เริ่มมีข้อมูลเบื้องหลังของ การซื้อกิจการระหว่างกูเกิลกับ Motorola Mobility ออกมากันแล้ว ถึงแม้จะไม่ใช่ข้อมูลอย่างเป็นทางการก็ตาม
GigaOm รายงานว่าปัจจัยหนึ่งที่เร่งให้กูเกิลตัดสินใจซื้อ Motorola Mobility คือ "ศัตรู" ในสงครามสิทธิบัตรอย่างไมโครซอฟท์ ก็กำลังเจรจาซื้อสิทธิบัตรจาก Motorola Mobility เพื่อสะสมอาวุธไปถล่ม Android อยู่เหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม Motorola Mobility มองว่าข้อเสนอจากกูเกิลดีกว่า เพราะเป็นการซื้อทั้งบริษัท และไมโครซอฟท์ก็ไม่สนที่จะเข้ามาบุกตลาดฮาร์ดแวร์มือถือ สนใจเพียงแค่สิทธิบัตรเท่านั้น
การเจรจาของไมโครซอฟท์ทำให้กูเกิลตัดสินใจเร็ว จ่ายแพงกว่าราคาหุ้นในตลาด 60% ตามข่าวบอกว่ากระบวนการเจรจาใช้เวลาเพียง 5 สัปดาห์ และจำกัดวงเฉพาะผู้บริหารระดับสูงเพียงไม่กี่รายเท่านั้น ขนาด Andy Rubin ยังมารู้เรื่องนี้ในตอนหลังๆ ที่ใกล้เจรจาสำเร็จแล้ว
ที่มา - GigaOm
Comments
ดุเดือดขิงๆ.
งานนี้คนดูเกร็งกันปัสสาวะเหนียวครับ ลุ้นกันตัวโก่งเพราะไม่รู้ว่าจะมีม้ามืดโผล่ออกมาอีกกี่ตัว ส่วนตัวเชียร์กูเกิลครับ
นั่งร้อง "เหยดดดดดดดดดดดด" ต่อไป
ยังไม่ครบครับ
ต้องมือเกร็งเล็บจิกเบาะ เท้าเกร็งเล็บจิกพรม คอเกร็ง ปากจู๋ด้วย
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
+เหงื่อแตกพลั่กๆ นัยตาจ้องเขม็ง เส้นเลือดปูดบนหน้าผากสามเส้น.
ถ้าจบแบบ "ปาหมอน" ไหวมั้ยครับ
เชียร์กูเกิลด้วยคน
ต่อไป Motorola ออกมือถือใหม่ จะใช้ชื่ออะไร Motorola เหมือนเดิม หรือ Google หว่า?
Technology is so fast!
เชียร์กูเกิ้ลเหมือนกันครับ หลังๆมานี่แย่เลย และอยากเห็นกูเกิ้ลบุกเบิกอะไรใหม่ๆ ซะหน่อย ตามคนอื่นมาเยอะแล้วนะครับ
นั้นล่ะครับการตลาดของ Google
เห็นคนอื่นทำอะไรก็เอาด้วย
ด้วยความได้เปรียบของฐานผู้ใช้งานของตัวเองที่มีอยู่
ทำให้อะไรที่ตัวเองทำ มันจะมีคนใช้มากกว่าเจ้าเก่าเอาง่ายๆ
ทำให้ Google เป็นบริษัทที่ดูมีลับลมคมในมากกว่า Microsoft กับ Apple เสียอีก
พวกขาวแต่ภายนอกมันน่ากลัวกว่า พวกสีเดียวกันทั้งนอกและในเสียอีกนะครับ
ไม่อยากให้ตกในมือของ M$ เลย
googleต้องซื้อเพื่อปกป้องandroid msซื้อเพื่อถล่มandroid
+10000
ผมว่าก็ไม่เิชิงนะต้องเป็น
google ซื้อเพื่อปกป้อง android (เพื่อไปถล่ม wp/iOS)
MS ซื้อเพื่อถล่ม android (เพื่อปกป้อง wp)
เชียร์ M$ ครับ ขอแหวกจากคนอื่นบ้าง ส่วนตัวแล้วผมว่า GG น่ากลัวกว่า M$ เยอะครับ
ส่วนตัวแล้วมองว่า GG ไม่ค่อยมีมารยาท M$ ก็แค่คนปกป้องตัวเอง
ผมกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่ากูเกิลเนี่ยคล้ายๆ ห้างดอกบัวที่กำลังขึ้นเป็นดอกเห็ดในบ้านเราขณะนี้ คือ เหมือนจะหยิบยื่นความสะดวกสบาย และให้สิ่งที่ดูเหมือนจะฟรี และถูกกว่าแก่ลูกค้า
แต่ถ้าดูกันจริงๆ แล้วห้างดอกบัวนี่แทบจะครองบ้านเราแล้วนะครับ เค้าขยายกิจการไปหลายรูปแบบมากจนน่ากลัวแล้วในสายตาของผม ซึ่งก็เหมือนกับกูเกิลในตอนนี้แหละครับ
ผมชอบที่คุณ iStyle เปรียบเทียบเอาไว้ กูเกิลในตอนนี้ก็ใกล้จะกลายเป็น "เพื่อน" ใน 20th century boy เข้าไปทุกทีแล้ว
ถึงจะเห็นผมพูดแบบนี้ ผมก็ยังเดินห้างดอกบัวเกือบทุกวันครับ และก็เชียร์กูเกิลอยู่ตลอดอีกด้วย
BnL ครับ
แปลว่าอะไรครับ หาเจอแต่ Barednake Ladies
ลองหา Buy and Large ดูครับ
แล้วก็หาการ์ตูนที่ชื่อ Wall-E มาดู
+1
เห็นด้วยครับ อนาคตเป็นไปได้
นึก project รถยนต์ไร้คนขับของ google ตอนนี้สิครับ ที่ไม่ได้เกี่ยวกับกิจการ search engine เลยซักนิด แล้วยังจะมี project อื่นๆ อีกที่มันอยู่ในชีวิตประจำวันของเราตลอด
ใครไม่เห็นภาพ ต้องลองดู Wall-E เองครับ :)
โทษทีครับ ผมเคยดูนะครับ wall -e แต่ผมนึกไม่ออกว่าเกียวยังไง - -a
นึกได้แต่ว่า
มนุษย์ทิ้งโลกไปหาที่อยู่ใหม่
มนุษย์ตัวอุ้ยอ้าย เพราะอยู่ในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วง+สะดวกสบายไปหมด ไม่ได้ออกกำลังกาย
แมงสาบ
^
^
that's just my two cents.
การที่มนุษย์ทิ้งโลกไปหาที่อยู่ใหม่ ดำเนินการโดยบริษัท BnL ครับ
ยานยักษ์นั่นเป็นยานอวกาศของบริษัทๆเดียวนะครับ ทำขึ้นมาจากการค้ากำไรในธุรกิจ "ทุกสิ่งทุกอย่าง" ตั้งแต่เสื้อผ้า อาหาร และหุ่นยนตร์ที่ทำงานแทนมนุษย์ทุกอย่าง จนบริษัทเดียวนี่กลายเป็นรัฐบาลโลก ประธานบริษัทกลายเป็นประธานาธิบดีโลกโดยอัตโนมัติ
จำได้มั้ยครับ ตอนที่ขึ้นยานไปใหม่ๆ ฉากที่มีเด็กทารกพึ่งเกิด มีเสียงสื่อการสอนประกอบ "B Buy and Large เพื่อนที่ดีที่สุดของหนู"
ในยานนี้ บริษัท BnL อยู่กับมนุษย์ทุกคนตั้งแต่เกิดไปจนวันตาย โตขึ้นมาก็มีเก้าอี้ให้ไม่ต้องเดินไปไหนมาไหน มีอาหารเครื่องดื่มเสิร์ฟให้ตลอดเวลา มีจอทีวีให้แชทกันไม่ได้คุยกับคนข้างๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้างๆมีคนอยู่ (คล้ายๆปัจจุบันแล้ว ไปเจอหน้าเพื่อนแต่นั่งกดมือถือคุยกับคนอื่น)
ที่เด็ดสุด ที่ผมจะจำจนวันตาย โฆษณาแฟชั่น "ลองสีแดงสิ มันคือสีฟ้าเฉดใหม่" แล้วทุกคนก็มีหน้าต่างเด้งขึ้นมา "เปลี่ยนสีชุดคุณมั้ย" ทุกคนกด เปลี่ยนๆๆๆๆ กลายเป็นชุดแดงทั้งยาน
จนผมอยากกลับไปดูอีกรอบ - -' โดยเฉพาะ สีฟ้าเฉดใหม่
^
^
that's just my two cents.
