ช่อง JSBC ของจีนรายงานข่าวสาวแซ่ Yan ที่ระบุว่าเธอได้รับเงินคืนจากแอปเปิลหลังจากเพื่อนของเธอสามารถปลดล็อก iPhone X ได้สำเร็จ

เธอระบุว่าคอลเซ็นเตอร์ไม่ยอมเชื่อเธอในตอนแรก จนกระทั่งเธอต้องเดินทางไปที่ร้าน หลังจากทางร้านพบว่าเพื่อนของเธอสามารถปลดล็อกเครื่องได้จริง จึงยอมคืนเงิน

เธอนำเงินที่ได้คืนมาไปซื้อ iPhone X อีกครั้งแต่ก็พบว่าเพื่อนของเธอสามารถปลดล็อกได้อยู่ดีจึงได้รับคืนเงินอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้มีกรณีคล้ายกันคือสองพี่น้องที่จงใจตั้งค่าหลอก iPhone X ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสามารถปลดล็อกได้จากใบหน้าทั้งสองคน กรณีนี้ก็น่าสนใจว่าจะซ้ำรอยเดิมหรือไม่

Phil Schiller หัวหน้าฝ่ายการตลาดแอปเปิล เดินสายให้สัมภาษณ์กับสื่อต่อเนื่อง คราวนี้เป็น T3 โดยพูดถึงเบื้องหลังการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวในปีนี้ ซึ่งสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้

Phil Schiller หัวหน้าฝ่ายการตลาดของแอปเปิล ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์เนเธอร์แลนด์ Bright พูดถึงเทคโนโลยียืนยันตัวตนด้วยใบหน้า Face ID ว่าทำให้ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นสำหรับผู้ใช้

นอกจากนี้ Phil ยังพูดถึงเทคโนโลยียืนยันตัวตนด้วยใบหน้าของสมาร์ทโฟนรายอื่นว่า "ห่วยทั้งนั้น" (They all stink.) โดยอธิบายว่าเทคโนโลยีเหล่านั้น ไม่ได้มีวิธีการทำงานในแบบที่ Face ID ใช้งาน และบอกได้ว่า Face ID เป็นรูปแบบการทำงานที่มีความเฉพาะตัวไม่เหมือนกับของคนอื่น

Steve Wozniak ผู้ร่วมก่อตั้งแอปเปิลไปร่วมพูดในงาน Pivot Summit โดยเขาได้พูดในหลายประเด็นที่น่าสนใจ รวมทั้ง iPhone X ที่เขาบอกว่าจะไม่ไปซื้อตั้งแต่วันแรกที่วางจำหน่าย เหมือนกับรุ่นก่อนหน้าที่เขามักไปซื้อวันแรก

Wozniak บอกว่าหลังเขาพูดออกสื่อเรื่อง iPhone X แบบนั้น ซีอีโอแอปเปิล Tim Cook ก็ได้นำ iPhone X มาให้เขาใช้งานเป็นการส่วนตัวเลย ซึ่งเขาบอกว่า "ก็ชอบอยู่นะ"

ในการยืนยันตัวตนของ iPhone นั้น บนเงื่อนไข Touch ID เดิม ผู้ใช้บางคนก็อาศัยเงื่อนไขที่ iOS ออกแบบมาให้จำลายนิ้วมือได้สูงสุด 5 นิ้ว เลยใส่ลายนิ้วมือคนอื่นเข้ามา ทำให้สามารถปลดล็อกได้หลายคน แต่เมื่อ iPhone X ใช้ Face ID ซึ่งตอนนี้ชัดเจนว่าทำได้มากที่สุดคือหน้าตาคล้ายคลึงกัน จึงมีคำถามว่าอนาคตแอปเปิลจะทำให้ปลดล็อกได้หลายหน้าแบบ Touch ID หรือไม่?

