Apple ยังคงเป็นผู้ขาย Tablet สูงสุดในโลก โดยในไตรมาส 3 ปี 2018 สามารถสร้างยอดขาย iPad รวมกันได้มากกว่าอันดับสองเกือบๆ หนึ่งเท่าตัว

iPad ยังครองตำแหน่ง Tablet ขายดีที่สุดในโลกประจำไตรมาส 3 ปี 2018 (IDC)

IDC รายงานข้อมูลว่าไตรมาส 3 ปี 2018 (ก.ค. – ก.ย. 2018) Apple ขาย iPad ได้ประมาณ 9.7 ล้านเครื่อง ครองส่วนแบ่งอยู่ที่ 26.6% โดยยอดขายนั้นสูงกว่า Table ของ Samsung ที่ขายได้ 5.3 ล้านเครื่องเกือบๆ หนึ่งเท่าตัว

อย่างไรก็ตามยอดขาย Tablet โดยรวมของทุกแบรนด์รวมกันนั้นลดลงประมาณ 8.6% โดยผลประกอบการล่าสุดของ Apple เผยว่ายอดขาย iPad ลดลง 15% แบบปีต่อปีเพราะผู้ซื้อส่วนหนึ่งรอซื้อ iPad รุ่นใหม่นั่นเอง

IDC คาดการณ์ว่า iPad Pro 2018 รุ่นใหม่ ที่ Apple เปิดตัวไปจะขายดีมากในช่วงวันหยุดปลายปี 2018 นี้ ประกอบกับความต้องการของ iPad Gen 6 รุ่นราคาย่อมเยาที่ยังมีอยู่ก็จะส่งผลให้ Apple ครองอันดับหนึ่ง Tablet ขายดีไปเรื่อยๆ ถึงแม้ยอดขาย Tablet โดยรวมของทุกแบรนด์จะชะลอตัวลงก็ตาม

ที่มา – macrumors

The post iPad ยังครองตำแหน่ง Tablet ขายดีที่สุดในโลกประจำไตรมาส 3 ปี 2018 (IDC) appeared first on iPhoneMod.

ถึงแม้รายงานยอดขายเชิงปริมาณของ Mac, iPhone, iPad จะเป็นข้อมูลสำคัญด้านผลประกอบการของ Apple แต่ Apple มีนโยบายใหม่ว่าจะไม่รายงานข้อมูลดังกล่าวในการประกาศผลประกอบการครั้งต่อไป

Apple จะไม่รายงานยอดขายเชิงปริมาณของ Mac, iPhone, iPad ในการประกาศผลประกอบการครั้งต่อไป

จากคำกล่าวของ Luca Maestri CFO ของ Apple สรุปเบื้องต้นได้ว่า ยอดขายเชิงปริมาณของสินค้า Apple นั้น (Units) ไม่ได้บ่งบอกถึงประสิิทธิภาพการสร้างรายได้ได้ดีกว่ายอดขาย  (Revenue)

ดังนั้นข้อมูลที่จะเผยต่อนักลงทุนในการประกาศผลประกอบการในครั้งถัดไป (ไตรมาส 1 ปี 2019 เป็นต้นไป) Apple จะนำเสนอข้อมูลรายได้จากการขายสินค้าแต่ไม่เผยข้อมูลว่าสินค้าแต่ละตัวขายได้ทั้งหมดกี่รายการ

Tim Cook เปรียบเทียบว่าเหมือนกับเราไปซื้อของที่ตลาดแล้วหยิบสินค้าใส่รถเข็น ถ้ามีคนถามว่าในรถเข็นนั้นมีของทั้งหมดกี่ชิ้นมันก็ไม่สำคัญเท่ากับของทั้งหมดในรถเข็นนั้นมีมูลค่ารวมเท่าไหร่

นโยบายนี้ส่งผลต่อนักวิเคราะห์โดยตรงเนื่องจาก Apple ไม่เผยยอดขายเชิงประมาณของสินค้า ซึ่งนักวิเคราะห์อาจต้องทำการคาดการณ์เองจากข้อมูลรายได้รวมของสินค้าแต่ละตัวแทน

Apple ประกาศผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2018 ที่ผ่านมากมีรายได้ 62.9 พันล้านดอลลาร์ ขาย iPhone ได้ 46.9 ล้านเครื่อง โดยเป็นไตรมาส 4 ที่ดีที่สุดเท่าที่มีมา

ที่มา – appleinsider

The post Apple จะไม่รายงานยอดขายเชิงปริมาณของ Mac, iPhone, iPad ในการประกาศผลประกอบการครั้งต่อไป appeared first on iPhoneMod.

กรุงไทย เปิดงานวิจัย Automation จะมาแทนมนุษย์เงินเดือนกลุ่ม Millennials ถ้ามนุษย์เงินเดือนไม่ปรับตัว รายได้ลดแน่แถมเงินไม่พอใช้หลังเกษียณ แค่มีระบบ Automation จะกระทบมนุษย์เงินเดือนจริงหรือ? สรุป

หลายงานวิจัยทั่วโลกบอกว่า ระบบหุ่นยนต์ หรือระบบอัติโนมัติต่างๆ จะมาแทนที่ชนชั้นกลางที่ทำงานรูปแบบประจำๆ หรืองาน Routine ดังนั้นกระทบแน่กับกลุ่มมนุษย์เงินเดือนยุค Millenials ที่จะต้องใช้ชีวิตหลังจากนี้เกิน 20 ปี ดังนั้นต้องปรับตัวเพิ่มทักษะที่หุ่นยนต์ทำไม่ได้ เพื่อให้รายได้โตขึ้นออมเงินได้เยอะขึ้น พอใช้สบายๆ กับหลังเกษียณ

แต่ถ้าไม่เตรียมตัวเตรียมเงิน ก็ควรเตรียมใจว่าต้องรับเงินคนชราจากภาครัฐเดือนละ 600 บาทเพื่อใช้ทั้งเดือน…

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

ล่าสุดทาง Scopely ได้ออกมาประกาศเตรียมเปิดให้เล่นเกม Star Trek Fleet Command อย่างเป็นทางการแล้วในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 นี้ ทั้งในระบบ iOS และ Android

Star Trek Fleet Command

เกมมือถือจากภาพยนตร์ชื่อดัง “Star Trek” ที่ทาง Scopely ได้รับลิขสิทธิ์จากทาง CBS Interactive ในการพัฒนาและเผยแพร่ลงในระบบ iOS และ Android จนล่าสุดก็ได้ฤกษ์ปล่อยตัวเกมให้ได้เล่นกันแล้วในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 ที่จะถึงนี้

โดยเกม Star Trek Fleet Command จะเป็นเกมมือถือแนว RPG วางกลยุทธ์ เล่นออนไลน์ในรูปแบบผู้เล่นหลายคน (Multiplayer Real-time Strategy) ให้ผู้เล่นได้สร้างทีมด้วยตัวละครที่ชื่นชอบ เช่น กัปตัน Kirk, Spock, Uhura หรือกลุ่มตัวละครต่างๆ เช่น Federation, Klingons หรือ Romulans เป็นต้น พร้อมกับยานอวกาศสุดไฮเทคชื่อดังที่ขนมาให้เล่นอีกเพียบ

จัดทีม วางแผน และนำยานเข้าต่อสู้แบบเรียลไทม์กับผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามอย่างสุดมัน

ซึ่งเนื้อเรื่องของเกมจะถูกปรับให้เริ่มต้นใหม่ในปี ค.ศ. 2009 แต่ยังคนตัวละครหลักจากภาพยนตร์ Star Trek เอาไว้

ขอบคุณข้อมูล – VentureBeat

The post เตรียมเปิดให้เล่นเกม Star Trek Fleet Command ทั้ง iOS และ Android ในเร็วๆ นี้ appeared first on iPhoneMod.

