ทีม Niantic Labs ของ Google ได้ประกาศความร่วมมือกับ HarperCollins เพื่อนำนิยายเรื่อง Endgame มาสร้างเป็นเกมใหม่ที่เน้นระบบ augmented reality โดยอยู่บนแพลตฟอร์มพื้นฐานของ Ingress ซึ่งเป็นเกมที่เล่นโดยเน้นการอ้างอิงพิกัดตำแหน่งในโลกจริงของผู้เล่น

Metaio ผู้พัฒนาแอพบนเทคโนโลยี augmented reality (AR) อย่าง eKurzinfo แอพแนะนำการใช้งานฟังก์ชันในรถยนต์ Audi เผยต้นแบบแอพคู่มือการใช้งานรถบน Google Glass

ในการทำงานนั้น แอพนี้ใช้เทคโนโลยีติดตามวัตถุโดยอ้างอิงโมเดล CAD เพื่อระบุว่าผู้ใช้กำลังมองอะไรอยู่และแสดงผล (overlay) ทิศทางในสามมิติ ไม่ได้ใช้ marker ในการระบุตำแหน่งวัตถุต่างๆ แต่อย่างไร

Audi ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมันเผย eKurzinfo แอพแนะนำการใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ในรถยนต์โดยใช้เทคโนโลยี augmented reality กล่าวคือ เมื่อผู้ใช้เปิดแอพนี้บนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตแล้วชี้มันไปยังชิ้นส่วนต่างๆ ในรถยนต์ แอพจะแสดงรายเอียดของชิ้นส่วนนั้นขึ้นมา

แอพ eKurzinfo รุ่นแรกๆ สามารถให้ข้อมูลขั้นพื้นฐานของฟังก์ชันต่างๆ ของรถยนต์รุ่น [A1](http://www.audi.com/com/brand/en/models/a1/a1.html) ได้ 65 รายการ แอพนี้ได้รับการปรับปรุงเรื่อยมาจนสามารถให้ข้อมูลฟังก์ชันต่างๆ ของรถยนต์รุ่น [A3 สี่ประตูซีดาน](http://www.audi.com/com/brand/en/models/a3/a3-saloon.html)ได้กว่า 300 รายการ อย่างสัญลักษณ์บนก้านควบคุมใบปัดน้ำฝนกระจกบังลมหน้า หรือกระทั่งส่วนประกอบของเครื่องยนต์

ใครที่เป็นสมาชิกของ IKEA จะคุ้นเคยกันดีกับแค็ตตาล็อกประจำปีเล่มโต ที่จะอัพเดตรายปีมาพร้อมๆ กับแอพบนมือถือทั้ง iOS และ Android ซึ่งในปีนี้จะพิเศษขึ้นหน่อยตรงที่ตัวแอพนั้นรองรับระบบ augmented reality ที่เหนือไปกว่าของปีก่อน เพราะสามารถแสดงตัวเฟอนิเจอร์บนห้องของเราได้แล้ว

วิธีการทำงานของระบบ augmented reality บนแค็ตตาล็อกเล่มใหม่นี้ทำได้โดยการเปิดหน้าของเฟอนิเจอร์ที่อยากได้เแล้วไปวางไว้ในห้อง และเปิดแอพขึ้นมาส่องไปยังแค็ตตาล็อก ตัวแอพจะแสดงภาพเฟอนิเจอร์ดังกล่าวขึ้นมา สามารถขยับหรือย้ายที่ได้ตามใจชอบ ส่วนข้อจำกัดตอนนี้คือยังสามารถแสดงผลได้แค่หนึ่งชิ้นต่อหนึ่งเครื่องเท่านั้น

ใครที่ยังไม่เห็นภาพลองดูวิดีโอท้ายข่าวได้ครับ

ไมโครซอฟท์เปิดตัวแอพ Bing Translator ให้ดาวน์โหลดบน Windows 8 จาก Windows Store ได้แล้ววันนี้ โดยมาพร้อมคุณสมบัติต่าง ๆ ที่น่าสนใจ ดังนี้

โนเกียเคยโชว์ฟีเจอร์ LiveSight (City Lens เวอร์ชันเพิ่มความสามารถ และผนวกเข้ากับตัวแผนที่ ไม่ได้แยกเป็นแอพหรือเลนส์) เมื่อต้นปี และสัญญาว่าจะผนวกมันเข้ามาใน Here Maps

