ผู้ใช้แมคจำนวนไม่น้อยเรียกร้องให้แอปเปิลใส่ Blu-ray มาในเครื่องแมคอินทอช ซึ่งท่าทีของสตีฟ จ็อบส์ ได้ปฏิเสธเรื่องนี้มาตลอด (ดูข่าวเก่า สตีฟ จ็อบส์แนะนำ "ใช้ยูทูปแทนบลูเรย์บนแมค"!)
ล่าสุดมีคนส่งเมลไปถามจ็อบส์อีกรอบ ซึ่งเขาตอบคล้ายๆ เดิมว่า Blu-ray ซึ่งเป็นทายาทของซีดี จะถูกโค่นโดยการดาวน์โหลดผ่านเน็ต
แต่ผู้ส่งเมลคนนี้ตอบจ็อบส์กลับไปว่า การดาวน์โหลดผ่านเน็ตอาจชนะในระยะยาว แต่ในระยะกลาง Blu-ray ก็มีประโยชน์หลายอย่างที่เห็นได้ชัด เช่น คุณภาพของภาพ หรือการนำมาใช้เป็นสื่อแบ็คอัพข้อมูล
จ็อบส์ตอบกลับมาอีกครั้งว่า แนวโน้มของการดาวน์โหลดหนังคือ ฟรี (Hulu) หรือ เช่า (iTunes) ซึ่งทำให้เราไม่จำเป็นต้องเก็บหนังไว้เป็นการถาวรอีกต่อไป (ประมาณว่าอยากดูใหม่ก็โหลดใหม่) และเขาบอกว่าอินเทอร์เน็ตที่เร็วขึ้นจนดาวน์โหลดหนัง 720p ได้สบาย จะเป็นผู้ชนะ
ที่มา - MacRumors
Comments
จ็อบคิดว่าทั้งโลกหมุนรอบบ้านแกละมั่งครับ เค้าลืมไปว่าตอนนี้โมเดม 56k กับ windows 3.11 ยังมีคนใช้อยู่เลย
แต่ผมว่าอีก 5-6 ปี เหตุการณ์คงเป็นจริงละ บูลเรย์คงเป็นยุคสุดท้ายของสือตามบ้านแบบนี้ อย่างเก่งในอนาคตเราคงเป็นทัมไดร์ฟความจุสูง
+1
+1
win3.11 นี่ผมไม่ค่อยเห็นแล้ว แต่ตระกูล 9x,me ยังเห็นอยู่ในเครื่องรุ่นเก่าๆ ก็นะ คนเฒ่าคนแก่เค้าคุ้นเคย
กลุ่มคนดังกล่าว คงไม่ซื้ิอไดรฟ์ บลูเรย์ กับแมคมาใช้หรอกครับ
ถ้าพูดถึงในคอนเทกซ์ของกลุ่มผู้ใช้อย่างเราๆ ท่านๆ ผมว่าบลูเรย์ก็อยู่ได้ไม่นานเหมือนกันครับ เห็นด้วยกับจ็อบส์เลย (ถึงแม้บางครั้งความคิดแกจะออกแนวเพี้ยนและกวนๆ ก็ตาม)
ทุกวันนี้ผมก็แทบไม่ใช้ optical disk เหมือนกันครับ แต่ก็คิดว่าในกรณีของแอปเปิลนี้ ออกมาเป็นตัวเลือก optional ตอนสั่งของ อยากได้ก็จ่ายเพิ่ม ไม่น่าจะเสียหายอะไร กิน margin ได้อีกนิดหน่อยดีกว่าอยู่เปล่าๆ
แล้ว พวกนั้นจะไปซื้อ Mac ไปทำด๋อยอะไร
กลุ่มลูกค้าไม่ใช่เห็นๆ :)
ปล. ว่าแต่คอมรุ่น window 3.x/9x มันรันแผ่น Blu ray ไหวหรือ
คนใช้ mac ถ้าอยากใช้งาน BD ต้องไปซื้ออีกเครื่องแทนที่จะซื้อแค่ไดรฟ์?
ตรรกะบั่นทอนปัญญามากครับ
ใจเย็นๆ ครับ ผมว่าเขามองที่กลุ่มลูกค้ามากกว่า คนมีปัญญาซื้อแม็คคงจะมีปัญญาหาเน็ตแรงๆ เล่น และไม่ได้ใช้ WinCE Win3.0 อะไรแบบนั้น
ส่วนความเห็นแรกกลับมองถึงคน "ทั้งหมด" ที่ไม่มีปัญญาหาเน็ตแรงๆ เล่น ยังใช้เทคโนโลยีเก่าๆ อยู่
มองคนละมุมเฉยๆ ใจเย็นๆ ครับ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
คนที่ไม่ Online ก็ยังมีอีกเยอะนะครับ
แต่แกคงคิดว่าคนที่ไม่มี net ก็คงไม่บ้าจี้ซื้อผลิตภัณ APPle มั้งครับ
นี่แหละสิ่งที่ผมเกลียด สติ จอบ
เพราะแกเชื่อมั่นในความคิดแกมากเกินไป
เอาน่าอย่างน้อยแกก็พูดถูกบางส่วน และลูกค้าแกส่วนมากออนไลน์ได้ ส่วนน้อยทำใจกันต่อไป
ถึงขั้นเกลียด ????