Muji แบรนด์สุดมินิมัลได้เตรียมออกแบบรถ Shuttle Bus ไร้คนขับ สำหรับอากาศทุกประเภท พร้อมใช้งานในปี 2020 ที่ประเทศฟินแลนด์

หลังจากที่มีการดีไซน์โรงแรม และอพาร์ทเมนต์สุดจิ๋วในแบบมินิมัลสไตล์ Muji ล่าสุดได้มีแผนออกแบบรถ Shuttle Bus แบบไร้คนขับ โดยได้ทำการร่วมมือกับ Sensible 4 บริษัทรถยนต์สัญชาติฟินแลนด์ในการทำโปรเจ็คต์นี้

โดยรถ Shuttle Bus นี้จะถูกเรียกว่า Gacha ตามชื่อของแบรนด์ นอกจากจุดเด่นในเรื่องรถไร้คนขับแล้ว รถคันนี้ยังเป็นรถที่สะเทินน้ำสะเทินบกแบบทนทานทุกสภาพอากาศ

ทาง Muji ได้บอกว่าเรื่องสภาพอากาศมีบทบาทสำคัญอย่างมากสำหรับการทำตลาดรถโดยสาร ตอนนี้ได้พัฒนาเทคโนโลยีให้ทนทานต่อสภาพอากาศฝนตกหนัก หมอกหนา หิมะตก และกำลังพัฒนาเพื่อทดสอบกับสภาพอากาศอบอุ่นเพิ่มเติมด้วย

รถคันนี้ยังคงคอนเซ็ปต์ความมินิมัลของ Muji ไว้อยู่ โดยเน้นความเรียบง่าย ดีไซน์ด้วยสีเดียวให้กลมกลืนกันทั้งหมด และมีไฟ LED ด้านนอกตัวรถทำหน้าที่เป็นไฟหน้า และทำการสื่อสารกับผู้โดยสาร สำหรับภายในตัวรถจะตกแต่งที่นั่งด้วยสีน้ำเงิน

ซึ่งโปรเจ็คต์นี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชนอีกด้วย นั่นคือไม่ใช่เพียงแค่พัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงสังคมรอบข้างด้วย

รถ Shuttle Bus นี้จะเปิดตัวที่ 3 เมืองอย่าง Espoo, Vantaa และ Hämeenlinna ประเทศฟินแลนด์ คาดว่าจะพร้อมใช้งานในปี 2020

Source

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

จะดีแค่ไหน? ถ้าคุณสามารถหลุดเข้าไปดำน้ำชมปะการังและปลาในตู้ Aquarium ได้ แต่แอป FishingGO ช่วยให้เรื่องนี้เป็นไปได้ ด้วยการนำเทคโนโลยี AR เข้ามาช่วยจำลองการชมปะการังและปลาเสมือนจริงใต้น้ำ

FishingGO

แอปที่จะเปลี่ยน iPhone/iPad ของคุณให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ (Aquarium) ในโลกเสมือนจริงได้ในทุกสถานที่ โดยการใช้เทคโนโลยี AR ในการจำลองการชมปะการังและปลาสายพันธุ์จริงในโลกใต้น้ำ

ซึ่งคุณสามารถเข้าไปชมปะการังและปลาใต้น้ำได้มากกว่า 200 สายพันธุ์ ดูแบบใกล้ชิด 360 องศา ที่คุณจะพบกับปลาสายพันธุ์จริงที่ถูกสร้างขึ้นโดยความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญทางชีววิทยาในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำบาร์เซโลนา

นอกจากนั้นภายในแอปยังมี มินิเกมค้นหาปลาหรือปะการังให้ถูกต้องอีกด้วย โดยระบบจะกำหนดรูปปลาและชื่อปลาให้คุณออกค้นหาและจับภาพ และเมื่อคุณจับภาพได้อย่างถูกต้อง ระบบก็จะให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับปลาหรือปะการังชนิดนั้นนั่นเอง

ถือว่าเป็นแอปที่ดีมากๆ ครับ เพราะนอกจากจะชมความสวยงามใต้ทะเลแล้ว คุณยังได้เรียนรู้ข้อมูลของปลาได้อย่างถูกต้อง เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่ไม่มีเวลาว่างพาบุตรหลานไปเที่ยว Aquarium ก็สามารถใช้แอป FishingGO นี้ ในการจำลอง Aquarium ขึ้นเองที่บ้าน ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้และสนุกกับมันได้ในราคาเพียง 129 บาทเท่านั้น !!

ดาวน์โหลดแอป FishingGO

เนื้อที่: 412.9 MB รองรับ iOS 11.0 ขึ้นไป (ใช้ได้กับ iPhone 6s ขึ้นไป และ iPad Pro ขึ้นไป)
สามารถดาวน์โหลดได้ในราคา 129 บาท: FishingGO on App Store

The post ดำน้ำชมปะการังและปลาในตู้ Aquarium ได้จากที่บ้านด้วยแอป FishingGO appeared first on iPhoneMod.

จากข้อมูลสินค้า iPad Pro 2018 ที่เว็บไซต์ Apple ระบุไว้ว่าในกล่องของ iPad Pro 2018 มาพร้อมอะแดปเตอร์ USB-C ขนาด 18W แต่ยังไม่มีขายแยกในตอนนี้ (3 พ.ย. 2018)

iPad Pro 2018 มาพร้อมอะแดปเตอร์ USB-C ขนาด 18W

iPad Pro 2018 เปลี่ยนพอร์ตไปใช้ USB-C แทนที่ Lightning จากรุ่นปีที่แล้ว และ iPad Pro 2018 จะมาพร้อมอะแดปเตอร์ USB-C ขนาด 18W และสายชาร์จ USB-C ที่หัวเป็น USB-C ที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ที่มีพอร์ต USB-C ได้ด้วย

Apple ไม่ได้ระบุสเปคไว้ว่าอะแดปเตอร์ USB-C ขนาด 18W จะมีฟีเจอร์ชาร์จเร็วหรือไม่ (Fast Charge) ซึ่งใน iPad Pro 10.5 นิ้วรุ่นปีที่แล้วมาพร้อมอะแดปเตอร์ขนาด 12W ซึ่งถ้าต้องการใช้ฟีเจอร์ Fast Charge ก็ต้องซื้อชุดชาร์จ USB-C เพิ่มเติม

นั้นหมายความว่า iPad Pro 2018 นี้ผู้ซื้อไม่ต้องซื้ออุปกรณ์การชาร์จเพิ่มเติมอีก (หา่กพอใจในการชาร์จ 18W) และสายชาร์จ USB-C ก็ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้วอย่าง MacBook Pro ที่ใช้พอร์ต USB-C ในการชาร์จร่วมกันได้

อะแดปเตอร์ USB-C ขนาด 18W ยังไม่มีขายแยกในตอนนี้ (3 พ.ย. 2018)

เมื่อเข้าไปดูที่ Apple Store Online ยังไม่พบอะแดปเตอร์ USB-C ขนาด 18W วางขายพบแต่เพียงสายชาร์จ USB-C วางขายอย่างเดียว ซึ่งต้องรอดูว่าหลังเปิดขาย iPad Pro 2018 วันที่ 7 พ.ย. 2018 ในกลุ่มประเทศแรก จะมีอุปกรณ์เสริมตัวนี้วางขายหรือไม่

Apple เผยว่า iPad Pro 2018 สามารถเป็น Powerbank สำหรับชาร์จอุปกรณ์อื่นๆ ได้ แต่ถ้าผู้ใช้มี iPad Pro 2018 และ iPhone อาจจะต้องซื่้ออุปกรณ์เพิ่มอย่างสาย USB-C เป็น Lightning ในราคา 690 บาท

The post iPad Pro 2018 มาพร้อมอะแดปเตอร์ USB-C ขนาด 18W แต่ยังไม่มีขายแยกในตอนนี้ (3 พ.ย. 2018) appeared first on iPhoneMod.

