หลังจากที่แอปเปิลเปิดตัว 5 ระบบปฏิบัติการใหม่ ซึ่งได้แก่ iOS 13, iPadOS, macOS Catalina, tvOS 13 และ watchOS 6 ไปเมื่อคืน วันนี้ทีมงาน MacThai ได้สรุปอุปกรณ์ทั้งหมดที่จะได้อัปเกรดระบบปฏิบัติการใหม่ ดังนี้

iOS 13

• iPhone XS / XS Max
• iPhone XR
• iPhone X
• iPhone 8 / 8 Plus
• iPhone 7 / 7 Plus
• iPhone 6s / 6s Plus
• iPhone SE
• iPod touch รุ่นที่ 7

iPadOS

• 12.9-inch iPad Pro รุ่นที่ 1-3
• 11-inch iPad Pro
• 10.5-inch iPad Pro
• 9.7-inch iPad Pro
• iPad รุ่นที่ 5-6
• iPad Air 2-3
• iPad mini 4-5

watchOS 6

• Apple Watch Series 1
• Apple Watch Series 2
• Apple Watch Series 3
• Apple Watch Series 4

tvOS 13

• Apple TV (รุ่นที่ 4)
• Apple TV 4K (รุ่นที่ 5)

macOS Catalina

• MacBook (2015 หรือใหม่กว่า)
• MacBook Air (2012 หรือใหม่กว่า)
• MacBook Pro (2012 หรือใหม่กว่า)
• Mac mini (2012 หรือใหม่กว่า)
• iMac (2012 หรือใหม่กว่า)
• iMac Pro (2017 หรือใหม่กว่า)
• Mac Pro (2013 หรือใหม่กว่า)

รายงานโดย
ทีมงาน MacThai

The post [สรุป] อุปกรณ์ที่ได้ไปต่อบน iOS 13, iPadOS, macOS Catalina, tvOS 13 และ watchOS 6 ใหม่ appeared first on Macthai.com.

Apple® เปิดตัว Mac Pro® โฉมใหม่ ซึ่งเป็นเวิร์กสเตชั่นสุดล้ำที่ออกแบบใหม่หมดในทุกรายละเอียดสำหรับมือโปรที่ใช้ Mac จนถึงขีดสุดของความสามารถ พร้อมกับเผยโฉม Apple Pro Display XDR ซึ่งเป็นจอภาพระดับโปรที่ดีที่สุดในโลก

The post Apple เปิดตัว Mac Pro โฉมใหม่อันทรงพลังและ Pro Display XDR สุดล้ำ appeared first on mxphone.

Apple® เผยตัวอย่าง iPadOS™ ระบบปฏิบัติการอันทรงพลังพร้อมกับชื่อใหม่เพื่อตอบรับประสบการณ์ที่แตกต่างออกไปของ iPad® iPadOS ได้รับการพัฒนามาจากรากฐานเดียวกันกับ iOS

The post iPadOS ใหม่ขับเคลื่อนประสบการณ์สุดพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อ iPad appeared first on mxphone.

Apple® เผยตัวอย่าง iOS 13 ที่จะมาเพิ่มลุคใหม่อันโดดเด่นให้กับ iPhone® ด้วย Dark Mode และวิธีใหม่ๆ ในการค้นหาและแก้ไขรูปภาพ

The post Apple เผยตัวอย่าง iOS 13 ก่อนเปิดให้ใช้จริงเร็วๆ นี้ appeared first on mxphone.

Apple® ได้เผยโฉมตัวอย่าง watchOS® 6 ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ Apple Watch จัดการเรื่องสุขภาพและฟิตเนสได้ดีขึ้น

The post watchOS 6 เพิ่มขีดความสามารถด้านสุขภาพและฟิตเนสให้กับ Apple Watch ไปอีกขั้น appeared first on mxphone.

วันนี้ Apple® ได้เผยโฉม tvOS 13 ระบบปฏิบัติการที่ทำให้ Apple TV 4K เป็นอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงที่ง่ายที่สุด

The post Apple เผยโฉม tvOS 13 พร้อม Apple TV 4K appeared first on mxphone.

