ดร.วิรัช ศรเลิศล้ำวานิช ผู้บริหารเนคเทค ออกมาเปิดเผยว่ากำลังซุ่มพัฒนาระบบปฏิบัติการแห่งชาติอยู่ ชื่อว่า Ecolonux ซึ่งมาจากคำว่า Ecology รวมกับคำว่า Linux หมายถึงลินุกซ์ในระบบนิเวศ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้นำออกมาใช้ได้เมื่อไหร่ โดยปัจจัยที่จะทำให้ระบบปฏิบัติการแห่งชาตินี้เกิดขึ้นได้ จะต้องผลักดันให้มีผู้ใช้โอเพนซอร์สมากขึ้นจาก 1% เป็น 10% ให้ได้ก่อน (ผมก็จะขอช่วยด้วยอีกคนหนึ่ง) ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาประมาณ 2 ปี นับจากนี้
โดย ดร.วิรัช กล่าวว่า
> "ต้องทำให้ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ คิดว่า 2 ปีต้องทำได้ กลยุทธ์ที่ใช้คือการร่วมมือกับ 5 บริษัท Customize โอเพ่นซอร์สสู่ตลาดโลคอล ขยายการใช้ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สในตลาดฮาร์ดแวร์ ขณะเดียวกันก็ทำหลักสูตรให้ความรู้ทั้งในส่วนผู้ใช้ทั่วไป ผู้ดูแลระบบ และนักพัฒนา มีการให้ใบประกาศนียบัตรเพื่อให้เป็นที่รู้จัก ผมไม่เคยหมดหวัง ไม่เคยท้อ ที่โอเพ่นซอร์สขยายตัวได้ขนาดนี้ในประเทศไทยก็ภูมิใจแล้ว ผมมองว่าถึงไทยเราจะมีนักพัฒนา มีผู้ใช้ และมีการประชาสัมพันธ์โอเพ่นซอร์สแล้ว แต่จุด่อนอยู่ที่ภาพรวมการพัฒนาทั้งประเทศยังไม่เสถียร ต้องอยู่ที่รัฐบาล ก็ตลกดีที่ผมเป็นข้าราชการแต่ต้องมาขอร้องรัฐบาล"
ผมก็ขอเป็นกำลังใจและขอช่วยเพิ่มจำนวนผู้ใช้โอเพนซอร์สอีกคนครับ :) ปล.โพสครั้งแรก ผิดพลาดขออภัยด้วยครับ
ที่มา - Manager Cyberbiz, NECTEC
Comments
ผมยังมีข้อสงสัยถึงเป้าหมายของโอเอสแห่งชาติในหลายๆประเด็น
LongSpine.com
เขาก็ไม่ได้เริ่มด้วยการพัฒนาเองหมดครับ ต่อยอดมาจากของที่มีอยู่แล้ว
อย่างตัวคอร์ก็เป็นอูบุนตู
+10
BioLawCom.De
ถ้าจะทำจริงๆ ต้องปรับการเรียนการสอนในโรงเรียนด้วย
นอกจากนี้ ขอร้องให้สามารถติดตั้ง 2 ภาษาได้ ผมเชื่อว่าหลายๆคนไม่ชอบอินเตอร์เฟสภาษาไทยเพราะสับสนมาก
ใช่ครับ สับสนมากในหลายๆครั้ง ไม่ได้ว่าคนแปลแปลห่วยนะครับ แต่บางอย่างมันนึกคำไม่ออกจริงๆแต่พี่แกก็พยายามแปล (เข้าใจว่าต้องการให้เป็นไทยจริงๆ ซึ่งก็ถือว่าไม่ผิดนัก) บางอย่างทับศัพท์ได้ก็ทับศัพท์เถอะครับ ง่ายทั้งคนแปล ง่ายทั้งคนใช้ ^^