หลายคนคงเคยเห็นกลยุทธ์ Idol Marketing มาแล้ว แต่อาจยังไม่รู้ถึงผลสำเร็จในเชิงตัวเลขของกลยุทธ์ดังกล่าว วันนี้ Brand Inside จะมาเปิดเผยว่าแบรนด์ไอศกรีม และเครื่องดื่มที่ใช้กลยุทธ์นี้มียอดขายเพิ่มขึ้นแค่ไหน

ในเวลาแค่ไม่กี่เดือนก็ยอดขายเป็น 300 ล้านบาท

เริ่มกันที่ Binggrae ผู้ผลิตไอศกรีม และอาหารหวาน เพราะล่าสุดเพิ่งใช้บอยแบนด์วง Wanna One เพื่อช่วยโปรโมทไอศกรีมแบรนด์ Super Cone เมื่อเดือนก.ค. ที่ผ่านมา โดยบริษัทคาดว่ายอดขายสินค้าตัวนี้จะอยู่ที่ 10,000 ล้านวอน (ราว 300 ล้านบาท) ภายในปีนี้

และถ้าเทียบกับตัวสินค้าไอศกรีมตัวอื่น เช่น Meta Cone ก็มียอดขายทั้งปีอยู่ที่ 6,000-7,000 ล้านวอน (ราว 170-200 ล้านวอน) เท่านั้น แสดงให้เห็นว่ากลยุทธ์ Idol Marketing นั้นช่วยดึงดูดผู้บริโภคในเกาหลีใต้ได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน Binggrae ยังมองว่าการใช้กลยุทธ์นี้ยังช่วยสร้างการรับรู้ให้ไอศกรีมแบรนด์อื่นของบริษัทด้วย

นอกจากนี้ Dong-A Otsuka ผู้ผลิต และจำหน่ายเครื่องดื่ม Idol Marketing เช่นกัน โดยล่าสุดได้ใช้วงเกิร์ลกรุ๊ป TWICE เพื่อโปรโมทสินค้า Pocari Sweat จนช่วยเพิ่มยอดขายจากกลุ่มวัยรุ่นได้จำนวนมาก ถือเป็นเรื่องที่เครื่องดื่มแบรนด์นี้ไม่เคยทำได้มาก่อน

“ปกติแล้ว Pocari Sweat ไม่ได้ดึงดูดลูกค้าวัยรุ่น เพราะมันถูกมองเป็นเครื่องดื่มสำหรับคนที่ออกกำลังกาย แต่พอเราจัดกิจกรรมตามร้านสะดวกซื้อหลังมี TWICE เข้ามาช่วย ยอดขายของเราก็เพิ่มขึ้น แถม 49% ของยอดขายก็ยังมาจากกลุ่มวัยรุ่นด้วย” โฆษกของบริษัทกล่าว

AIS NEXT G BAMBAM

สำหรับยอดขายของ Pocari Sweat เมื่อปี 2560 นั้นอยู่ที่ 1.4 แสนล้านวอน (ราว 4,100 ล้านบาท) นอกจากนี้แบรนด์อาหาร และเครื่องดื่มในประเทศไทยก็เริ่มใช้ Idol Marketing มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Est, Oishi และ AIS เพราะเห็นโอกาสที่ได้มาจากการลงทุนครั้งนี้

อ้างอิง // Korea Times

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

พึ่งเปิดเซิร์ฟแรกทั้งในระบบ iOS และ Android ไปเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมานี้เลยครับ สำหรับ แดนชวนฝัน-Holy Fantasia เกมมือถือเทิร์นคอมโบ 3D โฉมใหม่ สุดเร้าใจ

แดนชวนฝัน-Holy Fantasia

เกมมือถือแนว Turn-based RPG คอมโบ 3D สุดเร้าใจ ที่จะบอกลาการเล่นแบบเก่าๆ ด้วยการวางค่ายกล 6 เหลี่ยมสุดคลาสิก พร้อมกับลูกไฟขนาดใหญ่ การเล่นต่อสู้สุดพิเศษประลองคอมโบด้วยตนเอง กำหนดเกมรอบใหม่สำหรับผู้เล่น นำมาซึ่งประสบการณ์การสู้รบแบบใหม่อันน่าตื่นเต้น

ฉาก 3D โต้ตอบอิสระ

สัมผัสประสบการณ์การเล่นหลากหลายรูปแบบ เช่น การสร้างทีม ล่าสมบัติ และมอนสเตอร์โจมตีเมือง ในเมืองหลักแบบ 3D

ลูกไฟขนาดใหญ่ ประลองคอมโบ

จากการจับคู่ก่อนต่อสู้ ระหว่างฮีโร่ด้วยกันจะสามารถเปิดใช้สกิลต่อเนื่องที่มีอำนาจสุดแข็งแกร่งได้ และสามารถเพิ่มพลังอำนาจของสกิลได้อีกขั้นจากการปัดหน้าจอประลอง ทำให้จังหวะการต่อสู้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แก้เกมง่ายๆ เพียงปลายนิ้ว

ฝึกฝนฮีโร่ รวมกลุ่ม

ฮีโร่หลากหลายความสามารถที่มีมากกว่า 40 ตัว ให้ผู้เล่นได้เลือก โดยแบ่งความสามารถของฮีโร่ออกเป็นสายบินโจมตีบิน สายระเบิดพิษ สายบดละเอียด สายปลุกใจ เป็นต้น ไม่มีฮีโร่ที่เก่งที่สุดมีแต่หนทางที่แข็งแกร่งที่สุด

สัตว์อสูรน่ารัก ชุดแฟชั่นสวยงาม

ชุดแฟชั่นสามารถเปลี่ยนรูปแบบของอาวุธ เสื้อผ้า และปีกได้ ผู้เล่นสามารถจัดให้เข้าชุดได้อย่างอิสระตามความชอบของตนเอง จะเป็นชุดเซ็ทสุดหรู? หรือว่าเป็นสไตล์อิสระ? ให้ผู้เล่นเป็นคนตัดสินใจเอง

สัตว์อสูรน่ารักนอกจากจะสามารถปกป้องฮีโร่และเพิ่มคุณสมบัติได้แล้ว ยังสามารถติดตามผู้เล่นในฉากหลักได้อีกด้วย เมื่อผ่านการฝึกฝนจะทำให้สัตว์อสูรเพิ่มความเท่ได้ โดยสัตว์อสูรหายากจะมีรูปลักษณ์เฉพาะที่โดดเด่นเป็นพิเศษ ทำให้คุณโดดเด่นมากขึ้นในเมือง

ดาวน์โหลดเกม Holy Fantasia

เนื้อที่เกม: 435.3 MB รองรับ iOS 8.0 ขึ้นไป (ใช้ได้กับ iPhone และ iPad)
ดาวน์โหลดเกมได้ฟรีที่: แดนชวนฝัน-Holy Fantasia on App Store

The post แดนชวนฝัน-Holy Fantasia เกมมือถือแนว Turn-based RPG คอมโบ 3D สุดเร้าใจ appeared first on iPhoneMod.