ในงาน WWDC 2019 นี้ Apple เปิดตัว macOS เวอร์ชันใหม่โดยใช้โค้ดเนมว่า Catalina

ข้อแรก Apple เลิกทำ iTunes แล้ว โดยจะแยก iTunes ออกเป็น 3 แอป คือ Music, Podcasts และ Apple TV ส่วนฟีเจอร์ด้านการซิงค์ iPhone จะย้ายไปอยู่กับ Finder แทน

Project Catalyst โครงการช่วยนักพัฒนาในการพอร์ตแอปจาก iPad มาลง macOS เพื่อให้แอปต่าง ๆ จำนวนมากที่อยู่บน iPad มาลง Mac ได้ง่ายขึ้น นักพัฒนาจะมี codebase เพียงชุดเดียว ง่ายต่อการดูแลรักษาและจัดการ ซึ่งตอนนี้มีบางแอปบน macOS ใช้ฟีเจอร์นี้แล้ว เช่น News, Voice Memos และ App Store

Note: Twitter จะกลับมาบน Mac โดยพอร์ตจาก iPad ด้วย Project Catalyst นี้

Sidecar ใช้ iPad เป็นจอต่อของ Mac ได้เลย และใช้ Apple Pencil เขียนจอต่อได้ด้วย เหมือนกับปากกาแท็บเล็ต ซึ่งทำให้ Mac สามารถใช้ปากกาเขียนจอด้วย iPad ได้โดยไม่ต้องซื้อปากกาแท็บเล็ตเพิ่ม และรองรับแอปจำนวนมาก

ฟีเจอร์อื่น ๆ

• Screen Time เหมือน iOS สำหรับการมอนิเตอร์การใช้งานคอมพิวเตอร์ของเราว่าใช้แอปหมวดไหนเยอะ
• Safari มี start page ใหม่ เพิ่ม Siri Suggestion เลือกไซต์ที่เข้าบ่อย, บุ๊คมาร์ก, iCloud tabs, Reading List และลิงก์ที่ส่งใน Messages มาแสดง
• Notes มี Gallery View ใหม่, เครื่องมือค้นหาใหม่ และเครื่องมือทำงานร่วมกันแบบใหม่
• Reminders ออกแบบใหม่ทั้งหมด ทำให้จัดการ task ต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น

ที่มา – Apple Newsroom

The post เปิดตัว macOS Catalina: แยก iTunes ออกเป็น 3 แอป, Screen Time, ใช้ iPad ต่อจอ Mac และอื่น ๆ appeared first on Macthai.com.

ในงาน WWDC 2019 ทาง Apple ได้เปิดตัว watchOS รุ่นใหม่มาในรุ่นที่ 6 ซึ่งตัวนี้เป็นการอัพเดทแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ก็มีฟีเจอร์ที่น่ามีประโยชน์เช่น ฟีเจอร์ด้านสุขภาพ การวัดเสียงดัง และเข้าใจ Trend พฤติกรรมการขยับของเรามากขึ้น และมาพร้อมกับหน้าปัดแบบใหม่

Apple เพิ่มฟีเจอร์เรื่องสุขภาพหลาย ๆ ตัว

• สามารถช่วยนับวันประจำเดือนได้ และแจ้งเตือนพร้อมเก็บข้อมูลต่าง ๆ เพื่อเป็นประวัติเวลาไปหาหมอ
• ช่วยวัดระดับเสียงที่เป็นอันตรายและแจ้งเตือนได้ (เนื่องจาก Apple Watch มีไมค์อยู่แล้ว)

 

 

 

นอกจากนี้สิ่งที่น่าสนใจก็คือ App Store สำหรับ Apple Watch เองซึ่งทำให้เราสามารถเลือกลงแอพจาก App Store ได้โดยตรง

การอัพเดทเพิ่มเติมอื่น ๆ

• เพิ่ม Watch Face แบบใหม่
• มีการปรับปรุง API ในการ Steram เสียงทำให้สามารถใช้งานกับแอพต่าง ๆ ได้หลากหลายมากขึ้นโดยที่ไม่มีปัญหาดีเลย์
• สามารถใช้งาน Voice Memo ได้แล้ว
• สามารถฟัง Audiobooks บน Apple Watch ได้

 

• มี Calculator
• Siri สามารถเปิดหน้าเว็บได้
• มี GymKit ให้ Apple Watch สามา

สำหรับ watchOS 6 นั้นจะรองรับ Appe Watch ทุกรุ่นตั้งแต่รุ่นแรก ไม่มีรุ่นไหนโดยลอยแพ สามารถรออัพเดทได้ช่วงปลายปี

The post เปิดตัว watchOS 6 เพิ่มฟีเจอร์ด้านสุขภาพ วัดเสียงดัง เข้าใจพฤติกรรมการขยับ หน้าปัดแบบใหม่ appeared first on Macthai.com.