อันนี้เห็นด้วย กับ apple นะ
+1
เหล่าสาวกว่าอย่างไร...อยากรู้จัง
ศาสดาว่าอย่างไร ก็ว่าตามนั้น
ตามนั้นครับ 555 ++
ฮา นะนี่
Use iTunes ฮ่ะๆๆๆ มามุขเดิม
ถ้า blu-ray มันบูมจริง ๆ และโน้ตบุ้กเจ้าอื่น ๆ เขาใส่กันหมด
เดี๋ยวเฮียจ๊อบ ก็พลิกลิ้น กลับลำเองแหละ
Happiness only real when shared.
เปรียบกับ Flash สิครับ ผมก็ว่า อนาคตข้างหน้าเน็ตเร็ววก่านี้หลายเท่าแน่นอน ^ ^
ตามที่ท่านศาสดาว่าเอาไว้ 555++
เน็ตมันไม่ได้เร็วทั่วโลกนะครับท่าน บริษัทท่านอาจจะโหลดเสร็จภายใน 10 นาที แต่ที่อื่นอาจจะ 10 ชั่วโมง
ขอโทษอาจจะดูแรงแต่ หมดหวังกับพวกคุณมาก อ่านcommentsไม่ได้สาระเพิ่มขึ้นเลย
"งาช้างไม่มีทางงอกออกมาจากปากหมา" จริงๆ
ชีวิตเงียบเหงามากถ้าไม่ได้หอนเหรอครับ
นี้คุณเป็นอะไรของคุณครับ ใครเขาจะคอมเม้นอะไรกันยังไง ทำไมต้องไปว่าเขาด้วย เหอๆ อ่านแล้วไม่ชอบก็ไม่ต้องอ่าน ถ้าไม่เอาข้อมูลที่ถูกต้องมาแย้ง ก็ไม่ต้องว่าคนอื่นครับ เงียบไปดีกว่า
เข้าตัวนะครับ
ผมพยายามเพิ่มสัดส่วนคอมเมนต์มีสาระในเว็บให้มากขึ้นด้วยการปิด account คุณไปแล้วนะครับ
lewcpe.com, @wasonliw
^^
หุหุ
-- ^_^ --
hu hu hu
+100 สมควรแล้วครับ
ฮา
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ปุ่มให้ gift อยู่ไหนครับ
+1000
อะไรของมันวะ
ไม่เคยสัมผัส บลู-เรย์ เลย ไม่มีเงินซื้อ 555
แต่แนวคิดของตาจ๊อบ บรรจบก็มั่นเกินไป แต่ก็นะ
เค้าเป็นเจ้าของ พูดถึงแล้วเราไปว่าอะไรเค้าไม่ได้
ชอบก็ซื้อ ไม่ชอบก็ไม่ซื้อ ตรงนี้มากกว่าทีจะ respond กับเค้าได้ =)
@Mixmerize
ระยะกลางที่ว่าอาจจะกินระยะเวลามากกว่า 5 ปีก็เป็นได้ เพราะตอนนี้ Blu-ray ก็เพิ่มความจุเข้าไปอีกหลายเท่าแล้ว
ยิ่งมี 3D มาอีก ซึ่งอย่างน้อยๆก็ต้องดาวน์โหลดเป็น 2 เท่า
HDD ตัวใหญ่ ๆ ราคาถูกลงก็จริง แต่เวลาก๊อปไฟล์ไป ๆ มา ๆ ที น่ารำคาญ เพราะต้องรอนาน ๆ
จ๊อบส์อาจจะถูกก็ได้ แต่ก็ตามข่าวแหละ ไม่ใช่ในปีสองปีนี้แน่นอน ยิ่งราคา HDTV ถูกลงเรื่อยๆ แบบนี้ จะให้ดูหนังที่ระดับความละเอียดธรรมดาบางทีก็ขัดตาอยู่นะ Google TV ก็ยังไม่เกิด Apple TV ก็ใช่ว่าจะดัง หนังแผ่นยังขายได้อีกหลายปีแหละ ไหนจะเรื่องความสามารถในการใช้เป็น backup media อีก (เพราะฉะนั้น ทำ iMac, MacBook +BD ออกมาเถอะ ยังขายได้หลายเครื่องอยู่นะเฮีย)