ใครที่เตรียมกำลังจะซื้อ iPad ใหม่ที่ใกล้จะเปิดตัวในปลายปี 2018 นี้ ก็เตรียมโหลด เกมสำหรับ iPad เหล่านี้ได้เลยครับ ที่ขนมาให้เลือกเล่นเพียบกว่า 20 เกม ที่มีแต่เกมคุณภาพ จัดเต็ม สะใจแน่นอนครับ

20 เกมสำหรับ iPad (ทั้งฟรีและไม่ฟรี)

หมายเหตุ: iPad รุ่นต่ำกว่าปี 2017 โปรดตัวสอบสเปคเครื่องในการเล่นเกมอีกครั้ง จากลิงก์ดาวน์โหลดใต้หัวข้อเกม

1. Dawn of Titans

เนื้อที่เกม: 1.2 GB รองรับ iOS 8.0 ขึ้นไป
ดาวน์โหลดฟรี: Dawn of Titans on App Store

2. Life Is Strange

เนื้อที่เกม: 964.7 MB รองรับ iOS 10.0 ขึ้นไป
ดาวน์โหลดฟรี: Life Is Strange on App Store

3. Sid Meier’s Civilization® VI

เนื้อที่เกม: 3.4 GB รองรับ iOS 11.0 ขึ้นไป
ดาวน์โหลดฟรี: Sid Meier’s Civilization® VI on App Store

4. Sky Gamblers – Infinite Jets (179 บาท)

เนื้อที่เกม: 1.9 GB รองรับ iOS 9.0 ขึ้นไป
ดาวน์โหลดในราคา 179 บาท: Sky Gamblers – Infinite Jets on App Store

5. Returner 77 (179 บาท)

เนื้อที่เกม: 1.3 GB รองรับ iOS 8.0 ขึ้นไป
ดาวน์โหลดในราคา 179 บาท: Returner 77 on App Store

6. SteamWorld Heist (349 บาท)

เนื้อที่เกม: 242.7 MB รองรับ iOS 8.0 ขึ้นไป
ดาวน์โหลดในราคา 349 บาท: SteamWorld Heist on App Store

7. GRID™ Autosport (349 บาท)

เนื้อที่เกม: 4 GB รองรับ iOS 11.0 ขึ้นไป
ดาวน์โหลดในราคา 349 บาท: GRID™ Autosport on App Store

8. Kingdom: New Lands (349 บาท)

เนื้อที่เกม: 178 MB รองรับ iOS 10.0 ขึ้นไป
ดาวน์โหลดในราคา 349 บาท: Kingdom: New Lands on App Store

9. Morphite (279 บาท)

เนื้อที่เกม: 844.7 MB รองรับ iOS 8.0 ขึ้นไป
ดาวน์โหลดในราคา 279 บาท: Morphite on App Store

10. Playdead’s INSIDE

เนื้อที่เกม: 1.3 GB รองรับ iOS 11.0 ขึ้นไป
ดาวน์โหลดฟรี: Playdead’s INSIDE on App Store

11. The Witness (349 บาท)

เนื้อที่เกม: 2.3 GB รองรับ iOS 10.0 ขึ้นไป
ดาวน์โหลดในราคา 349 บาท: The Witness on App Store

12. ROME: Total War (349 บาท)

เนื้อที่เกม: 3.9 GB รองรับ iOS 11.0 ขึ้นไป
ดาวน์โหลดในราคา 349 บาท: ROME: Total War on App Store

13. Transistor (179 บาท)

เนื้อที่เกม: 2.5 GB รองรับ iOS 8.0 ขึ้นไป
ดาวน์โหลดในราคา 179 บาท: Transistor on App Store

14. BattleHand

เนื้อที่เกม: 232.7 MB รองรับ iOS 8.0 ขึ้นไป
ดาวน์โหลดฟรี: BattleHand on App Store

15. Ember (349 บาท)

เนื้อที่เกม: 2.8 GB รองรับ iOS 8.0 ขึ้นไป
ดาวน์โหลดในราคา 349 บาท: Ember on App Store

16. Peregrin (139 บาท)

เนื้อที่เกม: 284.8 MB รองรับ iOS 9.2 ขึ้นไป
ดาวน์โหลดในราคา 139 บาท: Peregrin on App Store

17. FEZ Pocket Edition (179 บาท)

เนื้อที่เกม: 173.9 MB รองรับ iOS 8.0 ขึ้นไป
ดาวน์โหลดในราคา 179 บาท: FEZ Pocket Edition on App Store

18. Flower (179 บาท)

เนื้อที่เกม: 173.9 MB รองรับ iOS 8.0 ขึ้นไป
ดาวน์โหลดในราคา 179 บาท: Flower on App Store

19. Football Manager Mobile 2018 (319 บาท)

เนื้อที่เกม: 1.1 GB รองรับ iOS 8.0 ขึ้นไป
ดาวน์โหลดในราคา 319 บาท: Football Manager Mobile 2018 on App Store

20. Escape from Chernobyl (179 บาท)

เนื้อที่เกม: 2.2 GB รองรับ iOS 9.0 ขึ้นไป
ดาวน์โหลดในราคา 179 บาท: Escape from Chernobyl on App Store

——————–

จัดหนัก จัดเต็ม กว่า 20 เกมสำหรับ iPad 2018 ที่ต้องขอบอกว่า รีบเก็บ รีบแชร์ บอกต่อไปให้เพื่อนๆ ที่มี iPad หรือกำลังจะซื้อได้เลยครับ แล้วพบกันใหม่ใน part หน้า

ขอขอบคุณ
ทีมงาน iPhoneMod

The post มี iPad ใหม่ทั้งที ลองเกมสำหรับ iPad นี้ได้เลย appeared first on iPhoneMod.

บริษัท ซิสเท็ม 2000 จำกัด ผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Plantronics ในประเทศไทย ได้ส่งผลิตภัณฑ์ Plantronics ตระกูล BackBeat FIT รุ่นใหม่อย่าง BackBeat FIT 3100 ซึ่งเป็นหูฟัง True Wireless Sport...

Apple ได้ประกาศราคาซ่อมหรือเปลี่ยนเครื่องของ Apple Watch Series 4 โดยราคาเปลี่ยนทั้งเครื่องเริ่มต้น 12,400  บาท (ราคาโดยประมาณ)

ราคาซ่อมหรือเปลี่ยนเครื่อง Apple Watch Series 4 ทุกรุ่น (ราคาโดยประมาณ)

Apple ได้ประกาศราคาซ่อมหรือเปลี่ยนเครื่อง Apple Watch Series 4 ทุกรุ่น ในกรณีที่ Apple Watch Series 4 เสียหายนอกเหนือเงื่อนไขการรับประกัน กฏหมายคุ้มครองผู้บริโภค หรือ Apple Care+ และเครื่องที่หมดประกันแล้ว

ราคาซ่อม Apple Watch Series 4 แต่ละรุ่นมีราคาโดยประมาณ ดังนี้

• Apple Watch Series 4 (GPS) ตัวเรือนอะลูมิเนียม, Apple Watch Series 4 Nike+ (GPS) – 12,400 บาท
• Apple Watch Series 4 (GPS + Cellular) ตัวเรือนอะลูมินียม , Apple Watch Series 4 Nike+ (GPS + Cellular) – 15,500 บาท
• Apple Watch Series 4 (GPS + Cellular) ตัวเรือนสแตนเลสสตีล , Apple Watch Series 4 Hermès – 17,900 บาท

(หากมีการอัปเดตราคาซ่อม Apple Watch Series 4 ราคาไทยจาก iCare ทีมงานจะอัปเดตให้ทราบอีกครั้ง)

ราคาซ่อมหรือเปลี่ยนเครื่องของ Apple Watch Series 4 โดยประมาณมีราคาสูงกว่า Apple Watch รุ่นเดิมทั้งหมด ดังนั้นควรระมัดระวังในการใช้งาน โดยเฉพาะปัญหาหน้าจอแตกที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง สำหรับรุ่นอื่นๆ สามารถรับชมราคาได้ที่ ราคาเคลม iPhone, iPad, Apple Watch ที่ศูนย์ Apple อัปเดต 17 ก.ค. 2561

ขอบคุณ Apple

The post ราคาซ่อมหรือเปลี่ยนเครื่อง Apple Watch Series 4 เริ่มที่ 12,400 บาท (ราคาโดยประมาณ) appeared first on iPhoneMod.

แต่ก่อนใครอยากซื้อรถนอกจากไปที่เต้นท์ หรือร้านขายมอเตอร์ไซด์ ยังต้องติดต่อธนาคาร หรือใครที่จะปล่อยกู้ให้เราซื้อรถง่ายขึ้น แต่ตอนนี้แค่คลิกไปที่เว็บไซด์ www.Checkraka.com ใครอยากซื้อรถยนต์ใหม่ Big Bike ก็ขอสินเชื่อจากกรุงศรี ออโต้ได้เลย!

