่วไปที่สนใจสามารถดาวน์โหลดมาทดสอบได้แล้ว
ลิงก์ให้ดาวน์โหลดอยู่ที่ Windows Vista RC1
ความเห็นบางที่บอกว่า RC1 มีเสถียรภาพมากกว่า Beta 2 มาก เพียงแต่ก็ยังมีบั๊กเยอะอยู่ และคิดว่าน่าจะมีอีกหลาย RC กว่าจะออกตัวจริงได้
ที่มา - OSNews
แม้ Vista จะยังไม่ออก แต่ความล่าช้าในการพัฒนาก็ทำให้ไมโครซอฟท์ต้องปรับตัวเพื่อเอาตัวรอดในยุคหลัง Vista
InformationWeek มีสกู๊ปในเรื่องนี้ครับ ปัญหาด้านการจัดการภายในของไมโครซอฟท์เอง และการที่มีฐานผู้ใช้เดิมมหาศาลทำให้ต้องรักษา backward compatability เป็นสาเหตุที่ทำให้ Vista ออกช้าและมีขนาดใหญ่มาก นักวิเคราะห์จากหลายค่ายได้เห็นค่อนข้างตรงกันว่า "Fiji" กับ "Vienna" ซึ่งเป็นรหัสของวินโดวส์สองรุ่นถัดไปจะเล็กลง modular มากขึ้น ผสานกับเว็บมากกว่าเดิม และมีช่วงเวลาพัฒนาสั้นลง
หลังออก pre-RC1 (5536) จำนวน 1 แสนชุดให้คนทั่วไปได้ดาวน์โหลด คราวนี้ก็ถึงคิว RC1 ตัวจริง (5600) ซะที
คนกลุ่มแรกที่จะได้สิทธิ์โหลด RC1 ไปก่อนใครคือสมาชิก TechBeta และพาร์ทเนอร์แบบ Technology Adoption Program (TAP) ส่วน MSDN กับ TechNet จะได้สิทธิ์โหลดในอาทิตย์หน้า ในข่าวบอกว่าไมโครซอฟท์ตั้งใจจะแจก RC1 จำนวน 6 ล้านชุดแต่ว่าไมโครซอฟท์ได้ออกมาปฏิเสธตัวเลขนี้แล้ว