Windows
ผมเคยไปสัญญาไว้แถวไหนไม่รู้ว่าจะรีวิว Vista ให้อ่านกัน ตอนแรกกะเขียนยาวๆ เป็น technical whitepaper แต่เอาเข้าจริง เขียนไปได้นิดเดียวก็หมดไฟซะอย่างนั้น เพื่อไม่ให้เสียของ เอากลับมาเขียนเป็นรีวิวแบบเดิมละกัน
เตรียมตัวเตรียมใจพบกับระบบปฏิบัติการตัวใหม่ในรอบ 5 ปีของไมโครซอฟท์!!!
ข่าวใหญ่ช่วงนี้คือผู้เชี่ยวชาญด้าน DNS ออกมาให้ข่าวว่าการที่ Vista สนับสนุนทั้ง IPv4 และ IPv6 ทำให้ต้องเรียก DNS สองรอบ ซึ่งจะส่งผลให้ DNS ของบรรดา ISP ได้รับปริมาณข้อมูลเพิ่มขึ้นมาก อาจทำให้อินเทอร์เน็ตใช้งานไม่ได้ในที่สุด
ไมโครซอฟท์ออกมาตอบโต้ข่าวนี้โดยบอกว่าระบบเรียกข้อมูลจาก DNS ของ Vista ได้รับการออกแบบมาอย่างดี และมีกรณีน้อยมากที่จะเรียก 2 ครั้ง
นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ ก็มีความเห็นแตกต่างกันออกไป บางคนก็เห็นด้วยว่า Vista จะทำให้ปริมาณข้อมูลผ่าน DNS มีมากขึ้น แต่ขนาดจะทำให้อินเทอร์เน็ตพังก็ออกจะเวอร์เกินไปนิด
ช่วงนี้ข่าว Vista จะเยอะหน่อย (พวกนี้ก็แบ่งๆ กันไปตามแต่กระแสใครจะแรง)
Ars Technica มีสกู้ปเกี่ยวกับฟีเจอร์ด้านเสียงใน Vista ซึ่งมีของเด็ดๆ หลายอย่าง เช่น Loundness Equalizer (ปรับระดับความดังให้คงที่), Speaker fill (เพิ่มเสียงให้ลำโพงตัวที่เหลือ เช่น มีลำโพง 7 ตัว แต่เสียง 2.1 ก็จะเติมให้), Speaker Phantoming (กรณีที่ลำโพงพังไปตัว ก็จะแบ่งไปออกตัวใกล้เคียงให้อัตโนมัติ) เป็นต้น รายละเอียดก็อ่านกันเองตามลิงก์
จะเห็นได้ว่าไมโครซอฟท์กะยึดห้องนั่งเล่นแบบเบ็ดเสร็จด้วย Windows Media Center เลยนะนั่น
ออก RC1 แบบจำกัดวงไปได้ไม่ถึงอาทิตย์ ไมโครซอฟท์ก็เปิดให้คนทั่วไปที่สนใจสามารถดาวน์โหลดมาทดสอบได้แล้ว
ลิงก์ให้ดาวน์โหลดอยู่ที่ Windows Vista RC1
ความเห็นบางที่บอกว่า RC1 มีเสถียรภาพมากกว่า Beta 2 มาก เพียงแต่ก็ยังมีบั๊กเยอะอยู่ และคิดว่าน่าจะมีอีกหลาย RC กว่าจะออกตัวจริงได้
ที่มา - OSNews
หลังออก pre-RC1 (5536) จำนวน 1 แสนชุดให้คนทั่วไปได้ดาวน์โหลด คราวนี้ก็ถึงคิว RC1 ตัวจริง (5600) ซะที
คนกลุ่มแรกที่จะได้สิทธิ์โหลด RC1 ไปก่อนใครคือสมาชิก TechBeta และพาร์ทเนอร์แบบ Technology Adoption Program (TAP) ส่วน MSDN กับ TechNet จะได้สิทธิ์โหลดในอาทิตย์หน้า ในข่าวบอกว่าไมโครซอฟท์ตั้งใจจะแจก RC1 จำนวน 6 ล้านชุดแต่ว่าไมโครซอฟท์ได้ออกมาปฏิเสธตัวเลขนี้แล้ว
Amazon ได้เปิดให้สั่งจอง Vista ล่วงหน้าแล้ว ซึ่งทำให้เราได้รู้ราคาขายปลีกของ Vista รุ่นต่างๆ (ซึ่งไมโครซอฟท์ยังไม่เปิดเผย) ดังนี้ครับ (ราคาโดยประมาณเป็นบาทใช้อัตราแลกเปลี่ยนเหรียญละ 37.59 บาท)
