By: lew 
on 13 August 2011 - 01:09
Tags:
Native Client นั้นเป็นเทคโลยีที่ทำให้ไฟล์ไบนารีที่ทำงานกับซีพียูโดยตรงสามารถถูกจำกัดความสามารถในการเข้าถึงระบบได้อย่างแม่นยำ เช่นไม่สามารถเปิดไฟล์ใดๆ ที่ไม่ได้ขออนุญาตล่วงหน้า หรือการเชื่อมต่อกับเครือข่าย โดยกูเกิลเปิดตัวเทคโนโลยีนี้มาตั้งแต่ปี 2008 ในฐานะปลั๊กอินสำหรับเบราเซอร์ และเริ่มรวมกับ Chrome มาได้พักใหญ่ๆ แต่ผู้ใช้จะต้องเปิดการใช้งานเอง จนกระทั่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมากูเกิลระบุว่ากำลังเตรียมออก ABI รุ่นเสถียรรุ่นแรกและเมื่อพร้อมแล้วจะเปิดให้ใช้งานใน Chrome ตั้งแต่เริ่มต้น มาวันนี้ทีม Chrome ก็ระบุว่า Chrome 14 จะเป็นรุ่นแรกที่รองรับ Native Client อย่างเป็นทางการ
Native Client รุ่นที่เปิดใน Chrome 14 จะเชื่อมต่อกับเบราเซอร์ผ่านทาง Pepper ซึ่งทำให้ C และ C++ สามารถเรียกใช้ API ต่างๆ ของ HTML5 ได้ด้วย
นอกจาก Native Client แล้ว Chrome 14 จะรองรับ Web Audio API ทำให้เว็บสามารถเข้าจัดการเสียงในหลายๆ รูปแบบเช่นทำ visualization ให้กับเสียงได้
ที่มา - Google Chrome Blog
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
Google Chrome 15.0.849.0 Beta เอามาฝาก แต่ beta น่ะ ใช้อยู่ ลิมตัวอื่นๆ ไปหมดเลย
http://dl.google.com/chrome/install/849.0/chrome_installer.exe
นี่มัน... แนวๆ Active X แน่ๆ ถ้าใช่ สึโก่ยนาาาาาาาา
มีหน้าต่างขึ้นมาขอ Permission มี Yes กับ No คิดว่าคนจะกดอะไร =..=
:: DigiKin8 ::
กด X ปิดหน้าต่างแบบไม่ต้องคิด
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
ผิดแล้วจ้า คนส่วนใหญ่ที่ไม่คิดจะกด YES ตะหาก ไอ้ที่คิดมากนะจะกด X
ส่วนใหญ่ที่ผมเจอจะกด No ถ้ามันไม่หายไปค่อยกด Yes
อยู่ที่อารมณ์สังคมในช่วงนั้นๆครับ
ถ้าใครๆเขาก็ทำกัน อาจจะเริ่มจาก เอาเกม MMORPG ไปลง แล้วเปิดเล่นใน Chrome แล้วมันจ๊าบกว่ากันมาก ก็จะกลายเป็นกระแสนิยม แล้วคนทำก็จะทุ่มเทมากขึ้น กูเกิลก็จะทุ่มให้กับการทำให้มันปลอดภัยขึ้น Browser อื่นๆก็จะทำตาม
แล้วก็หมดยุค Flash ซักที
คนส่วนใหญ่จะกด yes
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
ไม่มีการถามครับว่า yes หรือ no มัน safe อยู่แล้ว run ได้เลย
^_^"
ไม้มลายเกินมาครับ
ไวรัสระบาดอีก
ที่เข้าใจรู้สึก Native Client จะจำกัดสิทธิในการทำงานในเครื่องผู้ใช้ในระดับนึงครับคือถ้าจะทำก็ทำได้แค่ใน Browser เท่านั้น แต่ก็นะ....