Gap ร้านค้าปลีกแฟชั่นมีแผนปิดสาขาอีก 30 แห่งในปีนี้ หลังรายได้ในช่วงไตรมาส 1 ไม่เข้าเป้า จึงต้องมีแผนในการปรับลดจำนวนสาขาลงไปอีก

Photo : Shutterstock

Gap ได้รายงานผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2019 มียอดขายสุทธิ 3,710 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 2% จาก 3,780 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 1 ของปี 2018

ในส่วนของแบรนด์ในเครืออย่าง Old Navy มียอดขายจากสาขาเดิมทั่วโลกลดลง 1% ในขณะที่ปีก่อนเติบโต 3% ทางด้านของ Gap มียอดขายจากสาขาเดิมทั่วโลกลดลงถึง 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ลดลง 4% และ Banana Republic ยอดขายจากสาขาเดิมทั่วโลกลดลง 3% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีการเติบโต 3%

จากผลประกอบการที่หดลงในช่วงที่ผ่านมานั้น ทำให้ Gap มีแผนที่จะปิดทำการสาขาประมาณ 30 แห่ง รวมทั้งมีการโฟกัสในการขยายสาขาแบรนด์ Old Navy, Athleta และ Gap ในประเทศจีนมากกว่า

ทั้งนี้ Gap คาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในการสร้างอาคารสำนักงานใหญ่ใหม่ที่ลงทุนถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ

โดยที่ปัจจุบัน Gap มีสาขารวมทั้งหมด 3,849 แห่งใน 44 ประเทศ ซึ่ง 3,335 แห่งนั้นเป็นการดำเนินกิจการโดยบริษัทเองทั้งหมด

Source

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

Apple ได้เปิดตัว iPadOS ใหม่ เนื่องจากถึงเวลาที่ iPad ควรจะถูกระบุเป็นอุปกรณ์อีกประเภทหนึ่งนอกจาก iPhone ได้แล้ว ดังนั้น Apple จึงเปิดตัว iPadOS ขึ้นมาใหม่ เพื่อให้ทำงานกับ iPad โดยเฉพาะ

ฟีเจอร์แรกของ iPadOS ซึ่งเป็นจุดเด่น คือการทำงานแบบ Split View ที่ทำให้เป็น multitasking ยิ่งกว่าเดิม เพราะจากเดิม Split View จะค่อนข้างจำกัดที่ตัวแอปให้มีแอปละ 1 หน้าต่างเท่านั้น ต่อไปนี้ iPadOS จะเปิดให้แอปมีมากกว่า 1 หน้าต่างได้แล้ว รวมถึงระบบ slide over ก็ปรับปรุงให้ใช้งานได้อีกเยอะมาก

Files

• ระบบดูไฟล์หลายรูปแบบ เช่น column, icon และระบบพรีวิวเพื่อช่วยให้เห็นไฟล์ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเปิดไฟล์บนแอป
• แสดง metadata ของไฟล์
• iCloud Drive รองรับ Folder Sharing
• รองรับ SMB File Sharing สำหรับแชร์ไฟล์กับคอมพิวเตอร์
• เสียบ USB Flash Drive ได้แล้ว

Safari

• Desktop-class Browsing ดูเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้เหมือนเดสก์ท็อปมากขึ้น จากเดิมที่เว็บจะแสดงบน iPad เหมือนกับ iPhone มากกว่า ทั้งที่จริงควรจะแสดงเป็นเดสก์ท็อป เพราะจอของ iPad ใหญ่กว่ามาก
• มี Download Manager แล้ว
• ดาวน์โหลดฟอนต์ได้แล้ว

 

Multi-touch

• มีระบบ scroll bar เหมือน Mac สามารถลากได้ถ้าเจอคอนเทนต์ขนาดยาว
• Gestures ใหม่ สำหรับการคัดลอก, วาง, Undo เป็นต้น

ฟีเจอร์อื่น

• Apple Pencil ความหน่วงลดลงจาก 20ms เหลือ 9ms
• floating keyboard คีย์บอร์ดลอยขึ้นมาให้พิมพ์สะดวกขึ้น
• Home Screen ใหม่ มี Today View ให้เพิ่มเข้าไปที่หน้า Home ได้เลย ไม่ต้องแยกออกไปอีกหน้าหนึ่ง

ที่มา – Apple Newsroom

The post เปิดตัว iPadOS ระบบปฏิบัติการสำหรับ iPad โดยเฉพาะ ปรับแต่งระบบต่าง ๆ ให้เหมือนเดสก์ท็อปมากขึ้น appeared first on Macthai.com.

 

หลังจากที่ Apple ได้ทำการเปิดตัว iOS 12 มาเมื่อ 1 ปีที่แล้วในงาน WWDC 2018 วันนี้ Apple ก็ได้เปิดตัว iOS รุ่นที่ 13 ซึ่งมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ ๆ มากมายและสิ่งที่หลายคนรอคอยก็คือ Dark Mode

สำหรับฟีเจอร์ที่ Apple เปิดตัวเข้ามาใน iOS 13 นั้นก็เรียกได้ว่ามากพอสมควร เริ่มต้นจากความสามารถในการทำงานที่รวดเร็วขึ้น การแสดงผลแบบใหม่พร้อม Dark Mode คีย์บอร์ดแบบใหม่ Apple นั้นได้ปรับ Performance ของตัว iOS 13 ให้เร็วขึ้นในหลาย ๆ แง่ เช่นขนาดดาวน์โหลดแอปเล็กลงถึง 50% เปิดแอปเร็วขึ้น 2 เท่า

