หลังจากที่ไมโครซอฟท์ได้ยิงโฆษณาบ่งบอกว่าแล็ปท็อปจากแอปเปิลมีราคาสูงเกินไป และนักลงทุนทั้งหลายที่คาดการณ์ไว้ว่าสินค้าที่มีราคาสูงขนาดแอปเปิลจะต้องได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ปรากฏว่าจากยอดขายไตรมาสที่ 2 ล่าสุดของแอปเปิลนี้ แอปเปิลกลับทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์หากไม่นับยอดขายช่วงคริสต์มาส
โดยแอปเปิลมีรายได้ทั้งหมด 7.5 พันล้านดอลลาร์ เป็นกำไร 1.21 พันล้านคิดเป็นรายได้ 1.33 ดอลลาร์ต่อหุ้น (EPS) จากที่บริษัทแนะนำการลงทุนทั้งหลายคาดไว้ว่ารายได้ต่อหุ้นน่าจะอยู่ที่ 1.09 ดอลลาร์
ในไตรมาสนี้ แอปเปิลขายแมคได้ 2.22 ล้านเครื่อง ไอพ็อดขายได้ 11 ล้านเครื่องและไอโฟนได้ 3.79 ล้านเครื่อง หากรวมตัวเลขทั้งหมดแอปเปิลได้ขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม iPod touch และไอโฟนแล้วไปกว่า 37 ล้านเครื่อง (นักพัฒนาแถวนี้สนใจไหม?)
แต่หากมาดูตัวเลขดี ๆ นั้นจะเห็นว่ายอดขายเครื่องแมคนั้นลดลงจากไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว แต่อัตราส่วนยอดขายภายในสหรัฐกับต่างประเทศนั้นเริ่มเปลี่ยนไป โดยแอปเปิลทำยอดขายแมคในต่างประเทศได้สูงกว่าแล้ว
ที่มา - C|net
Comments
เคยลองคิดเล่นๆค่าครองชีพอเมริกาสูงกว่าเราตั้งหลายเท่า
ถ้าเทียบค่าคอมพิวเตอร์ 1 เครื่องกับค่าครองชีพแล้ว
เค้าซื้อคอมพิวเตอร์ในราคาถูกมากเลยนะเนี่ย
แต่ทำไมฝรั่งมันขี้บ่นกันจัง
เพราะว่าเขาชินกับของราคาถูกไงครับ ...ผมก็เคยคิดว่าอเมริกันได้เปรียบมาก ๆ ค่าครองชีพก็ไม่ได้สูงมากมาย แต่ของอย่างลำโพง หูฟัง คอม รถ เขาถูกกว่าเราอีก
ยิ่งตอนนี้ ที่ดินกับบ้านในสหรัฐถูกกว่าคอนโดนใน กทม มากมาย
@TonsTweetings
เทียบระหว่างกทม กับสหรัฐมันกว้างไปมั้งครับ น่าจะเทียบกับเมืองที่เป็นเมืองท่า และเป็นเขตเมืองด้วย
Santa Monica อย่างแพงสำหรับเขา แต่ไม่ค่อยแพงสำหรับเรานะครับ บ้านหลังหนึ่งพร้อมที่ดิน ราคาเฉลี่ยแค่ 200,000 ดอลลาร์เอง ถูกกว่าออสเตรเลีย/อังกฤษ/กทมบางเขตเยอะ
@TonsTweetings
| เข้าใจว่า iPhone หรือสินค้าบางอย่างของ Apple ยังไม่มีขายในหลายประเทศ ผลกระทบของเศรษฐกิจ จึงอาจจะมีผลน้อยมากถ้าหาก Apple เปิดตลาดในประเทศใหม่ๆ ถ้ามองในภาพรวมคือยังไม่ถึงจุดอิ่มตัว ยังเปิดตลาดได้อีก
@CHIANGRAI
อือๆๆ +1
ช่วยเพิ่มรายได้ให้ Apple ไปอีก 1 เครื่อง :P ไปแล้ว
We need to learn to forgive but not forget...