Amazon ระบุวันขายไว้ว่า 30 มกราคม 2007 ซึ่งเป็นวันคร่าวๆ มีโอกาสเปลี่ยนแปลงสูง ส่วนรุ่นไหนเป็นยังไง มีโปรแกรมอะไรมาบ้าง หาอ่านได้จากข่าวเก่าๆ ครับ
Windows Vista pre-RC1 พร้อมให้ดาวน์โหลดในรูปแบบของไฟล์ ISO ก่อนที่จะนำไปเขียนลงแผ่นดีวีดีและทำการติดตั้งต่อไป ถ้าใครสนใจก็รีบ ๆ หน่อยเพราะทางไมโครซอฟท์จะเปิดให้ดาวน์โหลดเพียง 100,000 คนแรกเท่านั้น เมื่อมีการดาวน์โหลดครบ 100,000 รายก็จะปิดให้บริการทันที
ขนาดของไฟล์เบ็ดเสร็จก็ประมาณ 2.6 GB ใครคิดว่าเน็ตที่บ้านเจ๋งก็ลองดู
ที่มา - Digg
Update - ตอนนี้ปิดไปแล้วครับ
ไมโครซอฟท์ออกมาประกาศว่าในวินโดวส์วิสต้ารุ่น 32-bit จะไม่มีความสามารถในการรับชมมีเดีย HD ใดๆ (BluRay, HD-DVD) ได้โดยตรง (อ้อ การจับยัด DivX Video ใส่ ก็ยังเล่นได้ไม่มีปัญหาครับ)
เนื่องจากคดีผูกขาดทางการค้า ศาลเกาหลีใต้จึงปรับไมโครซอฟท์เป็นเงิน 34 ล้านเหรียญ และสั่งให้ไมโครซอฟท์ตัด Windows Media Player และ Windows Messenger ออกจากตัวระบบปฏิบัติการ ถ้ายังอยากขายวินโดว์ในเกาหลีต่อไป
ไมโครซอฟท์จึงออก Windows XP ทั้ง Home และ Pro รุ่นที่ไม่มีโปรแกรมสองตัวนี้ และมีเว็บที่ลิงก์ไปยังโปรแกรมคู่แข่งอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สำหรับการดาวน์โหลดด้วย แหล่งข่าววงในให้ความเห็นว่า การออกรุ่นตัดโปรแกรมทิ้งนี้มีผลกระทบไม่มากนัก ประโยชน์ของมันมีแค่การทำตามคำสั่งศาลเท่านั้น
Windows Vista Team Blog ได้เผยแพร่เอกสาร whitepaper เกี่ยวกับ DirectX 10 ว่ามีอะไรใหม่แตกต่างจาก DirectX 9.0 บ้าง โดยมีภาพเทียบฟีเจอร์ระหว่างเวอร์ชันให้ดูกันแบบจะแจ้งว่าเหนือกว่าแค่ไหน ฟีเจอร์ส่วนใหญ่เป็นการดึงพลังจาก GPU ทำให้เอฟเฟคต์หลายๆ อย่างที่ต้องเขียนกันเองเป็นพิเศษ สามารถเรียกใช้จาก DirectX 10 ได้โดยตรง
และแน่นอนว่า DirectX 10 นี้มีเฉพาะบน Vista ด้วยเหตุผลว่าต้องใช้ระบบไดรเวอร์กราฟิกแบบใหม่ WDDM (Windows Display Driver Model)
ใครทำงานอยู่สายพัฒนาเกมก็เหมาะกับการเข้าไปอ่านครับ
กระทรวงความมั่นคงภายในของสหรัฐ (DHS) ออกประกาศเตือนผู้ใช้ Windows ทุกรุ่น ให้ติดตั้ง critical security patch ชื่อ MS06-040 โดยด่วน
"Users are encouraged to avoid delay in applying this security patch," the Department of Homeland Security said in the statement. The patch fixes a serious flaw that, if exploited, could enable an attacker to remotely take complete control of an affected system, the agency said.
