ตอนจบของซีรีย์ Android แล้วครับ ถ้าไม่ได้อ่านตอนก่อนหน้านี้ ในตอนแรกพูดถึงฮาร์ดแวร์และแนวคิดพื้นฐานของระบบปฏิบัติการ ส่วนตอนที่สองพูดถึงโปรแกรมต่างๆ ที่มากับเครื่อง

Keyboard

ประเด็นที่ผมให้น้ำหนักมากในการทดสอบสมาร์ทโฟนคือคีย์บอร์ด แพลตฟอร์ม Android นั้นมีทั้งคีย์บอร์ดจริงและคีย์บอร์ดบนหน้าจอ ตอนนี้มีมือถือหลายรุ่นที่ให้คีย์บอร์ดจริงมาด้วย (เช่น T-Mobile G1 และ Verizon Droid) แต่ HTC Magic นี่เป็นคีย์บอร์ดบนหน้าจอครับ

ขึ้นชื่อว่าเป็นคีย์บอร์ดเสมือน แปลว่ามันคือซอฟต์แวร์และมีได้หลายเวอร์ชัน สำหรับ HTC ที่วางขายในประเทศไทยใช้คีย์บอร์ด CN Thai ของบริษัท CN Solutions

ให้ภาพเล่าเรื่องแทนดีกว่านะครับ ดูผังของคีย์บอร์ดแล้วจินตนาการว่ามันจะพิมพ์ง่าย-ยากแค่ไหน

ภาษาอังกฤษ แนวตั้ง

ภาษาอังกฤษ แนวนอน

ภาษาไทย แนวตั้ง

ภาษาไทย แนวนอน

เท่าที่ผมพิมพ์มาได้ระยะหนึ่ง พบว่าการใช้คีย์บอร์ดแบบ 5 แถวตามภาษาไทย ทำให้ปุ่มมีขนาดเล็ก พิมพ์ยากพอสมควร (ทางแก้คือพิมพ์ในแนวนอนแทน ถ้าต้องพิมพ์อะไรยาวๆ) แต่ก็มีข้อดีว่าใช้ผังลักษณะเดียวกับคีย์บอร์ดพีซี พิมพ์สัญลักษณ์และตัวเลขได้ง่าย

ใน ROM เวอร์ชันอื่นๆ นั้นมีระบบแนะนำคำทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ของภาษาอังกฤษนั้นบอกได้ว่า "ยอดเยี่ยมมาก" ส่วนภาษาไทยโอเค แต่ต้องใช้ปุ่ม space เพื่อบอกจุดจบของคำ (กด space สองทีจึงเว้นวรรค) นั้นแปลกๆ ไปนิด แต่ความสามารถนี้ไม่มีใน Magic รุ่นที่ทดสอบครับ

Settings

Android เลือกใช้แนวทางการตั้งค่าตามแบบระบบปฏิบัติการของพีซี นั่นคือ แต่ละโปรแกรมจะมีหน้าจอ Settings หรือ Preferences ของตัวเอง และมีโปรแกรม Settings ของระบบแยกต่างหาก (ต่างจาก iPhone ที่เอาทุกอย่างไปรวมกันในโปรแกรม Settings กลางของระบบ)

หน้าจอ Settings ของ Android ไม่มีอะไรหวือหวา เป็น list เลื่อนลงมาเรียบๆ สำหรับเวอร์ชันของ HTC ได้เพิ่มตัวเลือกเข้ามาอีก 2 หมวด คือ Personalize (ปรับแต่ง scene, ภาพหน้าจอ, ริงโทน) และ Social Network (ตั้งค่าบัญชีผู้ใช้ของ Twitter/Facebook/Flickr)

การเปิด-ปิดตัวเลือกที่ใช้บ่อยๆ ทำได้สะดวกผ่าน widget ซึ่งสามารถวางไว้บนหน้าจอได้เลย ตัวอย่าง widget เช่น Wi-Fi, GPS, EDGE, Bluetooth เป็นต้น