Dark Mode ทำให้ iPhone เป็นสีดำเท่ ๆ และ Keyboard ที่ลากเพื่อพิมพ์ได้

หลังจากที่เป็นภาพหลุดมานาน Apple ก็ได้เปิดให้ iOS 13 สามารถมี Dark Mode ได้แล้วเหมือนกับบน Mac ซึ่งรายละเอียดก็คงไม่ต้องบอกอะไรมาก แค่เปลี่ยนจากการแสดงผลเน้นสีขาวไปเน้นการแสดงผลในโทนสีดำและสีมืดเท่านั้น (แต่ก็นับเป็นฟีเจอร์ที่หลายคนกรี๊ดอยู่)

Apple ได้ปรับปรุง Keyboard ให้สามารถลากนิ้วไปมาเพื่อพิมพ์ได้ คล้าย ๆ กับ Swift Keyboard ซึ่งก่อนหน้านี้ถ้าจะให้ทำได้ต้องลง Keyboard แยกที่ Apple เพิ่งเปิดให้ลงไป

Apple Maps พร้อมฟีเจอร์แบบ Street View

Apple เปิดตัว Maps แบบใหม่มาพร้อมกับฟีเจอร์คล้าย ๆ Street View ซึ่ง Apple ได้เอารถคล้าย ๆ กับรถ Street View มาวิ่งในเมืองต่าง ๆ แล้วทำเป็นภาพแบบเสมือนจริง ซึ่ง Apple ได้นำมาใส่ไว้ในแอพ Maps ของตัวเอง และมีฟีเจอร์ที่เราสามารถท่องไปในภาพเหล่านั้นแล้วมีรายละเอียดห้างร้านต่าง ๆ ขึ้นมาแสดง

Sign-in with Apple ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Apple

อันนี้เป็นความสามารถใหม่ ๆ หลายคนอาจจะเคยลงชื่อเข้าใช้ด้วย Google และลงชื่อเข้าใช้ด้วย Facebook กันไปแล้ว แต่สิ่งที่ Apple เพิ่มเข้ามาก็คือ Sign-in with Apple ซึ่งเราจะสามารถลงชื่อเข้าใจเว็บไซต์ แอพต่าง ๆ ได้ด้วยบัญชี Apple ID ซึ่งความเจ๋งของมันอยู่ที่

• ข้อมูลที่ให้กับแอพหรือเว็บจะถูกเก็บอย่างปลอดภัย
• แต่ละที่จะมีสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลไม่เหมือนกัน
• ถ้าต้องกรอกที่อยู่เราสามารถเลือกได้ว่าจะให้ที่อยู่จริงหรือที่อยู่ปลอม
• ทุกอย่างจะปลอดภัยมาก ๆ ตามสไตล์ Apple

 

 

Apple HomeKit กับเทคโนโลยี HomeKit Secure Video

ปกติแล้วอุปกรณ์ HomeKit ที่เป็นแบบกล้องวงจรปิดจะทำการส่งภาพต่าง ๆ ในบ้านของเราขึ้นไปบน Cloud ซึ่งหลายคนก็จะคุ้นชินกับกล้องวงจรปิดที่ดูจากออนไลน์ที่ไหนก็ได้ แต่ Apple บอกว่าฟีเจอร์นั้นเสี่ยงต่อความปลอดภัย ทำให้ Apple เปิดตัว Protocal ใหม่ เป็น HomeKit Secure Video ซึ่ง Apple นั้น

นอกจากนี้ Apple จะเปิดตัว HomeKit สำหรับ Router ซึ่งจะมีความปลอดภัยสูงมาก ๆ เน้นไปที่ Privicy อย่างเดียว

iMessage แบบใหม่ แต่ละคนจะมีชื่อโปรไฟล์, รูป หรือ Animoji เป็นของตัวเอง

ทุกวันนี้เวลาเราคุย iMessage กับเพื่อนที่ไม่ได้เม็มเบอร์ไว้ใน iPhone เราจะสามารถรู้ได้แล้วว่าเรากำลังคุยกับใครอยู่เพราะ Apple นั้นได้เปลี่ยน iMessage ให้กลายเป็น Messaging Platform คล้าย ๆ LINE หรือ Messenger เพราะแต่ละคนจะมีปัญชีเป็นของตัวเอง

