Daniel Lyons นักเขียนด้านไอทีของ Newsweek ซึ่งโด่งดังจากนามปากกา "Fake Steve Jobs" ได้ประกาศว่าเขาจะเปลี่ยนจาก iPhone ไปใช้ HTC Incredible
เหตุผลที่ Lyons ย้ายค่ายมีหลายอย่างประกอบกัน เช่น
- ปัญหาเรื่องคุณภาพสัญญาณของ AT&T ในสหรัฐ
- AT&T ไม่ยอมให้ทำ tethering แม้ว่า iPhone จะทำได้ก็ตาม แถมตอนนี้ Android Froyo ทำได้ในตัวแล้ว
- เขามองว่าตอนนี้เกมเปลี่ยนแล้ว Android กลายเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น การสตรีมเพลงไปยังมือถือ ในขณะที่ iPhone กลายเป็นผู้ตาม
- แนวทางปิดกั้นของแอปเปิล โดย Lyons เปรียบเทียบกับยุคแมคอินทอชที่ปิดกั้นตัวเองจนแพ้วินโดวส์พีซี
- เขาบอกว่าแอปเปิลปฏิบัติกับผู้ใช้เหมือนคนโง่ พยายามขายของที่มีจุดอ่อน โดยโน้มน้าวผู้ใช้ว่านั่นคือจุดแข็งแทนที่จะแก้ไขมัน
จริงๆ มีคนดังในโลกไอทีหลายคนที่ย้ายค่าย เพียงแต่กรณีนี้เป็นข่าวหน่อยเพราะ Lyons นั้นมีฉายา Fake Steve Jobs นั่นเอง
ที่มา - Newsweek
Comments
ของเขาดีจริงครับ อิอิ
สองปัญหาแรก เกิดขึ้นแต่ในเฉพาะสหรัฐ
น่าจะเป็นปัญหาที่ต้องเคลียร์กับ AT&T มากกว่าแฮะ
ไม่หรอกครับ ยังไง iPhone ก็ผูกกับ AT&T เท่ากับมันคือปัญหาของ iPhone
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
"เขาบอกว่าแอปเปิลปฏิบัติกับผู้ใช้เหมือนคนโง่" 55555555555555555555555555555
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
ยังจำตอนที่ใช้ Mac ครั้งแรกได้
ความรู้สึกที่ กะอีกแค่จะเอาแผ่นดิสก์ออกจากไดรฟ ยังต้องขออนุญาต Mac-OS
นี่ตูเป็น "คนใช้มัน" หรือเป็น "คนใช้ของมัน" หว่า
ปล. i-phone ที่ใช้ปัจจุบันนี่ สงบสุขดีครับ
ปัญหางี่เง่าๆ หงุดหงิดๆ ทำเป็นว่าไม่รู้ไม่เห็น หรือว่า มันทำไม่ได้เอง (เช่น ทำไมริงก์โทนต้องซื้อเอาด้วยหว่า ทั้งๆ ที่เพลงเราก็ซื้อมาแล้ว แต่ดันเอาเพลงที่ซื้อมาไปทำเป็นริงก์โทนไม่ได้... เสียตังค์แล้วได้ไม่เต็ม 100 นะเนี่ย)
เดี๊ยวต้องมีคนบอกว่า ถ้าดึงแผ่นออกเลย แล้วจอฟ้าแบบวินโดว์ 98 ก็หาว่า mac ห่วยอีก
แต่ผมเอาเพลงที่โหลดมาไปทำเป็น Ringtone ได้นะ ผ่าน Garageband และความยาวไม่เกิน 40 วิ :P
ปล. ไม่ได้ Jailbreak ไม่ได้ใช้ App เถื่อน
ผมใช้ iTunes นี่แหละครับ
ซึ่งมันน่าจะเป็นความสามารถพื้นฐาน ก็น่าจะมีมาให้เสร็จสรรพในตัวมิใช่ฤา
คลิ๊กขวา get info>options>click start stop ไม่เกิน 40 วิ create เปลียนนามสกุล ก็ได้แล้วหนิ
ซ้ำครับ เน๊ตห่วย
ซ้ำครับ เน๊ตห่วย
ยังไม่ถึงเดือนกันยาเลย -..-
+1 คุณ b98se ครับ
เอ๊ะ รึว่าต้องเตรียมย้ายด้วยคน
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
โอว นี่เราโง่หรือเนี่ย พึ่งจะรู้
/ก้มหน้าก้มตาใช้ iphone และ osx ทำงาน (ที่ไม่เกี่ยวกับ IT) ต่อไป
เห็นด้วยครับ Apple ปฏิบัติต่อ user เหมือนเป็นคนโง่จริงๆ ผมยิ่งใช้ Apple ก็รู้สึกว่าตัวเองยิ่งโง่และไม่ชอบอะไรที่ยุ่งยาก ไปเรื่อยๆ (เป็นอาการหงุดหงิดที่เวลาต้องกลับมาใช้ windows)
แต่ user ส่วนใหญ่ในโลก ก็อยู่ในจำพวกนี้ไม่ใช่หรอ?