ของแถม: หน้า About ของ HTC Magic เครื่องที่ผมใช้ทดสอบ เผื่อจะมีใครสนใจในรายละเอียดของเวอร์ชัน

Android Market

วิธีการแจกจ่าย (distribute) โปรแกรมบนมือถือเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงหลังแอปเปิลเปิดตัว iPhone App Store จากเดิมที่เราต้องไล่ตามหาไฟล์โปรแกรมที่ต้องการ ดาวน์โหลด และติดตั้งโปรแกรมลงในเครื่องด้วยวิธีการต่างๆ ที่ยุ่งยาก การมาถึงของ App Store ลบขั้นตอนเหล่านี้ออกไปจากระบบ สิ่งที่ต้องทำมีแค่ search แล้วกดโหลดเท่านั้น ความสะดวกสบายในการได้มาซึ่งโปรแกรมที่ต้องการ รวมกับความนิยมของตัว iPhone จึงไม่น่าแปลกใจที่ปัจจุบันมีโปรแกรมใน App Store กว่า 1 แสนตัว และคู่แข่งของแอปเปิลทุกเจ้าต้องเลียนแบบแนวทางนี้กันทั้งนั้น

Android ก็หนีไม่พ้น โดยกูเกิลเรียกชื่อร้านขายโปรแกรมว่า Android Market มันมีสถานะเป็นโปรแกรมหนึ่งตัว และเป็นส่วนหนึ่งของ Google Experience (แปลว่าไม่ได้มากับมือถือทุกรุ่น แต่ส่วนมากมีครับ)

หน้าตาของ Android Market ก็เรียบๆ ครับ มีโปรแกรมแนะนำจำนวนหนึ่ง แยกโปรแกรมตามหมวด และมีระบบให้ดาว

ข้อเสียที่พบคือมันต้องสั่งอัพเดตโปรแกรมทีละตัว สั่งอัพเดตทั้งหมดเลยไม่ได้ ส่วนการติดตั้งโปรแกรมจะแสดงข้อความให้เราดูว่า โปรแกรมที่จะติดตั้งจะเข้าถึงส่วนใดของมือถือได้บ้าง

เราไม่สามารถดูรายละเอียดของโปรแกรมใน Android Market ผ่านเว็บได้ จำเป็นต้องดูผ่าน Android Market เท่านั้น (มีให้ดูเล็กน้อยพอเป็นแซมเปิลบนเว็บของ Android)

บน Android Market มีทั้งโปรแกรมฟรีและเสียเงิน การซื้อโปรแกรมต้องทำผ่าน Google Checkout และตอนนี้ยังใช้งานได้ในไม่กี่ประเทศเท่านั้น (รายชื่อประเทศที่สนับสนุน) สำหรับประเทศไทยไม่มีชื่ออยู่ในรายการทั้งแบบฟรีและเสียเงิน แต่ผมก็สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมฟรีใช้ได้ไม่มีปัญหา

ผมเขียนไปแล้วในตอนแรกว่า ข้อดีของ Android คือ มันไม่กั๊ก ถ้าบน Android Market ไม่มีโปรแกรมที่ต้องการ? ลงเองได้เลยครับ จะลงแบบก็อปปี้ไฟล์ไปติดตั้งเอง หรือดาวน์โหลด App Store ทางเลือกอื่นๆ เช่น SlideMe, MobiHand หรือแม้กระทั่งร้านขายโปรแกรมสำหรับผู้ใหญ่ MiKandi ที่เคยลงข่าวใน Blognone ไปแล้ว แนวทางแบบนี้แก้ปัญหา "App โดน Reject" แบบที่เกิดขึ้นใน iPhone ได้ผลดีมาก ใครอยากลงโปรแกรมนอก Android Market ก็รับความเสี่ยงกันเอง แต่กูเกิลเปิดช่องไว้ให้แล้ว ไม่ได้ขัดขวางอะไร