ขอสรุป Keynote ทั้งหมดใน WWDC'06 อีกทีครับ
Keynote ของ WWDC'06 มีแค่เรื่องเดียวคือ Mac Platform โดยแบ่งเป็น Hardware และ Software
เอาเรื่อง Hardware ก่อน
เรื่องของทางฝั่ง Software เป็นสิ่งใดไม่ได้นอกจาก Leopard
ในวินโดวส์ XP ที่ฟีเจอร์ที่ไม่ค่อยมีใครรู้คือการทำ Volume Shadow ไว้ที่ไดรฟ์อื่นๆ เพื่อให้ไฟล์ของเราได้ไม่เสียหายจากการทำงานผิดพลาด ข้อเสียของระบบนี้คือเซ็ตอัพค่อนข้างยากและวุ่นวาย แต่ไมโครซอฟท์ระบุว่าจะไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป เื่มื่อวิสต้าจะมีการรวมเอาการเก็บเวอร์ชั่นของไฟล์เข้าไว้ในตัว ให้ผู้ใช้สามารถเรียกเอาเวอร์ชั่นของไฟล์เก่าๆ ที่ได้แก้ไขไว้ก่อนหน้ากลับมาได้เรื่อยๆ
ระบบที่ว่านี้ไม่ได้เข้ามาแทนที่ระบบอย่างพวก Version Control แต่อย่างใด แต่การใช้งานที่ง่าย อาจจะทำให้เหล่าโปรแกรมเมอร์ขี้เกียจใช้ Version Control กันเพิ่มขึ้น
เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้จัดงานสาธิตระบบจดจำเสียง (Voice Recognition) ของวินโดวส์ วิสต้า แต่แล้วงานก็ล่มไม่เป็นท่า เพราะโปรแกรมเจ้ากรรม ได้ทำงานผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย อย่างเช่น คำว่า "Dear Mom (comma)" โปรแกรมได้แปลเป็น "Dear Aunt,"
ทางไมโครซอฟท์ได้ออกมาอ้างว่าสาเหตุที่ระบบมันไม่ทำงานนั้น ก็เพราะเสียงรบกวนในห้อง แต่ก็อย่างที่เห็น เมื่อผู้สาธิตพูดว่า "Select All" โปรแกรมก็ได้ยินถูกต้อง "Select All" แต่แทนที่จะเป็นการเลือกตัวอักษรทั้งหมด ตัวโปรแกรมก็เขียนคำว่า "Select All" ลงไป
อินเดียมีโครงการที่จะจัดทำซีดีรวบรวมฟรีซอฟต์แวร์เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนในประเทศ
โครงการนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่าง Center for Development of Advanced Computing (C-DAC) และกระทรวงการสื่อการและเทคโนโลยีสารสนเทศ (CIT) ในการที่จะรวบรวมฟรีซอฟต์แวร์ต่างๆ ซึ่ีงจะมีทั้ง Open Source ที่สามารถใช้งานได้ทั้งบนวินโดวส์และลินุกซ์ รวมถึง Close Source ที่ใช้งานได้บนวินโดวส์อย่างเดียว
หลังจากได้มีการเขียนถึง 5 สิ่งที่ลินุกซ์ควรเรียนรู้จากไมโครซอพท์ ไปแล้ว คุณ Steven J. Vaughan-Nichols ก็ได้เขียนใน Linux-Watch เกี่ยวกับ 5 สิ่งที่ไมโครซอฟท์ควรจะเรียนรู้จากลินุกซ์ครับ
สตีฟ บอลเมอร์ ซีอีโอของไมโครซอฟท์บอกว่าจะพยายามออกวินโดวส์รุ่นถัดๆ ไปให้เร็วขึ้น หลังจากที่ต้องใช้เวลาถึง 5 ปีในการออก Vista ถ้านับจากการออก XP ในปี 2001
บอลเมอร์ยังไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอะไรของวินโดวส์ตัวถัดไปที่ชื่อเล่นว่า "Vienna" แต่ถึงแม้จะบอกว่าอยากออกเร็วขึ้น เขาก็ยังระบุว่าระยะเวลาย่อมต้องมีหลักเป็นปีเช่นเดิม
คุณ Paul Thurrot กับคุณ Steven J. Vaughan-Nichols เขียนใน Linux-Watch ถึง 5 สิ่งที่ Linux ควรเรียนรู้จากไมโครซอพท์และนำมาปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้นดังนี้ครับ