We need to learn to forgive but not forget...
Microsoft ถือหุ้น Apple อยู่กี่ %
ตอนนี้ MS ไม่มีหุ้นของ Apple แล้วครับ รู้สึกว่าขายออกไปนานแล้ว
คำพูดของคุณ cyberdude
หุ้น $150 ล้านที่ MS ได้ไปตอนนั้น คิดเทียบกับมูลค่ารวมของบริษัท Apple มันก็ยังน้อยมากนะครับ ถือว่าเป็นเงินสดเอามาช่วยสภาพคล่องในช่วงนั้นมากกว่า และมีข้อจำกัดในการขายอีกว่า MS ไม่สามารถออกเสียงโหวดในฐานะผู้ถือหุ้นได้เลย
ต่อมา MS คงขายหุ้นจำนวนนั้นออกไป เพราะหลังจากนั้นหุ้น Apple เคยตกแบบน่าใจหายอีกหลายรอบ ใครๆก็เทขาย
(เป็นคุณๆจะเก็บไว้นานมั๊ย? บริษัทไม่ค่อยทำเงิน แถมเงินที่ลงไปแต่เราไม่มีสิทธ์ออกเสียง)
และนั่นเป็นช่วงอีกตั้งนานก่อน iMac, OS X , iPod จะออก แทบไม่มีใครคิดว่า Apple จะกลับมารุ่งได้อีกอย่างทุกวันนี้
มองให้ดีๆ เงิน $150 ล้าน มันเป็นค่าใช้จ่ายเชิงกลยุทธของ MS ในตอนนั้นครับ ไม่ใช่ทำในเชิงลงทุน เพราะ:
-เป็นเงินก้อนเล็กมากๆ สำหรับ Microsoft
-สิ่งที่ MS ได้คือ Mac ทุกเครื่องตอนนั้น มากับ IE ซึ่งเท่ากับช่วย MS ตอกตะปูฝาโลงให้ Netscape ได้เร็วขี้น
-ได้ภาพว่าเป็น good guy มาช่วย Apple
ดังนั้น MS คงไม่ได้คิดว่าการเก็บหุ้นไว้เพื่อทำกำไรจะเป็นสาระสำคัญ สู้ค่อยๆปล่อยออกไปเอาเงินคืนมามั่งยังจะดีกว่า
ส่วนทาง Apple
-ได้เงินสด 150 ล้านมาหมุน
-ได้คำสัญญาว่า MS Office จะมีอยู่บน Mac ต่อไปอีก 5 ปี
-กลบกระแสข่าวร้ายๆว่า ใครๆก็เทขายทิ้ง "เห็นมั๊ย ขนาด บิล เกตส์ยังมาซื้อไว้เลย"
-MS ไม่มีสิทธิมาแทรกแซงด้านนโยบายใดๆอยู่ดี
ถ้าติดตามข่าว จะเจอว่าเค้ามีสัญญากันว่า Apple ห้าม MS ขายหุ้นอันนั้นภายใน 3 ปี แต่พอพ้นจากนั้นก็มีการขายไปแล้วครับ เพราะเป็นหุ้นห้ามออกเสียง ซึ่งมีข้อจำกัดอยู่
MS เอาเงินมาลงเพราะต้องการให้ Apple แถม IE เข้ามาในแผ่น Mac OS เพื่อเบียดแย่งตลาดเบราเซอร์จาก Netscape ให้ได้
150 ล้าน ฟังดูเหมือนเยอะ แต่มูลค่าของ Apple นั้นมีอยู่หลายพันล้านนะครับ เงินที่ MS ลงมาถือเป็นเปอร์เซนต์หุ้นไม่มากเลย
และรายชื่อผู้ถือหุ้นในปัจจุบันไม่มีชื่อเกสต์หรือไมโครซอฟท์ครับ
และ
Microsoft later sold their 150 million dollars worth of AAPL stock for a very nice profit in 2001.