ตัวเลขของโปรแกรมใน Android Market เท่าที่มีข่าวออกมาล่าสุดคือประมาณ 16,000 ตัว (TechCrunch) ตามหลัง iPhone ไกล แต่ก็ถือว่าเยอะเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่นๆ เช่น Palm App Catalog มี 800 ตัว (MyPre) และ Windows Marketplace ที่มี 800 ตัวเท่ากัน (PocketNow) โดยรวมแล้วมีโปรแกรมที่ใช้งานทั่วๆ ไปครบครัน ที่ขาดอยู่คือโปรแกรมเฉพาะทางแบบสุดๆ และเกมดังจากค่ายดัง

Third Party Apps

ผมใช้เวลาตรงนี้สั้นๆ แนะนำโปรแกรมที่ลองใช้แล้วชอบ แบบยาวๆ ไปแลกเปลี่ยนกันได้ในกระทู้ ใช้ Android App อะไรกันบ้าง? นะครับ

ซ้าย: Abduction! เกมอะไรไม่รู้สนุกเป็นบ้า ขวา: Soccer Livescores เอาไว้ดูผลบอล (สังเกตว่ามีโฆษณาไทยใน AdMob แล้ว)

ซ้าย: Bloo โปรแกรมเล่น Facebook ความสามารถสูง แต่ต้องขออนุญาต Facebook ก่อนทุกอย่างกว่าจะใช้งานได้ ขวา: Official Facebook App เพิ่งอัพเกรดใหญ่ไปไม่นานนี้ ความสามารถเพิ่มมากขึ้นแต่ยังสู้ Bloo ไม่ได้ มีดีตรงที่เป็น official ใช้ได้ทันที

ซ้าย: Foursquare เกมแท็กสถานที่ แถวนี้เล่นกันหลายคน ขวา: Layar โปรแกรม Augmented Reality (อ่าน ข่าวเก่า ประกอบ)

Twidroid โปรแกรม Twitter client ที่ดีที่สุดบน Android ในขณะนี้

Development

ลูกค้าของ Blognone มีนักพัฒนาซอฟต์แวร์อยู่ไม่น้อย ประเด็นนี้ไม่พูดไม่ได้ :D การพัฒนาโปรแกรมบน Android ใช้ภาษา Java แต่คอมไพล์เป็นไบนารีของตัวเอง (ไม่ใช่ไบต์โค้ด) ชื่อ Dalvik ผมเคยเขียนรายละเอียดทางเทคนิคไว้หน่อยนึงที่ Android Developer Challenge - โอกาสทองของเด็กไทย ใครสนใจตามไปอ่านกันเอง

เครื่องมือในการพัฒนา Android จำเป็นต้องดาวน์โหลด Android SDK จาก Android Developer ใช้งานได้ทั้งวินโดวส์ แมค และลินุกซ์ มีมาให้ครบทั้ง simulator และเครื่องมือเสริมอื่นๆ

คนที่อยากใช้ IDE ในการพัฒนาก็ไม่ยากครับ กูเกิลแนะนำด้วยซ้ำว่าการพัฒนาโปรแกรมที่รวดเร็วควรใช้ Eclipse (ลงปลั๊กอิน Android Development Tools ผมลองบน Eclipse 3.5/Ubuntu 9.10 ก็มีปัญหาจุกจิกเล็กน้อยแต่ใช้งานพัฒนาโปรแกรมได้

นอกจากนี้ Android ยังมี Android Native Development Kit สำหรับคนที่ต้องการเรียกใช้โค้ดบางส่วนที่เป็น native ได้ด้วย (ซึ่งมีข่าวว่า Firefox/Fennec อาจลง Android ผ่านวิธีการนี้)

เมื่อพัฒนาโปรแกรมเสร็จแล้ว จะนำขึ้น Android Market ต้องเสียค่าลงทะเบียนนักพัฒนา 25 ดอลลาร์ (หน้าลงทะเบียน) ตอนนี้นักพัฒนาแถวบ้านเรายังสามารถแจกจ่ายโปรแกรมได้เฉพาะแบบฟรีเท่านั้น ถ้าอยากขายโปรแกรมบน Market ก็ต้องไปหาบัญชีธนาคารในสหรัฐมาก่อนล่ะครับ

