The New York Times ได้รายงานว่าสิ่งหนึ่งที่ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในสหรัฐไม่อยากให้ผู้ใช้รู้เกี่ยวกับการเทกซ์หรือการส่ง SMS ก็คือต้นทุนที่แท้จริง เพื่อที่จะเลี่ยงปัญหาที่อาจจะเกิดจากความโมโหของผู้ใช้บริการที่ถูกเรียกเก็บเงินค่าบริการ SMS ที่เพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัวในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา
ความจริงคือการส่งข้อความ SMS นั้นเกิดขึ้นใน Control Channel ซึ่งเป็นแบนด์วิธที่ถูกใช้ไม่ว่าจะมีการส่งข้อความหรือไม่ก็ตาม โดยการส่งข้อความขนาด 160 ไบต์นั้นเป็นขนาดที่เล็กมาก โดยต้นทุนที่แท้จริงแทบจะเรียกได้ว่าเท่ากับ 0 ต่อข้อความพันล้านกว่าข้อความ ไม่ว่าจะมีการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการเหล่านี้แทบไม่จำเป็นที่จะต้องลงทุนเพิ่มเติมแต่อย่างใด นี่แตกต่างโดยสิ้นเชิงจากการให้บริการทางเสียงแบบธรรมดา
ที่มา - Slashdot
Comments
สำหรับเมืองไทยการส่งข้อความไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไหร่นัก อาจจะเป็นเพราะว่าเราส่วนใหญ่ค่าโทร 1 นาทีจะถูกกว่าการส่งข้อความหนึ่งข้อความ (เมื่อคิดจากราคาส่งข้อความละ 3 บาท) ต่างกับต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย ที่ค่าส่งข้อความอยู่ประมาณ 25 เซนต์ต่อข้อความ ในขณะที่ค่าโทร 1 นาทีจะคิดเป็นค่าเชื่อมต่อสัญญาณ 25 เซนต์ บวกค่าโทรอีก 70 เซนต์
ส่วนตัวชอบ SMS เพราะว่าบางครั้งเราอยากจะบอกคนปลายทาง แต่ไม่อยากได้รับการตอบรับ (เช่น ทำอันนี้ให้หน่อยสิ) และบางครั้งก็ขี้เกียจคุย กลัวยืดยาว
@TonsTweetings
อยู่ออส 1 เดือน ส่ง SMS มากกว่าอยู่ไทยทั้งชีวิต
ปกติ SMS ผมไว้แอบส่งในห้องเรียน :P
twitter ตลอด- -!
SMS บ้านเราแพงกว่าค่าโทร
พอถามก็บอกว่า เพราะใช้ control channel เลยแพงกว่า
เออ ที่ต่างประเทศทำไมบอกว่าถูกกว่า ตูล่ะงง
โดนเอาเปรียนบแบบไม่รู้ตัว -*-
ต้องนึกถึง ยุค Pager ตอนนั้นยังเหมาจ่ายรายเดือนอย่างเดียวในราคาไม่กี่บาท ไม่ขึ้นกับจำนวนข้อความเลย
http://www.thdiy.com
อ. ภาคคอม เคยบ่น เปรยๆ
ผมเกลี่ยด sms มันโกงเรา
http://tomazzu.exteen.com
จริงๆ บอกว่าไม่มีต้นทุน ก็ไม่ถูกครับ
เวลาจะส่ง SMS/MMS/Wap Push จะถูกจำกัดด้วยจำนวน ข้อความต่อวินาที (msg/sec) ซึ่งการที่จะเพิ่มจำนวนข้อความต่อวินาทีนี้ จะขึ้นอยู่กับสิทธิในการใช้งาน ( License) ที่แต่ล่ะผู้จำหน่าย SMSC/MMSC (SMSC/MMSC เป็นเหมือน server ที่ทำหน้าที่ในการรับ-ส่ง SMS/MMS โดยจะแปลงข้อมูลจาก application level ไปเป็น GSM network level) เช่น Nokia, Ericsson กำหนดขึ้นครับ
ในการที่จะเพิ่มจำนวนข้อความต่อวินาที ก็จะต้องซื้อสิทธิในการใช้งานนี้เพิ่มขึ้นด้วยครับ ซึ่งต้นทุนตรงนี้.... แพงมากๆเลยครับ
ใช่เลย Message per Sec จะเป็น วิธีการคิด License ของพวก SMSC Vendor ทั้งหลาย ว่าจะรองรับ Capacity ขนาดไหน
+1 ต้องให้ economist มาประเมิน cost ดีๆ ดูจะคิด cost แบบผู้ใช้คิดซะมากกว่า
___________pawinpawin
economist ไม่เข้าใจสังคมไทย :P
หมายถึงเรื่องไหนครับ :P
ยกตัวอย่างบทความจาก the economist หรือไงครับ อิอิ
@TonsTweetings
SMS มันเป็น UDP ที่ไม่สามารถรับประกันได้ว่าถึงไม่ถึงนี่?
ezybzy.info blog
ง่ะ เจอคอมเม้นต์นี้ถึงกับ...
