สวัสดีครับ หลังจากที่เพิ่งกลับมาที่หอพักได้ไม่นาน MacBook Pro 17 นิ้วรุ่น Unibody ก็มาถึงซะที ดูเหมือนจะเป็นเวลาปลดประจำการ Asus EEE PC 1002HA เสียที
อันนี้เป็นเพียงรีวิวสั้น ๆ มีจุดประสงค์เพื่อจะมาบอกข้อมูลเกี่ยวกับแบตเตอรี่ของเจ้า MacBook Pro ตัวนี้ที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันหลายแห่งเหมือนกัน สำหรับคนที่ใช้ MacBook Pro รุ่น Aluminum ธรรมดา อาจจะเอาเหตุผลข้อดีและข้อเสียของผมมาดูว่าถึงเวลาเปลี่ยนเครื่องมาเป็น Unibody หรือไม่ก็ได้ เนื่องจากผมจะเปรียบเทียบเจ้า MacBook Pro 17" Unibody ตัวนี้กับ MacBook Pro 17" ตัวเก่าของผม นี่ไม่ใช่รีวิวอย่างละเอียดแต่อย่างไรนะครับ
การสั่งซื้อ/กล่อง
ผมสั่งซื้อผ่าน Apple Online Store Thailand ในตอนแรกครับ หลังจากที่ประกาศเปิดตัวในวัน MacWorld เลย เพียงแต่ว่าเมื่อสั่งไปแล้วเห็นวันที่ Delivery Date แล้วรู้ตัวว่าไม่มีทางได้รับทันแน่ ก็เลยคุยกับคนที่บ้านไว้ว่าถ้าเจ้า MBP ตัวนี้มา ช่วยส่งต่อมาที่เมลเบิร์นได้ไหม แต่พอปลายเดือนมกราคม มานั่งตรวจสอบข้อมูลดูอีกที พบว่าการส่งของเข้าออสเตรเลีย หากของไม่ว่าจะเป็นสินค้าชนิดในก็ตาม มือหนึ่ง มือสอง จะต้องเจอภาษี 10% หมด นั่นหมายความว่าผมต้องจ่ายเพิ่มอีก 10,000 บาท ผมเลยเปลี่ยนใจสั่งผ่าน Apple Online Store Australia แทน
ข้อดีของการสั่งจากออสเตรเลียช่วงต้นปีคือหากใช้ Education Store แล้วจะได้ Rebate หากซื้อพร้อมกับไอพ็อดรุ่นใดก็ได้อีก AUD 179 คือเราต้องซื้อทั้งคอมพิวเตอร์ทั้งไอพ็อดรุ่นใดก็ได้ผ่านทาง Online Education Store หรือ Authorized Campus Reseller โดยต้องจ่ายราคานักศึกษาตามปกติทั้งบนตัวเครื่องและตัวไอพ็อด หลังจากนั้นเราต้องส่งบาร์โค้ด (UPC) ของทั้งตัวเครื่องคอมพิวเตอร์และไอพ็อดกลับไปให้แอปเปิล (เพื่อป้องกันการนำไปขายต่อ) หลังจากนั้นแอปเปิลถึงจะส่งเป็นเช็คเงินสดกลับมาให้
สำหรับตัว MBP ถึงแม้มันเป็น Pre-order ก็จริง แต่แอปเปิลได้ทำการเลื่อนวัน Shipping Date มาเป็นวันที่ 19 กุมภาพันธ์ เช่นเดียวกันกับคนอื่น ๆ ที่สั่งสเปคจอ Glossy และไม่มี SSD ซึ่งแอปเปิลจะยังไม่ทำการส่งของจนกว่าสัปดาห์ถัดไป แต่เท่าที่อ่าน ๆ ดูตามเว็บต่าง ๆ รู้สึกว่าแอปเปิลเริ่มที่จะทำการส่งของล่วงหน้าก่อนวัน Shipping Date ทั้งรุ่น Glossy และ Matte โดยเครื่องผมออกจากโรงงานที่ Shanghai ในวันที่ 18 แต่เครื่องถึงมือผมวันที่ 23 โดยรวมแล้วไม่นับว่านานมากนัก เนื่องจากว่ามันเป็นช่วงสุดสัปดาห์พอดี เครื่องผมจริง ๆ ถึงเมลเบิร์นวันที่ 21 ตอนเช้า แต่อย่างไรก็ตามต้องรอจนถึงวันจันทร์อยู่ดีถึงจะได้ของ
ภายในกล่องนั้นก็ไม่ต่างกับกล่องของ MacBook หรือ MacBook Pro รุ่น Unibody อื่น ๆ คือมีแค่...