อีกอย่างนึงที่เพิ่มเข้ามาเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็คือ Apple ได้เพิ่มความสามารถของ Animoji ให้สามารถแต่งหน้าและใส่อุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ เช่นต่างหูหรือ AirPods เพื่อเพิ่มความเป็นตัวเองให้กับ Animoji (ให้นึกภาพว่ามันคือ Zepeto ที่เคยฮิตกันอยู่ซักพักในไทย)

ฟีเจอร์กล้องใหม่ Portrait Lightning, การปรับแสง สี แบบใหม่, จัดการรูปซ้ำอัตโนมัติ

Apple ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ ให้กับฝั่งกล้องด้วยเช่นกัน

• Portrait Lightning ฉลาดขึ้น สามารถปรับความห่างของไฟที่สาดเข้ามาที่ตัวแบบได้
• การปรับแสงเป็นเหมือนชาวบ้านซักที (ใช้ภาษาเดียวกับพวก Instagram หรือ Snapseed)
• จัดการรูปซ้ำ และ Moment ต่าง ๆ ได้ฉลาดขึ้น

 

การ Sync ระหว่าง HomePod, AirPods และ Siri ที่ฉลาดมากขึ้น และ Apple CarPlay ที่ดีขึ้น

Apple ได้อัพเดทความสามารถในการเชื่อมต่อ

• Siri จะอ่านข้อความที่เข้ามาให้เราฟังบน AirPods ได้เลย แถมเราสามารถตอบได้ทันที
• สามารถฟังเพลงเดียวกับเพื่อนได้ด้วยการแชร์ระหว่าง AirPods ได้แบบไร้สาย (เปิดเครื่องเดียวฟังหลายคน)
• ถ้าเราฟังเพลงอยู่ที่ iPhone สามารถเอา iPhone ไปโบกใกล้ ๆ HomePod เพื่อเล่นเพลงจาก iPhone ไปที่ HomePod
• สามารถเรียก Siri ให้ฟังช่องวิทยุต่าง ๆ ได้แล้ว จาก iHeart Radio
• HomePod จะรู้จักสมาชิกในบ้านแต่ละคนแล้ว (สามารถ Register เสียงหลายเสียงไปที่ HomePod ได้)
• สามารถแบ่งหน้าจอดูแผนที่ไปด้วยฟังเพลงไปด้วยใน CarPlay ได้แล้ว
• มี 3rd Party App บน CarPlay แล้ว โดยจะถูกปรับปรุงเพื่อให้ใช้งานได้อย่างราบรื่นเหมือนเดิม
• เสียงจะฉลาดขึ้นอ่านได้เหมือนคนจริง ๆ ซึ่งเกิดจากการที่ Siri ไปเรียนรู้การอ่านแบบคนจริง ๆ

จริง ๆ แล้วยังมีฟีเจอร์อีกหลาย ๆ อย่างที่ Apple ไม่ได้เปิดตัวบนเวที ซึ่งต้องรอชมกันอีกทีว่าจะมีอะไรซ่อนอยู่อีกบ้าง แต่ที่สำคัญของวันนี้ Apple ได้แยก iOS ระหว่าง iPhone กับ iPad และเปิดตัว iPadOS แยกมาอีกตัวหนึ่ง

เครื่องไหนอัพเดทได้บ้าง

สำหรับ iOS 13 นี้นั้นจะเริ่มต้นด้วยการเปิดให้ Developer หรือนักพัฒนาได้โหลดไปตรวจสอบความพร้อมของแอพ และยังมีโครงการ Beta ให้คนทั่วไปได้เข้าไปลงทะเบียนและทดสอบใช้งาน ก่อนที่จะเปิดให้ผู้ใข้ทุกคนได้อัพเดทไปใช้ฟรีในเดือนตุลาคมปี 2019 นี้

The post Apple เปิดตัว iOS 13 มาพร้อม Dark Mode, Maps ใหม่, Sign-in with Apple การจัดการภาพที่ดีขึ้น appeared first on Macthai.com.

Apple นั้นได้เปิดตัว Apple TV รุ่นใหม่พร้อมกับ tvOS มาได้หลายปีพอสมควร ทำให้ Apple สามารถเพิ่มการอัพเดทต่าง ๆ ด้วยการอัพ tvOS ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ในรุ่นที่ 3 แล้ว และในงาน WWDC 2019 ที่ผ่านมา Apple ก็ได้เปิดตัว tvOS รุ่นใหม่ ซึ่งมีการปรับปรุงฟีเจอร์เล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงอะไรมาก แถมเป็นไปได้ว่าความเปลี่ยนแปลงใหม่จะมาพร้อมกับ Apple TV+ และ Apple Arcade ที่ยังเปิดตัวไม่เต็ทรูปแบบ

