9to5Mac (via MacRumors) ได้รายงานว่าจากข้อมูลที่ได้รับจากผู้ผลิตและสำนักพิมพ์หนังสือทั้งหลายนั้น พอสรุปได้ว่าแอปเปิลได้พยายามที่จะดึงบริษัทเหล่านี้มาร่วมงานกับตน โดยแอปเปิลได้ออกมาบอกกับบริษัทเหล่านี้ว่าอุปกรณ์ตัวนี้จะเป็น "Game changer" สำหรับตลาด e-Book เลยทีเดียว
โดยข้อตกลงระหว่างแอปเปิลกับบริษัทเหล่านี้นั้นจะเสร็จภายในวันพุธนี้ เพื่อที่แอปเปิลจะได้มีข้อมูล "Partnership" ไปนำเสนอในงาน ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ นั้นเก็บเอาไว้คุยกันหลังจากงาน ส่วนบริษัทอื่น ๆ ที่ก่อนนี้มีข่าวว่าจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการนำ e-Book มาขายลักษณะเดียวกับโปรแกรม e-Book ทั้งหลายบนไอโฟน ในตอนนี้นั้นถูกตัดออกไปแล้ว เนื่องจากแอปเปิลต้องการที่จะทำงานร่วมกับผู้ผลิตและสำนักพิมพ์เองโดยตรง
ในส่วนของคอนเทนท์ต่าง ๆ คาดว่าแอปเปิลยังคงไม่มีอะไรมานำเสนอจนกว่าช่วงกลางปีนี้ ซึ่งแอปเปิลน่าจะมีงาน Press Conference ออกมาอีกรอบ
และจนถึงวันนี้ยังไม่มี Partner ของแอปเปิลรายไหนเลยที่ได้เห็น Tablet แต่มีรายละเอียดเพียงว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีหน้าจอขนาด 10 นิ้ว มีขนาดที่เล็กกว่าแต่มีน้ำหนักเกือบเท่ากับ Kindle DX ของอเมซอน ส่วนเรื่องราคานั้นตามรายงานนี้บอกว่าราคาไม่มีทางใกล้เคียงกับ $1,000 แน่นอน
ที่มา - MacRumors
Comments
ไม่มีทางใกล้เคียงกับ 1000 USD แน่นอน นี่หมายความว่าอย่างไรน้าาา.... อาจจะน้อยกว่า เช่น 500 USD หรือล่อเข้าไป 1500 USD ก็ได้
ราคาไม่ใกล้เคียง $1,000
แต่เกินไปเยอะใช่มั้ยครับ :D
ไม่มีทางใกล้เคียงกับ $1,000
หลายๆคนๆคิดว่าคงยากที่จะต่ำกว่า 1,000 เลยหล่ะ (ผมด้วย)
งั้นราคานี้ซื้อ Macbook ไม่ดี..?
ยัง รอวันเปิดตัวพร้อมกับคุณสมบัติก่อน..(แล้วค่อยตัดสินใจอีกทีว่าจะให้ Feedback แบบไหนดี)
อาจจะเป็นแบบว่า 599 + contract 2 ปี
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
อันนี้น่ากลัวมาก
@TonsTweetings
มันใช้วาดรูปได้มั้ยครับ?
ถ้าได้จะสอยมาใช้เหมือนกัน เอามาทำงานโลด
ถ้าไม่มี stylus สงสัยจะได้ละเลงด้วยนิ้ว
{$user} was not an Imposter
แรกๆใช้เป็น E-Book แต่หลังๆจะกลายเป็นเครื่องเล่นเกมส์ Touch Screen แทนไหม ?