ตอนแกะกล่องที่แปลกหน่อยก็คือรอบ ๆ ตัวเครื่อง (ใต้พลาสติกที่ห่อมาตอนแรก) จะมีฝุ่นเหมือนเป็นผงแป้งขาว ๆ เกาะมานิดหน่อย ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร (จากรูปข้างใต้ จะเห็นเลยว่ามันมีวง ๆ อยู่ทางลำโพงด้านซ้ายสองวง)
สเปกเครื่อง
ไม่มีอะไรมากเหมือนกันจริง ๆ เพราะว่าสามารถหาได้ที่เว็บแอปเปิลทั่วไปอยู่แล้ว แต่ผมสั่งเป็นเวอร์ชั่น CTO คือเปลี่ยนซีพียูกับเปลี่ยน HDD ให้ดีขึ้นหน่อย
เปรียบเทียบสิ่งต่าง ๆ กับ MBP 17" Aluminum ธรรมดา
อันนี้ผมเปรียบเทียบจากผู้ใช้งานระบบ Consumer นะครับ มาจากการใช้งานแบบ First Impression ล้วน ๆ ไม่ได้เกิดจากการทดสอบหลาย ๆ ครั้งหรือมีตัวแปรอะไรมากมายอย่างใด รุ่นที่ผมเอามาเปรียบเทียบคือรุ่น MBP 17" Aluminum รุ่นแรก (Core Duo 2.16GHz / Radeon X1600)
จอภาพ จากที่แอปเปิลโฆษณามามากว่าจอนี้ดีกว่าตัวเก่ามาก จากสายผู้ใช้ระดับ Consumer แบบผม ผมก็ไม่ได้เห็นมันเปลี่ยนแปลงไปมากมายอะไรนะครับ แต่เรื่องสีกับเรื่องแสงสว่างนั้นเปลี่ยนไปมากเลย เพราะว่าจอตัวเก่าผมใช้จอ Matte จะเห็นว่าบนจอ Glossy สีดำนี้ดำสนิทกว่าจริง ๆ แสงสว่างจะปรับให้สว่างพอสู้แสงอาทิตย์แรงจ้าของออสเตรเลียได้สบาย ๆ ประมาณว่าเล่นกลางสนามหญ้าไม่มีปัญหา (แต่แมลงวันกวนจริง ๆ)
ลำโพง รู้สึกได้อย่างชัดเจนเลยว่าลำโพงที่ใช้ใน UMBP 17" ในเรื่องคุณภาพเสียงนั้นแย่ลงกว่ามาก เบสแทบจะไม่เหลือเลย ทำให้ MBP 17" Aluminum ชนะไปในเรื่องนี้ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความดัง UMBP 17" หากเปิดเสียงดังสุด ๆ ถือว่าดังกว่ารุ่นก่อนมากครับ
พอร์ตต่าง ๆ ซึ่งถูกย้ายมาอยู่ทางด้านซ้ายทั้งหมด ถือว่าเป็นเรื่องแย่ขึ้นสำหรับผม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเอา USB Port มาวางติดกันสามอันนี่ทำให้ความสะดวกหลาย ๆ อย่างในการเสียบเข้าและดึงออกนั้นแทบไม่เหลือเลย MBP 17" Aluminum ตัวเก่าจะมี USB อยู่ด้านขวาหนึ่งช่อง และด้านซ้ายอีกสองช่อง ความสะดวกสบายในจุดนี้เลยหายไปทันที นอกจากนี้แล้วแอปเปิลยังได้ตัดพอร์ต Firewire 400 ออกไปอย่างสิ้นเชิง เช่นเดียวกับบน Unibody MacBook และ Unibody MacBook Pro 15" และเหลือเพียงแค่ Firewire 800 เท่านั้น หากใช้งานหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน ดูเหมือนจะสิ้นหวังพอสมควร