มีผู้ใช้ Reddit ได้ลองอีเมลไปถามหัวหน้าฝ่ายซอฟต์แวร์ของแอปเปิล Craig Federighi ว่าจะมีโอกาสได้เห็นการสนับสนุนการทำงานแบบ 2 ใบหน้าใน iPhone เครื่องเดียวหรือไม่

Tom's Guide เว็บไซต์รีวิวแก๊ทเจ็ทและแนะนำการแก้ปัญหาต่างๆ ได้จับสมาร์ทโฟนเรือธงหลายรุ่นมาทดสอบความเร็วของฟีเจอร์ Fast Charge ที่แทบจะเป็นฟีเจอร์พื้นฐานบนสมาร์ทโฟนในปีนี้

การทดสอบจะแบ่งเป็นสองช่วงคือ % ของแบตเตอรี่ในช่วง 30 นาทีและ 60 นาทีนับจาก 0 โดยอาศัยที่ชาร์จที่แถมมาให้ในกล่อง ยกเว้น iPhone ทั้ง 3 รุ่นในปีนี้ที่ใช้อแดปเตอร์ 29 วัตต์ที่ซื้อเพิ่ม เนื่องจากอแดปเตอร์ที่แถมมาให้ในกล่องไม่รองรับฟีเจอร์ Fast Charge

มีรายงานจากผู้ใช้ iPhone X บางคน ว่าหลังจากอัพเดต iOS เป็นเวอร์ชันล่าสุด 11.2 ที่ออกมาแบบกะทันหันเมื่อวานนี้ ก็ทำให้ไม่สามารถใช้งาน Face ID ได้ตามปกติ โดยขึ้นข้อความเตือนว่า "Face ID is Not Available"

แอปเปิลไม่ได้ออกรายละเอียดอย่างเป็นทางการ แต่วิธีแก้ไขที่มีรายงานออกมานั้นสามารถทำได้ไม่ยาก โดย ปิดและเปิด iPhone X ขึ้นมาใหม่ ก็จะสามารถใช้งาน Face ID แต่หากยังใช้งานไม่ได้อีก ให้ตรวจสอบดูว่าได้ตั้งวันและเวลาในโทรศัพท์เป็นอัตโนมัติหรือไม่ เนื่องจากปัญหาดังกล่าวนี้พบมากในผู้ใช้ iPhone X ที่แก้ปัญหาเครื่องรีบูทชั่วคราวด้วยการเปลี่ยนวันที่ก่อนหน้านี้

iPhone X เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทยแล้ว และด้วยความที่ผมมีโอกาสได้ถือเล่นครึ่งวันและมี Pixel 2 (รุ่นไม่ XL ซึ่งฟีเจอร์กล้องไม่ต่างกัน) เองอยู่ในมือ ก็เลยลองจับเรือธงสองค่ายนี้มาถ่ายรูปเทียบกันแบบมือสมัครเล่น โดยเป็นโหมดออโต้ธรรมดา (Pixel ตั้ง Auto White Balance ด้วย) และ Portrait ครับ

คำเตือน รูปค่อนข้างเยอะนะครับ

iPhone X เริ่มจำหน่ายมากขึ้นในหลายประเทศ และแอพการเงิน ธนาคาร หลายแอพก็เริ่มรับรองการยืนยันตัวตนในแอพด้วยใบหน้า Face ID แต่ที่เกาหลีใต้ แอพธนาคารทั้งหลายต่างเลือกที่จะไม่รับรองไปก่อนในตอนนี้ ขณะที่แอพธนาคารหลายแห่งทั่วโลก รวมทั้งในไทย ต่างรองรับคุณสมบัติดังกล่าวกันแล้ว

โอกาสมาถึงแล้ว เมื่อมีนักพัฒนาได้สร้างแอป XOutof10 เพื่อมอบประสบการณ์การได้ทดลองใช้งานหน้าจอที่มีฟีเจอร์สำคัญของ iPhone X อย่างติ่งหู (Notch) ให้กับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน Android

XOutOf10 จะสร้างแถบสีดำไว้ที่ด้านบนของหน้าจอเลียนแบบติ่งหูของ iPhone X ที่อัดแน่นไปด้วยเซ็นเซอร์และกล้องหน้า โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้งานอื่นๆ

เรียกว่ามีอัพเดตถี่กว่าใครๆ แล้ว โดยล่าสุดแอปเปิลได้ออกอัพเดต iOS เวอร์ชัน 11.1.2 ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาของ iPhone X ที่มีรายงานออกมาก่อนหน้านี้