ผมคงเล่าประเด็นการพัฒนาโปรแกรมบน Android ไว้แค่นี้ ใครสนใจอะไรเพิ่มเติม ลองไปดูที่เว็บ DroidSans ซึ่งเป็นชุมชนนักพัฒนา Android ชาวไทย

Summary

สรุปข้อดีของ Android

  • ไม่กั๊ก อันนี้สำคัญมาก
  • ระบบปฏิบัติการใหม่ ทันสมัย
  • รันได้หลายโปรแกรมพร้อมกัน
  • มีฮาร์ดแวร์ให้เลือกหลากหลาย ฮาร์ดแวร์ทุกตัวถอดแบตได้
  • มีปุ่ม Back จริงๆ ให้ใช้ (สำคัญมาก) บางรุ่นมีคีย์บอร์ดจริง (ไม่สำคัญเท่าไร)
  • Google Experience ไร้เทียมทาน
  • ทำงานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ เพราะข้ามไปต่อกับกูเกิลโดยตรง
  • ถ้าไม่พอใจ Android Market ก็ลงโปรแกรมด้วยวิธีอื่นได้
  • พัฒนาโปรแกรมบนแพลตฟอร์มอะไรก็ได้ ใช้เครื่องมือที่ชาวบ้านคุ้นเคยอยู่แล้ว (Java/Eclipse) ไม่ถูกบังคับให้ซื้อแมค

สรุปข้อเสียของ Android

  • หน้าตาของระบบปฏิบัติการ ยังไม่สวยเท่า iPhone และ Palm ใช้แล้วยังรู้สึกว่ามันไม่ค่อยเนียนนัก
  • ช้าบ้างในบางโอกาส (แต่ปัญหานี้จะหมดไปใน Android 2.1 + ฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ๆ)
  • มันปิดโปรแกรมไม่ได้ ใช้แล้วรู้สึกไม่ดี :P
  • ฮาร์ดแวร์ที่หลากหลาย ตามมาพร้อมกับ fragmentation ของแพลตฟอร์ม (ถ้าไม่รู้ว่าเป็นยังไง นึกถึง Java ME และ Write Once Run Everywhere ที่มีจริงเฉพาะบนโฆษณาของซันนะครับ) ตอนนี้ก็เริ่มๆ แล้ว อย่างเช่น Droid มีหน้าจอที่ใหญ่กว่าชาวบ้านเขา
  • โปรแกรมใน Market น้อยกว่าแน่นอน และยังขาดโปรแกรมดังระดับ killer app โดยเฉพาะเกม
  • ไม่มี desktop sync แบบเดียวกับ iTunes
  • ความสามารถด้านมัลติมีเดียยังเป็นรอง iPhone อยู่มาก
  • ไม่มีฟีเจอร์เด็ดๆ แบบ BlackBerry Messenger ไว้เรียกลูกค้า

เรื่องฮาร์ดแวร์ของ HTC Magic ผมให้ความเห็นในตอนแรกไปแล้ว และผมคิดว่าคงไม่สำคัญอะไรมาก เพราะช่วงต้นปีหน้าเราจะเจอสภาวะ "กองทัพแอนดรอยด์จู่โจม" (Attack of the Droids) กันอีกรอบ โดยเฉพาะระดับหัวหน้ากองพลอย่าง Nexus One คงไม่มีใครคนไหนสนใจมือถือที่ออกมาได้ครึ่งปีอย่าง Magic อีกแล้ว

ข้อสรุปของผมคือ Android เป็นแพลตฟอร์มมือถือที่น่ากลัวมาก ตอนนี้แม้ว่ายังสู้ iPhone ไม่ได้ แต่ก็ไล่จี้ด้วยอัตราเร่งสูงมาก ตอนนี้ในแง่ฟีเจอร์ยังเบียดแย่งอันดับสองกับ BlackBerry (ข้อดีข้อเสียคนละแบบ) แต่ภายในหกเดือนครึ่งปีคงจะแซงในไม่ช้า

