ผู้อ่าน Blognone ที่ติดตามมานานหน่อย คงคุ้นกับชื่อ Mark Papermaster
ชื่อของเขาดังขึ้นมาในปี 2008 เพราะหลังจากคุมแผนกฮาร์ดแวร์ใน IBM มานานเป็นสิบปี เขาตัดสินใจย้ายข้ามห้วยมาคุมแผนก iPod/iPhone ของแอปเปิล ทำให้ IBM ฟ้องศาลเพราะกลัวความลับรั่วไหล สุดท้ายตกลงกันได้ โดย Papermaster ได้ทำงานกับแอปเปิลสมความตั้งใจ แต่ต้องทำความตกลงกับศาลว่าจะไม่เปิดเผยความลับทางการค้าของ IBM
แต่ทำงานกับแอปเปิลได้ไม่ทันไร ก็เกิดกรณีเสาอากาศและสัญญาณของ iPhone 4 โดยมีคนสังเกตว่าในงานแถลงข่าว Papermaster ไม่ได้ร่วมแถลงด้วย ทั้งที่เขาเป็นผู้บริหารของฝ่าย iPod/iPhone และล่าสุดมีรายงานว่าเขาออกจากบริษัทแล้ว
หน้าประวัติของ Papermaster บนเว็บของแอปเปิลถูกลบออกไป และโฆษกของแอปเปิลยืนยันว่าเขาออกจากบริษัทจริง ยังไม่มีข้อมูลว่า Papermaster ลาออกเองหรือโดนไล่ออก ส่วน John Gruber บล็อกเกอร์ชื่อดังให้ข้อมูลว่าเขาโดนไล่ออก และคนในแอปเปิลมองว่าเขาคือคนที่ต้องรับผิดชอบต่อปัญหาเสาอากาศ
ที่มา - New York Times
Comments
ย้ายไป Google ขึ้นมานะ >_<
my blog
ไหนว่างานทุกชิ้นต้อง QC โดยศาสดาก่อนถ้าศาสดาไม่ชอบไม่ผ่าน
แล้วทำไมศาสดาไม่ต้องรับผิดชอบล่ะ?
เจ้านายจ้างลูกน้องมาทำงาน ลูกน้องทำผิด (เซ็นรับรู้ด้วยนะ)
ไล่เจ้านายออกสินะ? เจ้านายที่สร้างเงินมาให้บริษัทเป็นสิบปี?
ควรเก็บลูกน้องคนนั้นไว้?
หลักสากลคือ ลูกน้อง จะโดน warning หรือเชิญให้ออกอยู่แล้ว ตามระดับความแรงของปัญหา ส่วนเจ้านายก็โดนตักเตือนโดยผู้ถือหุ้น (หุ้นตก = โดนขู่ตัดเงินเดือน) ซึ่งเสียววูบกว่าเยอะ! การแลกเปลี่ยนก็เท่าเทียมกันด้วยประการฉะนี้อยู่แล้วนี่
ลองฝึก "มองอย่างศาสดา" ดูบ้างสิอย่ามองแต่มุมคนงานนะ
+1 ครับ
ไม่ว่าที่ไหน 99.99% ก็ให้ลูกน้องออกก่อนครับ เหมือนเป็นการโยนขี้กลาย ๆ
