Apple ประกาศอย่างเป็นทางการว่า Apple Watch Series 4 เปิดขายในไทยวันที่ 2 พ.ย. 2561 นี้ รอสั่งซื้อได้เลยที่ Apple Store Online ประเทศไทย

Apple Watch Series 4 เปิดขายในไทยวันที่ 2 พ.ย. 2561 นี้

Apple เผยข้อมูลผ่านเว็บไซต์ Apple.com ว่า Apple Watch Series 4 พร้อมเปิดขายในไทยวันที่ 2 พ.ย. 2561 นี้ โดยคาดว่าเปิดขายทั้ง Apple Store Online และตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย

สำหรับรุ่นที่เปิดขายคาดว่าจะเปิดขายทั้ง 3 รุ่นหลัก คือ Apple Watch Series 4, Apple Watch Series 4 Nike+, Apple Watch Series 4 Hermès ส่วนราคา Apple Watch Series 4 ที่จะเปิดขายในไทยยังไม่มีข้อมูลเผยออกมา แต่ก่อนหน้านี้มีข้อมูลการคาดการณ์และราคาหลุดออกมา สามารถติดตามได้ที่นี่

The post Apple Watch Series 4 เปิดขายในไทยวันที่ 2 พ.ย. 2561 นี้ appeared first on iPhoneMod.

หลังจากที่ทีมงานได้ออกมารายงานว่า Apple Watch Series 4 จะวางจำหน่ายในวันที่ 2 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ ล่าสุดทาง iStudio by copperwired และ AIS ได้ออกมาคอนเฟิร์มกันแล้วว่า จะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้จริง

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงื่อนไข และโปรโมชัน ส่วนลดแต่อย่างใดว่ามีอะไรบ้าง จะมี Apple Watch Series 4 รุ่นไหนออกมาวางจำหน่ายบ้าง, สามารถจองได้หรือไม่, Walk-in เข้าไปซื้อได้หรือเปล่า

สุดท้ายก็ต้องมาคอยติดตามกันว่า ทาง Apple online และตัวแทนจำหน่ายในแต่ละสาขา จะมีโปรโมชันอะไรที่จะคอยดูเงินในกระเป๋าของเราได้

 

ที่มา – Must Love Mac, AIS

The post คอนเฟิร์ม !! Apple Watch Series 4 เริ่มจำหน่ายในไทย วันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ appeared first on Macthai.com.

สิ้นสุดการรอคอยกับงานเปิดตัวสินค้าใหม่ของแอปเปิล ซึ่งจะเป็นงานสุดท้ายส่งท้ายปี 2018 พร้อมคำโปรย “There’s more in the making” โดยงานจะจัดขึ้นที่ the Brooklyn Academy of Music, Howard Gilman Opera House ในเมือง New York City ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยงานนี้จะจัดขึ้นตั้งแต่เวลา 10.00 น. Eastern Time หรือเวลา 21.00 น. ในวันที่ 30 ตุลาคมที่จะถึงนี้

ซึ่งในรอบนี้แอปเปิลได้ส่งบัตรเชิญหลากหลายสไตล์ด้วยกัน โดยงานเปิดตัวในคราวนี้ สิ่งที่น่าจะมาให้เห็นกันอย่างแน่นอนเลยก็คือ iPad Pro รุ่นใหม่ที่รองรับ Face ID ไม่มีปุ่มโฮม และอาจจะเปิดตัว Apple Pencil รุ่นใหม่คู่กับ iPad Pro ด้วยก็ได้

นอกจากนี้เราอาจจะได้เห็น Mac mini รุ่นใหม่ สเปกเทพเพื่อผู้ใช้ระดับโปรเฉพาะอีกด้วย อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังไม่มีข่าวลืออะไรมากนัก ต้องมาคอยติดตามกันต่อไปว่า แอปเปิลจะมีเซอร์ไพรส์อะไรใหม่

 

ที่มา – MacRumors

The post Apple แจกบัตรเชิญงานเปิดตัว iPad Pro รุ่นใหม่ วันที่ 30 ตุลาคมนี้ เวลา 21.00 น. !! appeared first on Macthai.com.

แบงก์ใหญ่อย่างธนาคารกรุงเทพ (BBL) ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2561 ยังเติบโตดีทั้งรายได้จากดอกเบี้ย และไม่ใช่ดอกเบี้ย ทำให้กำไรสุทธิโต 11.1% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ภาพจาก Shutterstock แบงก์กรุงเทพกำไรสุทธิ 27,229 ล้านบาทโต 11.1%

ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2561 มีกำไรสุทธิส่วนธนาคารอยู่ที่ 27,229 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.1% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 

โดยมีรายได้จากการดำเนินงาน 92,338 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.3% มาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 6.6% ซึ่งมี NIM หรือ ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 2.38% และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 15.7% หลักๆ เติบโตจากกำไรสุทธิจากธุรกรรมเพื่อค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศ กำไรสุทธิจากเงินลงทุน และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ โดยเฉพาะค่าธรรมเนียมจากบริการประกันผ่านธนาคารและบริการกองทุนรวม และค่าธรรมเนียมจากธุรกิจหลักทรัพย์

ขณะที่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 42.1%

ภาพจาก Shutterstock 9 เดือนที่ผ่านมา สินเชื่อของ BBL เป็นอย่างไรบ้าง?