+1 ผมจำฉากนี้ไม่ได้แฮะ
ผมจำได้สบายครับ เพราะเพิ่งดูบิ๊กซีนีม่าเดือนก่อน
ขอโทษทีครับ ผมจำสับกัน
ในหนังมันบอกว่า "ลองสีฟ้าสิ มันคือสีแดงเฉดใหม่" ครับ
อ่าว มีจริงๆ ในหนังเหรอครับ ทีแรกผมนึกว่ามุกซะอีกนะ XD
รัฐบาล แดง ฟ้า น่ะ XD
^
^
that's just my two cents.
ต่อไปอาจจะมีธนาคารตราดอกบัวก็เป็นได้
ตอนนี้ก็จ้างกรุงศรีทำบัตรเครดิต แล้วก็เป็นโบรกเกอร์ประกันภัยต่างๆ
ผมว่ามันเป็นสถาบันการเงินนิดๆ กลายๆ แล้วครับ
เงินสดในมือเยอะมากครับ จะน่ากลัวตอนปล่อยกู้นี่แหละ
แล้ว ซีตัวใหญ่ ห้างศูนย์กลาง เจ็ดสิบเอ็ด ร้านครอบครัว หล่ะครับ
ลองดูโมเดลทางธุรกิจดีกว่าครับ เรื่องพวกนี้พูดกันยาวมาก ที่สำคัญคือผมไม่ถนัดที่จะอธิบายเรื่องเกี่ยวกับโมเดลทางธุรกิจด้วยครับ ถ้าเป็นเรื่อง Programming นี่ผมสู้ตายนะ
ยกตัวอย่างง่ายๆ สดๆ ร้อนๆ ละกัน โลตัสใช้วิธีการแจกแผ่นพับที่หน้าห้างบิ๊กซี และส่ง SMS ให้กับผู้ที่ถือบัตรของบิ๊กซีว่า ถ้าเปลี่ยนมาใช้บัตรโลตัสแทนแล้วจะได้รับสิทธิพิเศษ
ซึ่งเรื่องนี้บิ๊กซีกำลังดำเนินการฟ้องร้องอยู่ครับ
ตอนจบพระเอกล่าวว่า"พวกเรานี่แหละที่เป็นคนสร้างเพื่อนขึ้นมา"
7 เยอะกว่าอีก
ผมก็ว่าแบบนั้น สิ่งที่ Google ปกป้อง คือไม่ให้เจ้าของสิทธบัตรที่มีใน Android ฟ้องร้อง โดยแก้ซื้อสิทธิบัตรอื่นๆ แล้วฟ้องกลับ แต่ MS ซื้อไปเพื่อจะถวงสิ่งที่ตัวเองมีบวกกับสิทธิบัตรใหม่ไว้ป้องกันการฟ้องกลับ ไม่แน่ฟ้องเพิ่มอีกก็เป็นได้
Google ซื้อเพื่อปกป้องตัวเองครับ
เพราะ MS นั้นมีประวัติซึ่งถือสิทธิบัตรเป็นมูลค่ามากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาได้แก่ Samsung, Cannon และ HP
ส่วน Motorola นั้นในช่วง 1990 เคยมีมูลค่าสูงเป็นอันดับสาม เทียบเท่ากับ Sun ส่วนอันดับสองและหนึ่งได้แก่ Oracle และ MS ตามลำดับครับ
