ในยุคดิจิทัลที่ทุกคนเข้าถึงข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต การทำการตลาดบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ จึงเป็นสิ่งที่หลายธุรกิจให้ความสำคัญ แต่รู้หรือไม่ว่า การทำการตลาดบน Google หรือที่เรียกว่า SEO (Search Engine Optimization) นั้นก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะ SEO คือการทำให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏในอันดับต้น ๆ บนเครื่องมือค้นหา เมื่อผู้คนค้นหาสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณก็จะมองเห็นเว็บไซต์คุณแรก ๆ ทำให้มีโอกาสที่ลูกค้าจะเข้ามาเยี่ยมชมและซื้อสินค้าหรือบริการได้นั่นเอง
SEO คือกระบวนการปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีอันดับสูงขึ้นในผลการค้นหาของ Google หรือ Search Engine อื่น ๆ ซึ่งการปรับปรุงนั้นต้องอาศัยหลายปัจจัย เช่น การวางแผนเลือกใช้ Keyword ในบทความให้เหมาะสม การสร้างเนื้อหาที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน การปรับโครงสร้างเว็บไซต์ให้เป็นมิตรต่อ Google และการสร้าง Backlink ที่มีคุณภาพ โดยปัจจัยเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เว็บไซต์มีความน่าเชื่อถือในสายตาของ Google มากขึ้น ส่งผลดีต่อโอกาสติดอันดับในระยะยาว
อีกหนึ่งเป้าหมายหลักของการทำ SEO หรือ Search Engine Optimization คือการเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ (Traffic) ด้วยวิธีการต่าง ๆ ทำให้เว็บไซต์ติดอันดับต้น ๆ ของผลการค้นหา ผู้คนก็จะเห็นและคลิกเข้ามาที่เว็บไซต์ ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มยอดขาย การสร้างแบรนด์ หรือการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณนั่นเอง
ทั้งการทำ SEO และ Google Ads ต่างเป็นวิธีการในการทำ Search Engine Marketing (SEM) ที่มีเป้าหมายเดียวกันคือการทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับสูงในผลการค้นหาของ Google แต่มีวิธีการและผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน
อย่างที่เข้าใจกันดีว่า SEO คือเป็นการปรับปรุงเว็บไซต์ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ Google เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับแบบธรรมชาติ ซึ่งจะใช้เวลา 3-6 เดือนกว่าจะเห็นผล แต่เมื่อติดอันดับแล้วก็จะอยู่ได้นานและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายต่อเนื่อง
ในขณะที่ Google Ads เป็นการซื้อโฆษณาเพื่อให้เว็บไซต์ขึ้นไปอยู่บนสุดของผลการค้นหาทันที แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายทุกครั้งที่มีคนคลิกเข้ามาที่เว็บไซต์ของคุณ ซึ่งเหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วเแต่ต้องมีการลงทุนค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง
ในยุคที่ Generative AI ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงโลกการตลาดดิจิทัลเป็นอย่างมาก เพราะด้วยความสามารถในการประมวลผลข้อมูล การสร้างคอนเทนต์ที่หลากหลายและรวดเร็วของ Generative AI ทำให้เกิดคำถามข้อถกเถียงว่า ทำ SEO บน Website ในแบบเดิมยังคงมีความสำคัญอยู่หรือไม่
แม้ว่าเทคโนโลยี Generative AI จะก้าวหน้าไปมากและสามารถสร้างคอนเทนต์ได้อย่างหลากหลาย แต่การทำ SEO ยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของธุรกิจออนไลน์ การที่ AI สามารถสร้างคอนเทนต์ได้อย่างรวดเร็วไม่ได้หมายความว่าจะแทนที่การทำ SEO ได้ทั้งหมด เพราะ SEO คือกระบวนการการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ที่ครอบคลุมมากกว่าการสร้างคอนเทนต์เพียงอย่างเดียว เช่น การวิเคราะห์ Keyword การปรับโครงสร้างเว็บไซต์และการสร้างลิงก์ทั้งภายในและภายนอก เป็นสิ่งที่ AI ยังทำได้ไม่ดีเท่ามนุษย์ การทำ SEO ครบทุกแง่มุมและถูกต้องตามหลักเกณฑ์จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับสูงบนผลการค้นหาของ Google
ดังนั้นแล้ว การทำ SEO ในยุค AI สามารถทำโดยการผสมผสานระหว่างความสร้างสรรค์ของมนุษย์และประสิทธิภาพของ AI เราสามารถใช้ AI มาช่วยในการสร้างคอนเทนต์เบื้องต้น หรือวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อวางแผนกลยุทธ์ SEO บางส่วนได้ แต่ท้ายที่สุดแล้ว การตัดสินใจ Optimize SEO และการปรับปรุงเนื้อหาให้มีคุณภาพและตอบโจทย์ผู้ค้นหายังคงต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์ของมนุษย์เป็นหลักอยู่ดี
SEO คือตัวช่วยที่จะดึงดูดลูกค้าและเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจได้จริง เพราะเมื่อผู้คนค้นหาสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ เว็บไซต์ของคุณจะปรากฏในอันดับต้น ๆ ของผลการค้นหา ทำให้มีโอกาสที่ผู้คนจะคลิกเข้ามาดูเว็บไซต์มากขึ้นนั่นเอง
โดยผลลัพธ์ที่ได้นั้นเกิดจากหลาปัจจัยย ยกตัวอย่างเช่น
SEO คือกุญแจสำคัญที่ปลดล็อกความสำเร็จของธุรกิจของคุณ! เพราะการทำ SEO ที่มีคุณภาพเป็นไปตามหลักเกณฑ์ช่วยให้เว็บไซต์ปรากฏในอันดับต้น ๆ ของผลการค้นหา ทำให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ง่ายขึ้น ส่งผลดีต่อยอดขายและการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว
หากคุณต้องการให้ธุรกิจของคุณเติบโตและประสบความสำเร็จในโลกการตลาดออนไลน์ NerdOptimize Agency SEO ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO โดยเฉพาะ มีทีมงานมากประสบการณ์ที่พร้อมจะช่วยคุณออกแบบกลยุทธ์การทำ SEO ที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณของคุณ พร้อมช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับสูงในผลการค้นหา และดึงดูดลูกค้าเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