ณ สิ้นเดือนกันยายน 2561 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 2.0 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.9% จากสิ้นปี 2560 แบ่งเป็นสินเชื่อลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ สินเชื่อลูกค้าบุคคล และสินเชื่อกิจการต่างประเทศ

ขณะเดียวกันมีอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวม (NPL Ratio) อยู่ที่ 3.6% และทางธนาคารมีเงินสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของธนาคาร 151,515 ล้านบาท ถือว่าเพียงพอต่อความเสี่ยงที่อาจะเกิดขึ้นรวมถึง เกณฑ์ IFRS9 ที่จะใช้ในอนาคต

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

หลายคนคงเคยได้ยินชื่อบมจ.ทิพยประกันภัย (TIP) ที่เข้าร่วมโครงการของภาครัฐบ่อยๆ เช่น โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ ขายประกันภัยในธนาคารออมสิน โครงการสวัสดิการเงินกู้สมาชิกกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเหลือเพื่อนสมาชิกครู (ชพค.) ฯลฯ

แต่เมื่อโลกปลี่ยน ธุรกิจประกันก็เปลี่ยน เบี้ยหลักอย่างประกันภัยรายใหญ่ (ก่อสร้าง) ปรับลดลงตามราคาโลก ทำให้บริษัทต้องหันมาเน้นธุรกิจรายย่อย ในฐานลูกค้าทั่วไปมากขึ้น ล่าสุดเลยจับมือกับ Startup ใช้ดิจิตอลหาทางออกให้ธุรกิจ

เมื่อเบี้ยรายใหญ่ชะลอตัว TIP จับมือ Startup สร้างฐานลูกค้ารายย่อย

สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทิพยประกันภัย (TIP) บอกว่า ต้องยอมรับว่าปัจจุบันเบี้ยประกันจากธุรกิจขนาดใหญ่ปรับตัวลดลงตามราคาโลก ส่งผลให้บริษัทหันมาเน้นฐานลูกค้ารายย่อยมากขึ้น โดยปรับใช้เทคโนโลยีให้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น ล่าสุดเปิดตัวโครงการ TIP Gateway, powered by Acrosure ซึ่งทำเรื่อง Insurance API Gateway หรือระบบการเชื่อมต่อกับบริษัทประกันภัยที่จะเปิดให้ Startup ทำงานกับบริษัทได้ง่ายขึ้น

จุดเด่นคือ Acrosure เป็น Startup ที่ทิพยประกันภัยลงทุนไว้ จะเป็นคนดูแลโครงการนี้ทั้งหมด ซึ่งเเมื่อ Startup เชื่อมต่อใน TIP Gateway, powered by Acrosure บริษัทจะสามารถเชื่อมต่อในแอพพลิเคชั่น หรือเครือข่ายนั้นๆ เพื่อสร้างและเสนอขายประกันภัยให้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ทั้งเรื่องความคุ้มครอง ราคาพิเศษ บริการที่ดีขึ้น ฯลฯ ปัจจุบันมี Startup เข้าร่วมโครงการนี้ 5 บริษัทได้แก่

• BUILK บริษัทให้บริการระบบริหารธุรกิจก่อสร้างฟรี และจะเปิดให้ผู้รับเหมาในแอพฯกว่า 50,000 รายสามารถซื้อประกันก่อสร้างได้จากในแอพฯ
• SHIPPOP บริษัทให้บริการส่งพัสดุ จะเพิ่มบริการประกันขนส่งสินค้าแบบรายเที่ยว
• Tourkrub ศูนย์รวมแพ็คเกจทัวร์ต่างประเทศ จะเพิ่มบริการประกันท่องเที่ยวให้ลูกค้า
• Drivemate ผู้ให้บริการรถเช่า จะมีบริการประกันรถให้กับผู้เช่า
• Cleverse เปิดตัวระบบซื้อผลิตภัณฑ์ของทิพยประกันภัยผ่าน LINE นอกจากใช้งานง่ายขึ้นยังสามารถออกกรมธรรม์ได้ในทันที

“ในยุคดิจิตอล ถ้าเราจะทำเรื่องเทคโนโลยีด้วยตัวเองให้เร็วคงยาก ดังนั้นเราเลยร่วมมือกับ Strategic Partner เหล่านี้เพื่อพัฒนาเรื่องเทคโนโลยีให้เร็วขึ้น ผ่านการ VC หรือ Venture Captital โดยตั้งงบไว้ปีละ 100 ล้านบาท แต่เราจะไม่เข้าไปเปลี่ยนการทำงานของ Startup เราจะสนับสนุนอยู่ข้างหลัง”

ส่วนปีนี้เราเปิดตัวช่องทางการขายคู่ค้า ซึ่งจะร่วมมือกับ พาร์ทเนอร์ขนาดใหญ่ เช่น Amezon PTT Blue Card ฯลฯ ที่เขามีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ และช่วยให้เราเข้าถึงฐานลูกค้าได้มากขึ้น ปีนี้มีการพูดคุยกับพาร์ทเนอร์อีก 3-4 เจ้า คาดว่าปี  2562 จะเห็นความชัดเจนและมีคู่ค้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลัง 2562 จะมีคู่ค้าเพิ่มอีกประมาณ 6 ราย

ต่อยอดแผนงาน Digital ตั้งเป้าหมายภายใน 5 ปี เบี้ยต้องแตะ 1,000 ล้านบาท

ส่วนแผนงานใหญ่ของบริษัทด้านดิจิตอล ภายใน 5 ปี (2560-2564) คาดว่าเบี้ยประกันภัยจากช่องทางดิจิตอลทั้งหมดจะอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่อยู่ประมาณ 200 ล้านบาท อนาคตเบี้ยประกันส่วนใหญ่จะมาจาก ประกันรถยนต์กว่า 70% แต่มีผลิตภัณฑ์รายย่อยอื่นๆ เช่น ประกันที่อยู่อาศัย ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันการเดินทาง ฯลฯ

ที่สำคัญปีนี้เรายังเปิดสายงานใหม่ที่ชื่อว่า Digital Insurance & IT เพื่อดูภาพรวมว่าต้องทำอะไรอีกบ้างให้ไปถึงเป้าหมาย

สรุป

ธุรกิจประกันภัยหันมาเน้นลูกค้ารายย่อยเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างสมดุลในพอร์ทตัวเอง ด้านบมจ.ทิพยประกันภัย เลยต้องเร่งเครื่องพัฒนาเทคโนโลยี และช่องทางดิจิตอลมาเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ แต่จะทำเองทั้งหมดไม่ได้เลยต้องร่วมกับ Startup ในหลายด้านเพื่อสร้างแบบประกันใหม่ให้ตรงใจลูกค้า