ไม่ใช่ครับ เพราะ user ส่วนใหญ่ใช้ windows อยู่ :)
ใช่ ใช้วินโดวน์แต่โง่ด้วยนี่ลำบากนะ
เยอะด้วยซิ :)
อันนี้คงเป็นการ "พยายามขายของที่มีจุดอ่อน โดยโน้มน้าวผู้ใช้ว่านั่นคือจุดแข็งแทนที่จะแก้ไขมัน" ซินะ
แล้วคนที่คิดว่าใช้ของอะไรยากๆ แล้วคิดว่ามันดูฉลาด นี่โง่มากเลย
ผมคิดว่าคนที่ใช้ windows แล้วบอกว่ายากหรือแกล้งพยายามที่จะบอกว่าไม่สะดวกนี่นะผมว่าโง่มากกว่า เพราะเด็กที่บ้านผมอายุ 3 ขวบมันเปิดดู Pocoyo จาก Youtube ทุกวัน แล้วที่บคอมเม้นท์มาว่า คนที่ใช้วินโดวส์แต่โง่เยอะนะ ระวังมารยาทด้วยครับ
อุ้ย.. สงสัยต้องเขียน " ไม่ค่อยฉลาด" แทน ถึงจะมีมารยาทในบอร์ดนี้ได้
มารยาทอยู่ที่คนครับ ไม่ใช่ข้อความที่โพสท์ลงในบอร์ด
อย่าไปยุ่งกับเขาเลยครับ เสียสุขภาพจิต
สงสัย รับไม่ได้ที่ โดนว่าไม่ค่อยฉลาด
แต่ นายสุกี้ พูดได้เห็นด้วยเอ่อ ออ.. หรือว่า
เลีย..กันจนเป็นนิสัย
ถ้าใช้แมคแล้วเป็นอย่างคุณ
ผมยอมโง่ใช้วินโดว์ครับ
“สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล”
ขอโทษครับไม่ได้เคืองหรือรับอะไรไม่ได้หรอกครับแค่ท้วงติงการโพส์ความเห็นด้วยข้อความง่ายๆไม่คิดว่าคุณจะไม่เข้าใจ หรือจะเป็นอย่างที่เขาว่าจริงๆ
เห็นด้วยครับ ไม่ควรไปยุ่งกับเขา คนแบบนี้ชอบเรียกร้องความสนใจ เป็นปัญหาสุขภาพจิตที่ทางบ้านเขาต้องแก้ไข ส่วนเราก็อย่าไปยุ่งกับเขาก็พอ เสียสุขภาพจิต
ผมเคยใช้ทั้ง win ทั้ง mac คิดว่าตอนนี้ windows 7 ตีตื้นขึ้นมา ดีขึ้นมากแล้ว (ถือว่า microsoft ก็พยายามลบจุดอ่อนของตนแล้ว) แล้วทั้งสองระบบก็มีจุดเด่นจุดด้อยในการใช้แตกต่างกันไป ไม่มีอะไรยากง่าย ไม่ว่าจะใช้ระบบไหน user ก็ต้องเรียนรู้ครับ ไม่เกี่ยวกับความฉลาด
ผมว่ามองโลกในแง่ดีกว่านี้ดีกว่าครับ
เขาก็พยายามให้ user ทุกระดับใช้นะครับ
ความสะดวกสบายบางอย่าง มันเหมือนทำให้เราไม่ต้องคิด
ผมว่าการมองว่า user โง่ไว้ก่อนมันก็ถูกต้องนะครับ :-)
ถูกต้องในแง่การตลาด Blue Ocean ครับ มองผู้ใช้ว่าต้องโง่ไว้ก่อน จะได้ทำสินค้าออกมาให้ใช้ง่ายๆ
แต่ Geek หลายๆ คนก็เห็นว่ามัน 'ดูถูกสติปัญญา' ของพวกเขาเกินไปน่ะครับ ชอบใช้อะไรยากๆ ชอบแก้ปัญหา
หารู้ไม่ว่าวงการอื่นๆ ที่เขาต้องผลิตงาน ผลิต Content เขาไม่มีเวลามานั่งศึกษาแก้ปัญหา IT หรอกนะ
ผมว่าคนละประเด็นนะครับ
"เขาบอกว่าแอปเปิลปฏิบัติกับผู้ใช้เหมือนคนโง่ พยายามขายของที่มีจุดอ่อน โดยโน้มน้าวผู้ใช้ว่านั่นคือจุดแข็งแทนที่จะแก้ไขมัน"
ประเด็นของเขามันอยู่ที่ว่า ขายจุดอ่อนโดยบอกว่ามันเป็นจุดแข็ง
แล้วอะไรล่ะ บอกมาหน่อยสิ
Flash ละมั้ง Batery ที่ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้ จอกระจกบน mac รุ่นใหม่ๆ อะไรอีกว้าช่วยคิดหน่อยซิ
แอปเปิลไม่เคยโน้มน้าวให้คนเห็นว่าการเปลี่ยนแบตไม่ได้ เป็นจุดแข็งหนิครับ? หรือผมพลาดไป?