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
+1
นั่นสิครับ ถ้าอยากทำกันจริงๆ ก็ต้องนำไปใช้ในหน่วยงานราชการเลยดีกว่า แต่ก็อย่างว่าครับระบบราชการไทย พูดกันตรงๆเลยนะครับว่าคงเปลี่ยนไม่ได้ ถ้ายังโกงกันอยู่
ที่เขียนข่าวนี้ก็เพราะว่าผมอ่านแล้วรู้สึกดีครับที่จะมีซอฟต์แวร์แห่งชาติ :)
เริ่มจากหน่วยงานรัฐก่อนน่าจะดีที่สุดครับ แล้วค่อยปล่อยวงกว้าง และทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำก่อนโปรโมตรทีหลังก็ยังไม่สายนะผมว่า ถ้ายังไม่มีกรณีศึกษาในด้านการปรับเปลี่ยน มันก็แค่โฆษณาชวนเชื่อมากกว่า
Ford AntiTrust’s Blog | PHP Hoffman Framework
NECTEC เค้ารณรงค์ให้ใช้ OO.o อยู่นะครับ แต่ถ้าจะให้หน่วยงานราชการยอมรับจริงๆต้องไปเริ่มที่โรงเรียนแล้วล่ะ เปลี่ยนจาก "การสร้างเอกสารด้วย MS Word" เป็น OO.o ได้แล้ว
ต้องเริ่มทั้งระบบของหน่วยงานภาครัฐครับ เพื่อความสามารถในการสื่อสารระหว่างหน่วยงาน ไม่ใช่แค่กระทรวงและทบวงกรมเดียว ถ้าทำแบบนั้นก็แค่นั้นแหละ กลับจะเป็นปัญหาในด้านรูปแบบ เพราะมันเกิดการสูญเสียด้านคุณภาพในการแปลงเอกสารกลับไปกลับมา เสียเวลา เสียจิตอีกต่างหาก -_-'
Ford AntiTrust’s Blog | PHP Hoffman Framework
ถ้าจะทำจริง ก็ต้องออก กฎหมาย กำหนดมาตรฐานให้ใช้เจนว่าจะต้องใช้อะไรบ้าง
แล้วรัฐก็ต้องให้งบประมาณ สำหรับอบรมสัมนาข้าราชการ และลูกจ้างรัฐทั่วประเทศ
แล้วก็งบประมาณ เรื่องการจัดเปลี่ยนอุปกรณ์ เผื่ออุปกรณ์บางอย่างมันมันไม่มี driver ของ linux
อืม อาจจะต้องมีการจัดจ้างเจ้าหน้าที่เพิ่มอีก
เรื่องใหญ่แฮะ แต่ถ้าไม่เริ่มก็ไม่มีทางคืบหน้าสักที
+1
BioLawCom.De
เริ่มที่ไหนก็ได้ครับขอให้ได้เริ่ม เดี๋ยว ผลลัพท์ก็จะตามมาเอง
แค่ตื่นตัวก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีแล้วครับ
เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีครับ
สนับสนุนเต็มที่ ...
ส่วนตัวมองว่าไม่เวิร์คแน่นอน ถ้าไม่เริ่มจากหน่วยงานก่อน
@TonsTweetings
สนับสนุนให้มีการรณรงค์เรื่อง Open source หรือ Freeware เต็มที่ครับ แต่ ผมว่าจะให้มี OS แห่งชาตินี่คงเกินไป...