คีย์บอร์ด ถึงแม้ว่าคีย์บอร์ดลักษณะ Chiclet แบบนี้จะถูกนำมาใช้โดยแอปเปิลตั้งแต่ MacBook รุ่นขาว/ดำแล้วก็ตาม แต่ผมก็ไม่เคยได้ใช้มันเป็นคีย์บอร์ดหลักซะทีจนถึงตอนนี้ เริ่มรู้สึกชอบในความเด้งของมันครับ เมื่อใช้แล้วลีมคีย์บอร์ดตัวเก่าไปได้เลย แต่นี่เป็นเรื่องของความชอบส่วนบุคคลล้วน ๆ
Trackpad จริง ๆ แล้วแอปเปิลได้ตั้งค่า Default ของ Trackpad ให้ในลักษณะที่คนที่เคยใช้ Trackpad แบบเก่านั้นสามารถมาใช้งานได้ทันทีโดยไม่สับสน คือได้ตั้งค่ามาไม่ให้มี Tap Click แต่เป็นลักษณะให้วางนิ้วโป้งค้างไว้ในส่วนที่ควรจะเป็นปุ่ม (ครึ่งล่าง) จากนั้นใช้นิ้วอื่น ๆ แกว่งไป ๆ มา ๆ แต่เท่าที่ใช้งานผมว่าไอ้การกดเพื่อคลิกไปทั้งอันแบบนี้มันไม่ใช่ไม่สะดวก แต่มันเสียงดังมากครับ ผมเชื่อว่าถ้าเอาไปใช้ในห้องสมุด คนข้าง ๆ คนเดินมาทุบหัวแน่นอน
รูปร่าง ความหนัก เรื่องนี้จากที่ใช้เครื่องที่หนักกว่ามาก่อน ผมไม่รู้สึกว่ามันเปลี่ยนไปมากนักครับ ส่วนขนาดจริง ๆ แล้วรุ่นนี้ใหญ่กว่ากว่ารุ่นเก่า แต่บางกว่า กระเป๋าสำหรับใส่รุ่นเดิมสามารถนำมาใช้ด้วนได้ทันที แต่พวก Hard Case ทั้งหลายที่ดีไซน์มาให้พอดีกับขนาดของรุ่นเก่าจะไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้ครับ
ความร้อน แฟน ๆ คนชอบใช้โน้ตบุคบนตักดีใจได้ เพราะว่ารุ่นนี้เย็นกว่ารุ่นก่อนมากครับ อันนี้เปรียบเทียบจากการใช้งานแค่ Surf Web ตามปกติเท่านั้น ไม่นับการใช้งานที่ต้องใช้ CPU มากผิดปกติ จากการใช้โปรแกรม smcFanControl จะเห็นได้ว่าแอปเปิลได้ตั้งพัดลมให้หมุนที่ต่ำสุดที่ 2000rpm อยู่แล้ว ต่างกับรุ่นก่อนที่อยู่ที่ 1000rpm ความร้อนการใช้งานปกติจะประมาณ 44~48 องศาเซลเซียสครับ
Optical Drive เสียงเบากว่ามากเมื่อเทียบกับตัวเก่าในขณะที่ใส่แผ่นเข้าไป และถอดแผ่นออกมา แต่เวลาหมุนแผ่น/อ่านแผ่นจริง ๆ ความดังก็ไม่ต่างกันมากครับ
แบตเตอรี่
อันนี้ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนรอคอยรวมถึงตัวผมด้วย ที่อยากจะรู้จริง ๆ ว่าแอปเปิลพูดจริงหรือเปล่าหรือว่าอย่างไร หลังจากที่ผมได้ทำการ Calibrate แบตตัวนี้แล้วตามที่แอปเปิลบอก อยากจะบอกครับว่าใช้อย่างไรก็ไม่เคยได้ 8 ชั่วโมง
มาดูตอนที่ผมเพิ่ง Calibrate แบตเตอรี่เสร็จ เครื่องนี้แบตเตอรี่มีความจุทั้งหมด 12933 mAh
จากการใช้งานแบบธรรมดาจริง ๆ แถมไม่เปิด Bluetooth และยังไม่ได้ต่อ Wireless ด้วย ระบบแจ้งว่าควรจะอยู่ได้ประมาณ 7 ชั่วโมง 28 นาที สุดท้ายเมื่อใช้งานแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ทั้งวัน บางเวลาก็ไม่ได้เล่นเน็ตด้วย สุดท้ายตอนเย็นจับเวลาแล้วเครื่องดับด้วยเวลา 7 ชั่วโมง 2 นาที อันนี้เปิดจอภาพที่ Brightness 50% (9 ก้อนหากกดปุ่ม F1/F2 เพื่อปรับ) และใช้การ์ดจอออนบอร์ด 9400M