รองรับ User ได้หลายคน แต่ละคนจะมีหน้าตาใช้งานไม่เหมือนกัน

สำหรับฟีเจอร์ที่ Apple ได้เพิ่มเข้ามาใหม่และเป็น Major Feature เลยก็คือเราสามารถใช้งาน User ได้หลายคน ซึ่งอันนี้จะเหมาะสำหรับใครที่ใช้งาน Apple TV ร่วมกันหลาย ๆ คนในบ้าน ซึ่งแต่ละคนก็จะมีพฤติกรรมการชมคอนเทนต์ที่ต่างกัน (อันนี้จะคล้าย ๆ กับ Netflix ที่มีหลาย user) ในส่วนนี้นั้น Apple ออกแบบหน้าตาของ user แต่ละคนมาให้สามารถปรับเปลี่ยนได้

อีกสิ่งหนึ่งที่เพิ่มเข้ามาก็คือรองรับ Apple Music ซึ่ง Apple ได้ใช้ประโยชน์จากระบบ multi-user ที่ได้อัพเดทเพิ่มเข้ามาในการนำเนื้อหาเพลงต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับของแต่ละคนมาแสดงได้อย่างเต็มรูปแบบ

ใช้จอย PlayStation และ Xbox ได้

เมื่อก่อนความน่าหงุดหงิดของ Apple TV ก็คือเราต้องใช้ Apple Remote หรือ iPhone เท่านั้น ไม่สามารถใช้ Remote จาก 3rd Party ได้ ซึ่งตอนนี้เนื่องจาก Apple TV ออกแบบมาให้เล่นเกมได้ด้วย แถมเกมบน Apple TV ก็เป็นเกมที่ค่อนข้างจริงจังจากการเปิดตัว Apple Arcade ทำให้ Apple นั้น Partner กับทาง Play Station และ Xbox ให้เรานำจอย Bluetooth ของทั้งสอง Console มาใช้ในการควบคุมและเล่นเกมต่าง ๆ บน Apple TV ได้

และสุดท้าย Apple ก็ยังได้โชว์ Screensaver ตัวใหม่ จากเดิมที่มีแบบอวกาศแล้วตอนนี้จะมีใต้ทะเลเข้ามาด้วย เป็นการเพิ่มเติมใหม่ ๆ ไม่มีอะไร

 

อย่างไรก็ตาม Apple เองนั้นก็ยังไม่ได้บอกว่า tvOS รุ่นนี้นั้นเป็นรุ่นเลขใหม่หรือว่าอัพเดทขึ้นมาจากของเดิม ซึ่งเนื่องจากตอนนี้โปรดักในฝั่ง Apple TV จะยังไม่ค่อยนิ่งอาจเป็นไปได้ว่า Apple อาจจะปล่อย tvOS เวอร์ชั่นนี้เป็น Minor Update มาก่อน หลังจากที่ Apple TV+ กับ Apple Arcade เปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบอาจจะได้เห็นการอัพเดทในฝั่งของ Apple TV อีกที

อัพเดท: Apple ใช้ชื่อ tvOS รุ่นนี้ว่า tvOS 13 ซึ่งแปลกมากเป็นการข้ามไปนับรุ่นเป็นรุ่นเดียวกับ iOS 13

The post Apple อัพเดท tvOS ใช้งานได้หลายผู้ใช้ รองรับ Apple Music ใช้จอย PlayStation, Xbox ได้ appeared first on Macthai.com.

ลือวันที่ 5 มิถุนายนนี้จะมีการเปิดตัว Huawei Maimang 8 กันในประเทศจีน โดยคาดว่าจะเป็นตัวรีแบรนด์ของ P Smart+ 2019 ที่มีการเพิ่มความจำ RAM 6GB+128GB

The post Huawei Maimang 8 เตรียมเปิดตัวในจีน คาดเป็นรีแบรนด์ของ P Smart+ 2019 appeared first on mxphone.

ตัวแทนของ Booking.com และ Expedia ได้ออกมาให้ความเห็นหลังจากที่ AirAsia เตรียมที่จะเปิดตัวแพลตฟอร์มธุรกิจเอเยนต์ท่องเที่ยวออนไลน์ ซึ่งสายการบินคาดว่าจะเป็นแหล่งรายได้ใหม่ๆ

ภาพจาก Shutterstock

Booking.com และ Expedia ได้ออกมาเตือน AirAsia ถึงสายการบินราคาประหยัดจากประเทศมาเลเซียที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่ในการมาขายตั๋วเครื่องบิน ที่พัก รวมไปถึงบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวว่า ไม่ง่าย และยังไม่ได้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นของสายการบินเองด้วย

• AirAsia เตรียมปรับตัวอีกครั้ง อนาคตอาจขายตั๋วเครื่องบินรายอื่นๆ ที่ไม่ใช่คู่แข่งของสายการบิน
• ถอดรหัส CEO ของ AirAsia เน้นลงทุนเทคโนโลยีมากขึ้น ไม่ซื้อสายการบิน Malaysia Airlines แน่นอน