ไม่ต้องถึง os ก็ได้ เอา openoffice มาใช้ในราชการ เท่านี้เวลาเอกชนจะรับส่งไฟล๋ก็ต้องเป็นมาตราฐาน openoffice เดี๋ยวเอกชนเค้าก็เปลี่ยนมาใช้ตามเองแหละ
ความจริงแล้ว openoffice ก็เพียงพอกับการใช้งาน ms office มี feature เยอะ แต่เราไม่ได้ใช้
เอ่อ แล้วโครงการที่แล้วมา OS ทะเล Office ปลาดาวนั้นเป็นโครงการอะไรหรือ หรือคนไทยคิดอะไรต่อยอดไม่เป็น เอาของเก่ามาปรับปรุงไม่เป็น ต้องเริ่มใหม่ทุกครั้งให้มันเสียงบ เสียเวลาเล่นใช่ไหม
คำพูดของเพื่อนคนหนึ่งในวงการไอที ที่เจอกันเมื่อวาน
molecularck โม-เล-กุล่า-ซี-เค
sci news on foosci.com
http://www.digimolek.com
+1
___________pawinpawin
อ่า ผมก็รู้ไม่จริงนะครับ :-)
TLE หรือ Thai Language Extension เป็นแค่ส่วนขยายให้ใช้งานภาษาไทยได้เท่านั้นเอง
Linux TLE หรือ ลีนุกซ์ ทะเล ก็แค่เอา Distro ดัง ๆ มาใส่ TLE แล้วทำ Localize ให้มันเป็นภาษาไทย ถ้าจำไม่ผิดตัวที่เคยถูกเอามาทำก็จะมี Redhat, Mandrake, Fedora ล่ะมั้ง ??
ผมยังมีแผ่นอยู่เลย 55
ส่วน Office TLE ก็แนวเดียวกัน ก็คือเอา Open Office มาใส่ TLE แล้วก็ทำ Localize
เท่าที่รู้ส่วน TLE ถูกส่งกลับไปยังซอฟท์แวร์ต้นน้ำไปหมดแล้ว ผลลัพท์ที่เห็นได้ชัดๆ ก็คงเป็นการใช้ภาษาไทยบน Distro ดัง ๆ อย่าง Ubuntu ที่ไม่ใช่แค่ในระดับอ่านเขียน แต่ส่วน UI ก็ถูกแปลเป็นภาษาไทยไปหมดแล้ว (ถ้าเลือกที่จะใช้ภาษาไทยนะครับ)
ดังนั้นการดึงเอาตัวต้นน้ำกลับมาทำต่อ ผมก็ยังเรียกว่าการต่อยอดได้นะ
ThaiGameDevX -- The First Game Developer Community in Thailand.
+10
ผมว่า คำว่า OS แห่งชาติ มันฟังดูเหมือนคำพูดนักการเมือง ใช้หาเสียงจังเลย (นึกถึงคำว่า "วาระแห่งชาติ" ขึ้นมาทันใด 55) ... ดูจากชื่อแล้ว ... ผมไม่เห็นว่ามันแสดงถึงความต้องการที่จะเป็น "OS แห่งชาติ" เลย
แล้ว Eco ที่ว่า มาจาก Ecology แน่เหรอ ?? ถ้ามันมาจาก Economic มันจะดูเข้าท่ากว่ามั้ยเนี่ย 555
อืม จริง ๆ ทำแค่เอา Ubuntu มาเพิ่มส่วนที่ภาครัฐต้องใช้บ่อย ๆ เช่น Template เอกสารบน OO.o แล้วก็พวกโปรแกรมที่ใช้ในการบริการประชาชนต่าง ๆ เช่นพวกโปรแกรมฟอร์มออกบัตรประชาชน อะไรทำนองนี้
เอาเข้าจริง ๆ คงยาก ที่จะปรับมาใช้ Linux กันหมด โปรแกรมหลาย ๆ ตัวที่ใช้กันในภาครัฐน่าจะเขียนบน VB ซึ่งจะพอร์ทให้ไปใช้กับ Linux นี่อาจจะลำบากหน่อย (ผมไม่ค่อยรู้เรื่อง VB นะครับ ... ใครมาช่วยแก้ด้วยนะถ้าผิด) และใช้งบเยอะพอสมควร แต่ถ้าสามารถพอร์ทไปทำเป็น Web Application อาจจะลดปัญหาตรงนี้ได้นะ (หรือเพิ่มปัญหา ... เพราะ Web App ภาครัฐบ้านเราใช้ได้เฉพาะกับ IE 555)
บางหน่วยงานอาจจะยังต้องใช้โปรแกรมเฉพาะทาง ที่ต้องรันบน Windows อยู่ ... เป็นตัวที่ซื้อมาจากต่างประเทศ ที่เราคงไม่มีอำนาจไปบังคับให้เขา Port ลง Linux
ทางออกจริง ๆ ก็คงเป็นเรื่องของการศึกษานั่นล่ะครับ ระดับอุดมศึกษาควรจะเพิ่มการใช้ Linux ให้มากขึ้น โดยเฉพาะกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ในสาขาที่เกี่ยวข้อง ผมมองว่าตอนนี้เราขาดทั้งผู้ใช้และผู้พัฒนา ถ้าเพิ่มทั้งสองอย่างได้พร้อม ๆ กันก็คงดี แต่ในตอนนี้คิดว่าเราน่าจะเพิ่มผู้พัฒนาออกมาก่อน
แต่ก็อีกนั่นแหละ ถ้าไปพัฒนาเขาแล้วเขาตกงาน ... มันก็ไม่ดีเหมือนกันนะ 555
ThaiGameDevX -- The First Game Developer Community in Thailand.