มันก็คล้ายๆทฎษีวิวัฒนาการสัตว์โลกแหละครับ ถ้าอะไรที่ทำให้การดำรงชีวิตของเราง่ายขึ้นและดีกว่าเก่า อันนั้นแหละคำตอบ ถ้าเฮียแกยัด BD มาก็จะมีแต่ได้ใจคนซื้อ เพราะเหมือนกับเป็นตัวเลือกให้ลูกค้า ดูอย่างทุกวันนี้ CD ก็ยังมีขายกันอยู่เยอะแยะ มันไม่ได้หายไปแบบวีดีโอนิ อีกอย่างผมว่าทุกวันนี้มันกำลังเข้าสู่ยุค 3D แล้วแต่ HD ก็ยังไปได้อีกนาน เอาเป็นว่าถ้าเน็ททั่วโลกวิ่งได้เร็วเท่ากับ COLO ละก็ผมจะเชื่อเฮีย
ผมเห็นด้วยกะเฮียแก แต่ในอีกซัก 5 ปีเป็นอย่างน้อยนะ :P
แต่ทุกวันนี้ผมแทบจะไม่ได้ใช้ Optical Drive เลยจริงๆนะ
ก็ไม่เข้าใจเฮียแก จริงๆมีไว้ดีกว่าเวลาจะใช้แล้วมันไม่มีนะ ^^
ใครอยากตาม สตีฟ จ็อบส์ ก็เชิญ
ที่ไม่ยอมสนับสนุนบรูเรย์ เพราะคิดจะขายหนังผ่าน AppStore อย่างเดียวหละซี่(ทำเสี่ยงสูงๆ)
รู้ทันนะ
อ่านจบ ผมแอบเห็นด้วยกับเฮียจ๊อบนะเนี่ย เอาง่ายๆ ตอนนี้เอง ผมว่าไดร์ฟ CD/DVD เป็นอุปกรณ์ที่คน "เริ่มที่จะ" เลิกใช้ไปเรื่อยๆแล้ว ถ้าไม่ได้เป็น User ระดับที่เช่าหนัง ซื้อหนังแผ่นมาดูกับเครื่องคอมพิวเตอร์ เอาจริงๆ User ที่เหลือ เป็น User ที่เน้นการ "Download" ดังนั้นการใช้ไดร์ฟ CD/DVD แทบจะมีสัดส่วนน้อยลง แค่ Computer สมัยใหม่ที่เน้นเบา ยังเลือกที่จะตัด DVD Drive ทิ้งไปเลย Bluray อาจจะเป็นที่นิยมในการใช้งาน Backup แต่ผมก็มองว่ามันเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ควรติดมากับ Notebook น่าจะวางเป็นตลาดเครื่องเล่น BD ไปเลย หรือใช้งานด้วย PC จะดีกว่าครับ
ไม่รู้แหะ แต่ผมมองว่า อยากให้ตัดพวก Drive DVD/CD ออกไปได้แล้ว เพราะสมัยนี้ Harddisk ราคาถูกลงมามาก คนหันมาเก็บ Backup ข้อมูลใส่ HDD ซะมากกว่า งาน Commart ถึงขาย Ext.HDD กันเพียบ lolz
HDD ถูกลงมากก็จริง ครับแต่เวลาซื้อ มันต้องซื้อ เป็นเงินก้อนใหญ่ผมมองว่า CD/DVD อะไรพวกนี้ยังอยู่อีกนานครับ เพราะ user ต่างจังหวัดบ้านเรา ยังคงต้องหาดูหนังใหม่ๆ ตามงานวัด หรือหนังซูม จาก CD ในตลาดนัด
ดูง่ายๆ น้ำมันขวดหละ 20 - 30 บาท แถวบ้านผมยังขายได้อยู่ ทั้งๆ ที่เติมปั๊มมันถูกกว่า แต่ปั๊มต้องเติม 50 บาทขั้นไป
ซื้อบัตรเติมเงินจาก 7-11 พวก 1-2-call ขั้นต่ำ 50 บาท ซื้อ 50 เติมได้ 50 แต่ก็ยังมีเด็กๆ มาให้เมียผมเติม 10 บาท จ่ายจริง 12 บาทอยู่เลย หรือตู้หยอดเหรียญ ก็จะเป็น 13 บาท เติมได้ 10 บาท
คุณภาพชีวิตมันต่างกันน่ะ
ถ้าจะเอาตามที่จ๊อปมันว่าสำหรับเมืองไทยที่จะทำแบบนั้นได้ทั้งประเทศ ผมว่าบ้านเราคงทำได้พร้อมรถไฟฟ้า มีจาก สยาม - ร้อยเอ็ด น่ะครับ
Ton-Or
