Windows
ไมโครซอฟท์ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อ API สำหรับกราฟิกตัวใหม่ ซึ่งเดิมมีชื่อฟังดูเท่ๆ ว่า Windows Graphic Foundation (WGF) มาเป็น DirectX 10 ซึ่งถึงแม้ว่ามันจะไม่เท่เท่าแต่อ่านดูแล้วก็นึกออกว่ามันเอาไว้ทำอะไร DirectX 10 นี้เค้าว่ามีประสิทธิภาพสูงขึ้น แต่ก็ต้องแลกด้วยการตัดความเข้ากันได้กับ DirectX 9 และต่ำกว่านั้นออกไป อย่างไรก็ตามเกมที่เขียนด้วย DirectX 9 ก็สามารถนำไปรันบน Vista ได้ โดยจะมีเลเยอร์ซอฟต์แวร์คั่นกลางอยู่
Paul Thurrott กูรูด้านวินโดวส์จาก WinInfo ได้บอกว่าเขาได้เห็นเอกสารภายในของไมโครซอฟท์ที่บอกกำหนดการต่างๆ ของ Vista (กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลง, มันไม่ต้องเซ็น undisclosure เหรอเนี่ย)
Windows Vista Beta 2: 7 ธันวาคม 2005 Windows Vista RC0: 19 เมษายน 2006 Windows Vista RC1: 28 มิถุนายน 2006 Windows Vista ส่งถึงผู้ผลิต: 9 สิงหาคม 2006 Windows Vista วางจำหน่าย: 15 พฤศจิกายน 2006
ไมโครซอฟท์เปิดเผยโลโก้ของ IE 7 รุ่นสำหรับ XP, 2003 และ Windows 64 สำหรับ Vista บอกว่าจะเปลี่ยนแปลงไปจากนี้แต่ไม่เยอะมาก
(รูปลิงก์มานะครับ ถ้าไม่ขึ้นดูที่นี่)จุดที่สังเกตได้ชัดคือขอบตัว e ชัดเจนขึ้น และตัววงแหวนเปลี่ยนเป็นสีทอง มีหลายๆ คนบอกว่าเหมือนโลโก้ของ Netscape 4 ก็ลองดูละกันว่าจริงมั้ย
จากข่าวข้างล่าง ว่า Monad หรือส่วนเชลล์ของ Windows Vista ที่เทียบได้กับเชลล์ของยูนิกซ์มีโอกาสให้ไวรัสบุกได้นั้น ได้มีรายงานแล้วว่า Monad จะไม่ถูกนำไปรวมกับ Windows Vista รุ่นปกติแต่อย่างใด และ Vista รุ่นที่กำลังพัฒนากันอยู่ ไม่มี Monad รวมอยู่ประมาณ 2-3 เดือนแล้ว
แต่ว่า Monad จะมีให้ใช้ใน Vista Server ที่มีกำหนดออกในปี 2007
หลายคน (อาจรวมหรือไม่รวม บิลเกตส์ ;-P) คงงงเมื่อมีข่าวออกมาว่ามีการพบไวรัสบน Windows Vista ทั้งที่ยังเป็น beta อยู่เลย โดยไวรัสตัวนี้ได้อาศัยช่องโหว่จาก command shell ตัวใหม่ (รหัส Monad) ซึ่งจะถูกใส่เข้าไปใน Windows Vista โดยมีการตั้งชื่อให้ไวรัสตัวนี้แล้วว่า Danom (ลองอ่านจากหลังไปหน้าดู) ซึ่งถูกประกาศตัวออกมาเมื่อเดือนที่แล้ว หรือเพียงแค่ไม่กี่วันหลังจาก Microsoft ประกาศตัว Monad - command shell ตัวใหม่ซึ่งจะเทียบได้กับ BASH บน Linux
หลังจากที่มีข่าวว่าWGA (Windows Genuine Advantage) โดนเจาะหลังจากเปิดใช้ได้ไม่นาน ตอนนี้ Microsoft ได้อุดรูรั่วแล้วโดยเปลี่ยนขั้นตอนเป็นการนำรหัสที่ได้จาก validation tool มาใส่ในช่องตรวจสอบแล้วถึงจะเริ่มดาวน์โหลดได้
จะว่าไปมาตรการนี้ของ Microsoft ก็ยังดูไม่ช่วยกระตุ้นคนให้มาใช้ของแท้ซักเท่าไหร่ บางคนเข้าใจผิดไปด้วยซ้ำว่าเดี๋ยวนี้ห้ามอัพเดทวินโวส์แล้วเดี๋ยวจะทำให้ใช้ Windows ไม่ได้ แล้วจะกลายเป็นว่าไม่ได้อัพเดทพวกรูรั่วทั้งหลายไปด้วย (ทั้งที่สามารถทำได้)
ต่อเนทเวิร์กตอนนี้ต้องระวังกว่าเดิมซะแล้ว
อย่างที่หลายคนคาดการณ์กันไว้ SP2 ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้ และ SP3 ก็ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะออกมาคั่นก่อนจะถึงคิวของ Vista
รายละเอียดดูได้จาก WindowsXP SP3