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า iPhone ปี 2019 จะยังคงขนาดจอ 5.8 นิ้ว, 6.5 นิ้ว OLED และ 6.1 นิ้ว LCD ไว้อยู่ โดยเป็นรุ่นปรับสเปค, จอใหญ่อาจรองรับ Apple Pencil

iPhone ปี 2019 อาจใช้จอ OLED 5.8 นิ้ว, 6.5 นิ้ว และ LCD 6.1 นิ้ว

Ming-Chi Kuo ได้อ้างอิงข้อมูลจาก Luxshare (ผู้ผลิตชิ้นส่วนให้ Apple) เป็นข้อมูลคาดการณ์จำนวนผลิตชิ้นส่วนชี้ให้เห็นว่าใน iPhone ปี 2019 จะยังมี 3 รุ่นและคงขนาดจอ 5.8 นิ้ว, 6.5 นิ้ว OLED และ 6.1 นิ้ว LCD เหมือนปี 2018

iPhone ปี 2018 อย่าง iPhone XS, iPhone XS Max, iPhone XR ถือว่าเป็นรุ่น “S” ที่เป็นการอัปเกรดสเปคแต่ไม่เปลี่ยน Design จาก iPhone X ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวชี้ให้เราเห็นว่า Apple จะยังคง Design แบบเดิมไว้อยู่

ข้อมูลนี้ถือว่าเป็นข่าวลือแรกๆ ของ iPhone รุ่นใหม่ปี 2019 นอกจากเรื่อง Design ที่เหมือนเดิมแล้วยังมีข่าวลืออีกว่า iPhone ปี 2019 จะใช้ชิพ A13 ที่ผลิตโดย TSMC, กล้องหลัง 3 ตัว, ปรับปรุงกล้องหน้า TrueDepth ใหม่ (รอยบากเล็กลง) และในรุ่นจอใหญ่อาจรองรับ Apple Pencil ซึ่งต้องติดตามกันอีกยาวๆ

ที่มา – macrumors

The post iPhone ปี 2019 อาจใช้จอ OLED 5.8 นิ้ว, 6.5 นิ้ว และ LCD 6.1 นิ้วเหมือนเดิม (ข่าวลือ) appeared first on iPhoneMod.

พึ่งเปิดให้ระบบ iOS ได้เล่นอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2561 สดๆ ร้อนๆ เลยครับ สำหรับเกม Latale W เกมมือถือสุดน่ารัก เป็นมิตรกับทุกเพศทุกวัย แถมระบบเกมดีๆ อีกเพียบ

Latale W: Level up

Latale W (ลาเทล ดับเบิ้ลยู) เกม MMORPG สุดน่ารักใหม่ล่าสุด ผจญภัยสนุกเต็มพิกัดในโลกแฟนตาซีสุดยิ่งใหญ่ที่คุณจะต้องหลงรัก ด้วยระบบการเล่นแบบ 3D Side-Scrolling เล่นในแนวด้านข้าง ที่เล่นง่าย เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย (ลักษณะคล้ายกับเกม Maple) และที่สำคัญเป็นภาษาไทย เสียงพากย์ไทยทั้งเกม

เกม Latale W มาพร้อมกับระบบการเล่นที่หลากหลายท้าทายความสามารถ ทั้งระบบการลงดันเจี้ยน, ระบบ PVP, ระบบตกปลา, ระบบแต่งบ้าน, ระบบเลี้ยงสัตว์ ไปจนถึงระบบแต่งงาน

และ 4 อาชีพแบบจัดเต็ม ทั้ง Warrior, Knight, Wizard และ Explorer สุดเก่งกาจ! สนุกกับการออกไปผจญภัยกับเพื่อนและคนที่คุณรักกันได้เลย

Latale W เกมมือถือสุดน่ารักในรูปแบบการเล่นแบบ Side Scrolling ที่พัฒนาโดยบริษัท Funigloo จากประเทศเกาหลีใต้ และเปิดให้บริการโดยบริษัท Level Up Games ในเครือ JIB Computer Group

นอกจากนี้ยังมีการจับมือร่วมกับ Nanami Animation และ Tanudan Studio สองทีมจากประเทศไทยที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาคาแรคเตอร์และเสียงพากย์ไทยภายในเกมทั้งหมด เพื่อยกระดับเกมให้มีความสมบูรณ์และเหมาะสมกับผู้เล่นชาวไทยมากยิ่งขึ้น

ช่องทางติดต่อ
Official Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/LataleW.TH/

ระบบภายในเกม Latale W

• ภาพเกมน่ารักมาก เล่นในแนวด้านข้างแบบ 3D Side-Scrolling
• ผจญภัยในโลก MMORPG สุดกว้างใหญ่ ทุกคนสามารถโลดแล่นได้อย่างอิสระ พร้อมกิจกรรมต่างๆมากมาย
• ร่วมต่อสู้ไปกับสัตว์เลี้ยงคู่ใจสุดน่ารัก ที่มีมากกว่า 300 สายพันธุ์!
• ระบบต่อสู้สุดมัน ต่อสกิลและคอมโบสุดอลังการ สนุกสุดๆ
• ผจญภัยไปพร้อมกับเพื่อนและคนรู้ใจได้ทั้งรูปแบบปาร์ตี้ และกิลด์!
• ออกล่าบอสสุดโหด! พิสูจน์ความแข็งแกร่งของคุณ และลุ้นรับไอเทมหายากมากมาย
• ตะลุยไปในดันเจี้ยนสุดท้าทาย ด้วยระบบดันเจี้ยนที่ตื่นเต้นและแปลกใหม่!
• สร้างสรรค์ที่พักของคุณได้หลากหลายสไตล์ตามจินตนาการไม่จำกัดด้วย ระบบแต่งบ้าน
• ประกาศความรักให้โลกรู้ ไปกับระบบแต่งงานสุดฟิน
• ระบบแฟชั่นสุดตื่นตา น่ารัก ที่จะทำให้ตัวละครของคุณโดดเด่นเหนือใคร
• ระบบตกปลาและรวบรวมวัตถุดิบเพื่อผลิตไอเทมสารพัดประโยชน์มากมาย
• เกมจำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา
• เกมเล่นฟรี แต่อาจมีไอเทมบางอย่างที่สามารถซื้อด้วยเงินจริงได้

