หลังจากไมโครซอฟท์เปิดตัว Microsoft Security Essentials (MSE) รุ่นจริง ให้ดาวน์โหลดฟรี คำถามที่หลายๆ คนมีแน่คือผู้ผลิตซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสตัวอื่นๆ จะว่ายังไงกันบ้าง คำตอบมาแล้วไม่ต้องรอนาน
Symantec ผู้ผลิตโปรแกรมตระกูล Norton มองโลกในแง่ดีว่า MSE จะไม่มีที่ยืนในตลาดแอนตี้ไวรัสที่แข่งกันรุนแรง เพราะ MSE พัฒนามาจาก OneCare ที่ได้รับเสียงตอบรับด้านความปลอดภัยและการตรวจเจอไวรัสไม่ดีนัก
ESET เจ้าของ NOD32 บอกว่าการมีโปรแกรมฟรีให้ผู้ใช้ติดตั้งย่อมดีกว่าไม่ติดตั้งอะไรป้องกันเลย และ MSE ไม่กระทบอะไรกับ NOD32 เนื่องจากจับคนละตลาด NOD32 นั้นแข่งในตลาดผลิตภัณฑ์เสียเงินที่ปรับแต่งได้มากกว่าและมีฟีเจอร์มากกว่า
Avast ยินดีที่ไมโครซอฟท์เข้ามาในตลาดนี้ โดยบอกว่าบริษัทเชื่อมั่นในแนวทางโปรแกรมฟรี ซึ่งพิสูจน์ได้จากยอดผู้ใช้ Avast รุ่นฟรีกว่า 100 ล้านราย และ Avast เชื่อว่าในบรรดาพีซีกว่า 500 ล้านเครื่องทั่วโลก มีเพียง 20% เท่านั้นที่ใช้โปรแกรมแอนตี้ไวรัสแบบเสียเงิน
AVG มองในแง่การผูกขาดว่าไมโครซอฟท์จะผลักดัน MSE ให้คนใช้วินโดวส์ในทุกๆ ช่องทาง (เช่น Windows Update) และเปรียบเทียบ MSE กับวินโดวส์ว่า ถ้า MSE ยิ่งเป็นที่นิยม ก็จะเป็นเป้าหมายด้านความปลอดภัยมากขึ้นเรื่อยๆ (แปลว่าโปรแกรมแอนตี้ไวรัสไม่ควรจะดังและคนใช้เยอะ?)
ที่มา - Ars Technica
Comments
MSE มันทำเครื่องผมอืดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน - -'
เห็นหลายๆ คนบอกว่ากินเครื่องน้อยมากนะครับ เครื่องผมนี่แยกไม่ออกเลยว่าลงหรือไม่ลง เกือบไม่รู้สึกเลย แล้วผมว่าเป็น AV ที่ลงง่ายลงเร็ว แล้วถอนง่ายถอนเร็วด้วยครับ ไม่ต้องรีเครื่องเลย แม้เปิดเครื่องมา ๕ วันแล้ว ถอนตัว beta ออกเอา final ลงแทน ถึงตอนนี้เปิดเครื่องไว้ ๗ วันแล้วก็ยังไม่มีอาการอะไร ยังไม่ต้องรีเลย
The Phantom Thief
+1 ผมด้วย
+1 เบาสบายเหมือนปุยนุ่น
แต่ถ้ามันแถมติดมากับ windows ก็คงจะกลายเป็นเดจาวูจากสงคราม browser?