ผมไม่ได้บอกให้ศาสดาลาออกแค่ว่าทำไมศาสดาไม่ยอมร่วมรับผิดชอบ เวลางานออกมาดีศาสดาออกมาพล่ามบลาๆ ว่าดีเพราะศาสดา QC แต่รอบนี้ศาสดากลับหุบปากแล้วแถไปเรื่อยไม่ยอมรับกับแค่ว่าปัญหามีจริง แค่ยอมรับในตอนที่โดนสื่อถามก็ตอบตามจริงว่ามีปัญหาจริงแต่นี้บอกว่า"ใครเขาก็เป็นกัน" แบบนี้ต่างหากที่น่าระอา เข้าช่ายดีเข้าตัวชั่วให้คนอื่นเหลือเกิน เรื่องไล่ลูกน้องออกมันปกติเห็นเยอะไปอันนั้นไม่ติดใจหรอกครับ ว่าแต่ถ้า"มองอย่างศาสดา"ได้แต่"คิดและทำผลงานอย่างศาสดา"ไม่ได้ ผมว่าไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย เพราะการมองของศาสดาจากรอบนี้เห็นชัดว่า"ไงตรูก็ไม่ผิด โดนถามก็ไม่รับ จับได้ก็รับครึ่งเดียว"นี้ล่ะมุมมองของศาสดา
บริษัทเค้าทำธุรกิจนะคับ การออกมายอมรับถึงปัญหาคงไม่ใช่ทางออกที่ดีนักสำหรับการที่ต้องคอยตอบคำถามนักลงทุนครับ
อีกอย่างบ้านเราก็มีตั้งหลายกรณี การทุบรถยี่ห้อดัง ๆ ในบ้านเรา โดยเจ้าของซึ่งมักจะอ้างว่า ซ่อมจนเบื่อแล้ว ร้องเรียนบริษัทก็แล้ว แต่ทางบริษัทกลับบอกว่าไม่ได้เปนความผิดทางบริษัท
หรือรถฮออนด้า รุ่นต่าง ๆ ที่ แอร์เหม็นอับ กระจกไฟฟ้า ไม่ดี หรือว่าอะไรก็ตาม เคยได้ยินข่าวการออกมาตอบคำถามถึงปัญหา ของผู้บริหารจากบริษัทเหล่านี้รีเปล่าคับ ก็คงไม่เคย บริษัทก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตา ขายของต่อไป
ซึ่งผมว่ามันก็เหมือน ๆ กันนะคับ
ไม่ใช่ซะทีเดียวมังครับ ผมไม่เห็น Honda ออกมาบอกว่า Toyota ก็เป็น Mitsubishi ก็เป็น
ผมหมายถึงในแง่ ของการออกมายอมรับ ว่าสินค้าของตัวเองมีปัญหาน่ะคับ นอกจากในกรณีของ โตโยต้า ที่มีปัญหาเกียวกับเรื่องความปลอดภัยครับ
ส่วนเรื่องแถ นั่นแก้ตัวไม่ขึ้นครับ
แล้วถ้าคุณมาเจอปัญหาอย่างนี จะทำอย่างไรครับ ?
มีวิธีการที่ดีกว่านี้หรือป่าว จะออกมาแสดงความรับผิดชอบอย่างไร
ก็คงไม่ต่างกับที่ตอนนี้ศาสดาทำ คืออรับเครื่องคืนจ่ายเงินคืนเจ็มจำนวนสำหรับคนที่ไม่พอใจ
กับแจกกรอบยางให้ฟรีๆ แต่ที่ต่างกันคือจะไม่ออกอาการพาลไปหาชาวบ้านว่าเป็นแล้วแถสีข้างถลอกว่ามันปกติ ไม่ใช่ปัญหาจากการออกแบบของตัวเองแบบนี้
ถ้าเป็นอย่างที่ John Gruber ว่าไว้จริง แสดงว่าภายในยอมรับว่าเสาอากาศมีปัญหาจริงๆ
ผมว่าเค้ายอมรับนานแล้วนะว่ามีปัญหาน่ะ
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
ยอมรับโดยการบอกว่าเจ้าอื่นก็เป็น :p
นั่นดิคับ แถ-ลง ตลอดเลย ฮิฮิ..