+10
+1 ครับ เริ่มต้นให้เป็นมาตรฐานแล้วอย่างอื่นก็ตามมาเอง
http://tomazzu.exteen.com
+1
ชอบมากๆ
ที่จริง OS/software อะไรก็ได้นะที่มันเป็นมาตรฐาน..ส่งข้ามไปมาได้
และก็ราคาที่มันที่มีความเมตตาหน่อย
...
คิดอีกที่ linux ..ดีที่สุด มีครบทุกอย่าง
ผมคิดว่า ไม่ต้องถึงกับ OS แห่งชาติหรอก แค่รณรงค์ให้คนไทยรู้จักใช้ซอร์ฟแวร์ทดแทนก็พอ ไม่ใช่ไม่มี MS Windows กับ MS Office ก็ทำอะไรไม่เป็นเลย
ผมว่าเปลี่ยนหน่วยงานราชการให้ใช้ Linux มันยากเหมือนกันนะครับ เพราะปัจจุบันนี้ทุกคนก็ใช้ Windows กันจนชินซะมากกว่า แถมเวลาเกิดปัญหาที ( โดยเฉพาะถ้าเวลา Update Ubuntu ) จะหาคนเป็น Linux มาช่วยแก้ก็ลำบาก ยิ่งบางคน ทำอะไรไม่ได้หรือไม่ชินก็เอะอะว่ามันห่วยแล้ว
เวลาแค่ปีสองปีเปลื่ยนอะไรไม่ได้มากหลอกครับ ถ้าจะเริ่มคงต้องเริ่มที่เด็กระดับประถมสร้างความคุ้นเคยให้กับเด็กไปเรื่อยๆจนถึงระดับมหาวิทยาลัย พูดง่ายๆคือต้องคิดใหม่ทำใหม่แล้วฝากความหวังกับเด็กรุ่นใหม่ พวกแก่ๆแล้วเปลื่ยนอะไรไม่ได้มากหลอก
อย่างผมโตมากับวินโดว์พอวันนึงจะให้ไปใช้ Linux มันก็แปลกๆต้องมาทำคุ้นเคยกันใหม่ แต่ถ้าโตมากับ linux เลยมันคงไม่ใช่เรื่องยากอะไร
เดจาวู + We do no wrong.
ระเบียบราชการบางข้อมีปัญหากับการบังคับใช้อะไรบางอย่างรึเปล่า?
ezybzy.info blog
แล้ว Linux TLE ไม่ใช่ OS แห่งชาติหรอกหรือ
แล้ว ลินุกเติ้ล(เห็นคนเข้างานเขาเรียก Linux TLE) เป็นของหน่วยงานไหนกันแน่ จุดประสงค์การสร้างคืออะไร
TLE รู้สึกว่าจะทำโดยกลุ่ม Thai Linux Working Group (TLWG) ล่ะมั้งครับ โดยมี Nectec เป็นสปอนเซอร์
หรือไม่ก็อย่างน้อยในเวอร์ชั่นแรก ๆ ล่ะครับ :P
ThaiGameDevX -- The First Game Developer Community in Thailand.