เรื่องของฟรีเมื่อก่อนติด Avast free ไปแล้วลองเปลี่ยนมาใช้ AVG free พบว่า AVG เจอไวรัสติดอยู่ในเครื่องสองตัว -*-
อาจจะเป็น false positive ก็ได้นะครับ เกิดขึ้นได้กับโปรแกรม antivirus ทุกตัว
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
รู้แต่ว่า Schedule Scan ของ AVG Free กินเครื่องมาก (ขนาด RAM 3GB ยังรู้สึกช้าเลย หรือเพราะว่าผมใช้คอมโหดไป?) แต่ไม่ชอบอินเทอร์เฟซของ avast! เลยใช้ AVG Free ต่อไป
ฟังผู้ผลิตซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสพูดมานี่ดูสบายๆ ดีครับ แม้กระทั่งของฟรีอย่าง Avast ก็ยิ้มได้อยู่ (แม้ว่า AVG อาจหงุดหงิดนิดหน่อย) แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในประสิทธิภาพซอฟต์แวร์ของตัวเองนั้นเหนือกว่า Microsoft อย่างแน่นอน อีกทั้งประวัติช่องโหว่ความปลอดภัยของ Microsoft เองก็มีอยู่เป็นเนืองนิตย์
ปัญหาการผูกขาดก็คงไม่ง่ายนักสำหรับ Microsoft
ต่างกับทางด้านสังเวียนบราวเซอร์อย่าง IE ที่ตอนนี้อึมครึมกับปัญหาผูกขาด (แบบอ้อมๆ ที่ตลกฝืดมาก)
ไม่กล้าลง ฮ่าๆ
เครื่องส่วนตัวยังไงก็ไม่ลง Anti-virus เด็ดๆ
ไม่อยากทำให้เครื่องช้าไปกว่านี้
Oakyman.com
Antivirus ไม่ใช้คำตอบหรอก ถึงแม้คุณจะมี Antivirus ที่ดีที่สุดในโลก แต่เครื่องคุณยังใช้ Windows เถื่อน Windows ดัดแปลง
Windows Firewall เปิดใช้งานหรือป่าว
Update Patch Windows บ้างหรือป่าว
Antivirus ที่บอกว่าเจ๋งๆ ก็ไม่ได้ช่วยอะไรคุณหรอก
เหมือนบ้านคุณติดสัญญาณกันขโมย แต่คุณเปิดประตูบ้านไว้ ขโมยก็ยังเข้ามาในบ้านคุณได้อยู่ดี
คุณกำลังจะบอกว่าถ้าติดตั้งของแท้ + เปิด firewall (ที่มากับ windows)+ update patch ตลอดเวลาแล้วคุณจะไม่ติด virus?
เรื่อง windows เถื่อนมันก็มีส่วนนะครับแต่ผมว่าไม่ได้ช่วยอะไรมากมาย แต่ผมมองว่าการไม่ติดตั้ง anti virus ไม่ใช่เรื่องที่พึ่งกระทำครับ
ผมมองว่ามันอยู่ที่ผู้ใช้ครับ ถ้าเครื่องผมใช้เองคนเดียว รู้ตัวอยู่ว่ารันโปรแกรมอะไรบ้าง ก็ไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องลงโปรแกรมป้องกันไวรัส
แต่ถ้าเครื่องสาธารณะของที่ทำงาน ที่ไม่รู้ว่าใครจะมาใช้บ้างก็ต้องลงไว้ก่อน ถ้าไม่อยากฟอร์แมตบ่อยๆ
- - - - -
suksit.com
suksit.com
+1
อยู่ที่ผู้ใช้อย่างเดียวเลยครับ เข้าอะไรที่เสี่ยงหรือไม่ มีคำถามขึ้นมาอ่านก่อนหรือไม่ คนไทยเห็นปุ่ม Yes ไม่ได้ กดทันที ไม่อ่านก่อนว่ามันจะทำอะไร
-1 ตรง "อยู่ที่ผู้ใช้อย่างเดียวเลยครับ"