ได้กลิ่นแพะๆ
oึกว่าจะไม่มีข่าวแอปเปิ้ลวะแล้ว มีแต่ RIM
พาดหัวข่าวแบบนี้ทำให้เข้าใจผิดได้นะครับ ตามรายงานข่าวยังไม่รู้ว่าเค้าโดนไล่ออกเพราะอะไร
ก็ออกหลังจากที่มันเกิดเรื่องขึ้น ใครๆก็ต้องบอกว่า เป็นแพะจากงานนี้แน่ๆเลย
ขนาดนักข่าวติดต่อสัมภาษณ์เจ้าตัว เค้ายังปฎิเสธไม่ยอมให้ข่าวใดๆ
ตอนนี้ก็ได้แต่คาดเดากันไปต่างๆนานา ยังไม่รู้ความจริงกันหรอกว่าเพราะอะไรกันแน่
เรื่องนี้ต้องรอดู จนกว่าจะมีรายละเอียดที่ชัดเจน
แต่พาดหัวข่าวแบบนี้ ก็ต้องบอกว่าโดนศาสดาเฉดหัวออกจากบริษัท...จริงไหม
เท่าที่ทราบ คนออกแบบ น่าจะเป็น Jonathan Ive
ปกติการออกแบบผลิตภัณฑ์จะแบ่งเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ ครับ ออกแบบรูปร่าง ออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งาน และออกแบบสำหรับการผลิต ซึ่งแต่ละส่วนอาจมีส่วนย่อย มีคนรับผิดชอบหลายคน ขึ้นกับ product บาง product จะออกแบบรูปร่างมาก่อน (พวกมือถือหลายยี่ห้อน่าจะเป็นแบบนี้) แล้วคนทำหน้าที่ออกแบบฟังก์ชั่นค่อยออกแบบว่าจะใส่อะไรลงไปยังไงให้ได้ฟังก์ชั่นอะไรบาง แล้วคนรับผิดชอบผลิตก็ต้องไปออกแบบสำหรับการผลิต (เช่นถ้าไปดูชิ้นส่วนรถยนต์จะมีรู มีช่องอะไรบางอย่างที่ผู้ใช้งานไม่ได้ใช้ แต่ต้องมีไว้เพื่อให้การผลิตง่าย) ซึ่งแต่ละส่วนก็อาจจะต้องให้ส่วนก่อนแก้บ้าง สินค้าพวกที่ไม่ใช่แฟชั่นจะออกแบบฟังก์ชั่นก่อน แล้วค่อยออกแบบรูปร่างให้ดูสวยงามขึ้น
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
จ๊อบส์กล้าไล่ Ive ออกเหรอครับ อิอิ
เป็นกรรมตามสนองเปล่า ไปผิดสัญญากับ IBM ไว้นี้
ฝรั่งเขาเชื่อเรื่องพวกนี้ไหมเนี่ย
อ่านชื่อตานี่ทีไร นึกถึง Liquid Paper ทุกทีเลย
ผมนึกถึง การพับกระดาษ หรือ นักพับกระดาษ อะไรประมาณนั้น
Jusci - Google Plus - Twitter
ไม่เกี่ยวกับข่าว แต่ชอบนามสกุลพี่แกครับ เท๊เท่
อ่าว ตกลงนามสกุลจริงหรอ
คิดว่าเป็นฉายา
ต้นตระกูลเป็นผู้ผลิตกระดาษรายนึงหรอ
555+
ข่าวก่อนหน้านี้ Steve Jobs เองไม่ใช้หรอที่จะเอา design นี้ ทั้งๆ ที่มีวิศวกรก็ค้านแต่แรกแล้ว
ศาสดา สาวก
นี่การใช้ apple นี่ ถือว่าเป็นการเข้านิกายเหรอครับ
ผมพูดตรงๆนะ ผมใช้เพราะว่าผมมีตังครับ
แล้วก็โดยรวมแล้ว ไม่เห็นจะมีเจ้าอื่นทำได้เหนือกว่าในสิ่งที่ผมต้องการตรงไหน
เบื่อพวกกระแนะกระแหนเหลือเกิน ไม่รู้เคยลองจับหรือยัง
คงต้องใช้ bb พินปัญญาอ่อน(ถ้ามือถือ imobile มันแอดพินได้นะผมว่า บีบีมันเจ้งไปนานละ) nokia simbian ที่ไม่น่าเรียกตัวเองว่าสมาร์ทโฟน samsung Lg แก่ะข้างในดูก็จะรู้เอง เป็นอะไรทีี่่ไม่เคยทนรวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างอื่นด้วนนะครับ acer..... hp.....