ดาวน์โหลดเกม Latale W

เนื้อที่เกม: 150.2 MB รองรับ iOS 8.0 ขึ้นไป (ใช้ได้กับ iPhone และ iPad)
ดาวน์โหลดเกมได้ฟรีที่: Latale W: Level up on App Store

The post Latale W เปิดให้เล่นแล้ว เกม MMORPG สุดน่ารักแห่งปี appeared first on iPhoneMod.

สิงคโปร์เป็นประเทศที่แต่ละครัวเรือนมีคนอยู่น้อยมาก หรือ 1-2 คนเท่านั้น ซึ่งคนเหล่านี้ก็ต่างทำงานในช่วงเวลากลางวัน ทำให้เวลาจะสั่งซื้อสินค้า Online ก็ต้องคิดแล้วคิดอีกว่าจะให้มาส่งเมื่อไร แต่ปัญหาเหล่านี้จะไม่มีอีกแล้ว

จับมือระหว่าง 3 พาร์ทเนอร์สุดแข็งแกร่ง

ปัญหาการส่งสินค้าเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวสุดๆ ทั้งฝั่งผู้บริโภค รวมถึงฝั่งผู้ส่งสินค้า เพราะกลุ่มแรกก็ไม่รู้ว่าจะให้สินค้ามาส่งถึงมือตอนไหนดี ส่วนฝั่งผู้ส่งก็อยากส่งให้ถึงมือเร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องวนไปวนมาหลายๆ รอบ แต่เมื่อคนที่สั่งซื้อสินค้าไม่อยู่บ้านในวันธรรมดา ก็ทำให้หลายฝ่ายต้องหาพื้นที่ตรงกลางเพื่อรับส่งสินค้า

นั่นจึงเป็นที่มาของการเจรจาธุรกิจระหว่าง Lazada ยักษ์ใหญ่ในโลก E-Commerce, Ninja Van ธุรกิจรับส่งพัสดุในสิงคโปร์ และร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven เพื่อให้บริการจุดรับ-ส่งพัสดุในร้านสะดวกซื้อดังกล่าว ทำให้ผู้ส่งก็สามารถส่งได้ถึงที่หมายแน่นอน รวมถึงฝั่งผู้รับก็สามารถมารับในเวลาที่ตัวเองต้องการได้

Ray Chou หัวหน้าประจำประเทศสิงคโปร์ของ Ninja Van เล่าให้ฟังว่า การมีจุด Drop-off ทำให้ทุกฝ่ายสะดวกกว่าเดิม เบื้องต้นจะให้บริการใน 7-Eleven ทั้งหมด 159 สาขา จากนั้นจะขยายให้ครบ 350 สาขาในสิงคโปร์ แต่เพื่อความสะดวกในการจัดเก็บ ทำให้ตัวพัสดุที่ส่งต้องมีขนาดไม่เกิน 80x80x80 ซม. และหนักน้อยกว่า 5 กก.

อย่างไรก็ตามการสั่งซื้อสินค้าบน Lazada และให้ส่งมาที่จุดที่ต้องการ จะต้องเสียค่าบริการขนส่งสูงสุด 2.99 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 70 บาท) แต่การเลือกให้ส่งสินค้าไปที่ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven จะไม่มีการคิดค่าบริการเพิ่มแต่อย่างใด

สรุป

แม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกของสิงคโปร์ที่มีบริการจัดส่งสินค้าไปที่อื่น เช่นตู้ล็อคเกอร์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ซื้อ เพราะทั้ง Ninja Van เอง รวมถึงไปรษณีย์สิงคโปร์ก็เคยให้บริการนี้แล้ว แต่การไปร่วมมือกับร้านสะดวกซื้อที่มีสาขามากขนาดนี้ ก็ช่วยปลดล็อคการส่งสินค้าไปได้มากพอสมควร และมันอาจเป็นกลยุทธ์ใหม่ในการทำธุรกิจก็ได้

อ้างอิง // Tech in Asia

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวโดยอ้างอิงจากแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวว่า “เจ้าสัวเจริญ” วางแผนที่จะนำบริษัทอสังหาในเครือ TCC Group อีกบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปีหน้า ตั้งเป้าระดมทุนให้ได้ประมาณเกือบๆ 50,000 ล้านบาท

ภาพจาก Shutterstock

สำนักข่าว Bloomberg รายงานโดยอ้างอิงจากแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตนว่า “เจ้าสัวเจริญ” เจริญ สิริวัฒนภักดี มีแผนที่จะนำบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในพอร์ตของ TCC Group อีกบริษัทเข้ามา IPO ในตลาดหลักทรัพย์ในปีหน้า ตั้งเป้าที่จะระดมทุนให้ได้ประมาณ 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเกือบๆ 50,000 ล้านบาท

บริษัทดังกล่าวมีชื่อว่า Asset World ประกอบไปด้วยอสังหาในกลุ่มโรงแรม อาคารสำนักงาน อสังหาเพื่อการค้าปลีก รวมไปถึง โรงแรม ปัจจุบันนี้มีโครงการในมือทั้งหมด 35 โครงการ และอีก 12 โครงการในอนาคต

บริษัทเป็นเจ้าของอาคารสำนักงาน 4 แห่งชื่อดัง ประกอบไปด้วย Empire Tower ถนนสาทรใต้ Athenee Tower ถนนวิทยุ Interlink Tower ถนนบางนา – ตราด รวมไปถึง 208 Wireless Road ถนนวิทยุ