วันนี้โนเกียประกาศอัพเดต Here Maps ให้เพิ่มฟีเจอร์ LiveSight เรียบร้อยแล้ว การทำงานจะคล้ายๆ กับ Google Street View คือกดเปลี่ยนจากโหมดแผนที่มาเป็นโหมดเสมือนจริง จากนั้น LiveSight จะแสดงป้ายข้อมูลของสถานที่ในบริเวณนั้นๆ ให้ทราบทันที

ที่มา - Nokia Conversations via Engadget

Google ได้รับการอนุมัติสิทธิบัตรใหม่อีกรายการเกี่ยวกับระบบนำทางที่มีเทคนิคนำเสนอแบบใหม่ และพร้อมกันนั้นก็มีการเปิดเผยว่า Google กำลังยื่นขอจดสิทธิบัตรของแว่นตา Google Glass แบบใหม่ด้วย

สิทธิบัตรการนำเสนอระบบนำทางแบบใหม่นั้น จะใช้ข้อมูลแบบเดียวกับเครื่องนำทางที่ใช้ในรถยนต์ทั่วไปซึ่งอ้างอิงตำแหน่งผู้ใช้งานจากสัญญาณ GPS โดยสิ่งที่พิเศษจากการนำเสนอข้อมูลนำทางแบบเดิม คือการเพิ่มข้อมูลภาพ street view ที่ Google ใช้กับ Google Maps เข้าไปด้วย นอกจากนี้ในการแสดงผลยังใช้เทคนิค augmented reality ซึ่งการแสดงผลดังกล่าวอาจทำผ่านแว่น Google Glass หรือแม้แต่บนกระจกหน้ารถ

เมื่อปลายปีที่แล้ว ทีมผลิตภัณฑ์ทีมหนึ่งของกูเกิลที่ชื่อ NianticLabs ได้เปิดตัวเกมพกพา Ingress สู่สาธารณะ (ข่าวเก่า: Ingress เกมยึดโลกจาก Google) และได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง

Ingress เป็น "เกม" ลูกผสมระหว่างแนวคิดเรื่อง location-based service, augmented reality และ massively multiplayer online ที่ใช้อุปกรณ์พกพา (ปัจจุบันยังมีแค่ Android) เป็นอุปกรณ์ในการเล่น (แนวคิดของตัวเกมไม่ซับซ้อนแต่อธิบายลำบากหน่อย ซึ่งจะกล่าวต่อไป)

ราว 2 สัปดาห์ก่อน Disney ได้ยื่นคำขอจดสิทธิบัตรเทคนิคการแสดงผล augmented reality แบบ 3 มิติ ซึ่งคาดกันว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการทำเครื่องเล่นเกมที่ชื่อ Toy Box

ในคำบรรยายของสิทธิบัตร อธิบายเทคนิคใหม่นี้ว่าเป็นการสร้างภาพเสมือน 3 มิติโดยอาศัยภาพจริงจากกล้องในหลายมุมมอง โดยแสดงผลแบบต่อเนื่อง เช่น เมื่อผู้ใช้มองแก้วกาแฟบนโต๊ะผ่านทางกล้องของอุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีนี้ จะมองเห็นแก้วดังกล่าวเป็นตัวการ์ตูนและสามารถเคลื่อนไหวได้

นอกจากนี้ในคำขอจดสิทธิบัตรดังกล่าว มีภาพประกอบเป็นเครื่องเล่นเกมแบบพกพา จึงทำให้มีการคาดกันว่า Disney เตรียมใช้งานเทคโนโลยีใหม่นี้ร่วมกับเครื่องเล่นเกม Toy Box ที่ Disney กำลังพัฒนาอยู่

มีข่าวลือว่ากูเกิลกำลังดำเนินการซื้อกิจการ Viewdle ผู้ผลิตซอฟต์แวร์จดจำใบหน้า ด้วยมูลค่าประมาณ 30-45 ล้านดอลลาร์

แหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อยังระบุอีกว่าการซื้อกิจการในครั้งนี้เริ่มดำเนินการมานานกว่า 1 ปีแล้ว โดยคาดว่าจะเสร็จสิ้นและมีประกาศอย่างเป็นทางการภายในสัปดาห์นี้