แต่ DVD ยังเป็นทางเลือกหลักในการส่งไฟล์ขนาดใหญ่ให้เพื่อนอยู่นะครับ ตัดออกไม่ได้ เพราะถึงแม้ว่าความเร็วในการดาวน์โหลดจะสูงกว่าเดิมมาก แต่ความเร็วในการอัพโหลดมันไม่ได้เพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ เวลาจะส่งข้อมูลขนาดใหญ่ระดับ 2GB+ ให้เพื่อน ปรกติจะเขียนแผ่น DVD แล้วก็ให้ไปเลยไม่เอาคืน เพราะจะใช้ thumb drive เดี๋ยวมันก็ไม่คืน จะอัพโหลดก็นานผมไม่ชอบเปิดเครื่องทิ้งไว้ แถมบางทีไฟล์ที่อัพโหลดยังเสียอีก จะเอาฮาร์ดดิสก์ไปก็ต้องรอเพื่อนมันก๊อปและเพื่อนมันก็ใช่ว่าจะแบกโน้ตบุ๊คไปมาพร้อมก๊อปไฟล์ ต้องไปนัดมันอีกว่าให้เอาโน้ตบุ๊คมาก๊อปด้วย จะให้มันยืมฮาร์ดดิสก์ไปก่อนเดี๋ยวมันก็ไม่คืนอีกและเราก็ต้องใช้ฮาร์ดดิสก์ของเราอยู่บ่อย ๆ
สรุป ในทางปฏิบัติการส่งข้อมูลขนาดใหญ่ให้เพื่อน เขียน DVD ให้นี่แหละสุดยอด ไว้รอเน็ตเวิร์กมันให้เราอัพโหลดได้อย่างรวดเร็วและไม่ค่อยมีข้อผิดพลาดก่อนแล้วค่อยเอา DVD ออกไป ซึ่งกว่าจะเป็นแบบนั้นได้จริงสงสัยต้องรอเป็นสิบปีหรือมากกว่าสำหรับประเทศไทย ขนาดผมอยู่อเมริกาตอนนี้เวลาอัพโหลดไฟล์ยังรู้สึกว่ามันช้าเลย ทั้งที่แบนวิดธ์ที่ทำได้จริงประมาณ 0.8Mb ซึ่งก็ไม่นับว่าช้าสักเท่าไหร่
ไม่เห็นด้วยเรื่องตัด Drive DVD/CD ครับ
เพราะเกม และโปรแกรมต่างๆ
โดยเฉพาะ OS ยังต้องการ Drive พวกนี้อยู่ครับ
Thinkpad ถอด DVD ออก
แล้วใส่ HDD Bay แทน ^^
จ๊อบส์น่าจะทำแบบนี้นะครับ
ได้ขายของเพิ่มด้วย
แต่...แบตยังเปลี่ยนไม่ได้นี่ คงหมดหวัง
มันเอาแน่เอานอนไม่ได้ที่จะฟันธงตรงๆแบบนี้
กุญแจมันอยู่ที่มือลูกค้ามากกว่า
ผมก็เห็นด้วยกับ Jobs นะครับเพราะทุกวันนี้ผมยังไม่มีความคิดที่จะซื้อแผ่นหนัง Blu-ray มาดูเลยสักเรื่อง ไม่ทราบว่าท่านทั้งหลายข้างบนเฉพาะคนที่ไม่เห็นด้วยนั้นได้เคยซื้อหนัง Blu-ray มาดูกันบ้างหรือเปล่าครับ อันนี้ถามตรง ๆ นะครับถ้าอยากตอบก็ตอบ ถ้าไม่อยากตอบก็ไม่ต้องใช้อารมณ์ตอบกลับมาในประเด็นอื่นนะครับ ^^
ทุกวันนี้เวลาผมดูหนังในคอมพิวเตอร์ผมดูแบบ HD ตลอดคืออย่างน้อยต้อง 720p ด้วยการ Download ผ่าน Bittorrent ซึ่งเมื่อก่อนผมก็ซื้อ DVD มาบ้างแต่ตอนหลังมันเต็มบ้านไปหมดจนไม่มีที่เก็บรวมถึงคุณภาพหนังไม่ค่อยดีก็เลยเลิกซื้อไปแล้ว เหลือแค่ไปดูที่โรงภาพยนตร์กับ Download มาดู
แต่สุดท้ายแล้วถ้าคุณซึ่งเป็นผู้ซื้อต้องการกำหนดว่า Blu-ray Drive เป็นหนึ่งใน Feature ที่คุณต้องการ คุณก็จะไปซื้อ Notebook ยี่ห้ออื่นแทนเองแหละครับ
That is the way things are.