ขอสินเชื่อรถใหม่-Big Bike ง่ายขึ้นแค่คลิก Checkraka.com

พรเทพ ถิรสุนทรากุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาด ธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ กรุงศรี ออโต้ บอกว่า ปัจจุบันใครที่จะซื้อรถยนต์ มอเตอร์ไซด์ BigBike ต้องหาข้อมูลบนโลกอินเตอร์เน็ต ก่อนตัดสินใจซื้อ

“ผลสำรวจของอีวายระบุว่าผู้บริโภคถึง 80% หาข้อมูลเกี่ยวกับรถผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ทำให้กรุงศรี ออโต้ ร่วมมือกับเว็บไซต์ “เช็คราคาดอทคอม” ให้บนหน้าเว็บมีเครื่องมือคำนวณสินเชื่อรถยนต์ใหม่ และ BigBike เช็คนรุ่นรถที่ต้องการ และวางแผนการเงินได้บนแพลตฟอร์มเดียว เพื่อให้เกิด Seamless Digital Customer Experience หรือประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อ”

ชัช อนุวัตรอุดม กรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหาร เว็บไซต์ “เช็คราคาดอทคอม“ บอกว่า ปัจจุบัน มีผู้เข้าชมเว็บไซต์ checkraka.com กว่า 3 ล้านคน/เดือน เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่หาข้อมูลเพื่อซื้อรถยนต์ใหม่ บิ๊ก ไบค์ และสินเชื่อ จึงได้พัฒนาแพลตฟอร์มร่วม กรุงศรี ออโต้

กรุงศรี ออโต้ ชู API ใหม่ดันยอดสินเชื่อออนไลน์ปี 2561 แตะ 1,800 ล้านบาท

พรเทพ บอกว่า การร่วมมือครั้งนี้ กรุงศรี ออโต้ ใช้เทคโนโลยี Application Programming Interface (API) มาเชื่อมกับระบบเว็บไซต์ “เช็คราคาดอทคอม” ให้ลูกค้าคำนวณค่างวดและอัตราดอกเบี้ยของรถแต่รุ่นแต่ละคันที่โพสต์ขายอยู่ในเว็บไซต์ www.checkraka.com และจะแสดงผลบนหน้าจอให้ลูกค้าเหนแบบเรียลไทม์

ขณะเดียวกันจะมีคำแนะนำทางการเงินอื่นๆ เช่น การเพิ่มเงินดาวน์เพื่อช่วยให้ลูกค้าจ่ายดอกเบี้ยน้อยลง หรือการวางแผนการผ่อนชำระค่างวดตรงกับความต้องการของลูกค้า ที่สำคัญลูกค้าสามารถคลิกขอสินเชื่อรถใหม่ และบิ๊ก ไบค์ จากกรุงศรี ออโต้ ได้ทันที (สินเชื่อออนไลน์ “กรุงศรี นิว คาร์”  และ “กรุงศรี บิ๊ก ไบค์”)

“เราหวังว่ายอดสินเชื่อใหม่รวมทุกผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางออนไลน์ของปี 2561 จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 1,800 ล้านบาท”

สรุป

ก่อนจะซื้อรถ หรือมอ’ไซด์สักคัน เราก็เช็คแล้วเช็คอีกว่า รถรุ่นไหนดี ราคาคันไหนถูก แล้วต้องมาเปิดหน้าเว็บไซด์บริษัทสินเชื่อว่าคันนี้กู้ได้เท่าไร ผ่อนงวดละกี่บาท ตอนนี้เข้าเว็บเดียว Checkraka.com ก็ขอสินเชื่อจากกรุงศรี ออโต้ได้พร้อมกัน ง่าย สะดวกขึ้น แต่จะกู้ผ่านไหมก็อยู่ที่ประวัติทางการเงินของเรา ภาระหนี้ที่มีอยู่ วางแผนใช้เงินก่อนกู้นะคะ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

เปิดขายแล้ว !! กับ Apple Watch Series 4 ที่หลายคนรอคอย ซึ่งรอบนี้แอปเปิลเปลี่ยนดีไซน์พร้อมอัดเทคโนโลยีใหม่เข้าไปเพียบ ซึ่งมาพร้อมราคาที่ดีเอามากๆ แต่จะให้ดีกว่าเดิมต้องใช้รุ่นที่มี eSIM ด้วยถึงจะเต็มประสิทธิภาพ

โดย TrueMove H ออกโปรโมชั่นใหม่สำหรับ Apple Watch 4 รุ่น Cellular + WiFi โดยเฉพาะ มีรายละเอียดดังนี้

โปรโมชั่น 1 : Apple Watch 4 ฟรีค่าบริการ eSIM นานถึง 24 เดือน

• ฟรีค่าบริการรายเดือน 6 เดือน : เมื่อสมัครแพ็คเกจรายเดือน 199 บาทขึ้นไป สำหรับลูกค้าปัจจุบัน, ลูกค้าใหม่, ลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิม
• ฟรีค่าบริการรายเดือน 12 เดือน : เมื่อสมัครแพ็คเกจรายเดือน 1,099 บาทขึ้นไป สำหรับลูกค้าปัจจุบัน, ลูกค้าใหม่
• ฟรีค่าบริการรายเดือน 24 เดือน  (มูลค่า 6,000 บาท) : เมื่อสมัครแพ็คเกจรายเดือน1,099 บาทขึ้นไป สำหรับลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิม

โปรโมชั่น 2 : 

• Apple Watch 4 รุ่น Cellular + WiFi ลดทันที 1,000 บาท เมื่อสมัครแพ็คเกจรายเดือน 899 บาทขึ้นไป พร้อมฟรีค่าเปิดใช้บริการ One Number และค่าบริการรายเดือนนานสูงสุด 6 เดือน

โปรโมชั่น 3 : 

• ซื้อ iPhone XS, XS Max, XR พร้อมกับสมัครแพ็คเกจที่กำหนดไว้ รับส่วนลด Apple Watch 4 รุ่น Cellular + WiFi ลดสูงสุด 2,000 บาท พร้อมข้อเสนอใช้ฟรีนาน 24 เดือน (มูลค่า 6,000 บาท)

 

ตรวจสอบสิทธิ์การใช้งานได้ที่

• 1) กด USSD *904# กดโทรออก หรือ *904*หมายเลขโทรศัพท์#กดโทรออก จากนั้นรอ SMS ยืนยัน
• 2) เข้าเว็บ TrueMove H โดยกรอกหมายเลขเพื่อเช็คสิทธิ https://iwsheet.truecorp.co.th/support/rio/index.php

 

สั่งซื้อ -> Apple Watch 4 รุ่น Cellular + WiFi จาก TrueMove H

 

 

The post ชี้เป้า !! Apple Watch Series 4 พร้อมโปร eSIM ฟรี 24 เดือนและลดสูงสุด 2,000 บาท จาก TrueMove H appeared first on Macthai.com.