Tony Fernandes นายใหญ่ของ AirAsia ยังได้กล่าวว่าจะมีงบรายปีสำหรับลงทุนแพลตฟอร์มนี้ประมาณ 100 ล้านริงกิตมาเลเซีย โดยแพลตฟอร์มนี้เขาได้ให้ฉายาว่า “Amazon ของการท่องเที่ยว”

ขณะเดียวกัน Marsha Ma หัวหน้าแผนกประเทศจีนของ Booking.com ได้กล่าวว่า “เราจะสู้ทุกวิถีทาง” นอกจากนี้เธอยังได้กล่าวว่า กว่าที่ Booking.com จะมาถึงจุดนี้ได้ใช้เวลานานมาก และการที่จะเป็นเอเยนต์ท่องเที่ยวออนไลน์นั้น การบริหารระบบที่พักเป็นเรื่องหนักหนาสำหรับธุรกิจนี้มากๆ

อีกคนที่แสดงความเห็นในเรื่องนี้คือ Greg Schulze ซึ่งเป็นหัวหน้ากลยุทธ์การขายและบริหารของ Expedia ให้ความเห็นว่า “แม้ว่าธุรกิจสายการบินราคาประหยัด AirAsia จะทำได้ดีมาก แต่การที่จะเป็นเอเยนต์ท่องเที่ยวออนไลน์นั้นถือว่ารูปแบบคนละเรื่องกับการทำสายการบิน” นอกจากนี้เขายังได้กล่าวว่า “การที่สายการบินราคาประหยัดจากมาเลเซียลงมาเล่นธุรกิจนี้ นอกจากที่จะไม่แก้ปัญหาเดิมแล้ว ยังอาจเพิ่มปัญหาใหม่ๆ เข้ามาอีก”

เมื่อปีที่ผ่านมา Expedia ได้ตกลงกับ AirAsia ในการขายหุ้นสัดส่วน 25% ของ AirAsiaGo ให้กับ Expedia มูลค่า 60 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยทั้ง 2 ฝ่ายได้เริ่มเป็นพาร์ตเนอร์กันมาตั้งแต่ปี 2011 ก่อนที่สุดท้ายจะแยกทางใครทางมัน

Aireen Omar รองประธานของสายการบินได้กล่าวว่า “สายการบินได้เตรียมตัวรับความเสี่ยงในเรื่องนี้ไว้แล้ว” เธอมองว่าอนาคตธุรกิจของสายการบินไม่ใช่แค่การขนส่งผู้โดยสาร แต่ข้อมูลคืออนาคต เนื่องจากปัจจุบัน AirAsia มีลูกค้ากว่า 100 ล้านราย ทำให้มีข้อมูลมากในเรื่องนี้

เธอยังได้ประกาศว่ากำลังเจรจากับพาร์ตเนอร์ในการพัฒนาระบบ E-commerce ของบริษัท แต่ไม่ได้กล่าวถึงว่าใครคือพาร์ตเนอร์รายใหม่ของ AirAsia และได้กล่าวเสริมอีกว่า “เอเยนต์ท่องเที่ยวออนไลน์มีการระมัดระวังในการทำธุรกิจอยู่แล้ว” ซึ่งเธอเชื่อว่าหลังจากนี้สายการบินต่างๆ ต้องเข้ามาคุยกับ AirAsia เนื่องจากมีข้อมูลลูกค้ามาก

ปัญหาใหญ่ในช่วงที่ผ่านมาของ AirAsia คือปัญหารายได้ของสายการบินที่ไม่สม่ำเสมอ ราคาน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญของสายการบินมีความผันผวน โดยล่าสุดราคาขึ้นมาถึง 30% ทำให้สายการบินต้องหาทางออกใหม่ๆ

ที่มา – Nikkei Asian Review, Livemint, The Star, Strait Times

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

ในขณะที่สมรภูมิแอพสั่งอาหารเดลิเวอรีในไทยเพิ่งเริ่มร้อนแรง จากการเข้ามาของ Get ที่ลงมาสู้ศึกกับผู้เล่นรายเดิมอย่าง LINE Man และ Grab Food

สตาร์ตอัพส่งอาหารรายใหญ่ของจีน Meituan-Dianping (MTDP) ที่ครองส่วนแบ่งตลาดราว 64% ก็ประกาศว่าได้ช่วยสร้างงานให้คนจีนแล้วถึง 20 ล้านตำแหน่ง ใน 2,800 เมืองทั่วประเทศจีน