เอ่อมันก็ไม่เสมอไปครับ เพราะบางทีแม้จะใช้งานตามปรกติที่ไม่เสี่ยงอะไร
การโจมตี ก็อาจเกิดขึ้นได้ยกตัวอย่างเช่นกรณี Conficker ที่ใช้ช่องโหว่การทำงานปกติของโปรเซส scvhost.exe บนวินโด ซึ่งไมโครซอฟต์ ได้ออกแพทแก้ไขมา MS08-067
ดังนั้นบางครั้งมันก็มีปัจจัยอื่นด้วยครับ จะโทษผู้ใช้อย่างเดียวก็ไม่ถูก
ไม่มีอะไรในกอไผ่นอกจาก...หน่อไม้ | @kezuke | Blog
ผมว่า windows แท้ + patch มีผลอย่างมากนะครับเนื่องจากข่องโหว่ใหม่ๆและการแก้(security update patch)ออกมาเสมอดังนั้นถ้าไม่ update เลยเนี่ยมันก็โหว่อยู่อย่างนั้น
my life
My iOS apps
My blog
เปิดหน้า ต่างไม่ปิดประตู
แต่ หา Anti auto run
ไม่เสียบ tumb Drive มั่วซั่ว (ติดมุ้งลวด)
จะโดนยุงกัดน้อยลง
มันกันไม่ได้ร้อยเปอร์เซนต์
คุณลองไม่ให้ข้อมูล เข้าออก จากเครื่องเพิ่มเท่านั้นแหละครับ
ถึงจะไม่เสี่ยง
http://tomazzu.exteen.com
เค้าไม่ได้บอกไม่ให้ติด antivirus หนิครับ แค่บอกว่าถึงติดไป แต่ใช้ของเถื่อนก็ไม่มีประโยชน์
iPAtS
iPAtS
พูดถึง MSE กับ Nod32 Norton McAfee เท่าที่ผมใช้มา MSE ใช้ Resource เครื่องน้อยที่สุด คือ 32-40MB แล้วก็ยังใช้ Engine และ Definition ตัวเดียวกับ Microsoft Forefront ที่เป็น Enterprise Product ด้วย
ตอนนี้ผมใช้ Norton 2009(ปัจจุบันมี 2010 ออกมาแล้ว) การใช้หน่วยความจำรวม ใช้ไปทั้งสิ้น 3,588KB + 3,148KB ครับ ส่วน Avira Free จะใช้ประมาณ 10 กว่า MB(ย้ายจาก Avira Free มา Norton 2009 ครับ)
มี AntiVirus แบบ cloud ที่ดีมากๆตัวหนึ่งแต่ไม่มีตัวฟรีหรือตัวทดลองแบบ trial ให้ใช้มีแต่แบบ demo คือ scan ได้อย่างเดียว clean ไม่ได้ แต่ผมพบว่ามันจับ virus ได้ดีมากๆ ทั้งๆที่ไฟล์ติดตั้งเล็กนิดเดียวและกิน resource น้อยมากๆคือ Prevx ครับลองโหลดไปใช้งานควบคู่กับโปรแกรม AntiVirus ได้ทุกตัวครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
น่าสนแฮะ ขอลองหน่อย
เหมือนนอร์ตันเวอร์ชั่นใหม่เขาใส่ใจเรื่องกินresourceมาก เลยค่อนข้างเบาๆ
พึ่งอัพเป็น 2010 ใช้กับ win 7 ปกติสุขดี ส่วน MSE(BETA) จำได้ว่าเคยลง
พอจะมาอัพเป็นตัวจริง เจ้า MSE ดันหายไปจากเครื่องเฉยเลย ไม่รู้หายได้ไง - -"
ขึ้นอยู่กับ นิสัยการใช้งานของเราครับ และเครื่องคอมเราเนี่ย ใช้กันกี่คน แต่ อย่างผมเนี่ย เมื่อก่อนก็ไม่ใช้ antivirus หรอกครับ ด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่นาน คอมก็ช้า ถึงแม้ไม่มี anti ก็เถอะ แล้วก็ถึงเวลาลงใหม่