• แก้ปัญหาหน้าจอ iPhone X ไม่ตอบสนองชั่วคราว หากอุณหภูมิรอบๆ ลดลงอย่างรวดเร็ว
• แก้ไขภาพเบี้ยวใน Live Photos และวิดีโอ บน iPhone X

ผู้ใช้ iOS สามารถอัพเดตได้ที่หน้า Software Update ใน Settings

ที่มา: Ars Technica

ประเด็นเรื่องขอบจอด้านบนของ iPhone X ดูจะเป็นประเด็นมาตั้งแต่เปิดตัว ล่าสุดมีนักพัฒนาเขียนแอป Notch Remover เพื่อจัดการกับขอบด้านบนของ iPhone X ซึ่งก้ได้รับการรับรองจากแอปเปิลให้ขึ้น App Store แล้ว

การทำงานของแอปคือเพิ่มแถบดำด้านบนของเจอบริเวณที่เป็นติ่งหูเสริมเข้าไปในวอลเปเปอร์ที่ผู้ใช้เลือก ช่วยให้เหมือน iPhone X แสดงผลถึงแค่ใต้กล้อง TrueDepth เท่านั้น โดย Notch Remover ขายที่ 0.99 เหรียญ

ที่มา - MacRumors

เมื่อ iPhone รุ่นประจำปีออกวางจำหน่าย ก็ถึงเวลาของข่าวลือ iPhone ที่จะออกมาในปีหน้า โดยนักวิเคราะห์ Ming-Chi Kuo จาก KGI ที่มีประวัติทายรายละเอียด iPhone แม่นยำที่สุดมาหลายปี ได้ออกรายงานถึง iPhone รุ่นใหม่ ซึ่งบอกว่าแอปเปิลจะออกมาทั้งหมด 3 รุ่น ดังนี้

• iPhone X จะมีรุ่นใหม่จอใหญ่ขึ้นชื่อ iPhone X Plus มีขนาดจอ 6.5 นิ้ว OLED
• iPhone X รุ่นอัพเกรด ขนาดจอ 5.8 นิ้ว OLED เท่าเดิม
• iPhone รุ่นจอ LCD ขนาด 6.1 นิ้ว ใช้ Face ID วางตำแหน่งเป็นรุ่นล่างที่สุด

Kuo บอกว่าแนวทางของ iPhone ปีหน้าจะเป็นในทิศทางเดียวกันทั้งหมดคือใช้ Face ID, ตัด Touch ID ออกไปเลย และหน้าจอไร้ขอบหรือขอบบางลงมากสำหรับรุ่น LCD และมีกำหนดวางขายตามรอบปกติคือปลายปี 2018

Face ID กลายเป็นเป้าหมายใหม่ของนักวิจัยที่จะทดสอบความทนทานการถูกหลอก วันนี้ทีมวิจัยจาก Bkav บริษัทซอฟต์แวร์ความปลอดภัยเวียดนามก็แถลงความสำเร็จในการสร้างใบหน้าสามมิติหลอก Face ID

ทาง Bkav ระบุว่า Face ID อาศัยการจับใบหน้าสามมิติของโครงหน้าโดยรวม และประมวลผลบางจุดเป็นพิเศษเช่นรอบดวงตา, จมูก, และปาก ทีมงานพิมพ์โครงหน้าสามมิติ และอาศัยภาพสีสองมิติของจุดสำคัญมาแปะบนโครงหน้าเพื่อหลอก Face ID ได้ โดยจมูกนั้นต้องอาศัยช่างฝีมือสร้างขึ้นมาเฉพาะ

ต้นทุนของการสร้างใบหน้าหลอกอยู่ที่ 150 ดอลลาร์หรือ 5,000 บาท โดยการสแกนใบหน้าสามมิตินั้นทำได้ไม่ยากนัก โทรศัพท์เช่น Sony XZ1 มีสแกนเนอร์สามมิติในตัว หรืออาจจะใช้เครื่องสแกนระดับมืออาชีพก็ได้เช่นกัน

Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์จากบริษัท KGI Securities ที่มีประวัติให้ข้อมูลสินค้าแอปเปิลได้แม่นยำมากที่สุด ออกรายงานล่าสุดว่า iPhone 8 มีความต้องการน้อยกว่าที่แอปเปิลคาด ส่งผลให้แอปเปิลสั่งโรงงาน Pegatron ให้ลดกำลังการผลิตในไตรมาสแรกของปีหน้าลง 50-60% จากไตรมาสปัจจุบัน

iPhone 8 Plus กลายเป็นรุ่นที่มีผู้ซื้อเพิ่มมากขึ้นแทนเนื่องจากส่วนต่างราคาที่ไม่มาก รายงานยังระบุว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะกระทบกับ Pegatron ที่เป็นโรงงานประกอบ เพราะได้การชดเชยจากคำสั่งผลิต iPhone 8 Plus และรุ่นใหม่ในอนาคตแทน

มีผู้ใช้ iPhone X หลายราย รายงานปัญหาพบเจอเส้นสีเขียวที่ขอบจอ การรายงานปัญหานี้มีทั้งใน Apple Forum, Reddit และในโซเชียลมีเดียต่างๆ

ตอนนี้ยังไม่มีคำยืนยันจากแอปเปิลว่าปัญหานี้เกิดจากอะไร และมีผู้ได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหน

ที่มา - Engadget

มีผู้ใช้ iPhone X บางส่วนรายงานปัญหาการใช้งานใหม่ โดยพบว่าเมื่ออยู่ในสภาพอากาศหนาวจัด หน้าจอสัมผัสจะไม่ตอบสนองการทำงาน ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ ตัวอย่างเช่นผู้ใช้รายหนึ่งในฟินแลนด์ (ซึ่งอากาศหนาวจัด) บอกว่าหน้าจอจะไม่ตอบสนอง แต่พอเวลาผ่านไป 3-5 นาที ก็กลับใช้งานได้ปกติ

ในตอนแรกหลายคนก็ไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่าเป็นปัญหาได้หรือไม่ เพราะในเอกสารสนับสนุนของแอปเปิลก็ระบุการใช้งานที่เหมาะสมไว้นานแล้วว่า

โปรดใช้งานอุปกรณ์ iOS ในที่ซึ่งมีอุณหภูมิระหว่าง 0º และ 35º C (32º หรือ 95º F) สภาวะอุณหภูมิที่ต่ำหรือสูงกว่านี้อาจทำให้อุปกรณ์มีการทำงานที่เปลี่ยนไปเพื่อปรับอุณหภูมิของเครื่องให้เป็นปกติ

การ Drop Test กับสมาร์ทโฟนรุ่นต่างๆ น่าจะเป็นเรื่องปกติในการทดสอบความทดทานของหน้าตอและตัวเครื่องอย่างง่ายว่ามากน้อยแค่ไหน และด้วยราคาค่าตัวของ iPhone X ที่ทะลุ 4 หมื่นบาทในไทย ก็ยิ่งน่าสนใจว่า iPhone ครบรอบ 10 ปีของแอปเปิลเครื่องนี้บอบบางแค่ไหน

CNET ได้จับ iPhone X สองเครื่องมาทดสอบทั้งรอยขีดข่วนจากกุญแจและ Drop Test โดยการทดสอบรอยขีดข่วนกับกุญแจ ทั้งหน้าจอและกระจกหลัง ไปจนถึงขอบที่เป็นโลหะไร้สนิม ด้วยแรงกดปานกลาง ไม่สามารถทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้ ขณะที่เมื่อทดสอบกับกระดาษทรายเบาๆ ก็ไม่แคล้วที่จะเป็นรอบ

วันนี้หน้า Apple Store Online ของไทยระบุวันวางจำหน่าย iPhone X ในไทยแล้ว เป็นวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งถือว่าค่อนข้างเร็วหลังจากที่ iPhone X เริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ส่วนราคาของ iPhone X ขนาด 64GB เริ่มที่ 40,500 บาทและ 256GB ที่ 46,500 บาท

ที่มา - Apple Store

DisplayMate ผู้เชี่ยวชาญด้านจอภาพได้ทดสอบจอของ iPhone X โดยชื่นชมว่าจอของ iPhone X นั้นเปี่ยมไปด้วยนวัตกรรมและมีประสิทธิภาพสูงมากจากหน้าจอสมาร์ทโฟนทั้งหมดที่เคยทดสอบมา ซึ่งยังได้แสดงความยินดีกับ Samsung Display ด้วยว่าได้พัฒนาและผลิตจอ OLED บน iPhone X ที่เยี่ยมยอด

