TOP500 ประกาศผลคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงสุดรอบเดือนมิถุนายน 2020 โดยเครื่อง Supercomputer Fugaku ขึ้นอันดับหนึ่งด้วยประสิทธิภาพสูงสุด 415.5 เพตาฟลอบสูงกว่าเครื่อง Summit แชมป์เก่าถึง 2.8 เท่าตัว จุดสำคัญคือมันใช้ซีพียู Fujitsu A64FX ที่เป็นสถาปัตยกรรม ARM เครื่องแรกที่ได้ที่หนึ่งในรายการ TOP500 โดยเครื่องติดตั้งที่ศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์การประมวลผล RIKEN
IBM ในฐานะผู้ผลิตซูเปอร์คอมพิวเตอร์รายใหญ่ ร่วมมือกับห้องวิจัยแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา, NASA, สถาบันการศึกษา และบริษัทคลาวด์ 3 ยักษ์ใหญ่ (AWS, Microsoft, Google) ตั้งกลุ่ม COVID-19 High Performance Computing Consortium เปิดซูเปอร์คอมพิวเตอร์พลังสูงๆ ให้นักวิจัยเข้ามาขอใช้งานเกี่ยวกับ COVID-19 ได้ฟรี
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่นำมาเปิดให้ใช้งานมีทั้งหมด 16 ระบบ ซีพียูรวมกัน 750,000 ตัว, จีพียูรวมกัน 34,000 ตัว, สมรรถนะรวมกัน 330 petaflops ซึ่งรวมถึง Summit ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่แรงที่สุดในโลก ที่เพิ่งใช้คำนวณหาสารที่ใช้ทำยารักษา COVID-19 ด้วย
ห้องวิจัยแห่งชาติ Oak Ridge National Laboratory (ORNL) ของกระทรวงพลังงานสหรัฐ เป็นเจ้าของ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์อันดับหนึ่งของโลก Summit มาตั้งแต่ปี 2018 ล่าสุด ORNL ประกาศว่านำ Summit มาใช้วิเคราะห์สารประกอบของตัวยา (drug compound) เพื่อพัฒนาวัคซีนต่อต้านไวรัส SARS-CoV-2 ที่เป็นต้นเหตุของโรค COVID-19
นักวิจัยนำ Summit มารันซิมูเลเตอร์เพื่อทดสอบสารประกอบกว่า 8,000 ตัว คัดหาสารประกอบที่มีโอกาสไปเกาะกับหนาม (spike) ของไวรัสโคโรนา เพื่อไม่ให้ไวรัสไปติดเซลล์ ผลคือสามารถคัดหาสารประกอบ 77 ชนิด ที่จะนำไปคัดเลือกต่อในขั้นถัดไป
K Computer ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่แรงที่สุดในโลกช่วงปี 2011 ถึงคราวต้องถูกปลดระวางแล้ว
K Computer ตั้งอยู่ที่ศูนย์วิจัย RIKEN Center for Computational Science ที่เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง RIKEN กับบริษัท Fujitsu และเคยมีนักวิจัยมากกว่า 2,500 คนได้ใช้ประโยชน์จากซูเปอร์คอมพิวเตอร์เครื่องนี้
ปัจจุบัน K Computer มีอันดับร่วงมาอยู่ที่ 20 และเทคโนโลยีหลายๆ อย่างก็เริ่มล้าสมัยแล้ว (ซีพียูเป็น SPARC64 ของ Fujitsu และไม่ใช้จีพียูช่วยเร่งการประมวลผลเลย) ทางศูนย์วิจัย RIKEN จึงตัดสินใจหยุดงานประมวลผลเมื่อวานนี้ (16 ส.ค.) และจะปิดเครื่องวันที่ 30 ส.ค. เพื่อเริ่มถอดรื้อเครื่อง
Cray Inc. บริษัทซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ที่เพิ่งโดน HPE ซื้อกิจการเมื่อเดือน พ.ค. แต่ยังไม่เสร็จกระบวนการ ประกาศคว้าชัย ชนะสัญญาของกระทรวงพลังงานสหรัฐ สร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ตัวใหม่ "El Capitan" มูลค่า 600 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท)
สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ไม่ได้จำกัดแค่ Huawei เท่านั้น ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ เพิ่มบริษัทซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของจีนอีก 5 รายเข้ารายชื่อบริษัทที่ห้ามทำการค้าด้วย เพื่อไม่ให้บริษัทเหล่านี้สามารถซื้อชิปจากสหรัฐได้