แต่ในระยะเวลาทั้งสองทศวรรตนั้น ไม่มีชื่อ Google ครับ (ก็พึ่งลงตลาด Mobile ได้ไม่กี่ปี) ดังนั้นถ้าไม่ทำอะไรเข้าซักหน่อยมีหวังโดนเจ้าพ่อสิทธิบัตรตีก้นตายครับ
Ref
ลองทบทวนภาพสถานการณ์แวดล้อม หรือข่าวที่ผ่านมาจากแทก patent และ Lawsuit นะครับ จะเข้าใจว่าสิ่งที่ M$ และ Apple ทำหรือขยับตัวเกี่ยวกับเรื่องสิทธิบัตรทั้งหมดไม่ใช่แค่ต้องการปกป้องตัวเองอย่างเดียวแน่นอน โดยเฉพาะกรณีส่วนนแบ่ง 5$ แต่ก็นานาจิตตังนะ
สำหรับผมคิดว่า GG ได้ไปเที่ยวนี้ไม่ได้เฉพาะแค่สิทธิบัตรอย่างเดียวนะครับ มันมีเรื่องของการผลิตมือถืออยู่ด้วยในตัว ตอนนี้นอกจาก GG จะสามารถผลิตมือถือได้เองแล้ว ยังมีพวก NFC ที่จะเอามาใช้กับ Wallet ของ GG ที่เคยเป็นข่าวมาก่อนด้วย รวมถึงหลายๆ อย่างที่พี่ GG เขาจะใช้ได้เต็มที่กว่าแต่ก่อนด้วย เหมือนกับว่ามันเป็นการลงทุนที่คุ้มสำหรับพี่ GG
โดยส่วนตัว ผมคิดว่า อย่ามองบริษัทนี้ในแง่บวกมากนักเลย คนส่วนมากชอบมอง G ในแง่บอกจนลืมมองอีกด้วนของเขา ผมว่าบริษัทนี้ค่อนข้างจะร้ายกาจและน่ากลัวเลยทีเดียวแหละ สิทธิบัตรที่ได้มา ผมคิดว่าไม่ได้แค่จะเอามาป้องกันหรอก แต่จะเอามาโจตีชาวบ้านที่มาฟ้องตัวเองก่อนด้วยแหละ อย่างเรื่อง สิทธิบัตร Novell ผมว่าที่กูเกิลไม่ร่วมประมูลด้วย ก็คงเพราะถ้าได้สิทธิบัตรร่วมกับคนอื่นมันก็ไม่มีความหมายหล่ะสิครับ(ใช้โจมตีคนอื่นไม่ได้) คิดว่า G คงคิดแบบนี้แหละ
โดยส่วนตัว ผมเชียร์ M$ นะครับ
ปล.ความเห็นส่วนตัวครับ
มาอีกคนแล้วที่ไม่เข้าใจความหมายของการป้องกันตัว
เอางี้นะครับ มีคนถือมีดวิ่งเข้ามาจะฆ่าคุณคุณ คุณชักปืนยิงตาย ภาษาคนเรียกว่าการป้องกันตัวโดยชอบธรรมนะครับ
เข้าใจมั้ย?