+1 ย่อหน้าแรกมากๆๆๆ ชอบๆ
ไม่พูดดีกว่า
เพราะอะไรล่ะ เพราะที่นี่ blognone
ถ้าผมจะดูหนัง HD อย่างถูกต้อง ผมมีทางเลือกอื่นไหมครับ? นอกจาก Blu-ray
lewcpe.com, @wasonliw
iTunes Store ไงครับ มี HD ด้วยนะ ^^
ผมคิดว่าพวกบริการ Stream หนังต่าง ๆ ที่มีอยู่ทุกวันนี้ก็มีแบบ HD นะครับ โดยส่วนตัวไม่เคยใช้เลยสักเจ้าแต่เชื่อว่ามีครับ พอลองไป Search ดูก็พบ Site นี้น่าสนใจดีครับ
http://www.digitaltrends.com/how-to/top-online-video-services-compared/
That is the way things are.
เข้าใจว่าคุณ Lew หมายถึง Full HD 1080p ไม่ใช่ HD 720p ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นตอนนี้แทบไม่มี online content provider ไหนที่ให้ข้อมูลขนาดนี้อย่างจริงจังได้ครับ (คงมีอยู่แค่เจ้าสองเจ้าอย่าง Vudu) แม้แต่ตัว iTune Store ในตอนนี้ก็ยังเป็น 1280x720 ถ้าจะมี 1080p ก็คงเป็นกรณีพิเศษสำหรับหนังบางเรื่อง
การใช้ Blu-ray จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับความละเอียดขนาดนั้นอย่างที่คุณ Lew คิดนั่นแหละครับ แม้แต่ที่อเมริกาก็ตามเพราะการดาวน์โหลดข้อมูลเป็น 10GB ก็ไม่ใช่เรื่องโสภาเท่าไหร่ (ผมเคยดาวน์โหลดเกมส์จาก Steam มาเล่น บางทีเซิร์ฟเวอร์มันยังเอาตัวไม่รอดแล้วบอกผมว่าให้ "ลองอีกที รอสักครู่ ตอนนี้ server ยุ่งเกิน" แสดงว่าแม้แต่ในอเมริกาการให้บริการข้อมูลใหญ่ ๆ กับคนจำนวนมากก็ยังเป็นเรื่องที่ทำให้ราบรื่นได้ยาก จะเปลี่ยนเครื่องเล่นเกมส์ก็ต้องดาวน์โหลดกันใหม่อีก รอจนเซ็ง)
ผมเข้าใจว่า Reply อันแรกก่อนหน้าคงหลงประเด็นเกี่ยวกับความละเอียดของ HD ใน Blu-Ray กับ HD ที่มีให้ดาวน์โหลดอย่างถูกกฎหมายซึ่งเกือบทั้งหมดมีความละเอียดที่ต่ำกว่า (มีอยู่บ้างที่ให้ความละเอียดเท่ากัน แต่ก็มีน้อยและก็ไม่ใช่ iTune Store)
+10
ดู 720p ดีกว่า DVD ก็จริง แต่ ถ้าดู 1080p แล้ว มันโสภากว่าขึ้นไปอีกหลายเท่า (BD)
ตอนนี้เมืองไทยเริ่มออกอากาศ 1080p แล้ว ถ้าลองดูแล้ว อาจจะไม่สน 720p อีกต่อไปก็ได้ ที่สำคัญ ปริมาณข้อมูลมหาศาลขนาด 50GB ต่อหนังประมาณสองชั่วโมงนี่ ถามผม ผมไม่อยากดาวน์โหลดหรอกนะ นอกจากว่า ผมจะมีอินเทอร์เน็ต Gbit รอโหลดประมาณชั่วโมงนึงอะไรแบบนี้ ความเร็วเท่านี้ไม่สามารถตอบโจทย์การดูภาพยนตร์ความละเอียดสูงแบบ on-demand ได้ดีนัก และแน่นอน ผมเลือก Blu-ray
ดังนั้น ถ้าอยากดู BD แบบ on-move ก็ควรหลีกเลี่ยง Apple ดีกว่า
We need to learn to forgive but not forget...