บริษัททั้ง 5 รายได้แก่ Higon, Chengdu Haiguang Integrated Circuit, Chengdu Haiguang Microelectronics Technology, Sugon, Wuxi Jiangnan Institute of Computing Technology ส่วนเหตุผลในการแบนคือ "มีความเสี่ยงต่อความมั่นคงหรือผลประโยชน์ของสหรัฐ"
Ian Buck รองประธาน Nvidia ฝ่าย accelerated computing ที่ดูแลธุรกิจซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระบุกับสำนักข่าว Reuters ว่าลูกค้าที่เป็นนักวิจัยในยุโรปและญี่ปุ่นเรียกร้องให้บริษัทรองรับชิป Arm เป็นทางเลือกที่สามจากชิป POWER ของ IBM และ Xeon ของ Intel และคาดว่าจะเริ่มพร้อมใช้งานได้ในปีนี้
ที่ผ่านมา Nvdia ทำงานร่วมกับ Arm บ้างเช่นบอร์ด Jetson ที่ใช้ซีพียูเป็น Arm มาตลอด แต่ยังไม่มีการใช้งานกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์พลังประมวลผลสูงๆ นัก การประกาศครั้งนี้ทาง Nvidia จะพอร์ตซอฟต์แวร์สำคัญๆ สำหรับการพัฒนาระบบประมวลผลประสิทธิภาพสูง ให้รันบน Arm ได้ทั้งหมด เช่น CUDA-X, คอมไฟล์เลอร์ PGI, และไลบรารีสำหรับงานประมวลผลประสิทธิภาพสูงอื่น
กระทรวงพลังงานสหรัฐประกาศเตรียมสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ชื่อว่า Frontier ที่จะมีความเร็วสูงที่สุดในโลก ซึ่งผลิตโดย Cray บริษัทผู้ผลิตซูเปอร์คอมพิวเตอร์รายใหญ่ ร่วมมือกับ AMD กำหนดเปิดตัวในปี 2021 โดยนำมาใช้งานในห้องวิจัย Oak Ridge National Laboratory
สำหรับสมรรถนะของ Frontier จะอยู่ที่ระดับ 1.5 exaFLOP (เอกซาฟลอป) โดยนำมาใช้ในงานวิจัยด้าน AI เพื่อให้เห็นภาพความเร็วในการประมวลผล AMD ระบุว่า Frontier มีสมรรถนะเท่ากับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ 160 อันดับแรกของโลกปัจจุบันรวมกัน
อินเทลประกาศสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่มีสมรรถนะระดับ 1 exaFLOP โดยมีชื่อว่า Aurora และมีกำหนดเสร็จในปี 2021
ปัจจุบัน ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลกคือ Summit มีสมรรถนะประมาณ 143.5 petaFLOP นั่นแปลว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Aurora จะมีสมรรถนะเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 10 เท่าตัวภายใน 2 ปีข้างหน้านี้
Aurora จะสร้างโดยบริษัท Cray Inc. โดยใช้เทคโนโลยีของอินเทลทั้งชุด ได้แก่ ซีพียู Xeon Scalable ตัวใหม่ที่ใช้สถาปัตยกรรมตัวใหม่ Xe, Intel Optane DC Persistent Memory รุ่นถัดไป รวมกับบัสความเร็วสูง Slingshot ของ Cray และระบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์ “Shasta” รุ่นใหม่ของ Cray เช่นกัน
รายการจัดอันดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ TOP500 ประกาศรายการเดือนพฤศจิกายน เครื่องของสหรัฐฯ สองเครื่อง คือเครื่อง Summit ที่เพิ่งชิงที่หนึ่งมาได้ และเครื่อง Sierra ได้อัพเกรดขึ้นมาจนได้อันดับหนึ่งและสอง ดันเครื่อง TaihuLight ของจีนลงไปอยู่อันดับสาม
เครื่อง Summit อัพเกรดจากรอบที่แล้วที่ประสิทธิภาพ 122.3 เพตาฟลอบมาเป็น 143.5 เพตาฟลอบ และเครื่อง Sierra อัพเกรดจาก 71.6 เพตาฟลอบมาเป็น 94.6 เพตาฟลอบ ทั้งสองเครื่องใช้ซีพียู IBM POWER9 และชิปกราฟิก NVIDIA V100
ที่มา - TOP500
สหรัฐฯ อาจจะกลับมาได้แชมป์ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ Top500 อีกครั้ง หลังจากเครื่อง Titan เสียแชมป์ให้กับเครื่อง Tianhe-2 ไปตั้งแต่ปี 2013 โดยเครื่องซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ล่าสุดที่น่าจะเข้า Top500 กลางปีนี้คือเครื่อง Summit ของ Oak Ridge National Laboratory (ORNL) ห้องวิจัยของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ
ทางการรัสเซียจับกุมนักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานอยู่ในศูนย์วิจัยและพัฒนาหัวรบนิวเคลียร์หลายคน ด้วยข้อหาแอบนำซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของศูนย์ไปใช้ "ขุดเหมือง"
เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ Federal Nuclear Centre ในเมือง Sarov ทางตะวันออกของกรุงมอสโก เป็นเขตหวงห้ามที่มีความลับทางการทหาร ระเบิดนิวเคลียร์ลูกแรกของโซเวียตก็ถูกสร้างขึ้นที่นี่ ปัจจุบันมีข้อมูลว่ามีคนทำงานในนี้ประมาณ 20,000 คน (ไม่ใช่ตัวเลขเป็นทางการ)
ศูนย์วิจัยแห่งนี้มีซูเปอร์คอมพิวเตอร์สมรรถนะ 1 petaflops ที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเพื่อป้องกันความลับรั่วไหล แต่นักวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่งพยายามใช้มันต่อเน็ต ทำให้ศูนย์ตรวจพบความผิดปกติและนำไปสู่การจับกุม
การจัดอันดับซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ Top500 รอบล่าสุดเดือนพฤศจิกายน 2017 เพิ่งออกมาวันนี้ ความเปลี่ยนแปลงสำคัญคือระบบปฎิบัติการตระกูลยูนิกซ์สองเครื่องสุดท้าย หลุดออกจากอันดับเรียบร้อยแล้ว หลังจากอยู่ในอันดับอยู่สองเครื่องมานานหนึ่งปี (ปี 2016 ยังมี 3 เครื่อง) ทำให้รอบนี้ลินุกซ์ครองรายการทั้งหมด 500 เครื่อง รวม 69 ล้านคอร์ เทียบกับปลายปีที่แล้วที่ Top500 มีจำนวนคอร์รวมประมาณ 44 ล้านคอร์เท่านั้น
ลินุกซ์ที่ได้รับความนิยมอันดับหนึ่ง (ไม่รวมที่ปรับแต่งเองเฉพาะกิจ) คือ CentOS ที่มีการใช้งานถึง 109 เครื่อง รวม 26.7 ล้านคอร์ รวมพลังประมวลผล Rmax 128 เพตาฟลอบ Rpeak 231 เพตาฟลอบ รองลงไปได้แก่ Cray Linux Environment และ SUSE Linux Enterprise Server 11
ไมโครซอฟท์ประกาศความร่วมมือกับ Cray ผู้ผลิตซูเปอร์คอมพิวเตอร์ชื่อดัง นำระบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ Cray ไปให้บริการบนคลาวด์ Azure
กลุ่มเป้าหมายของความร่วมมือครั้งนี้คือ ลูกค้า Azure ที่ต้องการเครื่องแรงสุดๆ ไปใช้งานประมวลผลขนาดใหญ่ (Big Computing) แต่อาจไม่มีงบประมาณเยอะพอสำหรับซื้อเครื่อง Cray ถาวร ก็สามารถใช้วิธีเช่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์เฉพาะช่วงที่ต้องใช้งาน
Cray ระบุว่านำเครื่องรุ่น Cray XC series, Cray CS series, Cray ClusterStor มาให้บริการบน Azure โดยเชื่อมต่อกับบริการอื่นๆ ของ Azure เพื่อให้ย้ายข้อมูลไปมาได้ง่ายอีกด้วย
สถานีอวกาศนานาชาติ กำลังจะมีซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของตัวเองเป็นครั้งแรก ในชื่อว่า Spaceborne Computer เป้าหมายของมันคือลองนำซูเปอร์คอมพิวเตอร์ไปทำงานบนอวกาศนาน 1 ปีเต็ม เพื่อทดสอบการใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์กับภารกิจที่ยาวนานกว่านั้น อย่างการเดินทางไปดาวอังคาร
ที่ผ่านมา การประมวลผลส่วนใหญ่ของสถานีอวกาศนานาชาติเกิดขึ้นบนโลก เพราะบนสถานีอวกาศมีพื้นที่และทรัพยากรจำกัด แต่ข้อเสียของแนวทางนี้คือต้องส่งข้อมูลกลับไปกลับมาระหว่างสถานีกับโลก ซึ่งจะกลายเป็นปัญหาใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ ตามระยะห่างระหว่างยานอวกาศกับโลก การมีพลังประมวลผลให้ใช้งานบนยานอวกาศเลยจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับภารกิจพิชิตดาวอังคาร
กระทรวงพลังงานสหรัฐ ให้งบวิจัย 258 ล้านดอลลาร์กับบริษัทไอที 6 ราย เพื่อเร่งผลักดันซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับ exaflop ให้สำเร็จภายในปี 2021
บริษัททั้ง 6 รายได้แก่ AMD, Cray, HPE, IBM, Intel, NVIDIA โดยกระทรวงพลังงานจะอุดหนุนงบ 60% หรือคิดเป็น 258 ล้านดอลลาร์ ที่เหลืออีก 40% บริษัทเหล่านี้จะช่วยกันจ่ายให้มีงบรวมอย่างน้อย 430 ล้านดอลลาร์ เงินก้อนนี้จะถูกใช้พัฒนาทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และแอพพลิเคชันสำหรับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับ exaflop (exascale supercomputer) ให้เสร็จเร็วขึ้น จากเดิมวางเป้าไว้ปี 2023 เป็น 2021
ตอนนี้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์อันดับหนึ่งของโลกคือ Sunway TaihuLight จากประเทศจีน สมรรถนะ 93 เพตาฟลอป แต่ก็มีหลายประเทศประกาศว่าจะโค่นแชมป์ให้ได้ โดยญี่ปุ่นประกาศทำซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับ 130 เพตาฟลอป และบริษัท Cray ประกาศทำซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับ 500 เพตาฟลอป
แต่ความพยายามเหล่านี้อาจสูญเปล่า เพราะรัฐบาลจีนประกาศว่าใกล้สร้างต้นแบบของซูเปอร์คอมพิวเตอร์รุ่นถัดไปที่สมรรถนะทะลุ 1,000 เพตาฟลอป (หรือ 1 เอกซาฟลอป) สำเร็จแล้ว ถือเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่เข้าถึงระดับ exascale
รัฐบาลญี่ปุ่น นำโดยกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (METI) จะทุ่มเงิน 173 ล้านดอลลาร์ สร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลก 130 petaflops (เหนือกว่าแชมป์ปัจจุบัน Sunway TaihuLight ของจีนที่สมรรถนะ 93 petaflops) เพื่อกลับมายืนแถวหน้าในวงการเทคโนโลยีอีกครั้ง
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ชื่อว่า ABCI ย่อมาจาก AI Bridging Cloud Infrastructure จะตั้งอยู่ที่ National Institute of Advanced Industrial Science and Technology (AIST) และใช้พัฒนาเรื่อง AI, deep learning โดยจะเปิดให้บริษัทญี่ปุ่นเข้ามาเช่าใช้ได้ด้วย แทนการไปเช่าระบบคลาวด์ของบริษัทต่างชาติ
โครงการนี้จะเปิดให้บริษัทไอทีเข้ามาประมูล และประกาศผลวันที่ 8 ธันวาคมนี้
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่แรงที่สุดในโลกตอนนี้คือ Sunway TaihuLight ของจีน ที่มีพลังประมวลผล 93 เพตาฟลอป แต่บริษัท Cray ก็ออกมาประกาศท้าทายตัวเลขนี้ โดยจะสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์สมรรถนะ 500 เพตาฟลอปขึ้นมาให้ได้
เครื่องรุ่นใหม่ล่าสุดของ Cray ใช้ชื่อรุ่นว่า Cray XC50 (นับต่อจากรุ่นเดิม XC40) ตอนนี้ยังมีรายละเอียดออกมาไม่เยอะนัก บอกเพียงว่าจะใช้ซีพียู Xeon รุ่นถัดไป, ตัวช่วยประมวลผล Xeon Phi และเร่งการประมวลผลด้วย NVIDIA Tesla P100 สมรรถนะต่อ 1 กล่อง (cabinet) สามารถทำได้ 1 เพตะฟลอป และสมรรถนะสูงสุดของทั้งระบบคือ 500 เพตะฟลอป
การจัดอันดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลก 500 อันดับแรกครั้งล่าสุด หรือ TOP500 ประกาศผลอย่างเป็นทางการแล้วว่า Sunway TaihuLight ของ National Supercomputing Center in Wuxi จากจีน ครองแชมป์ต่อเนื่องเป็นสมัยที่ 2 และด้วยจำนวนโปรเซสเซอร์สัญชาติจีนตระกูล Sunway (รหัส SW26010) ที่มีมากถึง 10,649,600 คอร์ พร้อมด้วยหน่วยความจำหลักขนาดมหึมาที่มีมากกว่า 1.31 ล้านกิกะไบต์ ทำให้ Sunway TaihuLight มีพลังประมวลผลถึง 93 เพตาฟลอป เอาชนะทิ้งห่างอันดับสองที่มีพลังประมวลผล 33.9 เพตาฟลอป นั่นคือ Tianhe-2 จากจีน แชมป์ปี 2013-2015 ไปอย่างขาดลอย