จากการทดสอบ DisplayMate ให้ความเห็นว่า iPhone X ให้สีที่ตรงที่สุด, แสงจอสว่างที่สุดในหมวด OLED, คอนทรานสต์ดีที่สุด และมีการสะท้อนต่ำที่สุด

DxOMark ได้ออกผลการทดสอบการถ่ายภาพและวิดีโอสำหรับกล้องบน iPhone X แล้ว ซึ่งทางเว็บไซต์ได้ให้คะแนนรวมทั้งหมด 97 คะแนน เป็นรองเพียง Pixel 2 ซึ่งยังครองอันดับหนึ่งอยู่ที่ 98 คะแนน

จากกรณีมีผู้ทดลองปลดล็อก Face ID บน iPhone X โดยใช้ใบหน้าของน้องชายที่คล้ายกันแล้วสามารถปลดล็อกได้ จนเป็นกระแสว่า Face ID น่าจะมีช่องโหว่เยอะนั้น ล่าสุดเจ้าของคลิปได้ออกมายอมรับแล้วว่า iPhone X นี้มีการตั้งค่าหลอกเอาไว้ก่อนถ่ายทำคลิป ทำให้สามารถปลดล็อกได้

หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีประเด็นเรื่องการใช้ฝาแฝดปลดล็อค Face ID บน iPhone X ได้ ซึ่งถึงแม้จะยังเป็นที่สงสัยว่าการทดลองดังกล่าวของ Mashable น่าเชื่อถือแค่ไหน แต่ก็น่าจะก่อให้เกิดข้อสงสัยกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของ Face ID อยู่บ้างไม่มากก็น้อย

ล่าสุดมีผู้ใช้บน Reddit โพสต์กระทู้ระบุว่า iPhone X ของเขาสามารถถูกปลดล็อคได้ด้วยน้องชายแท้ๆ ของเขา โดยทั้งสองคนอายุห่างกัน 5 ปีและไม่ได้เป็นฝาแฝด แค่ใส่แว่นที่มีลักษณะเดียวกันเท่านั้น โดยในคลิปคนพี่ที่เป็นเจ้าของ iPhone X ส่งเครื่องให้คนน้องปลดล็อคโดยถอดแว่นก่อนซึ่งก็ไม่สามารถปลดล็อคได้ ก่อนที่จะให้คนน้องใส่แว่นและปลดล็อกอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้สำเร็จ

ซัมซุงออกโฆษณาตัวใหม่ทาง YouTube ช่อง Samsung Mobile USA ชื่อว่า Growing Up เนื้อหาพุ่งไปที่ iPhone X แบบอ้อมๆ โดยเล่าเรื่องของชายคนหนึ่งที่ไปซื้อ iPhone รุ่นแรกตั้งแต่ปี 2007 และยังคงอัพเกรด iPhone เป็นรุ่นใหม่ๆ ต่อเนื่องมาโดยตลอด

เนื้อหาพูดถึงปัญหาที่เขาเจอในการใช้ iPhone ซึ่งคนที่ใช้ Galaxy ไม่เจอในตอนนั้น อาทิ ถ่ายภาพไม่ได้เพราะพื้นที่เต็ม, จอเล็ก, ไม่สามารถกันน้ำได้, ไม่มี Stylus และต้องใช้ Dongle เพื่อฟังเพลงและชาร์จแบตเตอรี่ไปพร้อมกัน

เนื้อหาจบลงที่เขาตัดสินใจซื้อสมาร์ทโฟน Galaxy แล้วเดินผ่านคิวคนที่รอซื้อ iPhone X ไปอย่างไม่ไยดี

ที่มา: MacRumors

iPhone X ถือเป็นสมาร์ทโฟนตัวแรกของแอปเปิลที่ใช้หน้าจอ OLED ซึ่งที่ผ่านมาเราเห็นสมาร์ทโฟนค่ายอื่นเจอปัญหาจากจอประเภทนี้อยู่บ้าง (ล่าสุดก็ Pixel 2 XL) แอปเปิลจึงออกตัวไว้ก่อนเลยว่าปัญหาเหล่านั้นก็อาจเกิดได้เช่นกัน