Viewdle เป็นบริษัทในประเทศยูเครน ก่อตั้งเมื่อปี 2007 โดยได้รับการสนับสนุนจาก Best Buy, BlackBerry Partners Fund และ Qualcomm Ventures มีผลิตภัณฑ์หลักคือซอฟต์แวร์จดจำใบหน้าสำหรับคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน โดยสามารถตรวจสอบใบหน้าจากภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว

NTT DoCoMo เปิดตัวแอพใหม่สำหรับสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตแอนดรอยด์ในชื่อ Hanashite Hon’yaku สำหรับช่วยแปลภาษาเวลาคุยกันผ่านสมาร์ทโฟนแบบตัวต่อตัว

หลักการทำงานของ Hanashite Hon’yaku คือเมื่ออีกฝ่ายพูดภาษาญี่ปุ่นผ่านแอพนี้ ตัวโปรแกรมจะแปลอัตโนมัติ และแสดงข้อความภาษาที่แปลแล้ว พร้อมเสียงอ่านให้กับคู่สนทนา

ตอนนี้ภาษาที่ Hanashite Hon’yaku สามารถแปลจากญี่ปุ่นได้มีเพียง ภาษาอังกฤษ จีน และเกาหลีเท่านั้น แต่ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้จะเพิ่มภาษาเยอรมัน อินโดนีเซีย อิตาลี โปรตุเกส สเปน และ ไทย เข้ามาด้วย รวมถึงแผนเพิ่มภาษาที่รองรับในอนาคตอีก

IKEA ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่สัญชาติสวีเดนประกาศใช้เทคโนโลยี augmented reality หรือที่รู้จักกันในนาม AR ซึ่งจะช่วยให้ผู้ต้องการเลือกซื้อสินค้าในร้าน IKEA สามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น โดยระบบนี้จะใช้งานร่วมกับแอพฯ Metaio ซึ่งเริ่มต้นระบบนี้กับแพลตฟอร์ม iOS ทั้ง iPad และ iPhone

แน่นอนว่าเมืองไทยไม่ต้องน้อยหน้าแน่นอน เพราะมันจะมาใช้ในเมืองไทยด้วย ซึ่งถือว่าเป็นไอเดียที่น่าสนใจเลยทีเดียวสำหรับแคตาล็อกรูปแบบใหม่ในอนาคต

ที่มา : Creative Online ผ่าน Engadget

กูเกิลเพิ่งเปิดตัวแว่นตารุ่นต้นแบบของ Project Glass ไปได้ไม่นาน (ดูหน้าตาได้จากข่าวนี้) วันนี้ทาง Innovega เผยข้อมูลของอุปกรณ์ประเภทเดียวกันที่มีลักษณะการทำงานคล้ายกัน คือใช้การแสดงผลแบบ HUD แต่เล็กยิ่งกว่า เพราะมันคือคอนแทคเลนส์ "iOptik"

iOptik คือคอนแทคเลนส์ที่ใช้เทคโนโลยี augmented reality ช่วยแสดงผลข้อมูลผ่านอินเทอร์เฟซแบบ HUD โดยตัวคอนแทคเลนส์แบ่งเป็นสามชั้นคือส่วนคอนแทคเลนส์ ส่วนฟิลเตอร์ด้านนอก และส่วนแสดงผลตรงกลาง

หลังจากที่ทาง Marvel ได้ประกาศจะทำหนังสือขายพ่วงดูแบบดิจิตอล ล่าสุดที่งาน SXSW (South by South West) ได้เปิดเผยเทคโนโลยีล่าสุดที่จะพลิกวงการหนังสือการ์ตูน ด้วย Marvel AR โดยที่เทคโนโลยีนี้จะเริ่มต้นกับหนังสือเรื่อง Avengers vs. X-Men #1 ในเดือนเมษายนนี้

Microsoft โชว์ 3 งานวิจัยจากงาน TechForum ซึ่งเป็นงานสังสรรค์ที่จัดขึ้นเพื่อแสดงโครงการวิจัยภายในบริษัท โดยผลงานที่ Microsoft คัดเลือกมาได้แก่ (รับชมวิดีโอได้ในข่าว)

