ข่าวนี้ยกตัวอย่างของ Google Docs แต่ผมคิดว่ามันแทนแนวคิดของ cloud computing หรือ "บริการกลุ่มเมฆ" ที่ขึ้นมาเป็นคู่แข่งของระบบไอทีในองค์กรแบบเดิมๆ ได้เช่นกัน
เรื่องนี้ถูกเปิดเผยโดย Jim Whitehurst ซีอีโอของ Red Hat โดยเขาเล่าว่ามี CIO ของบริษัทลอจิสติกส์ขนาดใหญ่แห่งหนึ่งเล่าให้ฟัง
CIO คนนี้บอกว่า เขาได้รับมอบหมายงานจาก CMO (หัวหน้าฝ่ายการตลาด) ว่าต้องการระบบแชร์เอกสารระหว่างพนักงานของบริษัทที่อยู่ตามประเทศต่างๆ ทั่วโลก เขากลับไปปรึกษากับทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ภายใน ซึ่งได้คำตอบว่าสามารถทำได้ แต่ใช้ระยะเวลาพัฒนาโปรแกรม 9 เดือน และงบประมาณ 14 ล้านดอลลาร์
เมื่อ CMO ได้ยินคำตอบ เธอแสดงความตกใจออกมา แล้วบอกว่าสิ่งที่เธออยากได้นั้น ลูกสาวของเธอทำได้ทั้งหมดใน Google Docs ที่ใช้ได้แล้วตอนนี้และไม่ต้องเสียเงินเลยสักนิด
สุดท้าย Jim Whitehurst สรุปว่าแนวคิดของซอฟต์แวร์แบบเดิมๆ เริ่มใช้ไม่ได้แล้ว และขายฟีเจอร์ Cloud Foundations ของตัวเองตามระเบียบ แต่เรื่องที่เขาเล่ามาก็มีประเด็นให้ขบคิดสำหรับ CIO ทุกท่าน
ที่มา - Computerworld
Comments
แสดงว่า CMO ท่านนี้เชื่อในมาตรฐานการรักษาความลับของข้อมูลบน Google Docs มากเลยนะครับ เพราะถ้าเป็นผม ผมคงจะตั้งคำถามก่อนว่า Google มีวิธีการจัดการอย่างไร คุ้มมั้ยที่จะใช้ ผมเองก็คงกลัวเหมือนกัน หาก Google เอาข้อมูลทางการตลาดของผมไปใช้ หรือเอาไปขายให้บริษัทอื่น ผมว่าบางที มูลค่ามันอาจจะมากกว่า cost ที่เราจะใช้หากเราจะต้องลงทุนเองไม่รู้กี่เท่าก็ได้ครับ
คือผมว่าในการพิจารณาหยิบอะไรมาใช้งานจริงๆ มันก็มีปัจจัยเรื่องที่ว่า แต่นั่นเป็นหน้าที่ของ CIO ไงครับ
งานนี้ CMO คือตัวแทนของผู้ใช้ ที่ผมเอาเรื่องนี้มาลงข่าว เพื่อจะบอกว่า ความคาดหวังของผู้ใช้เปลี่ยนไปแล้ว (ด้วยการเข้ามาของ GDocs และ cloud service)
เรื่องนี้คงจะเป็นประเด็นสำคัญสุด
แต่ก็เหมือนการใช้ windows คุณไว้ใจ backdoor หรือป่าว
ผมอ่านดู ผมไม่เห็นเข้าใจว่า CMO บอกให้ใช้ Google หรือเชื่อ Google นะครับ
ผมว่าถ้าเป็น Real-time document sharing นี่พวก ERP ทั้งหลายที่ทำได้ดีจริง ๆ ยังไม่มีนะครับ
ทุกวันนี้ใช้ SAP ที่ทำงานแล้วอยากอ้วก = =
@TonsTweetings
ปรับเงินประจำปี เงินเดือน โบนัส โอที และสวัสดิการต่างๆ อยู่ในนั้นทั้งหมดเลยนะนั่น เจ๋งไหมล่ะ
แต่ตอบโจทย์การทำงานของบริษัทไม่ได้เต็มที่
ถามผู้บริหารทำไมถึงใช้แซ๊บบบบบที่ราคาแพงสุดกู่ขนาดนี้ เขาบอก เอาไว้อวดในตลาดหุ้นว่าฉันก็ใช้นะ อ้วกกกกก