หากหนีมาเปลี่ยนเป็นการใช้งานลักษณะเดียวกันแต่ด้วยการ์ดจอแยก 9600M GT 512MB แล้ว เหลือ 5 ชั่วโมง 33 นาที นับว่าห่างจากที่แอปเปิลได้อ้างไว้ 7 ชั่วโมงมากครับ
ตอบโต้กรณี "หลุมพราง"
จากการใช้งานมาได้สองสามวันมานี้ โดยรวมแล้วคิดว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ สำหรับผมแล้วคิดว่าคุ้มครับ เนื่องจากผมถือว่าในเมื่อผมใช้มันหลาย ๆ ชั่วโมงต่อวัน หากนำราคาเครื่องมาหารกับจำนวนชั่วโมงที่ใช้แล้ว มันคุ้มกว่ารองเท้าบางคู่ของผมเสียอีก
เท่าที่ใช้งานเจ้า UMBP 17" นี้แล้วกลับมาดูบทความที่แล้ว จากมุมมองของผมผมไม่เชื่อหรอกครับว่านี่มันเป็นของเล่นของคนรวยหรือเป็นหลุมพรางทางการตลาดหรืออะไรก็แล้วแต่ ผมว่ามันขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ความชอบของแต่ละคนที่อาจจะชอบ OS X และขนาดของจอภาพ บางคนอาจจะชอบแบตเตอรี่ที่ถอดไม่ได้ก็ได้ และมันก็ไม่จำเป็นที่ผู้ใช้คอมเครื่องนี้ต้องตรงกับคุณสมบัติ 3 ประการแต่อย่างไร ผมรับรองว่าคอมเครื่องนี้ คุ้มกว่า TalkingDict ราคา 3000 กว่าบาทที่ผมซื้อแน่นอน
อีกอย่าง คอมขนาดใหญ่แบบนี้ มันก็ไม่ใช่สำหรับทุกคนอยู่แล้วครับ มันมีตลาดของมันเอง ส่วนตัวของผม ถึงแม้ผมจะเป็นผู้ใช้ระดับ Consumer แต่ผมก็มีความจำเป็นที่ต้องใช้มันในลักษณะ Desktop Replacement หรือว่าเอามาใช้แทนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะแบบเต็มรูปแบบนั่นเอง ด้วนความจำเป็นที่ว่าผมต้องไปกลับเมืองไทย/ออสเตรเลียทุก ๆ 3 เดือน เป็นไปไม่ได้ที่เราจะนั่งแบก Desktop ไป ๆ มา ๆ และนี่ไม่ใช่เพราะว่าผมอยากเท่ห์แน่นอน เพราะผมเอามันตั้งอยู่บนโต๊ะผมตลอดเวลา ไม่ได้เอาไปโชว์ใครที่ไหนที่มหาวิทยาลัย
ผมไม่ได้มาเพื่อปกป้องแอปเปิลนะครับ แต่ตามหลักเหตุผลของผม ผมเชื่อว่าท่ามกลางยุค Subprime อย่างไรก็ตามตลาดนี้มันก็มีอยู่ และมันก็ไม่ใช่ตลาดที่เล็กขนาดที่ต้องตรงกับคุณสมบัติ 3 ประการนั้นด้วย
สรุป