ในส่วนของโรงแรมนั้น บริษัทมีโรงแรมในมือ ยกตัวอย่างเช่น  Athenee Hotel Bangkok และ Marriot Marqius Bangkok Queen’s Park เป็นต้น

นอกจากนี้บริษัทยังเป็นเจ้าของอสังหาฯ เพื่อค้าปลีก ยกตัวอย่างเช่น แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง Asiatique The Riverfront ห้างในเครือ Gateway เช่น Gateway เอกมัย รวมไปถึง ตลาดต่อยอด ตะวันนา และ Pantip Plaza ด้วย เป็นต้น

อย่างไรก็ดีเป้าหมายการระดมทุน รวมไปถึงช่วงเวลาที่ IPO อาจต้องดูสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในปีหน้าว่าจะเป็นเช่นไรอีกด้วย

ที่มา – Bloomberg

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมานี้ ทาง Gravity ก็ได้ออกมาประกาศเตรียมเปิด Open Beta เกม Ragnarok M หรือ Ragnarok Mobile ในเซิร์ฟเวอร์ SEA ให้ชาวไทยได้สัมผัสกันแล้ว

Ragnarok M: Eternal Love

Ragnarok สุดยอดเกมระดับตำนานที่หลายคนรอคอย ได้เตรียมกลับมาโลดแล่นอีกครั้งในเวอร์ชันมือถือภายใต้ชื่อว่า Ragnarok M ที่ทาง Gravity ได้เปิดให้ ลงทะเบียนล่วงหน้า ไปเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา

และล่าสุด ทาง Gravity เองก็ได้ออกมาประกาศอีกครั้งผ่านเพจ Ragnarok Mobile Thailand ว่าเตรียมจะเปิดให้บริการ Open Beta ในเซิร์ฟเวอร์ SEA ให้ผู้เล่นชาวไทยและใกล้เคียงได้ร่วมทดลองเล่นกันแล้วในวันที่ 31 ตุลาคม 2561 ที่จะถึงนี้อย่างแน่นอน

โดยตัวเกมจะรองรับภาษาไทย, อินโดนีเซีย, เวียดนาม, จีน (ตัวย่อ) และภาษาอังกฤษ

สำหรับใครที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนล่วงหน้า ก็รีบไปลงเบียนเพื่อรับของรางวัลพิเศษกันได้ที่: https://th.ragnaroketernallove.com/

ติดตามข่าวสารและกิจกรรมพิเศษได้ที่: Ragnarok Mobile Thailand
กลุ่มพูดคุย เตรียมต้อนรับเกมดราม่าแห่งตำนาน: https://www.facebook.com/groups/RagnarokM.EternalLove/

The post Ragnarok M เตรียมเปิด OBT เซิร์ฟเวอร์ SEA ให้คนไทยได้สัมผัสในวันที่ 31 ตุลาคม นี้ appeared first on iPhoneMod.

9to5mac ได้สำรวจผ่านเว็บไซต์ว่า Apple ควรอนุญาตให้นักพัฒนา 3rd Party สามารถสร้างApple Watch Face เองได้หรือไม่ ซึ่งผลตอบรับจากผู้ใช้ส่วนใหญ่ประมาณ 82% สนับสนุนการพัฒนาหน้าปัดจากนักพัฒนา 3rd Party

ผู้ใช้ส่วนใหญ่อยากให้นักพัฒนาสร้าง Apple Watch Face เองได้ (ผลสำรวจ)

Apple Watch Series 4 ที่ทำงานบน watchOS 5 มาพร้อมกับ Apple Watch Face ใหม่ที่ดูสวยงามและน่าใช้เป็นอย่างมาก และ Apple ได้เพิ่ม Apple Watch Face อีก 4 แบบที่เคลื่อนไหวแบบธรรมชาติให้กับ Apple Watch รุ่นเดิมได้ใช้งานด้วย

แต่ถึงแม้ว่า Apple Watch Face จะมีการออกแบบใหม่และหลากหลายมากขึ้น แต่การสร้าง Apple Watch Face ก็ยังคงเป็นระบบปิดที่นักพัฒนา 3rd Party  ไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้

ล่าสุด Steve Troughton-Smith นักพัฒนาแอปมืออาชีพได้ทดลองสร้าง Apple Watch Face ด้วย Xcode โดยใช้ SpriteKit Framework และเผยแพร่ตัวอย่างโค้ดทาง Github ให้นักพัฒนาคนอื่นได้ทดลอง

I used @justMaku's project to load up my watch face as an actual watch face in the Simulator. Fun! pic.twitter.com/70XMAujxWo

— Steve Troughton-Smith (@stroughtonsmith) October 16, 2018

ตัวอย่าง Apple Watch Face ที่เหล่านักพัฒนาได้ทดลองสร้างขึ้นมาใช้เองดูสวยงามและน่าสนใจเป็นอย่างมาก และตัวนักพัฒนาเองก็สนับสนุนให้ Apple เปิดช่องทางให้นักพัฒนา 3rd Party ได้ร่วมสร้าง Apple Watch Face แต่ก็ต้องมีกระบวนการตรวจสอบจาก Apple อย่างเข้มงวด ทั้งเรื่องของความเหมาะสมและลิขสิทธิ์

และจากผลสำรวจในเว็บไซต์ 9to5mac ผู้ใช้ส่วนใหญ่ก็สนับสนุนให้ Apple อนุญาตการพัฒนา Apple Watch Face จากนักพัฒนาอื่นๆ

ขอบคุณ 9to5mac

The post ผู้ใช้ส่วนใหญ่อยากให้นักพัฒนาสร้าง Apple Watch Face เองได้ (ผลสำรวจ) appeared first on iPhoneMod.