คำแนะนำของผมสำหรับเดือนธันวาคม 2552 ขณะที่เขียนบทความนี้ คือ ยังไม่ต้องซื้อ ครับ เท่าที่สำรวจดูในตลาดตอนนี้ยังไม่มีมือถือ Android ตัวไหนที่มีความสามารถต่อราคาที่น่าซื้อ เมื่อบวกกับการออกรุ่นที่รวดเร็วของ Android (ล่าสุดนี้รุ่น 2.1 เริ่มออกมาแล้ว) และกองทัพมือถือที่จะทยอยเปิดตัวในช่วงต้นปีหน้า รออีกสักนิดจะเป็นการดีที่สุด

ถ้าเป็นนักพัฒนาและต้องการพัฒนาโปรแกรมบน Android ผมแนะนำกลับกันว่าให้ซื้อรุ่นท็อปๆ อย่าง Hero แล้วฝึกวิชาเขียนโปรแกรมรอกันได้เลย ตอนนี้ยังขายไม่ได้ก็รอส่งประกวดไปพลางๆ ก็ได้ ตลาดยังเล็กและคู่แข่งยังน้อยเมื่อเทียบกับ iPhone ที่ตลาดเริ่มอิ่มตัวแล้ว ในขณะที่ยอดผู้ใช้รวมก็เยอะพอจนถึงระดับที่คุ้มการลงทุนพัฒนา

Next Step of Android

ผมขอปิดท้ายบทความนี้ด้วยคำพยากรณ์สั้นๆ ว่ากูเกิลจะทำอะไรต่อไปในปีหน้า

  • แกนหลักของระบบปฏิบัติการ Android จะถูกพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ออกรุ่นใหม่ถี่ๆ เน้นการเติมเต็มฟีเจอร์ให้สมบูรณ์ แต่ทิศทางการพัฒนาจะไปในแนวปัจจุบันไม่เปลี่ยนแปลง
  • กูเกิลอาจซื้อบริษัทด้านมัลติมีเดียเพื่อมาปิดจุดอ่อนด้านที่ตัวเองยังขาด ทั้งมัลติมีเดียบนตัว Android เอง และโปรแกรมสำหรับ media sync บนเดสก์ท็อป รวมไปถึง media store ที่ผมว่าเป็นไปได้สูงเหมือนกันที่กูเกิลจะเปิดร้านขายเพลงเอง
  • เรื่องเกม ไม่ยากเลยที่กูเกิลจะจับมือกับผู้ผลิตเกมรายใหญ่อย่าง EA หรือ Ubisoft ในการออกเกมตระกูลดังบน Android ถ้าไม่เชื่อลองกลับไปอ่านข่าว Final Fantasy XIII ลง Xbox 360 อีกครั้ง อำนาจเงินซื้อได้ทุกอย่าง
  • เรื่องฮาร์ดแวร์ ให้รอดูการเปิดตัว Nexus One แล้วค่อยว่ากันอีกทีครับ

Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ

Token X company cover
Token X
Blockchain, ICO, Tokenization, Digital Assets, and Financial Service
CLEVERSE company cover
CLEVERSE
Cleverse is a Venture Builder. Our team builds several tech companies.
Siam Commercial Bank Public Company Limited company cover
Siam Commercial Bank Public Company Limited
"Let's start a brighter career future together"

ผมหมายความอย่างงั้นจริงๆ นะครับ ไม่ได้เอาฮา คือ แนวทางของแอปเปิลและความนิยมในตัว iPhone มันทำให้เกิด "แนวร่วมมุมกลับ" ให้กับมือถือที่ถอดแบตได้น่ะครับ

paween_a Mon, 12/21/2009 - 22:08

Android เป็น platform ที่น่าสนใจครับ
เพียงแต่ผมว่าจำนวน App ยังไงก็ไม่น่าจะตาม iPhone ทัน
เนื่องจากขนาดหน้าจอที่หลากหลายนี่แหละ ไม่เหมือน iPhone ที่พัฒนาแบบเดียวใช้ได้ทุกรุ่น
อันนี้สำคัญนะดูจาก WM ซิ