ส่วนหนึ่งเห็นด้วยนะครับว่าถ้าเปลี่ยนไปใช้วิธีเช่าแล้วดึงผ่านเน็ตมา อยากดูใหม่ก็โหลดใหม่
แต่อีกส่วนหนึ่งเนี่ยะ ผมเองเป็นคนที่ค่อนข้างบ้าของพรีเมี่ยม อะไรแบบว่าขอให้เป็นลิมิตเต็ด อิดิชั่นน่ะ มือไม้สั่นเสียเงินเอามาจนได้
หนังบางเรื่องนี่มันก็น่าเก็บสะสมจริงๆ นะครับ แล้วพวกฟีเจอร์บางอย่างเนี่ยะ เค้าแยกออกมาเป็นแผ่นต่างหากก็มี
ไม่รู้จะเทียบกับอะไรแฮะ พอดียังไม่ได้เล่นถึงขนาดบลูเรย์ เอาเป็นอย่าง Lord of the ring ที่เป็นเซ็ตภาคละสี่แผ่น dvd ทั้งเซ็ตมี 12 แผ่นเงี้ยะ บางทีไม่ได้ต้องการมานั่งดูมันหมดทุกแผ่นนะครับ (แต่บางคนก็ดูหมดจริงๆ ล่ะนะ) แต่มันจะกลายเป็นความสุขของการได้สะสมสิ่งที่ตัวเองชอบมากกว่า
แต่ถ้าพวกเช่าหนังอ่ะ แนะนำอย่างศาสดาของคุณว่าก็เห็นสมควร
ส่วนเรื่องสื่อบันทึกข้อมูลนี่ สมมติไฟล์ใหญ่จริงๆ มันก็น่าอยู่นะครับ เพราะไฟล์มัลติมิเดียตอนนี้ DVD5 ราคาถูกๆ เอาไม่อยู่แล้ว คือไม่ได้พูดถึงเรื่องไฟล์ผิดกฏหมายที่ปล่อยกันทางเว็บบิทหรอกนะครับ
อย่างคนทำตัดต่อหนัง ตัดต่อวิดีโอ ก็คงต้องการความรวดเร็วแต่สะดวกกว่าการยกฮาร์ดดิสก์ไปๆ มาๆ แน่ ร่วงลงพื้นก็กลุ้มแล้ว แผ่นบลูเรย์ร่วงถ้าอยู่ในกล่องในซองก็ยังพอปลอดภัย
แต่ ถ้าไฟล์ใหญ่้ถึงขนาดอยากเอาลงแผ่นบลูเรย์ล่ะก็ อย่าแนะนำไปฝากไว้บนกลุ่มเมฆนะจ้ะ เห็นอัพโหลดประเทศไทยแล้วกลุ้มใจอย่างแรง
ผมยอมรับว่าเป็นหนึ่งในคนที่ซื้อของแท้แบบ Limited มาเก็บ
แต่ไม่เคยเปิดดูครับ กลัวแผ่นเจ๊ง แต่ซื้อเพราะชอบ Package ดังนั้น ของแบบนี้ไม่เกี่ยวเท่าไหร่แหะ ซื้อแท้ แต่โหลดเถื่อนดู เป็นเรื่องปกติ
เหมือนกับผมซื้อแผ่นเพลงแท้มา แล้ว Rip ด้วย iTune ลงคอมพ์ แล้วฟังผ่านคอมพ์เอา ไม่เคยเอาแผ่นมาใส่เครื่องแล้วฟังอีกเลย lolz
เค้าเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลมากครับ นับถือๆ
ผลิตภันท์ของเค้าต้องล้ำครับ ทันสมัย เป็นอะไรที่เป็นอนาคตไม่ใช่ปัจจุบัน
แต่บางครั้งก็ไกลเกิน แล้วก็เหมือนว่าเค้าทำตามที่เค้าอยากจะทำ ไม่ได้ทำตามตลาดหรือทำตามใจลูกค้า
แต่นับถือจิงๆน่ะ เป็นคนที่กล้าเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่าง
ทุกวันนี้ผมใช้ optical drive น้อยลง เพราะอินเทอร์เน็ตอย่างที่ลุงจ็อปส์ว่า แถมการแบคอัพข้อมูลเดี๋ยวนี้ก็จับลง Ext.HDD หมด ชัวร์และเร็วกว่าเยอะ
แต่ไม่เห็นด้วยที่ว่า พอมีอินเทอร์เน็ตแล้วไม่ต้องมี blu-ray คือถ้ามันไม่มีคุณค่าขนาดนั้น ลุงจ๊อปส์ตัด DVD drive ทิ้งไปด้วยสิครับ... ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพราะ optical drive มันยังจำเป็นอยู่ เป็นตัวสื่อที่ต้นทุนต่ำ แจกจ่ายง่าย พื้นที่เก็บไม่มาก แล้วใครๆ ก็ใช้ได้ถ้ามีไดรฟ์ ใส่เข้าไปเล่นได้แน่นอน ..ถ้าเราอะไรๆ ก็ผ่านอินเทอร์เน็ตกันไปหมด แล้วซักวัน ISP หันมาเรียกเก็บเงินแบบตาม data ที่ใช้นี่ขำไม่ออกแน่ - -'
ลุงจ๊อปแกคงอยากดัน itunes มากกว่า ประมาณว่าดัน itunes เป็นประโยชน์กับตัวบริษัทแกมากกว่าดัน blu-ray อะไรอย่างนั้น
เห็นด้วยครับ
ผมว่าการไกล จ๊อบ เค้ามองได้ดีกว่านะ
แล้วเวลาสำรองข้อมูลล่ะครับ?