Asus เปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับล่างและระดับกลางรุ่นใหม่ที่ประเทศอินเดีย ประกอบด้วยรุ่น ZenFone Lite L1 ที่เคาะราคาเปิดตัวที่ 6,999 รูปี หรือราว 3,000 บาท กับ ZenFone Max M1 ราคา 8,999 รูปี หรือราว...

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด มหาชน (BAY) รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ของปี 2561 โดยกำไรสุทธิในไตรมาสนี้เติบโตเล็กน้อย โดยได้ปัจจัยจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยลดลงเล็กน้อย

ภาพจาก Shutterstock

สำหรับกำไรสุทธิของ BAY ในไตรมาส 3 นี้อยู่ที่ 6,215 ล้านบาท เติบโตกว่าไตรมาส 3 ปีที่แล้ว 4.6% โดยส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 อยู่ที่ 3.81% ด้านเงินให้สินเชื่อเติบโต 1.5%

รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ อยู่ที่ 19,083 ล้านบาท เติบโตกว่าไตรมาส 3 ปีที่แล้ว 10% ปัจจัยหลักมาจากดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ยของสินเชื่อ ดอกเบี้ยจากตลาดเงิน และดอกเบี้ยจากการให้เช่าซื้อและสัญญาทางการเงิน เป็นต้น

รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย อยู่ที่ 8,210 ล้านบาท ลดลง 2.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว สาเหตุสำคัญมาจากกำไรจากเงินลงทุนลดลง และรายได้อื่นๆ ลดลง แต่ขณะที่รายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการสุทธินั้นทรงตัว

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอื่นๆ อยู่ที่ 12,888 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว เนื่องจากค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้น เช่น การด้อยค่าของสินทรัพย์รอการขาย ค่าใช้จ่ายทางการตลาด ขณะที่ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับพนักงานเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

นอกจากนี้ไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ธนาคารยังได้แจ้งเรื่องการเปลี่ยนแปลงในการถือหุ้นของ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด โดยธนาคารจะขายหุ้นจำนวน 50% ให้กับ Siam Credit Access Asia นอกจากนี้ธนาคารมองว่าสินเชื่อในปีนี้จะเติบโตได้ 8-10%

ที่มา – ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

Huawei ประกาศอัพเกรด EMUI 9.0 beta ที่รันบน Android 9 Pie ให้สมาร์ทโฟน 9 รุ่น ได้ทดลองใช้งาน โดยมีสมาร์ทโฟนที่เป็นของ Huawei จำนวน 6 รุ่น ขณะที่อีก 3...

Xiaomi ได้มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนสายเกม Black Shark อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และล่าสุดก็ได้มีการเผยเบาะแสของรุ่นทายาทอย่าง Black Shark 2 บนแพลตฟอร์มทดสอบ Geekbench ตามข้อมูลระบุว่า Black Shark 2 (Blackshark AWM-A0) จะมาพร้อมชิปเซต Snapdragon 845...

ทุกวันนี้ไม่ว่าทำอาชีพอะไร ก็สามารถเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ได้ แต่ธุรกิจจะเติบโตอย่างมั่นคงก็ต้องมีเครือข่าย เครื่องมือครบครัน ล่าสุดธนาคารกสิกรไทยเปิดตัว K ONLINESHOP SPACE หรือ KOS ที่ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เอาใจลูกค้าที่ทำธุรกิจออนไลน์ โดยเป็นศูนย์ให้ความรู้ และให้คำปรึกษาคนอยากทำธุรกิจออนไลน์ ซึ่งจะรวมพาร์ทเนอร์ และผู้เชี่ยวชาญในหลายๆด้านมาช่วยให้ธุรกิจไหลลื่น อย่างครบวงจร

แก้ Pain Point แม่ค้าออนไลน์ได้ง่าย แค่เดินเข้า KOS ศูนย์ให้คำปรึกษาธุรกิจออนไลน์ฟรี !

พัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย บอกว่า จาก Motto ของธนาคารที่ว่า “บริการทุกระดับประทับใจ แบงก์เราเลยต่อยอดสาขาที่ไม่ใช่แค่ทำธุรกรรมธนาคารอย่างเดียว และออกมาเป็น K ONLINESHOP SPACE หรือ KOS ศูนย์ให้คำปรึกษาการทำธุรกิจออนไลน์แบบครบวงจร

เราเปิด KOS ศูนย์แรกที่เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 5 ให้ทุกคนเข้าไปใช้งานได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้บริการธนาคารเราก็เข้ามาขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ และพาร์ทเนอร์ในการทำธุรกิจออนไลน์ได้เลย ต่อไปเราจะเพิ่มสาขาแบบนี้ในจุดที่มีคนเข้าถึงเยอะๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าอื่นๆ

“ปี 2560 ธุรกิจ E-Commerce หรือการขายออนไลน์ในไทยมีมูลค่าถึง 2.8 ล้านล้านบาท เติบโตอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าในตลาดแข่งขันสูงขึ้นเรื่อยๆ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์นอกจากต้องแข่งกันเพิ่มยอดขาย ยังต้องแก้ไขปัญหาจากการบริหารเรื่องอื่นๆอีกเพียบ ดังนั้น KOS จะตอบโจทย์ลูกค้าทั้งการหา Solution แก้ปัญหาให้ตรงจุด การมีที่ปรึกษาแบบตัวต่อตัว เพื่อให้เขาทำธุรกิจได้อย่างยั่งยืน”

ปัจจุบันเราคาดว่าฐานลูกค้ากสิกรไทยที่เป็นแม่ค้าออนไลน์มีอยู่ประมาณ 300,000 ราย แต่ครั้งนี้ที่เราเปิดศูนย์ KOS ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เปลี่ยนให้รู้ใจ Online Seller” ก็เพื่อกลุ่มเป้าหมายทั้งคนที่ยังไม่เคยทำธุรกิจออนไลน์มาก่อน หรือคนที่กำลังทำธุรกิจออนไลน์อยู่ ให้สามารถเข้าถึงแหล่งความรู้ และผู้ให้บริการที่นำไปใช้ในธุรกิจได้จริง