ตามข้างบนนะครับ มันก็จะถาม yes หรือ no ซึ่งมันก็เหมือน active x หรือ UAC ของ windows ซึ่งสำหรับบางคนแทบไม่ช่วยอะไรเลย
ไม่ใช่ครับ
NaCl คือระบบที่จะกรองโค้ดที่เขียนด้วยภาษา C ว่ามันเรียกใช้คำสั่งอะไรที่ไปเขียน FileSystem หรือ Access เข้าระบบที่มันป้องกันไว้รึเปล่า
แล้วบังคับให้ใช้เฉพาะ Library ที่กำหนดไว้เท่านั้น ซึ่งมีความปลอดภัยเท่า HTML5 คือมี WebStorage WebSocket ประมาณนั้น
แต่นอกไปจากนั้น ก็จะเป็น Native Code ปกติ ครับ เช่นการใช้ Array หรือการใช้การ์ดจอ
ซึ่งตามหลักการแบบนี้ แน่นอนว่าช่วงแรกก็ต้องมีช่องโหว่บ้าง มีคนเจาะแล้วเขียนไวรัสแหงๆ
แต่โดยหลักมันจะเหมือน Flash มากกว่า ไม่ใช่อย่างที่คุณพูดครับ
ใช่ครับ ไม่มีการถามครับว่า yes หรือ no
มัน safe อยู่แล้ว run ได้เลย
อย่าปล่อยข่าวลือครับ
คำว่า Yes No ต้องถามด้วยครับว่าเป็นอะไรบ้าง
กรณีของ NaCl เทคโนโลยีของมัน (ถ้าทำงานได้ถูกต้องตามโฆษณา) จะจำกัดให้การทำงานเข้าถึงระบบทั้งหมดต้องผ่าน API ของ NaCl เท่านั้นไม่สามารถเข้าถึงระบบโดยตรงได้
การถาม Yes/No จะเป็นไปในรูปแบบเดียวกับ JavaScript ทั้งหลายที่จะถามว่า "ให้อนุญาตเข้าถึงตำแหน่งของคุณหรือไม่?", "อนุญาตให้เปิดไฟล์หรือไม่", "อนุญาตให้เซฟข้อมูลไว้ในเครื่องหรือไม่" ฯลฯ ไม่ใช่การถามว่าเรา "เชื่อถือ" แอพลิเคชั่นนั้นๆ หรือไม่แบบ ActiveX ครับ
ส่วนที่ว่าแนวทางการ "ขอเท่าที่ใช้" แบบนี้จะถือว่าปลอดภัยพอหรือไม่ ก็แล้วแต่ตนครับ ทุกวันนี้ทั้ง Android, Facebook, หรือเว็บทั้งหลาย ที่ใช้แนวททางนี้ ก็ยังมีคำถามกันอยู่เรื่อยๆ
lewcpe.com, @wasonliw
arkkk อ่านตามข่าวตรง "ไม่สามารถเปิดไฟล์ใดๆ ที่ไม่ได้ขออนุญาตล่วงหน้า หรือการเชื่อมต่อกับเครือข่าย" เข้าใจตกไปตรงที่ต้องขออนุญาตล่วงหน้า
native client ทำได้แค่การประมวลผล algorithm ด้วย native code เท่านั้น ไม่มี api สำหรับ access อะไรนอกเหนือไปจากที่มีใน javascript api ของ browser ทั่วๆไปทอยู่แล้ว ดังนั้นคงไม่มีปัญหาเรื่อง security อะไร
แวะมาเก็บข้อมูล ขอบคุณครับ
โซเดียมคลอไรด์ (NaCl) เมื่อ compile แล้วจะทำงานในระดับเดียวกับ JavaScript จึงไม่มีปัญหาเรื่อง Security เคยเขียนด้วย C++ แล้ว compile แต่ก็เมื่อสองปีกว่าที่แล้ว คงเปลี่ยนไปเยอะเลย
อ่าน comment แต่ละคนแล้วปวดหัวยิ่งนักครับ
ลองใช้ Chrome 14 หรือเปิด option nacl ที่ about:plugins
แล้วลองไปเล่น monkey island ดู
http://www.naclbox.com/gallery/the-secret-of-monkey-island
"ไม่มีการถาม yes/no อะไรทั้งสิ้นครับ"
risk free !
อย่างน้อย chrome ก็ทำงานอยูใน sandbox ด้วย