Flash ไม่ได้ สตีปก็ออก จม. เปิดผนึกมาอธิบายแล้วว่า ทำไมเขาถึงไม่ชอบมันอย่างชัดเจน
แม้แต่ทาง Adobe เองก็ยังยอมรับแบบอ้ำอึ้งว่า "มันมีปัญหาด้านประสิทธิภาพ และการรับทานแบตจริง"
ส่วนจอกระจก อันนี้แล้วแต่คนกระมังครับ เพราะผมว่าสีมันก็สดใสดีกว่าจอด้านเยอะ
Flash นี่แหละครับ ถ้า จ็อบบอกว่าตอนนี่ Flash ยังไม่พร้อมสำหรับ Iphone, ipad ของ Apple เนื่องจากมีปัญหาเรื่องอายุการใช้งานของ Battery ถ้า Flash มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นเราพร้อมที่จะยอมให้มันใช้งานบน device ของเราได้เพื่อให้ท่านผู้ใช้ได้เสพคอนเท้นท์บน internet ครบ 100 % หรือถ้าทาง Adobe จะขอความร่วมมือมาทางเราก็ยินดี ผมว่าจะได้ใจทั้ง ผู้ใช้ และคู่ค้าร่วมวงการด้วย ไม่ใช่บอกว่าไม่มีและดีแล้วเปลืองแบต แถมเจ้าของมันยังขี้เกียจอีก
สรุปว่าที่ไม่ดีเพราะจ๊อปส์แก 'แรง' ไป ใช่ไหมครับ (แต่แกก็แรงแบบนี้มาตลอดอยู่แล้วไม่เคยเปลี่ยนแปลง)
ผมว่าเหมือนชวนทะเเลาะมากกว่า แรงแบบไม่จำเป็นนะครับไม่ค่อยเกรงใจหรือให้เกียรติชาวบ้านเขา ทำอย่างนี้บ่อยๆผมว่า มิตรหายหมดเหรือแต่คนที่มีผลประโยชน์ร่วมเท่านั้น
จำได้ว่าแรงจนโดนไล่ออกจากบริษัทตัวเองมาแล้ว
มันคงไม่ใช่คำถามที่ผมต้องตอบมั้งครับ เพราะผมไม่ได้เป็นคนพูดเอง :)
อีกอย่าง ผมไม่ได้มีประสบการณ์เคยใช้ iphone โดยตรงด้วยสิ
การที่เก่งไปเสียทุกเรื่อง บางครั้งก็หมายความว่า ทำให้ดี ไม่ได้สักเรื่องนะครับ
ถูกหรือไม่ถูก อันนี้ผมว่าตลาดจะเป็นคนตัดสินให้เองครับ
แต่ที่น่าสนใจคือ คนที่บอกว่า "แอปเปิลทำกับลูกค้าเหมือนเป็นคนโง่" คืออดีตบล็อกเกอร์และนักเขียนที่เคยหากินกับแอปเปิล อย่าง Fake Steve Jobs นั่นล่ะครับ แปลว่าเขาต้องเห็นอะไรบางอย่าง ถึงได้เปลี่ยนความเชื่อและแนวทางของตัวเองไป
ผมเองยังเริ่มอยากลอง Android เลยครับหลังจากใช้ iPhone มาตั้งแต่รุ่นแรก
ส่วนที่ Apple ยังทำได้ดีกว่า คือ ส่วนประสบการณ์ผู้ใช้งาน เช่น ระบบ touch, UI ต่างๆ แต่ด้วยความเสรีของ Android ทำให้มีเครื่องมาให้เลือกเยอะ ราคาก็ไม่แพงมาก features พื้นฐานต่างๆก็มีเหมือน iPhone (อย่างน้อยก็เปิดเว็บ เช็คเมลล์ เล่น social network ได้)
ตอนนี้กระแสผมว่าเริ่มมาทาง Android เยอะขึ้นเรื่อยๆเลยนะครับ
สุดท้ายที่ชนะคือ open source สินะ
ความทฤษฎี POST KNOWLEDGE BASED SOCIETY
ที่มองว่าต่อไป องค์ความรู้ต่างๆนั้นจะเปิดกว้างเพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดร่วมกัน
เช่นการโพสปัญหาที่จะมีคนร่วมแก้ไขผ่านทางเครือข่ายนับล้าน
แทนที่จะเก็บไว้แก้เองโดยทีมงานไม่กี่ร้อยกี่พันคน
ใครสนใจมุมความคิดนี้อ่าน โลกพลิกโฉม ความมั่งคั่งในนิยามใหม่ ได้นะครับ ของ ดร. สุวิทย์ เมษินทรีย์
"เขาบอกว่าแอปเปิลปฏิบัติกับผู้ใช้เหมือนคนโง่ พยายามขายของที่มีจุดอ่อน โดยโน้มน้าวผู้ใช้ว่านั่นคือจุดแข็งแทนที่จะแก้ไขมัน " แรงอะ แต่ก็จริงส่วนหนึ่ง
อดีต ผลไม้แพ้หน้าต่าง
อนาคต ผลไม้แพ้หุ่นยนต์
๕๕๕ ขำขำ