ภายใน KOS นอกจากเป็น Co-working space ให้ลูกค้ามานั่งทำงาน สัมมนาความรู้ พบปะกับพันธมิตรธุรกิจ และใช้พื้นที่จัดกิจกรรมการตลาดกับแบงก์ได้ เรายังรวบรวม Solution จากพาร์ทเนอร์ต่างๆ รวม 5 ด้าน Digital Marketing, Payment & Accounting, Sales Tools, Logistics, Order Fulfillment เช่น LINE@, Grab, Shippop, POS, Vision, Sellsuki, Zort, ITOPPLUS, Flow Account, PEAK, JUBILI ฯลฯ

บริหารธุรกิจง่ายขึ้นด้วย Solution ผ่าน K DIGIBIZ และพาร์เนอร์ผู้เชี่ยวชาญ

ใครที่เริ่มขายของออนไลน์จะรู้เลยว่ามีปัญหา 108 ที่เข้ามาทุกวัน เช่น การรับออเดอร์ไม่ทัน แข่งขันก็สูงไม่รู้จะทำการตลาดอย่างไร ส่งของไม่ทัน บัญชียังไม่มีระบบ คำนวณต้นทุนผิดพลาด ฯลฯ

ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์สมัยใหม่นี้ไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นเรียนรู้ทุกอย่างจากศูนย์ด้วยตัวเอง แต่สามารถเข้าใช้บริการ K DIGIBIZ (digibiz.kasikornbank.com เริ่มเข้าใช้บริการได้ตั้งแต่เดือน พ.ย.เป็นต้นไป) เว็บไซต์ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมตัวช่วยด้านการจัดการธุรกิจด้วยเครื่องมือจัดการการขาย เก็บ แพ็ค ส่ง ขนส่งสินค้า รับจ่ายเงิน จัดการบัญชี และยังร่วมกับพาร์ทเนอร์ผู้เชี่ยวชาญ ช่วยหา Solution มาจัดระบบธุรกิจให้ง่ายขึ้น  เพิ่มความสะดวกให้กับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ได้เป็นอย่างดีและสะดวกขึ้นด้วย

แค่ใช้ K PLUS shop ก็ช่วยรับจ่ายเงินได้สะดวกขึ้น

อีกหนึ่ง Solution ที่ช่วยให้การค้าขายออนไลน์เป็นไปได้สวย นั่นคือ แอปพลิเคชั่น K PLUS shop ซึ่งมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ขายง่ายขึ้น ทั้งการเปรียบเทียบราคา ติดตามสถานะและชำระค่าขนส่ง รายงานยอดขาย ส่วนของการขายออนไลน์ก็จบง่ายด้วย บิลแมวเขียว QR ส่งเรียกเก็บเงินผ่านทางโซเชียล มีเดีย และบริการ Pay with K+ บริการชำระเงินที่ช่วยให้การปิดการขายบน Facebook ได้ง่ายขึ้น

เพิ่มเงินทุนให้ธุรกิจง่าย แค่ใช้ K PLUS

ขณะเดียวกันพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ใช้ K PLUS ยังสามารถรับข้อเสนอสินเชื่อออนไลน์จากธนาคารเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ไหลปรื๊ดได้ง่าย โดยจุดเด่นของการขอสินเชื่อ คือ ไม่ต้องมีหลักประกัน ไม่ต้องยื่นเอกสาร ภายใน 1 นาทีสามารถรับเงินในวงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท ปีนี้ทางแบงก์เรานำเสนอสินเชื่อ SME ผ่าน K PLUS ให้ลูกค้า 8,000 คน มีการตอบรับจากลูกค้ากว่า 2,000 ราย (วงเงินสินเชื่อเฉลี่ยรายละ 200,000 บาท)

ในอนาคตกสิกรไทยเตรียมคัดผลิตภัณฑ์และร้านค้าที่ดีมาขายผ่าน K PLUS Market ที่อยู่บนแพลทฟอร์ม KPLUS ซึ่งมีฐานลูกค้า 9.4 ล้านราย เพื่อช่วยเพิ่มช่องทางขายให้กับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ให้ขายดียิ่งขึ้น

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

vivo เปิดตัวสมาร์ทโฟนตระกูล Z-Series รุ่นใหม่ vivo Z3 อย่างเป็นทางการที่ประเทศจีน นำเสนอสเปคทางเลือกชิปประมวลผล Snapdragon 670 หรือ Snapdragon 710 vivo Z3 V1813BA มากับชิปเซต Snapdragon 670 ใช้แกนสมอง...

HMD Global เปิดตัว Nokia 5.1 Plus ในไทย ชูสเปคเอาใจคนเล่นเกมในราคาที่จับต้องได้ เสริมประสิทธิภาพด้วยระบบ AI ดีไซน์ทันสมัย สเปค Nokia 5.1 Plus หน้าจอ IPS LCD ไร้ขอบ 5.8 นิ้ว ความละเอียด...

ตลาดการแข่งขันเน็ตบ้าน หลังจากที่ AIS Fibre เข้าสู่ตลาด สร้างความคึกคักขึ้นอย่างชัดเจน เพราะ AIS มีเป้าหมายที่จะเป็นผู้ให้บริการภายใน 3 ปี (มีจำนวนผู้ใช้บริการมากพออย่างมีนัยสำคัญ) ทำให้คู่แข่งในตลาดอย่าง True Online และ 3BB ต้องเร่งพัฒนาบริการ

AIS Fibre จัดแพ็คเสริม เพิ่มความเร็วในเน็ตบ้านแบบรายวัน

ศรัณย์ ผโลประการ หัวหน้าฝ่ายงานบริหารธุรกิจฟิกซ์ บรอดแบนด์ เอไอเอส บอกว่า AIS Fibre ต้องการสร้างความแตกต่าง และได้ทดลองเพิ่มสปีดให้ลูกค้าฟรี 3 วันเพื่อให้ได้ความเร็วที่มากกว่าเดิม ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก แสดงว่า ผู้ใช้งานมี Demand การใช้งานสปีดที่สูงมากเฉพาะบางช่วงเวลา