ส่วนเรื่องเกม platform นั้นเงินซื้อได้ทุกอย่างครับ
แต่ก็ไม่ง่ายนะ หืดขึ้นคอเหมือนกัน และผมว่า Google ไม่น่าจะเล่นตลาดนี้หรอก
เขาไปเล่นตลาดโฆษณาเป็นหลักอยู่แล้ว ทำยังไงจะยัดโฆษณาเนียน ๆ เข้ามาไป platform นี้ได้
อันนี้ต้องรอพิสูจน์กันต่อไป

สุดท้าย Nexus One ก็เป็นอีกตัวที่ผมว่าเปิดตัวได้ฮือฮา
แต่ไม่น่าจะแรงเพราะได้ยินว่าขาด multi-touch
ซึ่งคุณสมบัติอันนี้ผมว่าสำคัญใน Smart Mobile ใหม่นะครับ
มันรู้สึกเป็นธรรมชาติกว่าปุ่มแว่นขยายเยอะ และต่อยอดเอาไปทำอะไรได้อีกมาก

ถ้าเอา 240x400 เขียนทีเดียว ก็ทำงานร่วมกับ Android ได้จำนวนรุ่นมากกว่า iPhone ทั้งหมดแล้วนะครับ?

ไม่ได้ประชดนะ iPhone เองก็ยันความละเอียดคงที่ไปได้ไม่นานหรอกครับ อย่างมากก็อีกปีเดียวเท่านั้นล่ะ

เรื่องจำนวน app นี่ผมคิดว่ามันจะมีตัวเลขประมาณนึงที่ "เยอะพอ" น่ะครับ ไม่มีใครรู้ว่าเลขมันจะเป็นเท่าไร แต่ถ้ามีถึงแล้ว มันก็จะเดินไปได้เหมือนกัน และความต่างก็จะไม่มีผลมากนัก ตัวอย่างที่ชัดๆ คือ Xbox 360 มีเกมประมาณ 700 ส่วน PS3 มีราวๆ 500 ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรมากแล้วตอนนี้

เรื่องเกมนี่ ผมต้องยกคำพูดเดิมมาว่า กูเกิลก็เคยบอกจะไม่ทำมือถือ เบราว์เซอร์ ระบบปฏิบัติการ มาหมดแล้ว ถ้าการแข่งขันมันบังคับ ยังไงก็ต้องลงมาเล่นไม่ว่าจะอยากหรือไม่ละครับ ไม่แน่ว่ากูเกิลอาจจะซื้อนินเทนโดก็ได้นะ

เรื่องมัลติทัช ในฐานะที่ใช้มือถือมีมัลติทัชมาบ้าง ผมคิดว่าการใช้งานจริงมันไม่เยอะเหมือนกับที่แอปเปิลโฆษณาหรอกครับ

ประเด็นเรื่องซื้อนินเทนโดคงเป็นไปได้ยาก เพราะ platform เกมมือถือของตัวเองนี่โดดเด่นอยู่แล้ว
เอาแค่ให้ทำเกมมาลงเฉย ๆ ยังยากเลย เพราะปู่นินเองค่อนข้างหวงอาณาจักรอยู่เหมือนกัน

ส่วนเรื่องกูเกิลจะดูตลาดเกมนี้ผมก็ไม่ปฏิเสธหรอกครับ มันมีโอกาสเป็นไปได้
เพียงแต่ว่าเข้ามาคงลำบากมากถึงมากทีี่สุด เพราะเจ้าตลาดเดิมมันไม่ใช่หมู ๆ นะ
ทั้งนินเทนโดและโซนี่เองก็กีดกันเต็มที่แน่นอน ไหนจะมีไมโครซอฟท์ที่ซุ่มดูอยู่ห่าง ๆ ด้วย

ผมคิดว่าคุณ mk น่าจะเปรียบเปรยเฉยๆมากกว่านะ ถ้าความหมายจริงๆอาจจะแค่แข่งขันเฉพาะกับ Apple เฉยๆ ไม่น่าจะรวมถึง 3 ค่ายใหญ่อย่าง Microsoft(Xbox)/Sony/Nintendo (ถึงแม้ปาก Apple จะนำ iPod Touch ไปเปรียบเทียบกับ Portable อย่าง PSP กับ NDS ก็เถอะ ^ ^"