ของใหญ่ที่จะเพิ่มเข้ามาคือ IE7 และ WMP10 (อาจเป็น 11 ถ้าออกทัน) ซึ่งอันที่ผมคาดว่าอาจจะแถมมาด้วยแต่ยังไม่มีในรายการ น่าจะเป็น Avalon กับ Indigo ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จะใช้ใน Vista รับ
ถ้าใครตามข่าวหน่อยคงเคยได้ยิน WinXP Starter Edition ซึ่งเป็นวินโดวส์เวอร์ชันตัดความสามารถ (จำกัดความละเอียดหน้าจอ, จำกัดปริมาณโปรแกรมที่สามารถรันได้พร้อมกัน) และแปลเป็นภาษาต่างๆ วางขายในประเทศ "กำลังพัฒนา" อย่างเช่น อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ รวมถึงเมืองไทยด้วย
เจ้า Starter Edition นี้โดนวิจารณ์เป็นอย่างมากว่า ตัดไปขนาดนั้นแล้วใครจะไปใช้ ซึ่งแน่นอนว่าวางขายเป็นแผ่นผีตามพันทิพก็คงไม่มีคนซื้อ แต่มันไม่มีขายปลีกครับ ไมโครซอฟท์ใช้วิธีแถมไปกับเครื่องเพียงอย่างเดียว และตอนนี้ยอดขายรวมทุกประเทศก็อยู่ที่ 1 แสนชุด
ไมโครซอฟต์ได้ออกภาพจับหน้าจอที่เป็นเวอร์ชั่นเป็นทางการของวินโดวส์วิสต้า เบต้า 1 ที่ทางไมโครซอฟต์ได้ทำการจับมา ซึ่งดูได้ใน Windows Vista Virtual Pressroom
LEW UPDATE: ไม่ใช่แค่หน้าจออย่างเดียวครับ แต่ตัว Beta1 ก็ออกมาแล้วพร้อมๆ กับ IE7 Beta1 ซึ่งก็เร็วกว่าที่คาดกันไว้มาก โดยออกมาเฉพาะสมาชิก MSDN ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่บ้านเราคงหากันได้ไม่ยากนัก
ที่มา IE Blog
ในที่สุด Longhorn ก็ได้ชื่ออย่างเป็นทางการแล้วว่า Windows Vista
คำว่า Vista แปลว่า "ทิวทัศน์" หรือ "pleasing view" ก็ได้ ที่ใช้ชื่อนี้เพราะไมโครซอฟท์คิดว่าจุดขายสำคัญของ Vista คืออินเทอร์เฟซที่ยกเครื่องใหม่น่ะเอง
โดเมนเนม windowsvista.com โดนจดทะเบียนไปตั้งแต่เดือนมีนา แสดงว่าชื่อนี้อาจเป็นชื่อตัวเก็งตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เพียงแต่เราไม่รู้ว่าชื่ออื่นๆ มีอะไรบ้าง ไมโครซอฟท์เตรียมแถลงข่าวชื่อนี้ในวันศุกร์ตอนเช้าของที่นู่น ซึ่งพรุ่งนี้บ้านเราคงมีรายละเอียดออกมากันมากขึ้น
ส่วนตัวแล้วผมก็ว่าชื่อนี้พอไหวนะครับ
จาก Microsoft Watch
มีข้อมูลว่า นำ Longhorn เทียบกับวินโดวส์ XP แล้วประสิทธิภาพจะเพิ่มมากขึ้น โดยโปรแกรมเดิมจะโหลดเร็วขึ้น 15% ตัววินโดวส์จะบูตเร็วขึ้นอีกเท่าตัว และลดความจำเป็นในการรีบูตหลังลงแพตช์ไปครึ่งนึง เป้าหมายของไมโครซอฟท์คือให้ลงวินโดวส์บนเครื่องใหม่ได้ภายใน 15 นาที นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับการกู้ระบบอีก ติดตามในข่าวกันเองนะครับ
ตัว Beta 1 ที่จะออกเร็วๆ นี้คงไม่ต่างจากนี้นัก ดูการใช้งานทั่วๆ ไปผมว่าไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมากนะครับ แต่ที่โชว์กันสุดๆ คือเอ็ฟเฟคต์โดยเฉพาะ transparent window นี่เน้นกันเต็มที่เลย ผมก็ดูแต่รูปคิดว่านี่คงเป็น Aero Glass (เอ็ฟเฟคต์มี 3 ระดับ คือ Aero Glass, Aero กับอันต่ำสุดก็เท่า Luna ใน XP)
หลังจาก Mac เตรียมย้ายไปใช้ Intel ซึ่งสร้างความฮือฮาไปอย่างมาก พอเห็นข่าวว่า Windows อาจจะไปอยู่บนเครื่อง Sun บ้างก็คงไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ ยิ่งหลังๆท่าทีของ Sun กับ Microsoft ก็รอมชอมกันเต็มที่ โดยเก็งกันว่า Windows ตัวแรกที่จะมาโผล่บนเครื่อง Sun ก็จะเป็น Longhorn นั่นเอง
งานนี้น่าจะติดอยู่สองอย่างคือ แล้วเมื่อไหร่ Longhorn จะเสร็จ กับ ถ้าพอ Longhorn เสร็จแล้ว Sun จะยังอยู่รึเปล่าเนี่ย ?