เหลือ htc ที่ยังไม่เคยลองล่ะนะ แต่โทษเหอะ ผมว่ามันเหมือนของก้อปปี้มาก
ทุกวันนี้ ipad ipone 3g ก็ครบแล้ว ถึงเวลาก็อัพก็อัพไปอีกเจนไม่ต้องมานั่งอ่านอะไรวุ่นวายเสียเวลา
ตัว 3g ใช้มาสองปีแล้วไม่เคยงอแง
ผมใช้ apple เพราะว่ามันดีครับ และอีกอย่าง ผมรวยครับ
มาเขียนต่อเถอะครับ อ่านแล้วเพลินจริงๆ
+1... จะเครียดไปใย
+10
กะลังเพลินเหมือนกัน...
ชอบประโยคตอนท้าย... "และอีกอย่าง ผมรวยครับ"
เหมือนได้ยินจากคำพูดของตัวละครในละครไทยเรื่องอะไรน้า... ที่พระเอกชื่อ "คาวี" อ่ะ ? อิอิ
อร๊าาางงงง ตัวอย่างมาอีกหนึ่ง
โดยส่วนตัวผมรู้สึกว่าตัวเองฉลาดที่ไม่ใช้ iPhone ขึ้นมาทันที
ปล. ผมก็มีตังค์ครับ ซื้อ iPhone เดือนละสองเครื่องก็ได้ครับ
แต่ไม่แค่ไม่อยากถูกมองว่าปัญญาอ่อน
ถ้าซื้อเดือนละสองเครื่องคงจะปัญญาอ่อนจริงตามที่ว่าน่ะแหล่ะ ปัญญาอ่อนตั้งแต่เริ่มคิดแล้ว
แต่ผมไม่เคยเห็นคนปัญญาอ่อนจริงๆใช้แอ้ปเปิ้ลสักคน
ถ้าใช้แอ้ปเปิ้ลแล้วปัญญาอ่อนจริงคนปัญญาอ่อนคงมีเป็นร้อยล้านคนเลยล่ะโลกนี้
คนที่กระแนะกระแหนแอ้ปเปิ้ลน่ะ กว่าครึ่งน่ะ เป็นพวกไม่มีปัญญาใช้(อาจจะซื้อไ้ด้แต่คิดแล้วคิดอีกแล้วก็ไปซื้อ meizuแทน)
อร๊่่างงง
พูดได้ไพเราะเสนาะหู เหล่าบรรดา anti-zealot อย่างเราเยี่ยงนัก มาบ่อยๆนะจ๊ะ
ปล. พวกใช้ของแพงเกินตัว เกินกว่าครึ่งเป็นพวกไม่มีัปัญญาสร้างสรรอะไรเอง และบ้าแฟชั่น และคนใช้ของพวกนั้นเกินกว่าครึ่งซื้อเงินผ่อน และเมื่อคุยดูจะพบว่ากลวงกว่าของที่เขาถือไว้โชว์เป็นอย่างยิ่ง ส่วนคนใช้ของถูกๆแต่ฉลาด เพราะรู้ว่าอะไรซื้อมาแล้วใช้สร้างเงินสร้างอย่างอื่นต่อได้ ยกตัวอย่างเช่น hutch 999 เมื่ออยู่ในมือนักธุรกิจที่เก่งกาจก็สามารถสร้างเงินแสนเงินล้านได้ ยังไงมันก็ดีกว่าโทรศัพท์สองหมื่นกว่าเอาไว้เล่นเกมส์แล้วก็อวดรวยอย่างเดียว
สรุป จะแพงจะถูกก็แค่เครื่องมือ ยังไง g-net สองซิมผมมันก็เปรียบได้ดั่งตะเกียบที่ฟันกระบี่หักได้ อยู่ที่คนใช้มันต่างหาก
"แต่ผมไม่เคยเห็นคนปัญญาอ่อนจริงๆใช้แอ้ปเปิ้ลสักคน" จากประโยคนี้ คุณจะเห็นได้ไงละในเมื่อคุณคิดเหมือนพวกเค้า
"คนที่คิดว่าตัวเอง ฉลาดกว่าคนอื่นคือ คนโง่"
+1000 !
เหมือนกับที่ว่า "ถ้าคุณเข้าใจรู้จักผู้หญิงทั้งโลก แสดงว่าคุณไม่รู้อะไรเลย" อ๊ะป่าวอ่ะ ?