ไม่เคยมีใครคิดว่า Apple ซึ่งมีพื้นที่ในตลาดนอกวงการเกมมาตลอดจะมีส่วนแบ่งในตลาดนี้ แต่วันนี้ส่วนแบ่งก็เริ่มมีผลขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับโซนี่ที่ตอนออก PS ครั้งแรกก็ดูจะงงๆ ตัวเองพอสมควร

ผมเองเชื่อว่าสุดท้ายแล้วคนเราจะพกอุปกรณ์ชิ้นเดียว (ไม่รู้จะเรียกอะไร มันจะไม่ใช่โทรศัพท์แล้ว อาจจะไม่มีใครใช้โทรกันอีกต่อไป) PSP, DS เองน่าจะมีพื้นที่ยืนในตลาดน้อยลงเรือยๆ ถึงตอนนั้นสุดท้ายแล้วยังไงซะก็ต้องทำเงินต่อไปให้ได้

pete Mon, 12/21/2009 - 22:44

google talk นี่ก็น่าจะพอเทียบเคียงได้กับ blackberry messenger นะครับ :P

official facebook ดูเหมือนจะขยายขนาดตัวเองไปเรื่อยๆ -_-''

ComSci-MFU Tue, 12/22/2009 - 00:25

เรื่องเกม ไม่ยากเลยที่กูเกิลจะจับมือกับผู้ผลิตเกมรายใหญ่อย่าง EA หรือ Ubisoft ในการออกเกมตระกูลดังบน Android ถ้าไม่เชื่อลองกลับไปอ่านข่าว Final Fantasy XIII ลง Xbox 360 ลง Xbox 360 อีกครั้ง อำนาจเงินซื้อได้ทุกอย่าง

^
^
^
ปวดร้าววววววววววววว T^T

nuttin0011 Tue, 12/22/2009 - 07:57

ลูกค้าของ Blognone มีนักพัฒนาซอฟต์แวร์อยู่ไม่น้อย <---- ลูกค้า ? ผมนึกว่าเวปนี้ฟรีซะอีก

ระบบแนะนำคำทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ของภาษาอังกฤษนั้นบอกได้ว่า "ยอดเยี่ยมมาก" ส่วนภาษาไทยโอเค แต่ต้องใช้ปุ่ม space เพื่อบอกจุดจบของคำ (กด space สองทีจึงเว้นวรรค)

เหมือน iPhone เลยแฮะ กด space จบคำ หรือว่าปกติภาษาอื่นเค้ามีใช้แบบนี้กันอยู่แล้ว แต่ภาษาไทยไม่เคยใช้แบบนี้มาก่อน

ปกติแล้วภาษาญีปุ่นใช้ space bar หลังคำเพื่อ เปลี่ยนคำ (จาก ฮิรากานะ เป็น คาตาคานะหรือคันจิ และกลับกัน)

และใช้ Enter เพื่อจบคำจริงๆ

ญี่ปุ่นพิมพ์ทั้งประโยคแล้วกด space bar เดียวแปลงได้ทั้งประโยค แต่ภาษาไทยไม่มีคำช่วยแบบนั้นคงลำบากกว่าพอควร

ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะภาษาไทยเป็นภาษาที่ไม่มีช่องว่างระหว่างคำด้วยครับ วิธีการใช้งานเลยต่างกับภาษาตระกูลละตินอยู่พอสมควร

oakyman Tue, 12/22/2009 - 15:15

i-mobile IE 6010 ราคา 6,600 บาท (ตู้ ราคาศูนย์ประมาณ 7,490 บาท) ก็พอได้นะครับ ขำๆ เป็น Donut (1.6) ไม่มี 3G กับ GPS แต่มี Wi-Fi