เมื่อก่อนที่ที่ผมทำงานเขาใช้ Oracle ไม่รู้เปลี่ยนไป SAP ทำไม UI แย่กว่าเดิมเยอะ หาอะไรไม่ค่อยเจอ :(
@TonsTweetings
CIO เมืองไทยคงต้องเลือกซื้ออยู่แล้วครับ มีเหตุผลที่ดีมากรองรับอยู่ คือเรื่องความลับของข้อมูล ยิ่งหน่วยราชการไทย ข้อมูลในเว็บยังเป็นความลับขนาดต้องซื้อ Server 3 ล้านมารันเว็บคนเข้า 300 เลย :D (เป็นสำนวนน่ะครับ ไม่ใช่ตัวเลขจริงๆ หรอก :P)
ผมกลับรู้สึกว่า สิ่งที่เป็นประเด็นท้าทาย CEO หรือเจ้าของธุรกิจกลับกลายเป็นตุ้นทุนต่อความลับที่ต้องพิจารณาให้ดี เพราะมันเริ่มกลายเป็นว่า ยิ่งธุรกิจโปร่งใสและไร้ความลับในเอกสารมากเท่าไหร่ ต้นทุนของธุรกิจยิ่งน้อยลง และหลายๆ ครั้ง ที่เจ้าของธุรกิจเห็นว่าเป็นความลับหนักหนานั้น มันเริ่มกลายเป็นความรู้สาธารณะที่ Google มีข้อมูลเชิงลึกมากกว่าเสียอีก
ผมอาจจะใกล้ชิดธุรกิจ SME มากกกว่า Enterprise นะครับ เลยมีทัศนคติเช่นนี้
+1 ครับ ... CIO ต้องดูแล Information ให้เปิดในระดับนโยบายครับ ไม่ใช่แค่การเลือกใช้ Tools เพียงอย่างเดียว
ผมเองก็ใช้ Google Docs นะครับ .... ประโยชน์เยอะดีครับ ส่วนเรื่องการนำไปขายบริษัทอื่นเป็นไปไม่ได้ทางกฏหมายครับ ความปลอดภัยแล้วผมคิดว่า Google เก่งกว่าทีม Security หรือ IT ในบริษัทหลายแห่งในโลกนะครับ
ผมคิดว่ามันใช้งานได้ครับ ... ไม่ใช่สิครับ ... มันใช้งานได้สำหรับผมนะครับ (เพราะใช้มาแล้ว โปรเจ็คผมมากมายก็ทำผ่าน Google Docs ครับ แล้วผมไม่ต้องเสีย 14 ล้าน $ ด้วยครับ ฮาๆ)
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
เห็นด้วยครับ แต่หลายองค์กรคงชอบเรื่องปกปิด โดยเฉพาะองค์กรใหญ่ๆ เพราะมีเรื่องของงบประมาณมาเกี่ยวข้อง หรือตรงๆ คือมีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
ส่วนตัวคิดว่าใช้บริการ Google App กับ Sales Force ไม่ค่อยรู้สึกต่างกัน
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
มีหน่วยงานหนึ่งที่เคยเข้าไปคุยกับผอ พอดีผมเข้าไป config network ให้นิดหน่อยทุกๆปีต้องมีการย้าย smtp server เพราะใช้ของ isp อยู่ เปลี่ยน isp ก็ต้องเปลี่ยน mail + config dns
จึงได้ลองสอบถามทำมัยไม่มอง tools ตัวอื่นดูบ้างใช้ Gmail (Google Appls) เพราะ @domain ได้เหมือนกัน
และพื้นที่ก็ unlimit ui webmail ก็น่าใช้ smtp ก็มี ครบหมด
ได้คำตอบมาว่า... หาก google ล่มหรือหาย ผมจะด่าใครได้เขาบริษัทใหญ่
ถ้าใช้ในพื้นที่ ขับรถไปด่าได้ง่าย ...... ผมเลยหยุดคุยเรื่องนี้ และไม่พูดถึงอีก คาดว่าปีนี้ต้องย้าย smtp อีกรอบ