Ps. ออกทะเล ฟิ้วววววว
noob มากครับ
รวยก็เงียบ ๆ ไว้นะคับ ไม่มีใครอยากรู้คับ
คนรวยกว่าคุณมีเยอะแยะ ไม่เหนต้องออกมาบอกว่ารวยคับ
การใช้สินค้าของ apple ไม่ได้หมายความว่าเปนคนรวยซะหน่อยคับ แล้วมันก็ไม่ได้หมายความว่า ใช้แล้วจะต้องเป็นสาวกด้วยคับ หรือปัญญาอ่อนด้วยครับ
คนที่ชอบดูถูกคนอื่นต่างหากคับ ที่เป็นคนปัญญาอ่อน
มันอยู่ที่ความชอบและพึงพอใจส่วนบุคคลครับ คุณชอบ มีเงินก็ซื้อใช้ไป ไม่มีใครว่าอะไรครับ
ผมอ่านแล้วผมเจ็บแทนเลย หึหึ
ว้าววว โชคดีที่ผมไม่รวยอ่าาา น่ากลัวจัง
รู้สึกดีที่จน
May the Force Close be with you. || @nuttyi
อร๊างงง
มาใหม่แว้ววว ผมชอบคนนี้..
ขอโทษเหอะครับ ไปว่าคนอื่นเค้ากระแนะกระแหนแอปเปิ้ล
แต่ตัวเองก็ไปว่ายี่ห้ออื่น ทั้งที่ไม่เคยลองจับ ผมว่ามันเข้าตัวนะเนี่ย ^^
ปล. แต่ผมชอบคุณนะ แร๊งงงงง 555
5 บรรทัดแรกโอเคนะ แต่ที่เหลือ ไม่ต้องเขียนมาก้ได้ จากบวกๆ กลายเป็น ลบไปเลย
ยินดีต้อนรับสู่ blognone ครับ
ผมคิดเหมือนคุณเลย แต่ขาดไปอย่าง คือยังไม่รวย
ทันทีที่ผมรวย จะขอเข้านิกายด้วยครับ :D
อร๊าาาางงง มาใหม่อีกแล้ว เขียนมาอีกนะครับ เรื่องเกรียนๆ นี่ผมชอบอ่านนัก อย่าพึ่งโดนแบนซะก่อนล่ะ
รู้สึกดีจริงๆ ที่ไม่ได้ใช้ iPhone เพราะสุ่มเสี่ยงต่อการถูกมองเป็นคนแบบนั้นล่ะ คือคนส่วนใหญ่ที่ใช้เขาไม่ได้เป็นแบบนั้นหรอก แต่มีพวกจุดบอดมาทำให้ภาพลักษณ์ติดลบไปหมด
เลยไม่แปลกใจจริงๆ ที่มีข่าวทำนองนี้ออกมา http://www.blognone.com/news/17766 ถึงไม่ใช่ทุกคน แต่อย่างคอมเมนต์คุณคนนี้ก็พอจะเป็นตัวอย่างได้ว่า คนแบบนี้มีอยู่จริง !!
เป็นคนเดินดินกินข้าวแกงธรรมดา
ไม่ใช่ลูกเศรษฐีกินอยู่อย่างราชา
มาตรฐานความพอใจไม่สูงอย่างดารา
เอ๊ะนี่เราพอใจง่ายไปหรือเปล่าหว่า
โชคดีที่ไม่รวยเลยไม่ต้องกลุ้มใจ
กลัวเงินที่มีนี่อยู่มันจะหดหายไป
เสื้อยืดกางเกงยีนส์นี่มันก็ดีจะตาย
ไม่ต้องมานั่งเลือกว่าจะใส่อะไร...
วู๊วๆๆๆๆๆๆ
ไม่เห็นต้องว่ากันเลยครับ ใครชอบใช้อะไร ก็เป็นเหตุผลของคนนั้น จำเป็นหรือไม่จำเป็น ของแต่ละคนไม่เหมือนกันสักหน่อย จะว่ากันทำไม ไม่สร้างสรรค์เลยครับ
จ่าพิชิตได้แหล่งทำกินใหม่แล้ว 555+
จ่ามาหากินที่นี่จนเบื่อแล้วครับ