MacBook Pro 17" Unibody หรือที่บางคนเรียกว่า Unibody MacBook Pro 17" หรือ UMBP หรือ NMBP ก็แล้วแต่นั้น ก็เป็นคอมพิวเตอร์ธรรมดาเครื่องหนึ่งที่เหมาะสมกับคนเฉพาะกลุ่มครับ จากขนาด น้ำหนัก และราคาของมัน กับสิ่งที่มันทำได้ มันไม่ใช่คอมพิวเตอร์ที่เพอร์เฟคสำหรับทุกคนแน่นอน (คล้าย ๆ กับ MacBook Air นั่นล่ะ) แต่สำหรับใครที่ใช้ MacBook Pro 17" ตัวเก่าอยู่แล้วลังเลที่จะเปลี่ยน ถ้ามีคุณสมบัติ 3 ประการ (ฉบับผม) ต่อไปนี้: เครื่องเก่าเริ่มไม่ไหวแล้ว, เงินพอแล้ว, ทำใจกับแบตเตอรี่ที่เปลี่ยนเองไม่ได้ได้แล้ว ก็เปลี่ยนเถอะครับ :D
Comments
"เพราะว่าจอตัวเก่าผมใช้จอ Matte จะเห็นว่าสีดำนี้ดำสนิทกว่าจริง ๆ บนจอ Glossy นี้ แสงสว่างจะปรับให้สว่างพอสู้แสงอาทิตย์แรงจ้าของออสเตรเลียได้สบาย ๆ" - อ่านไม่เข้าใจครับ ว่าตัว Matt หรือ Glossy ดำกว่ากันครับ : )
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
:: Take minimum, Give Maximum ::
แก้ไขแล้วครับ ขอบคุณครับ :D
@TonsTweetings
ความจุแบตมหัศจรรย์มากใส่มาให้เผื่อเหลือเผื่อเกินจริงๆ
เป็น Notebook ที่ดีตัวหนึ่งครับ
ข้อ 1,3 อาจจะไม่เท่าไร
ข้อ 2 น่าจะหนักใจสุดครับ
ปล.อยากทราบจริงๆว่า ได้ LCD ยี่ห้อ อะไรครับ
งามครับ
My Blog / hi5 / Facebook / Follow me
My Blog
เห็นด้วยเรื่อง glass trackpad
ผมไปที่ iStudio วันเปิดตัว Unibody Macbook รุ่น 2.0GHz แต่ไปหลังงานเลิก คือมีของตั้งไว้ให้เล่น
สิ่งแรกที่ทำให้ผมสะดุดคือเสียงครับ เสียงแก๊ก แก๊ก
ผมก็งง มันเสียงอะไรหว่า เข้า iStudio มากี่ครั้งไม่เคยได้ยิน
มารู้เอาที่หลังว่าเป็นเสียง glass trackpad เวลายุบ - -'
twitter.com/exfictz
หยิบประโยคนี้มาจากเว็บ Apple นะครับ
ผมถือว่าเขาก็ทำได้ดีนะ คุณใช้ Spec พิเศษด้วย แต่ยังยื้อได้ถึง 7 ชั่วโมงแน่ะ ไม่ธรรมดาทีเดียว (MacBook Pro ตัวปัจจุบันที่ใช้อยู่ก็ 4 นิดๆ เหมือนกันนะ ยื้อถึง 5 ไม่ไหว)
ezybzy.info blog
งะ ผมขาดคุณสมบัติข้อสองอย่างแรง -_-"
_________________pawinpawin | blog
อยากได้อยู่นะ
แต่ยังไม่มีตังค์
1002HA ขายต่อเท่าไหร่ครับ ฮ่าๆ
น่าลองเปิด mb pro 17 นิ้ว เล่นหนังซักเรื่องแล้ววางข้างๆ acer ซักตัวที่เล่นหนังเรื่องเดียวกัน .. อัด vdo ไว้แล้วมาดูว่า mbp ใหม่เล่นหนังได้กี่เรื่อง แล้วเครื่องอื่นๆ ดับไปแล้วกี่รอบ :)
---
Khajochi Blog : It's not a Bug ... It's a Feature
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
เครื่องแรง แบตอึด เยี่ยมจริงๆ
Kohsija
จริงๆ ถ้าคีย์บอร์ดเป็นสีเงินเหมือน MBP ตัวเดิมจะดูดีมากๆ เลย
เรื่องดีไซน์ผมว่ามันเกือบดูดีมากๆ แล้ว เหลือเรื่องสีคีย์บอร์ดอย่างนึงที่รู้สึกขัดใจ - -;;;
ดีใจกับโน้ตบุคใหม่ด้วยครับ หรูเลิศอลังการ :)
.