ราคาเกิน 1000 ไม่เห็นฝุ่น, fan boy เก็บตังรอได้เลย (แต่ fan มะม่วงส่วนใหญ่รวยๆ ทั้งนั้น) จนๆอย่างเราคงต้องรอ จีน หรือไม่ก็ acer ที่ราคา 1 ใน 3
ว่าแต่ราคาแบบนี้ คงหาสาวกใหม่ยากหน่อย
เป็นไปได้ว่า 599 - 799 แต่อาจจะมีสัญญานะครับ เช่นสมัครสมาชิกอะไรสักอย่างสัก 2 ปี
ที่น่าสนใจเมื่อเทียบในตลาด e-reader นะครับ ผมยังเชื่อว่า Kindle ทำได้ดีที่ว่าอ่านได้สบายตา แต่ Tablet ของ Apple น่าจะมีลักษณะคล้ายกับ iPhone ที่ขยายขนาดใหญ่ขึ้น อันนี้เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตกลงมันจะยังไง แต่ถ้าหากว่าทำออกมาเพื่อรองรับ Application ที่มีอยู่มากมายนั้น การทำให้หน้าจอไม่มีแสงบาดตา คงจะทำได้ยากครับ
ปล. ผมใช้ Kindle อยู่ครับเพราะแค่อยากอ่านหนังสือ ประหยัดเงินค่าหนังสือและพื้นที่จัดเก็บหนังสือ แต่ก็พิจารณาซื้อ Tablet ถ้าหากว่ามันมีประโยชน์ครับ
.
".. ร่วมกับผู้ผลิตและโรงพิมพ์เองโดยตรง .."
ผมว่าน่าจะหมายถึง "สำนักพิมพ์" มากกว่า "โรงพิมพ์" หรือเปล่าครับ?
เพราะโรงพิมพ์ ไม่เกี่ยวอะไรกับกระบวนการขาย หรือลิขสิทธิ์ใดๆเลย มีหน้าที่พิมพ์ไฟล์ ลงกระดาษ ตามแม่พิมพ์อย่างเดียว แต่สำนักพิมพ์ จะเป็นผู้จัดจำหน่าย และควบคุมดูแลเรื่องลิทสิทธิ์งานเขียนต่างๆแทบทั้งหมดครับ ;)
my blog
ถูกต้องครับ ผมพยายามคิดหาคำแล้วแต่นึกไม่ออกเอง กำลังแก้ครับ :D
@TonsTweetings
ไม่มีทางใกล้เคียง 1000$
มากหรือน้อยกว่าหว่า
รอดูราคาอย่างเดียวเลย :P
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
อืม....ง่ะ
ผมสน E-book เพราะมันประหยัดไฟ จอ E-ink แล้วก็ไม่ร้อนนะครับ ไม่ใช่ว่าไม่สน tablet ตัวนี้แต่ถ้าขาดคุณสมบัติสามข้อนั้นผมก็คงเอาไว้ทำอย่างอื่นมากกว่าเอามาอ่านหนังสือ - -
ปล. Tablet PC ของ HP เอามาอ่านก็ได้อารมณ์อยู่หรอกถึงมันจะ LCD แต่รับรองครับ ถือไว้กับตัวอย่างนั้นแล้วจะรู้เองว่ามันร้อนจริงๆ นะ แต่ Apple คงไม่ร้อนขนาดนั้นแน่ๆ
จะรอดูแล้วกัน
ผมว่าเป็นเน็ทบุ๊คในนิยามของ Apple ครับ เพราะหลายคนมีเน็ทบุ๊คเป็นคอมเครื่องที่สอง และเน็ทบุ๊คที่ออกมาแล้วก็ไม่สร้างความรู้สึกที่ดีแก่ผู้ใช้ เช่นจอเล็ก ซึ่ง Apple ไม่จำเป็นต้องออกผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่พัฒนาสิ่งที่มีอยู่เดิมให้ใช้ง่ายขึ้น เช่น ทำเป็นจอสัมผัส (แน่นอน) ทำให้ผู้ใช้สื่อสารกับอุปกรณ์ง่ายขึ้น และให้ประสบการณ์ในการใช้งานที่ดีตามมา
blognon จะถ่ายทอดสด หรือป่าวครับ อยากรู้ link จัง