ก็คงจริงนะครับ แต่มันก็คล้ายๆกันแหละ โลกของสิทธิบัตร ถ้าไม่ฟ้อง ก็โดนฟ้องเอง ประมาณนั้นสินะครับ
แต่คุณไม่ต้องยกตัวอย่างขนาดนั้นก็ได้ แหม พูดซะน่ากลัวเชียว -.-
ไม่คล้ายครับ
การที่เกิดวิตกจริตไปไล่ตีคนอื่นโดยที่ยังไม่มีใครทำอะไร กับการที่ถือไว้เพื่อว่าถ้ามีใครตีมาก็ตีกลับได้ มันคนละเรื่องกันครับ
แบบแรกไม่ใช่การป้องกันตัว แบบหลังคือการป้องกันตัวครับ
ถ้ากูเกิลทำแบบแรก คนก็เกลียดกูเกิลครับ แต่เพราะคนเชื่อมั่นว่ากูเกิลจะไม่ทำ ถึงได้สนับสนุน
แปลกนะ คนมีสิทธิบัตรแล้วเอาไปฟ้องคนอื่นกลายเป็นโจรซะงั้น(ถึงจะพูดให้ถูกคือ "ไล่ฟ้อง" ก็ตาม) การที่กฎหมายรองรับการกระทำนั้นแปลว่าเค้าเป็น "โจรถูกต้องตามกฎหมาย" สินะครับ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ผมว่าถ้าเป็นคนคิดค้น แล้วฟ้องอย่างสมเหตุสมผลมันก็ ok นะครับ
แต่ถ้าไปไล่ซื้อมาจากชาวบ้านเพื่อฟ้อง
หรือฟ้องแบบอะไรที่มันดูแล้วไม่เหมาะสม คนก็จะต่อต้านครับ
เวลาดูสาวชอบดูสาวขาวๆ Sex Sex เวลาดู Notebook ชอบแบบ"ถึกๆดำๆ"
Twitter : @Zerntrino
G+ : Zerntrino Plus
ลองอ่านการ์ตูนเรื่องคุโรซากิดูสิครับ โจรที่เอากฏหมายมาเล่นงานคนธรรมดายังมีเลย
สิทธิบัตร ถ้าถือไว้เฉยๆมันปล่อยแสงออกมาไม่ได้นะครับ ถ้าจะป้องกันตัวคือต้องขู่ว่าจะยิงกลับนั่นแหละ
ผมมีทั้งประเด็นที่เห้นด้วยและไม่เห็นด้วยครับ
เห็นด้วย ตรงที่บอกว่ากูเกิลน่ากลัว ความเห็นผมอยู่บนๆ ถ้าไม่รังเกียจไปอ่านได้ครับ มันกำลังจะครองโลก (แห่งข้อมูล) เราแล้ว
ไม่เห็นด้วย (อย่างแรง) ตรงที่บอกว่า "กูเกิลจะเอาสิทธิบัตรที่ได้มาไปโจมตีคนอื่นก่อน" เพราะจากสถิติในอดีตแล้ว มีกี่ครั้งครับที่กูเกิลเปิดฉากงัดสิทธิบัตรมาไล่ฟ้องชาวบ้านก่อน ถ้าคุณเป็นแฟนไมโครซอฟท์จริง คุณก็คงรู้ว่าไมโครซอฟท์น่ะแหละครับที่ชอบทำแบบที่คุณว่า
การฟ้องมีหลายแบบ ถ้าไล่จดสิทธิบัตรครอบจักรวาลแต่ไม่มีผลงานเป็นของตัวเอง แล้วเที่ยวไปฟ้องคนอื่นเพื่อทำรายได้จากการฟ้อง แบบนี้เรียกว่า "patent troll" ครับแต่ถ้าฟ้องเพื่อปกป้องสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของตัวเอง มันก็เป็นสิ่งที่ควรทำไม่ใช่หรือครับ ไม่งั้นจะจดสิทธิบัตรมาวางให้แอร์เป่าให้กระพือเพลินๆ หรือไง
ผมเปิดฉากใหม่เลยละกัน ถามคุณกลับในฐานะแฟน M$ ว่า "คิดยังไงกับการที่ M$ ทำเงินจาก Android มากกว่า WP7 ของตัวเอง โดยใช้สิทธิบัตรเป็นเครื่องมือ" ครับ
อย่าเข้าใจผิดคิดว่าผมแอนตี้ไมโครซอฟท์ หรืออยากให้คุณหมดศรัทธาในไมโครซอฟท์นะครับ
ผมเพียงแค่อยากให้คุณรู้จักมองอะไรในมุมกว้างมากขึ้นเท่านั้นครับ ส่วนตัวใช้ Android แต่เชียร์ WP7 ครับ