ถือว่าเป็นอีก 1 โปรโมชันสำหรับผู้ใช้แล้วกันนะ รอบนี้ที่ TrueMove H แจ้งมาว่าผู้ใช้งานสามารถใช้บริการ Apple Music ฟังเพลงได้ฟรีมากกว่า 50 ล้านเพลงบน iPhone, iPad, Mac, Apple Watch ซึ่งเพลงนั้นจะฟังได้ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยระยะเวลาฟังฟรีสูงสุดนาน 6 เดือน เดี๋ยวมาดูรายละเอียดกันสักหน่อยแล้วกัน

ผู้ใช้เครือข่าย TrueMove H ใช้ Apple Music ฟรีสูงสุด 6 เดือน

จากโพสต์นี้ http://applemusic.truemoveh.com สรุปรายละเอียดได้ประมาณนี้ครับ

• ใช้งาน Apple Music ได้ฟรีมีทั้ง 3 และ 6 เดือน แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ รายเดือนและเติมเงิน

สำหรับลูกค้ารายเดือน

• ฟรี 6 เดือน เงื่อนไข คือ ลูกค้าเปิดเบอร์ใหม่, ซื้อเครื่องใหม่พร้อมเปิดเบอร์, ลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิมแบบรายเดือน หรือเปลี่ยนจากระบบเติมเงินเป็นรายเดือน ที่สมัครแพ็กเกจตั้งแต่ราคา 899 บาทขึ้นไป
• ฟรี 3 เดือน เงื่อนไข คือ สำหรับลูกค้าเปิดเบอร์ใหม่,ลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิมแบบรายเดือน หรือ เปลี่ยนจากระบบเติมเงินเป็นรายเดือน และ ลูกค้าปัจจุบันแบบรายเดือน ที่สมัครแพ็กเกจตั้งแต่ราคา 299 เป็นต้นไป

สำหรับลูกค้าเติมเงิน

• ฟรี 3 เดือน เงื่อนไข คือ เปิดซิมใหม่ซุปเปอร์ฟัน ฟอร์ ทีน หรือ โซเชียล 4G พลัส และกดรับสิทธิภายใน 30 วันหลังเปิดเบอร์

แต่ประเด็นคือปกติ Apple Music จากทาง Apple นั้นก็เปิดให้ทดลองใช้งานฟรีอยู่แล้ว 3 เดือนอยู่แล้ว ดังนั้นผู้ที่จะได้รับผลประโยชน์มากที่สุดก็คือ ลูกค้าเปิดเบอร์ใหม่, ซื้อเครื่องใหม่พร้อมเปิดเบอร์, ลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิมแบบรายเดือน หรือเปลี่ยนจากระบบเติมเงินเป็นรายเดือน นั่นเองครับ ถือว่าเป็นเหมือนของแถมต้อนรับ ฟังฟรี 6 เดือนถ้าคิดเป็นมูลค่าก็ตกอยู่ที่ 774 บาท (ก็ไม่น้อยนะ)

จะรับสิทธิ์ฟัง Apple Music กับทาง TrueMove H อย่างไร?

ขั้นตอนตามนี้ครับ

1. กด *163# โทรออก เพื่อเข้าขั้นตอนการสมัคร
2. กดตอบกลับ แล้วพิมพ์ 1 เพื่อสมัคร Apple Music
3. รอ SMS แจ้งว่าเราจะใช้ Apple Music ได้กี่เดือน
4. กดรหัส USSD ที่ได้ใน SMS อีกครั้ง
5. ระบบจะส่ง SMS มายืนยันอีกครั้ง
6. เข้าใช้งาน Apple Music ผ่านแอป Music (เพลง) ที่มาพร้อม iOS ได้เลย

จะเลือกฟังแบบออนไลน์หรือดาวน์โหลดเพลงเหล่านั้นลง iPhone, Mac, Apple Watch ก็สุดแล้วแต่ (แต่ว่าเพลงที่โหลดลง iPhone หากหวังว่าจะเอาไปต่อคอมพิวเตอร์แล้วดูดเพลงออกมาเก็บไว้ ก็บอกเลยว่าทำไม่ได้นะครับ เพราะเพลงถูกเข้ารหัสเอาไว้) แค่นี้ก็เพลิดเพลินกับเพลงโปรดกว่า 50 ล้านเพลงบนมือของคุณได้แล้ว

ถ้าใกล้จะหมดเวลาแล้วต้องทำอย่างไร?

หากถูกออกถูกใจ Apple Music หลังจากลองใช้งาน 3-6 เดือนแล้ว อยากใช้ต่อจะมีค่าบริการรายเดือน 129 บาทซึ่งจะถูกหักจาก Apple ID ของเรา ส่วนถ้าต้องการยกเลิกก็ทำได้ง่ายๆ โดย กดยกเลิกได้ที่ *163*2# โทรออก รอ SMS ยืนยันการยกเลิก

ข้อมูลเพิ่มเติม TrueMove H

The post ผู้ใช้เครือข่าย TrueMove H ใช้ Apple Music ฟรีสูงสุด 6 เดือน appeared first on iPhoneMod.

เมื่อ Micron ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปหน่วยความจำได้โดนขโมยเทคโนโลยีโดยบริษัทซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของจีน นอกจากนี้ยังมีกรณีการขโมยเทคโนโลยีอื่นๆ ซึ่งสหรัฐกำลังเปิดเผยออกมาเรื่อยๆ

ภาพจาก Micron

คดีล่าสุดที่ทางการสหรัฐได้เปิดเผยออกมา เมื่อผู้ผลิตหน่วยความจำรายใหญ่อันดับ 5 ของโลกอย่าง Micron โดนขโมยความลับทางการค้า ซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตหน่วยความจำ แล้วนำเทคโนโลยีนี้ไปถ่ายทอดต่อให้กับรัฐวิสาหกิจจีน คาดว่ามูลค่าความเสียหายของ Micron สูงถึง 8,500 ล้านเหรียญสหรัฐ

เรื่องของการขโมยเทคโนโลยีจากบริษัทสหรัฐทำให้กระทรวงยุติธรรมสหรัฐเตรียมที่จะฟ้องร้องคดีนี้ด้วย และจะเพิ่มความร้อนแรงให้กับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน โดยการขโมยเทคโนโลยีของบริษัทสหรัฐเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน

บริษัทที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เตรียมฟ้องประกอบไปด้วย Fujian Jinhua Integrated Circuit และ United Microelectronics Corp โดยสองบริษัทเป็นรัฐวิสาหกิจของจีน นอกจากนี้ยังมีบุคคลอีก 2 คนที่เป็นอดีตพนักงาน และอีก 1 คนเป็นอดีตผู้บริหารบริษัทลูกของ Micron ในไต้หวัน

เรื่องเป็นมายังไง?

เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่จะโป๊ะแตกว่ามีการขโมยความลับทางการค้าขึ้นมาคือ Micron ได้ฟ้องบริษัทจีน 2 บริษัท Fujian Jinhua Integrated Circuit และ United Microelectronics Corp ว่าบริษัทเหล่านี้ขโมยความลับทางการค้า ทำให้ United Microelectronics Corp กลับฟ้องกลับว่า Micron นั้นลอกเลียนเทคโนโลยีในการผลิต ทำให้เกิดการสืบสวนขึ้นมา

หลังจาก FBI สืบสวนเรื่องนี้แล้วพบว่า ในช่วงหลังจาก Micron ซื้อโรงงานในไต้หวันช่วงปี 2013 โดยเอกสารกว่า 233 หน้า เกี่ยวกับเทคโนโลยีการผลิตชิป DRAM ซึ่งเป็นหน่วยความจำใช้ในผลิตภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็น การ์ดจอ แรมในคอมพิวเตอร์ ฯลฯ ถูกนำไปให้กับ Fujian Jinhua Integrated Circuit ซึ่งอดีตผู้บริหารบริษัทลูกของ Micron ในไต้หวันได้ลาออกมาเป็นผู้บริหารในช่วงปี 2015-2016 รวมถึงพนักงานอีก 2 คน

สำหรับ United Microelectronics Corp ที่มาเกี่ยวข้องกันได้เพราะว่า Fujian Jinhua นั้นมีการแชร์เทคโนโลยีการผลิตร่วมกัน รวมไปถึงมีการช่วยผลิตชิป DRAM ด้วย เนื่องจากกำลังการผลิตของ Fujian Jinhua น้อยกว่า

ในเดือนกรกฏาคมปีที่แล้ว ทางการจีนยังได้ห้ามไม่ให้ Micron จำหน่ายชิปหน่วยความจำในประเทศจีน ซึ่งรายได้ในประเทศจีนของ Micron มีไม่ถึง 1% เป็นประเด็นกดดันในเรื่องนี้อีกด้วย