เพิ่งจะสอบเรื่อง protocol ไปเมื่อไม่กี่วันนี่เอง
ไม่แน่ใจว่าที่ผมแสดงความเห็นไปมันถูกรึเปล่า มันก็แค่สิ่งที่เหลือๆ ค้างจากการเรียน Network ที่มึนๆ ของผมสมัยเรียนปริญญาตรีเมื่อสามปีก่อน (ฮา)
ezybzy.info blog
sms แบบ TCP ก็มีนะ แต่ต้องเสียเงินสองต่อ ค่าส่ง กับค่ารับ message ยืนยัน
ปรกติผมใช้ SMS มันจะตั้งให้ส่ง Delivery status กลับมาด้วย เพราะทำให้มั่นใจว่าปลายทางได้รับ SMS จริง ๆ แตเสียค่า Delivery status เพิ่มอีก 1 บาทในการส่งกลับ (ขาไป 2 บาทกลับอีก 1 บาท) ปรกติใช้ตอนที่ปลายทางติดต่อไม่ได้ เอาไว้แจ้งเตือนเวลาติดต่อได้ หรือตอนเปิดมือถือแล้วอะไรแบบนั้น (เวลาแฟนงอนปิดมือถือ ใช้ประจำ ;P)
Ford AntiTrust’s Blog | PHP Hoffman Framework
พอแฟนเปิดเครื่องปุ๊บ ได้รับ Delivery message ปั๊บ โทรไปง้อทันที
ถูกต้องหล่ะคร้าบบบบ
Ford AntiTrust’s Blog | PHP Hoffman Framework
ที่ผมรู้คือ AIS รับ Report ฟรี ส่วน DTAC แบบเติมเงินฟรี แต่รายเดือนเสียตัง เซ็งเป็ด
ของ AIS ฟรีเฉพาะ One-2-Call ครับ
ถ้าใช้แบบรายเดือนต้องเสียส่วนนี้ด้วย
ผมเพิ่งเปลี่ยนจาก One-2-Call มาใช้รายเดือน พอรู้ว่าโดนเก็บค่าบริการตรงนี้ถึงกับเซ็งเลย เดือนที่แล้วโดนฟันไปหลายร้อย
ยิ่งใช้ SMS เป็นหลักอยู่ด้วย ตอนนี้ก็เลยปิด Delivery Notification ไป รู้สึกไม่ค่อยอุ่นใจยังไงก็ไม่รู้แฮะ ^^"
พึ่งรู้ว่า AIS เป็นเหมือนกันแฮะ
ไม่เข้าใจทำไม Pre-Paid ถึงไม่เสียตังแต่รายเดือนเสีย - -
Texting in US is crazyyy
Even in Alaska, they text hundred a day
คงไม่ 0 บาท นะครับ .. ควรบวกค่าไฟ Server / Gateway ก่อน
น่าจะสัก 1 สตางค์ ต่อ message
ใน Reddit มีคนอธิบายเรื่องนี้โดยสรุปให้ง่ายๆ ครับ ลองไปอ่านดู สรุปคือส่วนของเซิฟเวอร์, เกทเวย์ พวกนั้นมันไม่มีผลอะไรเลยด้วยซ้ำ เพราะยังไงก็เป็นระบบที่มีอยู่แล้ว
ค่าใช้จ่ายในการส่งจริงๆ มันคือการ transfer ข้อมูลตามสาย (ระหว่างเสา) ซึ่งราคาถูกมาก ระดับที่ว่า 180 ล้านข้อความถึงจะมี cost ซักบาทนึง ส่วนที่หนักหนาที่สุดคงจะเป็นระบบการเก็บข้อมูลการส่ง SMS ที่เอาไว้เก็บปริมาณการใช้งานเพื่อเก็บตังค์เรา (ซึ่งก็เป็นการลงทุนครั้งเดียว)
ถ้าคนส่งพร้อมกันปริมาณมากๆ ก็ต้องเช่าหรือเพิ่มสายเพื่อเพิ่มช่องสัญญาณรึเปล่าครับ
ถ้าปรับราคาลง คนจะส่งกันมากขึ้น นั่นคงส่งผลให้ Bandwidth เพิ่มขึ้นด้วยมั้งครับ
ก็เหมือนอย่างที่ระบบมันล่มตอนปีใหม่นั่นแหละครับ
อย่าลืมค่าเงินเดือน callcenter และเงินเดือนวิศวกรที่มาดูแลช่วงข้ามปีใหม่ที่ส่ง message กันกระหน่ำด้วยครับ ;)
___________pawinpawin
เราสามารถเรียกร้องอะไรให้ผู้ให้บริการในเมืองไทยแจ้งต้นทุนตรงจุดนี้ได้ไหม
เพราะจากการที่ใช้ Twitter ผ่าน GPRS มา พบว่าการส่งข้อมูลไม่กี่ตัวอักษรมันเป็นเงินนิดเดียวเอง แล้วทำไม SMS มันแพงกว่าอย่างมีนัยยะสำคัญ
onedd.net
onedd.net
อันนี้เห็นด้วยครับ สำนักคุ้มครองผู้บริโภค เค้าจะตามเรื่องให้เราไหม ถ้าเราแจ้งไปอยากรู้เหมือนกัน ตอนนี้ใช้ sms เป็นหลัก เหมือนกัน
It's my life. Open your mind for the future.
นั่นสิครับ เราพอจะทำอะไรได้บ้างครับ อยากรู้เหมือนกัน
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
คิดเราสะแพง -*-
------
Unlimited Asian Music (ดูเอ็มวี ไทย, เกาหลี และญี่ปุ่น ฟรีๆ)