ผมก็ซื้อหนัง DVD บ่อย (แต่เดี๋ยวนี้เลิกแล้ว ดูในโรงแทบทุกเรื่อง)
กว่าจะได้ดูหนัง ต้องถูกบังคับดูโฆษณา, ตัวอย่างหนัง, warning หลายภาษา
บางทีต้องมาคอยเช็ดแผ่นหรือทำความสะอาดหัวอ่านเครื่องเล่นอีก
ดู streaming บนเนตยังดูได้เร็วกว่าเลย แถมชัดกว่า DVD อีก
เดี๋ยวนี้ Optical media ก็ไม่ได้ใช้นานมากแล้ว USB drive ก็เหมือนกัน ทั้งๆ ที่มีติดตัวไว้สามสี่อัน
แต่ก็แน่นอนว่าคนแบบผมไม่ใช่คนส่วนใหญ่บนโลกแน่ๆ Blu-ray ก็ยังอยู่ไปอีกเป็นปีละครับ
เพิ่ม: ส่วนเพลงก็ยังซื้อ CD ฟังอยู่นะ แต่ว่าใช้แค่ Rip ลง iTunes ครั้งแรกครั้งเดียว ส่วนที่เหลือของชีวิตมันก็อยู่บน shelf ถ้าใน Thai iTunes Store มีเพลงให้ซื้อ คงแทบจะตัดขาดกับ Optical media ได้เลย :)
จะดูอีวาทีต้องโหลด 40 กิก? ขอผ่านครับทุกวันนี้ตามเก็บ BD เอาสะดวกกว่านั่งโหลด
อย่าง R.O.D. หรือ DTB โหลดน่ะ 200 กิกกว่าๆเสียเวลาโหลดชะมัด
ใส่แผ่นดีกว่าเห็นๆ
ปล.ส่วนที่ว่าคห.บนๆบอกโหลดเอาสบาย ผมว่าค่ายหนังถ้าเห็นว่าโหลดมันดี
เขาคงไม่รณรงค์ให้ซื้อแผ่นแต่รณรงค์ให้โหลดจ่ายเงินแทนไปแล้วล่ะ
ผมยังเชียร์ blu-ray เพราะเป็นพวกชอบสะสมนี่ล่ะ
.
อินเตอร์เน็ตมีแนวโน้มเร็วขึ้นไปเรื่อยๆตามท่านศาสดา
แต่ว่าแบนด์วิทก็ใช่ว่าจะฟรีไปตลอด และมีแนวโน้มแพงขึ้นด้วย
สำหรับคนนิยมดู hd แบบผม กลับ รอว่าเมื่อไหร่ blu-ray จะถูกลงซักที เพราะโหลด hd
มาดูบ่อย ๆ จะให้ซื้อ harddisk มาเก็บคงสิ้นเปลืองเกินไป
จะเห็นได้ว่าการออกอากาศทีวี hd เริ่มเป็นที่แพร่หลาย และมีรายการที่เป็น hd ที่ถูกบันทึกมา
ด้วยความคมชัดเทียบเท่าต้นฉบับ ออกมาให้โหลดมากมาย จำนวนคนที่โหลดผมก็เห็นว่าเยอะกว่าเดิมเสียอีก
และผมคิดว่าอาจจะด้วยความที่บันทึกได้ง่ายกว่ายิ่งทำให้มี ของใหม่ ๆ ออกมาเยอะกว่าเดิมด้วย
ประสบการณ์ส่วนตัวคือ เน็ตยิ่งไวฮาร์ดดิสก็ยิ่งเต็มไว ตามไปด้วย
รอดูระดับราคา blu-ray ถูกลง น่าจะเห็นอะไรที่ชัดเจนกว่านี้
ส่วนเรื่องติดไปกับเครื่องอาจจะไม่จำเป็นจริง ๆ เป็นอุปกรณ์แยกดีแล้วครับ อย่างกรณีผู้ใช้แมคบุคโปร
หลายราย กลับต้องไปซื้อ external dvd มาใช้เพราะกลัว เสีย อะไหล่แพง หรือเสียแล้วไม่มีเงิน
เปลี่ยนก็มี
ผมว่าไม่ต้องใส่ติดเครื่องดีแล้วครับ ระบบเชื่อมต่อสัญญาณภายนอกก็ความเร็วสูงขึ้นเรื่อย ๆ มีอุปกรณ์แบบต่อภายนอกแบบนำไปต่อแชร์ใช้กับหลาย ๆ เครื่องสะดวกกว่าเป็นไหน ๆ ออกมาเป็นแบบ slim ก็พกพาสะดวก เลือกที่จะพกหรือไม่พกก็ได้ตามสถานการณ์