ช่วงนี้ทั้ง Office 2007 และ Vista เริ่มเข้าสู่สถานะสุดท้ายใกล้ออก ข่าวเล็กๆ น้อยๆ เลยออกมาเยอะตาม คราวนี้เป็นเรื่องของ artwork ที่ใช้ในทั้งสองโปรแกรมครับ
Office 2007 จะมีไอคอนชุดใหม่ คอนเซปต์หลักและสียังคล้ายกับของ Office 2003 แต่รูปแบบเปลี่ยนไปนิดหน่อย ผมว่าสวยดีนะ (ลิงก์) นอกจากนี้ยังมีธีมสีเพิ่มเป็น 3 แบบ จากที่เคยมีสีฟ้าเพียงอันเดียว จะมีสีดำกับสีเท่าเพิ่มเข้ามาด้วย (ลิงก์)
ไมโครซอฟท์ออกวินโดวส์ตัวใหม่สำหรับ thin-client ชื่อเต็มๆ ของมันคือ "Windows Fundamentals for Legacy PCs" (อาจเรียกย่อเป็น WinFLP หรือ Windows Fundamentals ก็ได้)
WinFLP เป็น XP เวอร์ชันตัดความสามารถให้เหลือแต่ส่วนที่จำเป็นในการบูตฮาร์ดแวร์ขึ้นมา (และการจัดการอีกเล็กน้อย เช่น Windows Update หรือ Firewall) ส่วนการทำงานต่างๆ จะใช้ผ่าน Remote Desktop ไปยังเครื่องเซิร์ฟเวอร์เป็นหลัก กลุ่มเป้าหมายของ WinFLP คือองค์กรที่มีฮาร์ดแวร์เก่า และไม่มีแผนจะอัพเกรดเครื่องเหล่านี้
คุณ Jeroen van den Bos เขียนไว้ บล๊อคของเค้า ว่า Vista ควรจะรวม Visual Studio Express มาให้ด้วย เหมือนกับที่รวม Windows media player หรือ IE มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ
เค้าให้เหตุผลว่านักพัฒนาเก่งๆ หลายๆ คนสมัยนี้เริ่มจากภาษา Basic ที่มีมากับเครื่อง Commodore 64s(อะไรหว่า) หรือในปัจจุบันนักพัฒนาบน Linux ก็มี Compiler มาให้พร้อม ดังนั้น Vista ก็ควรจะมีเครื่องมือและ Compiler อย่าง Visual Studio Express มาให้ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะทำให้เกิดนักพัฒนาหน้าใหม่ๆ ขึ้นมาได้รวดเร็วครับ
ไมโครซอฟท์สาขาออสเตรเลียแถลงข่าวทั้งเรื่อง Vista และ Office 2007
โดย Vista นั้นมีแผนจะออกรุ่นเบต้าเดือนละครั้งไปจนกว่าจะออกตัวจริง ต้นปี 2007 เพื่อทดสอบบั๊กให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ และ Jeff Putt หัวหน้าฝ่ายวินโดวส์สาขาออสเตรเลียออกมาตอบโต้ประเด็น Vista Beta 2 กินแบตเปลืองว่า มันยังเป็นแค่โปรแกรมรุ่นเบต้าเท่านั้น (จาก APC Magazine)
จากเสปคเครื่องเครื่อง Windows Vista นั้นทำให้หลายๆ คนคงคิดกันว่ามันต้องทำงานช้าลงจาก Windows XP ค่อนข้างแน่ แต่พอทาง C|Net เอามาทดสอบแบบชนกันตรงๆ กลับไม่ได้ผลอย่างที่คาด โดยทั้งสองระบบปฏิบัติการทำงานได้ความเร็วใกล้เคียงกันมาก ในการทดสอบบางอย่างนั้น Vista สามารถทำได้เร็วกว่าอีกด้วย
การทดสอบไม่ได้กล่าวถึงส่วนที่อีกหลายคน รวมถึงผมด้วยกังวลคือการกินเมมโมรีในเวลาที่ไ่ม่ได้รันอะไรเลย เพราะแม้จะทำงานในสภาวะปรกติได้ความเร็วเท่ากัน แต่เครื่องที่เมมโมรีหมดก่อนในสภาวะการใช้งานเอกสารขนาดใหญ่ๆ ก็จะช้ากว่าอยู่ดี
แต่ตอนนี้ที่ทำงานให้ใช้อะไร ก็ใช้ไปก่อน