จึงมีการเปิดตัวแพ็คเสริมเน็ตบ้านรายแรกในตลาด ในรูปแบบ On Top ชื่อว่า “SpeedBOOST” เป็นทางเลือกให้ลูกค้าไม่ต้องสมัครแพ็คความเร็วสูงแบบรายเดือน แต่สามารถเลือกเพิ่มสปีดได้ในบางช่วงที่ต้องการใช้งาน ถ้าต้องการความเร็วสูงมากก็สามารถซื้อเพิ่มได้ทันที

แพ็กเกจเสริม SpeedBOOST สำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาผู้พักอาศัยในบ้าน และคอนโดแบบ FTTR (Fibre To The Room) ประกอบด้วย

• แพ็กเกจเสริม สปีดแรง 100/100 Mbps นาน 3 วัน ราคา 99 บาท สำหรับ ผู้ที่ใช้แพ็กเกจหลักปัจจุบันที่ความเร็ว < 100 Mbps
• แพ็กเกจเสริม สปีดแรง 300/300 Mbps นาน 3 วัน ราคา 199 บาท สำหรับ ผู้ที่ใช้แพ็กเกจหลักปัจจุบันที่ความเร็ว 100 – 200 Mbps
• แพ็กเกจเสริม สปีดแรง 1000/1000 Mbps นาน 1 วัน ราคา 99 บาท สำหรับ ผู้ที่ใช้แพ็กเกจปัจจุบันที่ 200 Mbps ขึ้นไป ทั้งนี้ปัจจุบัน Dual Band Wi-FiRouter ของลูกค้าหากเชื่อมต่อแบบผ่านสาย LAN กับอุปกรณ์ที่รองรับจะสามารถใช้งานได้ทันที ส่วนการเชื่อมต่อผ่าน  Wi-Fi สปีดที่ได้ขึ้นกับอุปกรณ์ Wi-Fi router และอุปกรณ์การใช้งานที่รองรับ

สรุป

เมื่อบริการมือถือยังมี Top Up แพ็คเสริมซื้อนาทีคุยเพิ่ม หรือซื้ออินเทอร์เน็ตเพิ่มได้ ทำไมเน็ตบ้านจะทำบ้างไม่ได้ แต่เนื่องจากเป็นแบบ Unlimited อยู่แล้ว เลยกลายเป็นการซื้อความเร็วสูง เพื่อใช้งานแบบ On Demand

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

ก่อนหน้านี้ Huawei ได้ทำการแซว ขอบคุณที่ไม่มีอะไรใหม่ และคุยเรื่องหน่วยประมวลผล Kirin 980 ที่เป็นสถาปัตยกรรม 7 นาโนเมตรตัวแรกของโลก หากไม่นับรวม A12 Bionic ของทาง Apple ที่เปิดตัวกับ iPhone 2018 ไปก่อนหน้า และข่าวก่อนหน้านี้ Huawei เคยคุยว่า Kirin 980 เร็วกว่า Snapdragon 845 ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผลเรือธงของ Android รุ่นล่าสุดถึง 37%

Huawei Mate20 Pro ผลทดสอบความแรงยังแพ้กระทั่ง iPhone รุ่นเก่า

ทางสื่อต่างประเทศได้ทำการเก็บข้อมูลและทดสอบหน่วยประมวลผล Kirin 980 ที่อยู่ใน Huawei Mate20 Pro เพื่อเปรียบเทียบกับสมาร์ทโฟนเรือธง รุ่นอื่นในท้องตลาดที่ยังคงเป็น Snapdragon 845 รุ่นเก่า (10 นาโนเมตร) และแน่นอนว่ารวมถึง A12 Bionic (7 นาโนเมตร) ที่อยู่ใน iPhone XS และ XS Max ด้วยเช่นกัน

เริ่มต้นจาก GeekBench ในส่วนของ Single Core แพ้กระทั่ง iPhone 7 ที่เปิดตัวมาหลายปีแล้ว และยังรวมถึง Samsung Galaxy Note 9, iPhone X ซึ่งเมื่อเทียบกับ iPhone XS Max รุ่นล่าสุดยิ่งห่างกันหลายขุม

แต่พอมาทดสอบกับแอปพลิเคชันเดิม GeekBench ในส่วนของ Multi Core ก็ยังคงแพ้ iPhone X อยู่เช่นเดิม โชคดีที่ยังสามารถเอาชนะ Galaxy Note 9 และสมาร์ทโฟน Android หลายแบรนด์ในท้องตลาดได้

เพื่อความยุติธรรมดังนั้นจึงเปลี่ยนแอปพลิเคชันทดสอบ (เปลี่ยนกฎและกติกา) โดยในมาตรฐาน AnTuTu ซึ่งเป็นการทดสอบ “ทั้งหมด” ไม่ได้วัดเพียงแค่ CPU แต่มีการเอา GPU และปัจจัยอื่นมาร่วมด้วยก็พบว่า iPhone X แพ้ไปเรียบร้อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคะแนนก็ยังห่างชั้นกับ iPhone XS Max

เพื่อให้ครบทุกแอปพลิเคชัน จึงได้ทำการเปลี่ยนเป็นแอปพลิเคชัน GFXBench ซึ่งให้น้ำหนักด้านกราฟิกมากกว่า Mali G76 (เป็นชิปกราฟิกที่อยู่ใน Kirin 980 อีกที) ผลก็เหมือนเดิมคือยังแพ้ให้กับ Samsung และ Apple อยู่เช่นกัน

ที่มา – phonearena.com

The post Huawei Mate20 Pro ผลทดสอบความแรงยังแพ้กระทั่ง iPhone รุ่นเก่า appeared first on iPhoneMod.