แต่เหตุมันอยู่ที่ เราบังเอิญ เผลอ ครับ ความผิดพลาดมันมีนะครับ ปรกติด flash drive ผมจะคลิกเลือกที่ address ของ my computer (จะไม่ double click โดยตรงเด็ดขาด)
วันนั้นรีบส่งงานครับ เลยให้เพื่อนเสียบแล้ว copy ไฟล์ เท่านั้นแหล่ะครับ กลับบ้าน ดู hdd ทำไมมันมีพื้นที่เหลือแยะจัง ปรากฏว่า mp3 หายหมด รวมทั้งเพลงที่ทำเอาไว้ด้วย เซงชมัดเลย
ผมเคยใช้มาหลายเจ้า ทั้ง McAfee, Norton, Avast, Avira, NOD32, AVG, BitDefender(ช้าสุดแล้วตัวนี้ +.+), Panda, Trend Micro หรือแม้กระทั่ง ClamWin
แต่ตอนนี้ หยุดใจไว้ที่ Kaspersky Antivirus
พอเค้าทำมาก็บ่นเค้า พอเค้าไม่ทำมาก็บ่น คนเราเนอะ
Mac ทำหน้าตาสวยงามลูกเล่นดี Windows ทำให้หน้าตาสวยงามลูกเล่นดีมั่ง ก็พูดว่า Windows เลียนแบบ
ถ้าไม่ทำก็บ่นว่า Windows ไม่เห็นหน้าตาดีเหมือน Mac ก็บ่นกันไป แล้วยังก็ยังใช้มันอยู่ในเครื่องตัวเอง แล้วจะบ่นทำไม ตอนใช้ก็ใช้ฟรี(ใช้ของเถื่อน) แล้วจะบ่นทำไม
รอข่าว "ผู้ผลิตไวรัส แสดงความเห็นเรื่อง Microsoft Security Essentials" ครับ ^_^'
ข่าวนี่ไง อ้าวไม่ใช่เหรอครับ :P
+1 อาจจะพูดไปก่อนรอผลิตไวรัสที่ติดเฉพาะ MSE 555
_________________________pawinpawin | clinicalepi.com
ผู้ผลิตไวรัสคงแสดงความคิดเห็นโดยการส่งไวรัสมาทดสอบนะครับ :P
ใครมีเงินก็ใช้พวกเสียตัง ใครอยากประหยัดก็ใช้ของฟรี เลือกได้นิ
สำหรับผม MSE ก็พอละถือว่าเป็นของแถมสำหรับคนใช้วินแท้เพราะไม่ได้เอาไปตะลุยดงเวปอันตราย
MSE ใช้แล้วเครื่องช้า
ตอนนี้เปลี่ยนมาใช้ windows7 กับ MSE หมดแล้ว ใช้แล้วรู้สึกว่าเครื่องเราปลอดภัยขึ้นนะผมว่าเพราะว่ามันเจอไวรัสที่ใช้ตัวอื่นสแกนทุกวันไม่เจอ
ผู้ผลิตโปรแกรม antivirus คงยังไม่กล้าให้ความเห็นอะไรมาก แต่ผมว่าลึก ๆ เขากลัวนะครับ
เพราะทั้งฟรี (ฟรีตลอดจริง ๆ ไม่ใช่ฟรีแค่อัพเดทฟรี 1 ปี หรือฟรีแบบมีโฆษณาน่ารำคาญเข้ามาทุกวัน)และมี UI ที่ผู้ใช้ windows คุ้นเคย
รออีกซักปีเหอะครับ คงได้มีข่าวทำนองนี้ "ผู้ผลิต antivirus เตรียมยื่นฟ้องไมโครซอฟท์ ข้อหาผูกขาดโปรแกรม antivirus"
+1
WE ARE THE 99%
จากการใช้งานมาตั้งแต่ beta ก็ไม่มีปัญหาอะไรเลยนะครับ ลงแล้วเครื่องไม่อืดด้วย ผมว่าใช้งานได้ดีเลยทีเดียว อีกอย่าง ฟรี ด้วย ผมว่าที่พวกผู้ผลิตไวรัส ออกมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างนี้ แสดงว่า พวกเขาน่าจะเริ่มร้อนๆๆ หนาวๆๆ กันแล้วแหละ อีกอย่าง ปกติทั่วไปก็ไม่ค่อยอยากที่จะมาเสียค่า anti virus กันทุกๆๆปีหรอกนะครับ ผมว่า MSE น่าจะไปได้อีกไกล
+1 neohacker