• HoloDesk - คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ที่ใช้เทคโนโลยีการแสดงผลและการควบคุมสั่งงานแบบสามมิติ
• Holoflector - กระจกเงาโฮโลกราฟิก ที่สามารถโต้ตอบกลับแบบ augmented reality ได้
• Illumishare - โต๊ะทำงานที่แชร์เอกสารและวัตถุต่างๆ ที่อยู่บนโต๊ะให้กับผู้ร่วมงานคนอื่นๆ

ที่มา: Engadget

Layar ได้เปิดตัว Layar Vision หรือส่วนเสริมสำหรับการพัฒนาแอพฯ ประเภท augmented reality เพื่อให้สามารถตรวจจับวัตถุในโลกความเป็นจริงและแสดงผลคอนเทนต์บนวัตถุเหล่านั้นได้ แพลตฟอร์ม Layer Vision รองรับการตรวจจับวัตถุบนสื่อสิ่งพิมพ์อย่าง หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โปสเตอร์ เป็นต้น ใครนึกภาพไม่ออกลองดูคลิปแนะนำ Layer Vision ได้ที่ท้ายข่าว

Layar ยังได้เปิดให้แข่งขันพัฒนาแอพฯ ชิงเงินรางวัลที่มีมูลค่ารวมสูงสุด 55,000 ดอลลาร์ (ราว 1,644,000 บาท) ตอนนี้ยังเปิดรับสมัครและส่งผลงานถึง 15 ก.ย. นี้ หากเข้าใจไม่ผิด Layar เปิดรับผลงานจากทั่วโลก ลองดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ที่มาของข่าว

Nokia Beta Labs เปิดตัว "Live View" แอพฯ ดูข้อมูลพื้นที่โดยรอบจากสถานที่จริง (augmented reality) โดยทำงานร่วมกับ Ovi Maps ในการนำข้อมูลสถานที่สำคัญ (POI) มาแสดงผล ผู้ใช้ยังสามารถเรียกดูรายละเอียด อ่านรีวิวของสถานที่ที่เราสนใจ หรือกระทั่งนำทางแบบ turn-by-turn หรือจองที่ (เช่น โรงแรม ร้านอาหาร) ได้ในตัว

หากใครมีหรือยังถือโนเกียรุ่น N8, C7 หรือ E7 อยู่ในมือ สามารถเข้าไปดาวน์โหลดเวอร์ชันเบต้าได้จากที่มาของข่าวครับ

หลังจาก RIM ได้เปิดตัว BlackBerry OS เวอร์ชัน 7 ไปเมื่อต้นเดือน ล่าสุด RIM ได้ปล่อย BlackBerry Java SDK เวอร์ชัน 7.0 เบต้า ให้ดาวน์โหลดได้แล้ว SDK ใหม่นี้รองรับการพัฒนากราฟิกโดยใช้ API ชุด Open GL ES 2.0, รองรับการพัฒนาแอพพลิเคชันประเภท augmented reality รวมถึงรองรับการพัฒนาแอพพลิเคชันที่ใช้เทคโนโลยี NFC ด้วย ใครสนใจเชิญดาวน์โหลดได้จากที่มาของข่าวครับ

ที่มา: BlackBerry ผ่าน Engadget

ไม่บ่อยนักที่เราจะเห็นบริษัทยักษ์ใหญ่นำระบบ Augmented Reality (AR) มาใช้ แต่เมื่อใดก็ตามที่มีการใช้งาน AR ขึ้นมาก็มักจะเป็นเรื่องที่น่าสนใจทุกครั้งไป อย่างเช่นครั้งนี้ที่บริษัทผลิตเครื่องดื่มชูกำลังรายใหญ่ของโลก และเป็นเจ้าของทีมกีฬาหลายทีมอย่าง Red Bull ได้เดินแผนการตลาดที่น่าสนใจด้วยการทำเกมรถแข่งสูตรหนึ่ง ที่สามารถใช้ระบบ AR เพื่อสร้างสนามแข่งจากกระป๋องเครื่องดื่ม Red Bull ได้ด้วยตัวเอง โดยสามารถปรับแต่งสนามแข่งได้ตามใจชอบ เพียงแต่ต้องใช้กระป๋องไม่น้อยกว่า 12 ใบเท่านั้น