Bink.nu มีภาพแอบถ่ายหน้าจอ (แอบถ่ายหน้าจอ) ของ IE7 บน Longhorn ครับ จะเห็นว่ามี Tab แล้วก็ Search bar แล้ว และเพิ่มความสามารถในการอ่าน RSS ด้วย แต่ผมดูยังไงมันก็เหมือน Safari เบราวเซอร์ของ OSX มากกว่า Firefox อีก
รวมถึง My Documents, My Music, My Pictures ด้วย
เพราะใน Longhorn นั้น ไมโครซอฟต์ตัดสินใจจะตัดคำว่า "My" ออกไป เหลือแค่ Computer, Documents, Pictures, Music ซะแล้ว ซึ่งมันเริ่มตั้งแต่สมัยวินโดวส์ 95 โดยมีเหตุผลว่า คำว่า "My" จะทำให้ผู้ใช้รู้สึกมีส่วนร่วมกับคอมพิวเตอร์มากขึ้น (ลึกซึ้งจริงๆ) แต่ตอนนี้ สิบปีให้หลัง คอมพิวเตอร์กลายเป็นของที่ใครๆ ก็รู้จักแล้ว คำว่า "My" จึงไม่จำเป็นอีกต่อไป
จาก TechNewsWorld
บทความที่เด่นที่สุดในรอบสัปดาห์ คงไม่มีอันไหนเกิน Windows rapidly approaching desktop usability ที่ NewsForge
เริ่มจากผู้เขียน Robin Miller ได้ยินว่า Windows XP SP2 ดีพอจะแข่งกับลินุกซ์ในการใช้งานแบบ Desktop ได้แล้ว เขาเลยลองซื้อมาลงดู ปรากฎว่าเครื่องที่เขาใช้ทดสอบนั้นมีปัญหากับการ์ดจอ ทำให้จอกระพริบ นอกจากนี้วินโดวส์ยังหาการ์ดแลนออนบอร์ดไม่เจอ ทำให้เขาต้องไปซื้อการ์ดแลนใหม่มาเสียบ รวมถึงปัญหาอื่นๆ เช่น ลงวินโดว์ต้องใช้คีย์ และค่าซอฟต์แวร์เพิ่มเติมที่แพงมหาศาล เช่น ออฟฟิศ เป็นต้น
เพราะว่าเค้าออกแบบมาให้รันได้กับ Celeron, Duron หรือจาก Via เท่านั้น ถ้าเอาไปรันบน P4 หรือ Athlon ตัววินโดวส์จะตรวจหาซีพียู แล้วจะไม่อนุญาตให้รัน ด้วยเหตุผลที่ว่ากันการกินตลาดกับ XP ตัวปกตินั่นเอง
ผมว่ามันเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ประสบความสำเร็จตัวหนึ่งของไมโครซอฟท์เลยนะครับ CNET: Windows for India, others won't run on faster chips
ไมโครซอฟท์เริ่มติดใจการบล็อกแล้วล่ะครับ (หลังจากเกตส์เคยพูดถึงบล็อกว่าเป็นช่องทางการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ) โดยจะตั้งทีมชื่อว่า Team 99 ซึ่งประกอบด้วยคนต่างสายงานประมาณ 20 คน (หมายถึงสายแอดมิน สายโปรแกรมเมอร์ อะไรพวกนี้นะ คือยังอยู่ในด้านไอทีอยู่) มาเขียนบล็อกร่วมกันเกี่ยวกับ Longhorn เพื่อโปรโมทไปในตัว
ไมโครซอฟท์ออกมาเปิดเผยว่า Longhorn จะมีระบบเก็บข้อมูลของโปรแกรมเพื่อรายงานการแครช เหมือนกับที่ในเครื่องบินมีกล่องดำ
การทำงานมันจะคล้ายๆ กับ Error Report ในปัจจุบันเพียงแต่ให้ข้อมูลมากกว่านั้น เช่น เอกสารในขณะนั้นเป็นอะไร โดยจะมุ่งเป้าไปในตลาดธุรกิจที่เจ้านายสามารถดูข้อมูลในเครื่องของลูกน้องได้ ว่าช่วงนั้นลูกน้องกำลังทำงานอยู่ หรือทำอย่างอื่นเล่น