ไม่ทราบว่า เคยได้ยิน linux ไกรวัลย์กันหรือเปล่าครับ
ผมเองก้อไม่รู้รายละเอียดอะไรมากนัก รู้แค่ว่าเค้าเป็นคนไทยคนนึงที่พัฒนา linux ในรูปแบบ commercial
(ขายว่างั้นเถอะ) แล้วจู่ๆ รัฐก้อมาทำ linux tle แจก สุดท้าย ก้อไม่มีใครใช้ ทั้ง ไกรวัลย์ ทั้ง
ทะเล ก้อตายตกไปตามกัน ผมเองก้อไม่เข้าใจจริงๆ ว่าจะทำไปทำไม ทำแล้วได้อะไร หรืออย่าง การตัดคำงี้
โดยส่วนตัวผมเห็นว่าหลายตัว kucut ก้อเป็นอะไรที่ work ดีน่ะครับ แล้ว ทำไมเราไม่เอาไปพัฒนาต่อ จะทำเป็น libray แห่งชาติ หรืออะไรก้อว่าไป แต่นี่รัฐมาประกวดแข่งกันทำ การตัดคำ(NECTEC) เพื่ออะไร...
ทำไมเราต้องเริ่มต้นใหม่กันทุกครั้งด้วย.
เป็นการ"ซุ่ม"พัฒนา ก็แสดงว่าเป็นความลับ จะเปิดเผยให้รู้จักทั่วไปได้ไง??
คิดแบบคนของรัฐ เอาเงินราษฎร์เงินหลวงมาใช้ เริ่มใหม่คิดใหม่กี่ทีก็ได้ คิดแบบเอกชนลงทุนไปแล้วต้องเกิดกำไรสูงสุด คิดให้มากผิดพลาดได้น้อย ...
ทำไปทำมาก็คล้ายในอดีต
โปรแกรมเวิดจุฬาและราชวิถีหายไปเลย
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
ความคิดเห็นเพิ่มเติืม นะครับ
ควรเริ่มจากหน่วยงานราชการก่อน เช่นเรื่อง OpenDocument ปัจจุบันเอกสาร ที่ทางราชการ หรือ หน่วยงานราชการเผยแพร่จะเป็นพวก M$ Office ทั้งหลาย ซึ่งผมมองว่ามันเป็นส่วนหนึ่ง ที่บังคับให้คนที่จะใช้เอกสารเหล่านี้จะต้องลง M$ Office ทำให้เกิดการละเมิดสิขสิทธิ์ (แกมบังคับหน่อย ๆ)
ปรับเรื่องการเรียนการสอน ภายในสถานศึกษาใหม่ เช่น การสอนให้ใช้พวก photoshop ก็เปลี่ยนเป็น GIMP แทน เป็นต้น เพราะถ้าสอนใช้ software ตัวไหน คนเรียนก็จะต้องหามาใช้ ซึ่งทั่วไปแล้ว ถ้าไม่มีเงินจริง ๆ ไม่มีนักเรียน/นักศึกษา คนไหน ซื้อ สิขสิทธิ์ มาใช้แน่ ๆ ถึงจะมีราคาซื้อที่ถูกกว่า คนทั่วไปก็ตาม มันก็กึ่ง ๆ บังคับให้ต้องใช้ แล้วมันก็จะต่อยอดไปถึงตอนทำงานด้วย
เดี๋ยวจะยาวไปฝากไว้ 2 เรื่องละกันครับ ^ ^"
It's my life. Open your mind for the future.