Meituan-Dianping ระบุว่ามีคนที่ทำอาชีพส่งอาหารถึง 2.7 ล้านคนในจีน เพื่อให้เพียงพอต่อออเดอร์สั่งอาหาร 25 ล้านออเดอร์ต่อวัน (6.4 พันล้านครั้งต่อปี) และในจำนวนคนส่งอาหาร 2.7 ล้านคนนี้ 75% อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทของจีน ซึ่งมีรายได้เฉลี่ยต่ำอยู่แล้ว การหันมาประกอบอาชีพส่งอาหารช่วยสร้างรายได้ให้คนกลุ่มนี้มากกว่าค่าเฉลี่ยของคนจีน โดยอยู่ราว 6-8 พันหยวนต่อเดือน (ประมาณ 2.7-3.6 หมื่นบาท) บริษัทระบุว่าธุรกิจส่งอาหารช่วยให้ผู้บริโภคประหยัดเวลาในการเดินทางไปหาอาหารกินเองถึงวันละ 48 นาที

ส่วนตำแหน่งงานอีก 16 ล้านตำแหน่งก็คือการเป็นพ่อค้าหรือผู้ให้บริการด้านต่างๆ เช่น เสริมสวย เลี้ยงเด็ก ดูแลรักษารถ เพราะนอกจากการส่งอาหารแล้ว Meituan-Dianping ยังให้บริการด้านอื่นๆ เช่น จองตั๋วเครื่องบิน จองตั๋วโรงแรม จองร้านอาหาร เรียกพี่เลี้ยงเด็กหรือคนชรา รวมทั้งหมดกว่า 200 ชนิด โดยสโลแกนของบริษัทคือ We Help People Eat Better, Live Better แสดงให้เห็นภาพรวมธุรกิจที่เน้นเรื่องอาหาร+ไลฟ์สไตล์อื่นๆ นั่นเอง

Meituan-Dianping มีลูกค้าถึง 400 ล้านคน (คิดเป็นครึ่งหนึ่งของประชากรอินเทอร์เน็ตจีน 800 ล้านคน)

บทความแนะนำอ่านเพิ่มเติม

• รู้จัก 3 บริษัทเทคจีนยักษ์ใหญ่ ที่ไม่ใช่ Baidu, Alibaba และ Tencent
• กรณีศึกษา: ทำไมบริการเดลิเวอรี่ในเมืองจีนถึงร้อนแรง อัตราเติบโตแซงอีคอมเมิร์ซไปแล้ว
• ลงทุนไม่พอ ขอซื้อเลยแล้วกัน! Jack Ma เข้าซื้อ Ele.me สตาร์ทอัพเดลิเวอรี่อาหารรายใหญ่ในจีน

ข้อมูลจาก Meituan Dianping และ ZDNet

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

ความยิ่งใหญ่ของ Google นั้นเป็นที่รับทราบกันดี แต่เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ก็อาจจะมีเรื่องชวนปวดหัวตามมาอีกเยอะเช่นกัน

The post กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ จ่อเปิดเคสเข้าตรวจสอบ Google ในข้อหาผูกขาดตลาด appeared first on mxphone.

Lin Bin ประธานของบริษัทได้มีการโชว์คลิปการทำงานของสมาร์ทโฟนเครื่องต้นแบบที่มีเทคโนโลยีกล้องหน้าใต้จอแสดงผล ซึ่งใช้เครื่อง Mi9 เป็นต้นแบบ

The post มีเหมือนกัน!! Xiaomi โชว์เทคโนโลยีซ่อนกล้องหน้าในจอ appeared first on mxphone.

OPPO โชว์คลิปการทำงานของเครื่องต้นแบบที่ก้าวล้ำไปอีกขั้นด้วยเทคโนโลยีกล้องหน้าใต้จอแสดงผล ถึงแม้ว่าจะยังไม่สมบูรณ์และต้องใช้เวลาในการพัฒนาสักระยะก็ตาม

The post OPPO โชว์คลิปเครื่อง Demo ที่มีเทคโนโลยีกล้องหน้าใต้จอ appeared first on mxphone.

TENAA เผยข้อมูลของ Honor 20 series รุ่นที่จะวางจำหน่ายในประเทศจีนด้วยรหัสโมเดล YAL-AL00 และ YAL-AL10 ซึ่งเผยว่าจะมีสเปค RAM 12GB ขายด้วย

The post TENAA เผยสเปค Honor 20 Pro มีรุ่น RAM 12GB ขายในจีน appeared first on mxphone.

IDC รายงานภาพร่วมตลาดอุปกรณ์สวมใส่ ทั่วโลกประจำไตรมาสที่ 1 ของปี โดยที่ Apple ยังคงครองแชมป์แต่น่าสนใจตรงอัตราการเติบโตของแบรนด์อย่าง Huawei

The post IDC เผย Huawei มาแรงในตลาด Wearables ประจำ Q1 ปี 2019 appeared first on mxphone.