มีรีวิวใน Droisans

ส่วนผมซื้อมาแล้วครับ เครื่องใหม่ไม่มี GMS แต่อัพรอมเองได้จากเว็บเดิม ลองใช้งานจริงออกจะหน่วงๆ อยู่บ้าง คิดว่าเพราะมีหลายโปรแกรมที่ลงไว้แล้วมัน run เป็น background กำลังพยายามจัดระเบียบอยู่ แต่ราคาแค่นี้ถือว่าคุ้มครับ (ถ้าไม่รีบเจ๊งไปซะก่อน)

ไปอ่านๆแล้วสรุปได้ว่า i-mobile ยังไม่เหมาะกับมือใหม่ ที่เพิ่งลองแอนดรอยด์ครั้งแรก

เพราะจะทำให้ First Impression กับ OS ตัวนี้เสียไป และอาจจะโดนด่ากลับได้ถ้าไปแนะนำคนอื่น

ส่วนตัวใช้ Hero แล้วติดใจ เลยอยากหา แอนดรอยด์ ราคาถูกๆให้คนอื่นใช้เลยลองถามดูครับ

ส่วนตัว ยังใช้ iPhone เพราะเรื่อง multimedia นี่แหละ
ทั้ง Windows phone และ Andriod ตอนนี้ยังสู้ไม่ได้เลย

Apple
public://topics-images/apple_webp.png
SCB10X
public://topics-images/347823389_774095087711602_515970870797767330_n_webp.png
Windows 11
public://topics-images/hero-bloom-logo.jpg
Doom
public://topics-images/doom_logo.png
Huawei
public://topics-images/huawei_standard_logo.svg_.png
Threads
public://topics-images/threads-app-logo.svg_.png
Google Keep
public://topics-images/google_keep_2020_logo.svg_.png
Fortnite
public://topics-images/fortnitelogo.svg_.png
Instagram
public://topics-images/instagram_logo_2022.svg_.png
SCB
public://topics-images/9crhwyxv_400x400.jpg
Microsoft
public://topics-images/microsoft_logo.svg_.png
Basecamp
public://topics-images/bwpepdi0_400x400.jpg
Tinder
public://topics-images/hwizi8ny_400x400.jpg
FTC
public://topics-images/seal_of_the_united_states_federal_trade_commission.svg_.png
Pinterest
public://topics-images/pinterest.png
Palantir
public://topics-images/-nzsuc6w_400x400.png
Gemini
public://topics-images/google_gemini_logo.svg__0.png
AIS Business
public://topics-images/logo-business-2021-1.png
PostgreSQL
public://topics-images/images.png
JetBrains
public://topics-images/icx8y2ta_400x400.png
Krungthai
public://topics-images/aam1jxs6_400x400.jpg
Palworld
public://topics-images/mccyhcqf_400x400.jpg
Bill Gates
public://topics-images/bill_gates-september_2024.jpg
VMware
public://topics-images/1nj4i1gp_400x400.jpg
Take-Two Interactive
public://topics-images/0khle7nh_400x400.jpg
OpenAI
public://topics-images/ztsar0jw_400x400.jpg
Thailand
public://topics-images/flag_of_thailand.svg_.png
NVIDIA
public://topics-images/srvczsfq_400x400.jpg
ServiceNow
public://topics-images/ytnrfphe_400x400.png
PS5
public://topics-images/playstation_5_logo_and_wordmark.svg_.png
Klarna
public://topics-images/urcllpjp_400x400.png
Google Play
public://topics-images/play.png
Drupal
public://topics-images/drupal.png
Virtua Fighter
public://topics-images/virtua_figther_2024_logo.png
Paradox Interactive
public://topics-images/paradox_interactive_logo.svg_.png
Europa Universalis
public://topics-images/europa-icon.png
Nintendo Switch 2
public://topics-images/mainvisual.png
Cloudflare
public://topics-images/cloudflare_logo.svg_.png
Samsung
public://topics-images/samsung.png
Google
public://topics-images/google_2015_logo.svg_.png
Uber
public://topics-images/uber.png
Microsoft 365
public://topics-images/m365.png
USA
public://topics-images/flag_of_the_united_states.svg_.png
GM
public://topics-images/0pe0po-z_400x400.jpg
Perplexity
public://topics-images/perplex.jpg