ขอให้ทำออกมาแล้วคุณภาพมันดีจริงๆ ให้เห็นว่าน่าใช้งาน
และต้องเพิ่มเติมโปรแกรมใหม่ๆ ที่เป็นของคนไทยเองเข้าไป
ไม่ใช่ว่าไปก็เอาของเขามาทำให้มันใช้ภาษาไทยได้ก็พอแค่นั้น
โปรแกรมเมอร์ไทยที่เก่งๆ ก็มีเยอะ
ผมแนะโปรแกรมนึงเช่น โปรแกรมเกี่ยวกับบัญชี หรือโปรแกรมของระบบราชการ อะไรทำนองนั้น
โปรแกรมระบบจัดการต่างๆ ระบบโรงพยาบาล ระบบโรงแรม ระบบบริหารสำนักงาน ระบบบริหารโรงเรียน
มันมีตั้งเยอะแยะ ถ้าทำออกมาได้ก็แจกจ่ายไปสิ อย่ามัวห่วงว่าทำไปแล้วจะได้อะไร ทำไปเถอะขอให้โปรแกรมมันดีจริงๆ แล้วผู้ใช้ก็มาเอง
แต่มีอย่างหนึ่งที่ต้องคำนึงคือไม่ใช่ว่าทำแบบออกมาห่วยๆ ไม่น่าใช้ ใช้งานไม่สะดวก มีปัญหาการใช้งาน ไม่มีการปรับปรุง
และสำหรับโปรแกรมระบบต่างๆ ต้องสามารถใช้ข้อมูลจากฐานข้อมูล MS Access ได้ ผมคิดว่าเพราะหน่วยงานต่างๆ จะมีข้อมูลเป็นฐานข้อมูล access ทำไมนะหรือก็เพราะว่ามันง่ายในการใช้งาน*
เหตุผลที่ผ่านมาที่ทำให้ โอเอสแห่งชาติไม่สำเร็จก็เพราะเนื่องมาจากโปรแกรมที่จำเป็นต้องใช้มันไม่สามารถสนองความต้องการได้จริงๆ
แล้วอย่างนี้คนธรรมดาจะกล้าลองหรือ? ไม่เคยใช้ ไม่มั่นใจ ถึงจะเป็นฟรีก้ตาม
คนที่ใช้ OS ตอนนี้มีกี่เปอร์เซนที่ยอมเสียเงินจ่ายค่าลิขสิทธิ์ ถึงออกมาเป็นฟรีก็เถอะ แล้วมันจะสามารถรองรับกับโปรแกรมที่ใช้กันอยู่พื้นฐานที่ทุกคนถนัดใช้รึเปล่า มันยากนะที่จะเปลี่ยน ถึงจะตั้งเป้าไว้แค่ 10% ก็ตาม
ทำไมเมืองไทยถึงชอบเริ่มต้นกันจังเลยครับ ผมเห็นเริ่มต้นกันเยอะแยะหลายเรื่องมากแล้ว เอาแค่ Font กับ Encryption มาตรฐานก่อนเถอะครับ ใช้กันวุ่นวายไปหมด จริงๆองค์กรภาครัฐไม่เห็นจะต้องวุ่นวายลงมาพัฒนาแย่งงานเอกชนเลย แค่กำหนดมาตรฐานที่เอื้ออำนวยให้ opensource หน่อยก็ใช้ได้แล้ว ผมเห็นจัดซื้อเครื่องกันทีไรก็วินโดว์ทุกที
อาจจะเพราะว่าวินโดวส์มันง่ายมั๊ง ซื้อเสร็จติดตั้งทำงานได้เลยจบ ไม่ต้องเสียเวลาเรียนรู้ใหม่เพราะว่าได้เรียนรู้มาแล้ว ส่วนอันอื่นใครอยากได้อะไรก็ค่อยๆเพิ่ม
แน่จริงก็ใช้ในองกรค์รัฐไห้หมดก่อน ค่อยมาบอกประชาชนอีกที
ถ้ารัฐบาลใช้หมด มันก็แน่นอนว่าประชาชนก็ต้องทยอยๆ ใช้ตามแน่ๆ ไม่มากก็น้อย
ทำไมไม่ใช้ linux ซักตัวนึงล่ะ
เป็นตัวหลักของหน่วยงานราชการ
ไม่ต้องเสียเวลาเขียนหรอกคับผมว่า
+_+