ชิปหน่วยความจำเป็นส่วนประกอบสำคัญ โดยเฉพาะในโทรศัพท์มือถือ 2 แสนล้านคือการนำเข้าอุปกรณ์เหล่านี้

ในแต่ละปีผลิตภัณฑ์ Semiconductor ที่ประเทศจีนนำเข้ามีมูลค่ากว่า 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เป็นอันดับรองจากน้ำมันดิบ ทำให้ทางการจีนหาทางที่จะลดการนำเข้าและผลิตเองภายในประเทศจีนให้ได้ ซึ่งชิป DRAM และชิปหน่วยความจำอื่นๆ ส่วนใหญ่แล้วจะผลิตนอกประเทศจีน

ทางการสหรัฐได้กล่าวว่า บริษัทผู้ผลิตชิปหน่วยความจำรายใหญ่ของโลกส่วนใหญ่อยู่นอกประเทศจีนหมด ไม่ว่าจะเป็น SK Hynix และ Samsung ในประเทศเกาหลีใต้ Micron ของสหรัฐ Infineon ของเยอรมัน รวมไปถึงบริษัทในไต้หวัน เช่น Winbond ฯลฯ จึงเป็นแรงจูงใจส่วนหนึ่งให้เกิดการขโมยความลับทางการค้า เนื่องจากถ้าจีนสามารถผลิตชิปเหล่านี้ได้จะทำให้มูลค่าการนำเข้าลดลง

พาณิชย์สหรัฐห้ามส่งออกให้ 2 บริษัทนี้แล้ว

ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ห้ามส่งออกวัตถุดิบ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตชิปหน่วยความจำให้กับทั้ง 2 บริษัทแล้ว รวมไปถึงมีการขึ้นบัญชีดำในเรื่องนี้แล้วด้วย

Jeff Sessions รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า การขโมยเทคโนโลยีของบริษัทสหรัฐมีเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา จีนควรจะร่วมมือกับนานาชาติอย่างถูกต้องตามกฏหมาย และจะต้องหยุดในการขโมยเทคโนโลยีเหล่านี้ด้วย

Air China Airbus A330 ภาพจาก http://www.aircraft.airbus.com/presscentre/pressreleases/press-release-detail/detail/50th-a330-for-air-china-successfully-completes-maiden-flight/ ไม่ใช่แค่ชิปหน่วยความจำ

ไม่ใช่แค่การขโมยความลับทางการค้าที่เป็นเทคโนโลยีการผลิตชิปเท่านั้น สหรัฐยังได้รายงานว่าสายลับของจีนได้มีการตั้งรางวัลให้กับผู้ที่สามารถที่จะขโมยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ไอพ่นสำหรับเครื่องบินโดยสาร ก่อนหน้านี้มีชาวจีนที่ถูกจับกุมในประเทศเบลเยี่ยมเกี่ยวข้องกับการขโมยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ไอพ่นมาแล้ว

นอกจากนี้บริษัทที่เกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์ไอพ่นในฝรั่งเศสยังโดนขโมยเทคโนโลยีพร้อมกันกับคดีนี้อีกด้วย กระทรวงยุติธรรมกล่าวว่ามี Hacker รวมไปถึงสายลับของจีนที่เกียวข้องในคดีนี้ 10 รายด้วยกัน ช่วงเวลาในการขโมยเทคโนโลยีเกิดขึ้นในช่วงปี 2010-2015

เทคโนโลยีเครื่องยนต์ไอพ่นเป็นส่วนหนึ่งสำหรับการพัฒนาเครื่องบินที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งจีนพยายามที่จะผลิตให้ได้ภายในประเทศในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แต่จีนไม่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีตรงนี้ได้

วิเคราะห์

เรื่องนี้จะกดดันจีนในเรื่องของสงครามการค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสหรัฐหวังว่าจีนจะกลับเข้ามาเจรจาโดยเฉพาะเรื่องของการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา และเทคโนโลยีในการผลิต ซึ่งกว่าที่บริษัทต่างๆ จะคิดเทคโนโลยีเหล่านี้ได้ ต้องทุ่มเงินไปไม่น้อย การที่จีนขโมยเทคโนโลยีเหล่านี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในการค้าแบบเสรี

ซึ่งในอนาคตเราจะเห็นข่าวนี้ออกมาเรื่อยๆ

ที่มา – USA Today, Wired, The Register, CNA, Bloomberg [1], [2]

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

หลายปีที่ผ่านมานักลงทุนและลูกค้าต่างประหลาดใจกับยอดขาย iPhone ที่เติบโตสวนทางกับแรงโน้มถ่วงโลก แต่หลังจากนี้มีข่าวว่า Apple จะไม่เปิดเผยตัวเลขยอดขายให้สาธารณะรับรู้แล้ว?

Apple เผยอาจจะเลิกรายงานยอดขายสินค้า เหลือรายงานกำไรและรายได้

ทาง Apple มีแผนจะเลิกรายงานตัวเลขยอดขาย iPhone iPads และ Macs ในแต่ละไตรมาส หรือจะเป็นเพราะยอดขายบางผลิตภัณฑ์จะแผ่วลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ Apple ยังรายงานรายได้และกำไรในแต่ละหมวดเหมือนเดิม

ซึ่งยังมีเรื่องที่ตลาดจับตามองอีกหลายอย่าง เช่น เป้าหมายที่ Apple คาดว่าจะขายของได้ในช่วงเทศกาลสำคัญไตรมสนี้อยู่ที่ 89,000-93,000 ล้านเหรียญสหรัฐ นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าถือว่าเติบโตเล็กน้อยจากปีก่อนที่อยู่ระดับ 88,300 ล้านเหรียญสหรัฐ

ซึ่งในวันพฤหัสที่ผ่านมา หุ้นของ Apple ก็ตกลงประมาณ 7% หลังจากเวลาปิดตลาด ที่มีการรายงานตัวเลขรายได้ของบริษัท หากยังลดลงต่อเนื่อง Apple มีโอกาสปรับลดจากตำแหน่งบริษัทที่มีล้านล้านเหรียญสหรัฐ

เรียกว่าวันหยุดยาวนี้ใครๆ ก็จับตามองยอดขาย iPhone อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะ iPhone รุ่นใหม่ๆ ที่จะออกมา อย่างรุ่นท็อป iPhone XS และ XS Max ที่จะเปิดขายในช่วงท้ายเดือนก.ย. และ XR ที่ออกมาขายเดือนต.ค. ที่ผ่านมา

Apple และนักวิเคราะห์หวั่นเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ภาษีการค้า อัตราแลกเปลี่ยนกระทบธุรกิจ

Luca Maestri CFO Apple บอกว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลก ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนส่งผลกระทบกับยอดขายของ Apple ในไตรมาสที่จะถึงประมาณ 2 พันล้านเหรียญ ขณะเดียวกันยังมีความกังวลการเติบโตในตลาดเกิดใหม่

Dan Morgan senior portfolio manager Synovus Trust บอกว่า ความกังวลทั้งในตลาด Wall Street ที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ภาษีการค้า และอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน

ว่าแต่ยอดขาย Apple ไตรมาส 3 2018 ยังดีอยู่หรือเปล่า?