ลองนึกสถานการณ์ตามนะครับ ผมเดินไปเจอป้ายข้อความเป็นภาษาที่อ่านไม่ออก (เช่น ภาษาสเปน) ผมหยิบมือถือขึ้นมา ส่องกล้องให้ตรงกับป้ายที่ต้องการ ปรากฎว่าจุดที่เคยเป็นข้อความที่อ่านไม่ออก กลายร่างเป็นข้อความในภาษาที่เราอ่านออกแทน

ถ้านึกตามไม่ออก ลองดูภาพประกอบ

สถานการณ์แบบนี้เป็นจริงแล้วด้วยโปรแกรม Word Lens จากบริษัท Quest Visual

ข่าวแรก มีผู้โพสต์คลิปบนยูทูป โชว์เดโม augmented reality (AR) บน Windows Phone 7 ซึ่งสร้างจาก SLARToolkit (เฟรมเวิร์กพัฒนา augmented reality โดยใช้ Silverlight แอพฯ) และใช้ความสามารถในการเข้าถึงกล้องผ่าน Native API (ดูข่าวเก่า) ลองดูคลิปดังกล่าวได้ที่ท้ายข่าว

หลายคนคงรู้จักกับ Google Goggles โปรแกรมบนมือถือของกูเกิลที่ใช้ถ่ายรูปผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อค้นหาข้อมูลของผลิตภัณฑ์นั้นๆ บนอินเทอร์เน็ต โดยใช้เทคโนโลยีด้านการประมวลผลภาพของกูเกิลเข้าช่วย

ตอนนี้กูเกิลกำลังพัฒนา Goggles ไปอีกขั้น โดยจับมือกับบริษัทในอเมริกา 5 รายคือ Buick, Disney, Diageo, T-Mobile และ Delta Airlines

บริษัททั้งห้ารายจะประสานงานกับกูเกิล ในการส่งภาพโฆษณาในสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ (เช่น หนังสือพิมพ์หรือโปสเตอร์หนัง) ให้กับกูเกิล และถ้าใช้ Goggles ถ่ายภาพโฆษณาเหล่านี้ จะได้ผลลัพธ์เป็นการโฆษณาตามที่บริษัทเหล่านี้ระบุทันที เช่น ถ้าใช้ Goggles ถ่ายโปสเตอร์หนังของ Disney ผู้ใช้จะถูกถามว่าต้องการดูตัวอย่างหนังเรื่องนั้นๆ หรือไม่

เว็บบล็อกแอลจีสหราชอาณาจักรได้เปิดเผยคลิปวีดีโอเดโม ScanSearch Augmented Reality (แอพฯ ในลักษณะเดียวกับ Layar) บน Optimus 7 ซึ่งจะมีให้เฉพาะเครื่องที่ขายผ่าน Vodafone UK เท่านั้น

แอพฯ ยังมีฟีเจอร์พิเศษ ที่สามารถบอกข้อมูลพยากรณ์อากาศได้เมื่อเอาเครื่องแหงนขึ้นท้องฟ้า ลองดูคลิปวีดีโอได้ที่ท้ายข่าว - เว็บบล็อกแอลจีสหราชอาณาจักร ผ่าน WMPoweruer

ที่งาน CEATEC Japan 2010 บริษัท NTT DoCoMo และ Olympus ได้นำเสนอต้นแบบ AR Walker หรือโซลูชัน augmented reality ชนิดพกพาได้ โดยระบบต้นแบบนี้ประกอบด้วยสมาร์ทโฟน HTC เชื่อมต่อผ่านสายไปยังตัวแสดงผลที่เป็นก้านล็อกติดกับแว่นตา ตัวแสดงผลนีจะมีหน้าจอขนาดเล็กมากและจะแสดงผลเช่นเดียวกับที่แสดงบนสมาร์ทโฟน สำหรับการสาธิตการทำงานนั้นดูได้จากคลิปวีดีโอท้ายข่าว

NTT DoCoMo เปิดเผยว่ายังไม่มีแผนวางจำหน่ายในตอนนี้ และยังต้องพัฒนาอีกหนึ่งหรือสองเจเนอร์เรชั่นจนกว่าจะได้เครื่องที่เล็กพอที่จะสวมใส่พกพาไปไหนได้ที่ไม่ต้องร้อยสายเชื่อมกับสมาร์ทโฟนอย่างระบบต้นแบบนี้

ที่มา: Engadget