ก็ online content ส่วนใหญ่มันอยู่อเมริกา คนอเมริกันก็ย่อมใช้เวลาในการโหลดน้อยกว่าคนที่อยู่ทวีปอื่น ถ้าจะดัน online content มาแข่งกับตลาด hard copy จริงๆ ต้องเพิ่มช่องทางให้กับคนที่ไม่ได้อยู่ในอเมริกาด้วย (ตอนผมอยู่ไทย แค่จะดู video streaming SD ก็ยัง buffer กระจาย ไม่ต้องถึง HD หรอก)
มันมีประเด็นหนึ่งที่เราไม่พูดถึงกันเลย คือเรื่องลิขสิทธิ์ บูลเรย์ ที่ Apple ต้องจ่ายให้ Sony
เรื่องนี้ไม่รู้ว่า ต้องใช้เงินเท่าไหร่ ซึ่งศาสดาคงประเมินแล้วว่า ไม่จ่ายดีกว่า แล้วก็มีทางเลือกอื่นให้ผู้บริโภค
โดยให้ไปซื้อ Blu-ray optical drive ที่มีขายแยกอยู่มาใช้แทน ไม่ใช่ให้ผู้บริโภคเลือก แล้วมาเป็นภาระของ Apple เรื่องพวกนี้มีหลายแง่หลายมุม คงต้องคิดดีๆ
H.264 ที่ใช้ผ่านเน็ตก็ต้องจ่ายครับ
lewcpe.com, @wasonliw
ยังไงผมก็คงยังซื้อแผ่น เพราะผมว่ามันได้ Feeling ดีมีกล่องไว้ SHow ด้วย
แถมอีกอย่าง แผ่นเสียง ปัจจุบันยังใช้กันอยู่เลยน๊ะครับบบบบบ
ถ้ามีเน็ตความเร็วสูงละก็ใช่ แต่ว่านะประเทศที่ล้าหลังหลายๆประเทศน่าจะยังอยากใช้สื่ออย่างบลูเรย์อยู่
ผมเห็นร้านเช่าVCD ก็ยังมีอยู่เลย อย่าเพิ่งพูดถึงบลูเรย์
ถ้าไม่มีไดร์ฟบลูเรย์ เวลาซื้อซีดีบลูเรย์หนังมาแล้วอยากดูกับเครื่อง Mac จะทำไงล่ะครับ ใช้เครื่อง pc upload ขึ้น youtube งั้นเรอะ แล้วถ้าแผ่นเปล่าบลูเรย์ถูกลง อาจจะเป็นช่องทางในการ Backup ข้อมูลได้ด้วย
ผมว่า 2 เทคโนโลยีนี้มันแทนกันไม่ได้พอดีในทุกเรื่องหรอกครับ
ต้องการใช้ BD? เปลี่ยนเป็น Windows ... สั้นๆ ง่ายๆ
หรือซื้อเครื่องเล่น/PS3 ต่อทีวี?
We need to learn to forgive but not forget...
งงความคิดตาจ๊อบ
แล้วยูทูป HD เนี่ยมันละเอียดสวยคมเท่ากับ BluRay หรอ ?
ถ้าที่ไหน นกพิราบสือสารเร็วกว่าความเร็วอินเตอร์เน็ตที่นั่นก็คงไม่มีเครื่องแมคขาย อิอิ
จ๊อบ เขาไม่มองว่า การซื้อแผ่นนี้ เป็นของ สะสมอย่างนึงนะคับ ทำๆ มาเหอะๆๆไม่อยาก เสียขาย ลิขสิทธิ์ ก็ สั่งให้ snoy ผลิตให้เลยดิคับ
แต่ก็อย่างที่ว่าอะคับ ขนาด vaio เองมีกี่รุ่นกันที่มี บรูเลย์ sony เองยั่งไม่ดันมันสุดๆๆเลย ถ้า sony ดันมัน สุดๆๆ ตั่งแต่ มีมันออกมากะ PS3 ใหม่ๆๆนะคับ เชื่อว่า mac น่าจะมี แล้ว ละ แต่นี้ vaio เองยั่งไม่ค่อยมีเลย เหอะๆๆ