Cray ผู้ผลิตซุปเปอร์คอมพิวเตอร์กำลังพิจารณาให้บริการ Super Computer as a Service เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับองค์กรที่ต้องการใช้งานประสิทธิภาพของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ แต่ไม่สามารถรองรับค่าใช้จ่ายฮาร์ดแวร์ได้
Barry Bolding หัวหน้าอาวุโสฝ่ายแผนการของ Cray ระบุว่าปัญหาขององค์กรที่ใช้งานระบบคลาวด์ คือลูกค้าไม่ค่อยรู้เรื่องระบบหรือโครงสร้างเบื้องหลัง ขณะที่การให้บริการซูเปอร์คอมพิวเตอร์นั้น ความรู้เรื่องระบบและโครงสร้างค่อนข้างสำคัญ เพื่อทำให้การใช้งานเกิดประสิทธิภาพสูงที่สุด โดยบริษัทพุ่งเป้าไปที่ลูกค้าที่ต้องการซิมูเลชันและการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่
จีนประกาศแผนการสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับเอ็กซะฟลอป (10^18 FLOPS) โดยจะใช้เชื่อว่า Tienhe-3 ภายในปี 2020 ซึ่งเร็วกว่าแผนของสหรัฐที่ตั้งใจจะสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับนี้ในปี 2023
อย่างไรก็ตาม Steve Conway ผู้เชี่ยวชาญจาก IDC ระบุถึงแม้ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน การสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับเอ็กซะฟลอปอาจได้ แต่อุปสรรคยังคงเป็นเรื่องของพลังงานที่อาจต้องใช้ถึง 20-30 เมกะวัตต์ รวมไปถึงความสามารถของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในการใช้งานจริง ที่ต้องประมวลผลระดับเอ็กซะฟลอปอย่างต่อเนื่อง ที่น่าจะทำได้จริงในช่วงปี 2022-2024 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สหรัฐตั้งไว้มากกว่า
การจัดอันดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์โลก Top500 รอบปลายปี 2015 (ข่าวของรอบกลางปี 2015) แชมป์เก่า Tianhe-2 จากจีน ยังรักษาแชมป์ต่อได้เป็นสมัยที่ 6 ด้วยสมรรถนะ 33.86 petaflop/s เท่าเดิม (ไม่ได้อัพเกรด)
อันดับถัดๆ มายังคงเดิม (ล้วนเป็นอดีตแชมป์เก่า) คืออันดับสอง Cray Titan, อันดับสาม IBM Sequoia, อันดับสี่ Fujitsu K Computer
หน้าใหม่ใน Top 10 มีสองรายคือ Cray Trinity เข้ามาอันดับเจ็ด และ Cray Hazel Hen ของเยอรมนี ติดอันดับแปด
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ประกาศผลักดันโครงการ National Strategic Computing Initiative เพื่อให้สหรัฐอเมริกาสามารถสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับ exascale ที่มีสมรรถนะเกิน 1 exaflop/s ให้ได้
ปัจจุบันซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่แรงที่สุดในโลกคือ Tianhe 2 ของจีน มีสมรรถนะ 33.86 petaflop/s เท่ากับว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของสหรัฐจะต้องมีสมรรถนะเพิ่มขึ้นอีกราว 30 เท่าตัว ส่วนโครงการประมวลผลขนาดใหญ่ของรัฐบาลสหรัฐในปัจจุบันต้องการสมรรถนะประมาณ 10 peteflop/s
หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ สั่งอินเทลห้ามขายชิป Xeon และ Xeon Phi ให้กับทางจีนเพื่อพัฒนาซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ Tianhe ที่งาน ISC2015 ทางศูนย์วิจัย Tianhe ก็ระบุว่ากำลังจะอัพเกรดเครื่องในปีหน้าด้วยการ์ดของจีนเอง ทำให้ Tianhe-2 กลายเป็น Tianhe-2A