ขอบคุณที่เอามารีวิวให้ดูครับ :)
ปล. ชักจะหวั่นใจ อยากได้ 17'' แทน 15'' ซะแล้ว เอิ๊กๆ แพงขึ้นอีก 10k -..-
บล็อกของผม: http://sikachu.com
บล็อกของผม: http://sikachu.com
เรื่อง Port เขาออกแบบเพื่อรองรับ Apple Cinema Display ตัวใหม่ด้วยครับ
ถ้าคุณต่อจอแล้ว USB ต่างๆ ก็สามารถเสียบได้จากจอ หรือต่อกับ Keyboard แยก (Apple)
แล้วถ้าจนๆ ใช้จอ CRT อยู่ละครับ
ก็ต้องใช้ Mini DisplayPort to VGA Adapter สิครับ :P
หมายถึงว่า USB จะเสียบที่ไหนน่ะครับ ไม่ใช่ทุกคนที่มี Apple Display
คุณ podhikaru หมายถึง New Apple Cinema Display มันมี USB port เสริมมาให้น่ะครับ (เหมือนเป็น Hub)
ใช่ครับ ผมเลยถามกลับว่า ถ้าไม่มี Cinema Display แบบนั้น (มีแค่ CRT ธรรมดา) แล้วจะเสียบ USB เสริมอย่างไร?
ศาสดาบอกว่า จะซื้อก็ต้องให้ครบครับ
จะมาครึ่งๆกลางๆ ศาสดาผิดหวัง :P
ใช้ USB Hub สิครับ
ด้วยความเคารพ
เท่ ไม่ต้องใส่ ห์ ครับ
อ้างอิง http://rirs3.royin.go.th
—————————
เอ .. ทำไมผมหาในนั้นแล้วได้ว่าใช้ได้ทั้งเท่ และ เท่ห์น่ะครับ
---
Khajochi Blog : It's not a Bug ... It's a Feature
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
เหะๆๆๆๆ อยากได้ แต่ยังไม่มีตัง
------
Unlimited Asian Music (ดูเอ็มวี ไทย, เกาหลี และญี่ปุ่น ฟรีๆ)
ของที่ ฝันไว้ก่อนครับ
vaio ยังไม่มีปัญหาซื้อเลย
เหมือนกับว่าแค่ acer เอามาใช้ก็ เกินพอ
-*-
TAXZe.com|[T]echnology [A]dvise [X]-Ray [Z]ero [E]ffect
เป็นรุ่นที่น่าใช้งานมากครับ....แต่คงหนักไปหน่อยสำหรับผม แค่อุปกรณ์กล้องก็เหนื่อยล่ะ ถ้าถอย 17 นิ้วมาอีก ออกงานทีสงสัยกล้ามขึ้นเลย 555555
ผมก็ใช้ pb g4 ต่อไป....รอครบ 6 ปีในเดือนมิถุนาก่อนค่อยเปลี่ยน...เล็ง umbp 15" ไว้แฮะๆ แต่กลัวใช้คีย์บอร์ดแบบใหม่ๆ ไม่ถนัด ดูมันห่างๆ แปลกๆ ส่วน tuchpad ไปลองเล่น umb เพื่อนมา ก็โออะ รู้สึกแปลกๆ ดี ใช้งานสบายนิ้วมาก 555 ต่างกับของผมที่ทั้งเน่า และมัน -.-
pb g4 ตัวนี้อยู่ด้วยกันมานาน...หาเงินได้เกินคุ้มล่ะ ผ่านศึกมามากมาย ไม่เคยงอแง พวก umbp ไม่รู้จะทนแบบนี้หรือเปล่า...
ผมมองว่า Desktop Replacement เป็นตลอดที่โตมากในเมืองนอก เดี๋ยวนี้เพื่อนๆ หรือคนรู้จักที่ทำงานด้วยกันไม่มี Desktop ที่บ้านละ ใช้แต่โน้ตบุ๊กทั้งนั้น เวลาจะทำงานที่บ้านก็ต่อจอภาพเอา สบายก่าเยอะ เดินทางบ่อยๆ
ยินดีด้วยกับคอมเครื่องใหม่ครับบบ...