Microsoft Made $18 Billion Off of AAPL - ลองหาข่าวเอาเองครับ
ความคิดเห็นส่วนตัว
กำลังพัฒนา iPhone และอื่นๆ อยู่ครับเพราะคิดว่ามันน่าจะขายตัวอย่างต่อเนื่อง
"น่าจะขายตัวอย่างต่อเนื่อง"
บรื๋อออออ ^^
ผมแสดงความคิดเห็นเฉยๆนะครับ มิได้มา"รุม"ใดๆ คุณ cloverink โปรดเข้าใจเจตนารมณ์
โอ๊ะ ใจตรงกัน ไวกว่าผม 4 นาที
"ขายตัว" ขยายตัวหรือเปล่าครับ :P
"ขายตัวอย่างต่อเนื่อง" ขืนเป็นงี้โทรมกันพอดี
เวรกำพิมพ์ผิด แก้ยังไงหว่า lol
อยากมีหุ้น AAPL จังเลย
AT&T ก็รวยไปเลยนะ แค่ Q1 ปีนี้มีลูกค้ามา activate 1.6 ล้านราย คิดไม่ออกเลยว่าถ้าคูณด้วยค่ารายเดือนเข้าไปจะเป็นเท่าไหร่ต่อเดือน
TrueMove ไม่รู้เป็นไงมั่ง
---
Khajochi Blog : It's not a Bug ... It's a Feature
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
แมคสู้ๆ
รวยเละ
แปลผิดบางจุดนะครับ
รายได้ไตรมาสนี้ 8.16 นะครับ
1.33 ไม่ใช่เงินปันผล แต่เป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้นต่อ 1 หุ้น
ยอดขายนอก US ยังน้อยกว่าใน US นะครับ ปกติ apple จะแยก retail ออกมาอีก group ซึ่งจริงๆแล้ว retail รวมทั้งร้าน apple store ใน US ด้วย
http://en.wikipedia.org/wiki/Earnings_per_share
ไม่ใช่เงินปันผลจริง ๆ ซะด้วยครับ แต่เป็นรายได้ต่อหุ้น (ซึ่งไม่จำเป็นที่จะต้องหมายความว่าเป็น Dividends)
@TonsTweetings
ผมกดทีเดียวนะ ไมมันเด้งมา 2 อัน _
เหอะๆๆๆ น่าจะเกี่ยวกับค่าครองชีพนะผมว่า
ไตรมาส2? เขาเริ่มนับไตรมาสแรกเดือนไหนหว่า
ผมว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะกลุ่มตลาดแมคและแอปเปิลส่วนมากเป็นกลุ่มคนที่ไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรก็ไม่กระทบพวกเขานักและยังคงสามารถหาเลี้ยงปากท้องได้อย่างไม่เดือดร้อน
และกลุ่มผู้บริโภคของแอปเปิลจะมี brand loyalty ค่อนข้างสูงด้วย เพราะงั้นจึงมีลูกค้าหน้าเดิม ๆ บริโภคสินค้าของบริษัทเดิม ๆ อยู่เยอะ เมื่อรวมกับกลุ่มตลาดที่ขยายตัวออกเรื่อย ๆ (แม้ช่วงนี้อาจจะขยายตัวช้า) ก็เป็นจุดแข็งในด้านการตลาดของแอปเปิลเขาครับ
ผมคิดว่านะ
twitter.com/exfictz
ของเขาดีนี่ครับ เหมือนเวลาเราจะซื้อของ เพิ่มเงินอีกหน่อยได้ของดี ผมก็ยอมนะ การรับประกันสินค้าของเขาก็ดีมาก ๆ iPod เสีย เอาไปเคลมได้ตัวใหม่เลยอะ
สงสัยมานาน ได้ทีถามทีเดียว
ipod นี่มันประกัน worldwide รึเปล่าครับ
onedd.net
onedd.net
worldwide ครับ
World wide ครับ ยกเว้นประเทศไทย :-)
ของประเทศไทย = world wild?
จริงง่ะ?