ใน Slashdot มีคนไปเจอมาจากบล็อกของทีมพัฒนา IE ครับ ฟีเจอร์ (หรือเรียกเป็นบั้กที่แก้แล้วดี) คือ การสนับสนุน Alpha Channel ของรูปภาพแบบ PNG และการแก้บั้ก CSS หลายอย่าง ก็เป็นนิมิตหมายอันดีสำหรับนักพัฒนาเว็บทั้งหลายเลย
CNET มีข่าวจาก Jim Allchin รองประธานของไมโครซอฟท์ ว่า Longhorn เบต้าแรกมีกำหนดประมาณกลางปีนี้ ส่วนเบต้าที่สองจะตามมาแน่นอน แต่ยังไม่ระบุเวลา ส่วนตัวจริงมีกำหนดออกปลายปี 2006 โดยฟีเจอร์ต่างๆ ก็ตามที่สื่อได้เสนอกันไปเยอะแล้ว ไมโครซอฟท์"แนะนำ"ให้ใช้แรม 512 MB (ไม่ได้บอกว่าขั้นต่ำนะครับ) และซีพียู"ตามท้องตลาด"ในขณะนั้น ส่วนการ์ดจอนั้นแบ่งตามระดับการแสดงผล ซึ่งมี 3 ระดับ คือ Aero Glass (เอ็ฟเฟ็คต์เพียบ), Aero และระดับต่ำสุดที่หน้าตาเทียบเท่ากับ WindowsXP
หลังจากแสดงตัวว่าเป็นเบต้ามานาน SP2 ของวินโดส์ ก็ถูกประกาศเป็นการอัพเกรดอย่างเป็นทางการแล้ว โดยความสามารถของ SP2 นี้จะมีตั้งแต่การตั้งไฟร์วอลตั้งแต่ขั้นตอนการบูต ไปจนถึงการบล๊อกเหล่าโฆษณาทั้งหลาย เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในวินโดวส์ให้ดีขึ้น
อย่างไรก็ตามการอัพเกรดนี้อาจะทำให้บางโปรแกรมมีปัญหา โดยเฉพาะโปรแกรมที่ทำงานบนเว็บ
แต่ในเมืองไทยก็เห็นคนอัพเกรดไปเยอะแล้วนะ.....
หลังจากที่มีกำหนดการว่าไมโครซอฟท์จะเข้าตลาดคลัสเตอร์ในปลายปีนี้ ตัวเบต้าจึงน่าจะออกในอีกไม่นานนี้
แต่ตอนนี้ไมโครซอฟท์ก็ออกมาประกาศแล้วว่าวินโดวส์คลัสเตอร์นั้นจะถูกเลื่่อนออกไปอีกหกเดือน ไมโครซอฟท์มองว่าการเลื่อนครั้งนี้ไม่มีผลต่อไมโครซอฟท์มากนัก เนื่องจากไมโครซอฟท์ไม่มีฐานลูกค้าเดินในตลาดนี้ที่รอการอัพเกรด แต่นักวิเคราะห์หลายรายก็มองว่าการเลื่อนออกไปนี้จะทำให้ไมโครซอฟท์เสียฐานลูกค้าไปไม่น้อยทีเดียว
อัพเดตสำหรับ Windows 2003 Server ตัวนี้ฟรี และมุ่งเน้นไปทาง Security เช่นเดียวกับ XP SP2 โดยมี Firewall และ Security Wizard เพิ่มเข้ามาครับ เค้าบอกว่า Codebase ของ Longhorn ก็มาจากตัว 2003 SP1 นี่ด้วย
CNET มีบทความเกี่ยวกับปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของ Longhorn นั่นก็คือการขาย ถึงแม้ว่า Longhorn มันจะเยี่ยมขนาดไหน มีอะไรใหม่ๆ เยอะแยะก็ตามที แต่คู่แข่งของมันน่ากลัวกว่า เพราะทุกคนใช้มันอยู่แล้ว และพอใจกับความสามารถของมันด้วย ไม่ใช่ลินุกซ์หรือแมคหรอกครับ คู่แข่งสำคัญของ Longhorn คือ Windows XP เอง