ยอดขาย Apple ไตรมาส 3 ปี 2018 อยู่ที่ 62,900 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นจาก 1.ราคา iPhone เฉลี่ย 793 เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 618 เหรียญสหรัฐ 2.รายได้จากบริการเสริมที่สูงขึ้น เช่น Apple Pay และ iCloud

แต่ยอดขาย iPhone อยู่ที่ 46.9 ล้านเครื่อง ถือว่าทรงตัวเมื่อเทียบกับยอดขายในปีก่อน

หลังจากนี้เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของ Apple ที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนเครื่องไอโฟนที่ขายออกไปแต่รายได้จะไปอยู่ที่บริการเสริมต่างๆ เช่น Apple pay iCloud Apple Music Subscribe รวมถึงอุปกรณ์เสริมต่างๆมากขึ้นอย่างไรก็ตามช่วงเวลานี้

• สำรวจตลาด คนไทยเมินจอง “iPhone XS Max, iPhone XS และ iPhone XR”

• iPhone อาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายที่ทำให้ Apple เป็นบริษัทมูลค่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

สรุป

เราคุ้นเคยกับยอดขาย iPhone ที่โตเร็ว แรงต่อเนื่อง แต่ไตรมาส 3 ปี 2018 ต้องยอมรับว่ายอดขาย iPhone ของ Apple แทบไม่ต่างจากปีก่อน เลยอาจสาเหตุให้ทาง Apple อาจไม่เปิดเผยตัวเลขยอดขาย iPhone อีกต่อไป แต่ยังจะเปิดเผยตัวเลขรายได้รวมถึงกำไรที่เกิดขึ้น เพราะเขาจะมีรายได้จากบริการเสริมอื่นๆ เช่น Apply Pay iClound

2-3 เดือนนี้เราเห็นหุ้นใหญ่กลุ่มเทคโนโลยีในต่างประเทศมีปัญหาอย่าง Facebook Amazon และ Google ก็หวังว่า Apple จะเป็นรายสุดท้าย ในกลุ่ม The FAANG ที่ได้รับผลกระทบ

ที่มา CNN

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

อุตสาหกรรมค้าปลีกยังคงมีข่าวเรื่องการถูก Disruption อย่างต่อเนื่อง และไม่ใช่แค่จากช่องทางออนไลน์ แต่ขยายไปช่องทางอื่นๆ ที่หลากหลาย ล่าสุดเข้าหาลูกค้าถึงออฟฟิศ!

มีกรณีศึกษาจากวงการรีเทลอีกหนึ่งเคส เมื่อบริการเช่าเสื้อผ้าออนไลน์ในนิวยอร์กอย่าง Rent the Runway ได้เป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกับ WeWork ที่เป็น Co-working office ทั้งคู่ถือเป็น Disruptor ของวงการทั้งสิ้น

โปรเจ็คต์นี้ได้มีความร่วมมือกันโดยที่ Rent the Runway จะติดตั้งจุดที่ให้ลูกค้าบริการตัวเองตัวเอง สามารถออเดอร์สินค้า และนำสินค้ามาคืนได้ที่จุดนี้ มีการใช้เทคโนโลยี และแอปพลิเคชั่น ทำการติดตั้งที่ WeWork ทั้ง 15 จุด ตั้งอยู่ใน 6 เมืองด้วยกัน ได้แก่ Chicago, Los Angeles, Miami, New York City, San Francisco และ Washington, D.C.

จากเดิมที่ Rent the Runway ได้ให้สมาชิกเข้าถึงจุด drop-off สินค้าของบริษัทใน 5 จุดในเมือง New York City, Chicago, San Francisco, Washington, D.C. และ Los Angeles

การขยายจุด drop-off เข้าสู่ WeWork ถือเป็นการขยายโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เป็นการ Disrupt ในอุตสาหกรรมรีเทลที่ไม่จำเป็นจะต้องเปิดช้อปอยู่ในห้างสรรพสินค้า แต่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรงในพื้นที่ต่างๆ

และ WeWork ก็มีกลุ่มลูกค้าที่เป็นพนักงานออฟฟิศที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์อยู่แล้วด้วย อีกทั้งยังช่วยขยายตลาดได้เร็วขึ้น เพราะมีหลายแห่งทั่วสหรัฐอเมริกา แถมสมาชิก WeWork จะได้รับส่วนลดสมาชิก Rent the Runway ด้วย

สำหรับ Rent the Runway ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 เป็นแพลตฟอร์มใช้เช่าเสื้อผ้าผู้หญิงแบบออนไลน์ เริ่มจากชุดที่ใช้ในโอกาสพิเศษต่างๆ และได้ขยายสู่เสื้อผ้าที่สามารถใส่ในชีวิตประจำวัน ใส่ทำงาน ใส่เที่ยวได้ รวมถึงมีแผนที่จะเพิ่มโอกาสการเช่าชุดให้มากขึ้นด้วยโมเดลสมาชิกรายเดือน

ในขณะเดียวกันการร่วมมือกันครั้งนี้ก็เป็นการบุกตลาดรีเทลของ Wework ด้วยเช่นกัน ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมิถุนายนได้เปิดตัว WeMrkt ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกเล็กๆ ในย่าน Manhattan ที่สินค้าเมอร์เชนไดร์สต่างๆ ที่คัดเลือกมาเฉพาะสมาชิกโดยเฉพาะ และมีแผนที่จะขยายไปยังโลเคชั่นอื่นๆ เพิ่มเติม

Source

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

เอไอเอส จับมือเป็นพันธมิตรแบรนด์เกมมิ่งระดับโลก RAZER เพื่อวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนสายเกมตัวแรง RAZER PHONE 2 แบบเอ็กซ์คลูซีฟในไทย ในราคา 27,990 บาท RAZER PHONE 2 เป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้ดีไซน์และสเปคเพื่อเหล่าเกมเมอร์โดยเป็นรุ่นแรกรุ่นเดียวที่มีจอแสดงผล LCD ขนาด 5.7 นิ้ว ใช้พาเนล...

MacBook Air 2018 เป็นรุ่นที่ปรับปรุงประสิทธิภาพจากเดิมขึ้นมาก โดยรายงานเผยว่าคะแนน Geekbench สูงกว่า MacBook รุ่นก่อนหน้าและคะแนนใกล้เคียง MacBook Pro

คะแนน Geekbench ของ MacBook Air 2018 ออกมาค่อนข้างสูง

สำหรับคะแนน Geekbench ของ MacBook Air 2018 Core-i5 1.6GHz ที่เผยออกมาคือ Single-Core 4284 คะแนนและ Multi-Core 7828 คะแนน ซึ่งสูงกว่า MacBook 2017 หลายรุ่นได้แก่

• MacBook Air 2017 : Single-Core 3335 คะแนน, Multi-Core 6119 คะแนน
• MacBook 12 นิ้ว 2017 : Single-Core 3527 คะแนน, Multi-Core 6654 คะแนน

นอกจากนั้นคะแนน Geekbench ของ MacBook Air 2018 Core-i5 1.6GHz ยังใกล้เคียงกับ MacBook Pro อีกด้วย

• MacBook Pro 13 นิ้ว 2018 (ไม่มี Touch Bar) : Single-Core 4314 คะแนน, Multi-Core 9071 คะแนน
• MacBook Pro 13 นิ้ว 2018 (มี Touch Bar) : Single-Core 4504 คะแนน, Multi-Core 164164 คะแนน

นั่นหมายความว่า MacBook Air 2018 ปรับปรุงประสิทธิภาพจากรุ่นปีที่แล้วขึ้นมาก และยังมีคะแนนประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ MacBook Pro 13 นิ้ว 2018 (ไม่มี Touch Bar) ที่มีราคาสูงกว่า MacBook Air 2018 ราวๆ 5,000 บาท

อย่างไรก็ตามคะแนน Geekbench ไม่ได้เป็นตัวระบุถึงประสิทธิภาพด้านการใช้งานได้ทั้งหมด เป็นเพียงการวัดคะแนนด้วย Software เท่านั้น แต่ MacBook Air 2018 มาพร้อมสเปคที่น่าสนใจมากๆ ซึ่งต้องรอดูว่าการนำไปใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร

ที่มา – 9to5mac

The post MacBook Air 2018 มีคะแนน Geekbench สูงกว่ารุ่นก่อนหน้า คะแนนใกล้เคียง MacBook Pro appeared first on iPhoneMod.