ประโยคต้นฉบับคือ
"They've chosen to keep their system closed and we'd rather work with partners who are interested in working with us.
สำหรับผู้อ่าน Blognone คงไม่ต้องอธิบายกันแล้วมั้งว่า 'they' กับ 'we' หมายถึงใครบ้าง?
Shantanu Narayen ซีอีโอของ Adobe ให้สัมภาษณ์กรณี Flash บน iPhone ว่า "ให้ลองวิเคราะห์เรื่องนี้ด้วยมุมมองเชิงธุรกิจ พฤติกรรม[ของแอปเปิล]แสดงให้เห็นว่าพวกเขาต้องการควบคุมทุกอย่าง"
เขาเปรียบเทียบว่า "บางบริษัทต้องการสร้างประสบการณ์รวมที่สมบูรณ์แบบ ต้องการควบคุมทุกอย่างเพื่อทำเงินจากมัน แต่ก็ยังมีอีกหลายบริษัทที่ต้องการสร้างระบบเปิด ซึ่งคุณคงเห็นได้ชัดว่านี่เป็นแนวทางที่ต่างกันของแอปเปิลและกูเกิล เราอยู่ข้างที่เปิดมากกว่า"
ส่วนประเด็นด้านเทคนิค เขาบอกว่า "แอปเปิลได้แถลงว่า Flash ไม่เหมาะกับมือถือ แต่ตอนนี้เราพิสูจน์ให้เห็นแล้ว [ผ่าน Flash 10.1] ว่ามันทำงานได้ แถมยังเสริมประสบการณ์ที่ดีขึ้นในการใช้มือถืออีกด้วย"
ตอนนี้ Adobe ทำข้อตกลงกับบริษัท 19 รายจากผู้ผลิตฮาร์ดแวร์มือถือ 20 อันดับแรก ในการพัฒนา Flash Player บนอุปกรณ์เหล่านี้ Narayen บอกว่า "สุดท้ายแล้ว ทุกคนจะเข้าใจว่านี่ไม่ใช่ประเด็นทางเทคนิคเลย"
Narayen เริ่มทำงานที่แรกกับแอปเปิล เขามาอยู่กับ Adobe ในปี 1998 และเป็นซีอีโอเมื่อปี 2007
ที่มา - Telegraph
Comments
สำหรับผู้อ่าน Blognone คงไม่ต้องอธิบายกันแล้วมั้งว่า 'they' กับ 'we' หมายถึงใครบ้าง?
Canonical VS. Adobe !!!
ผมว่าประตูฝั่งผู้บริโภคกับฝั่งบริษัทซอฟแวร์มันคนละบานกันมากกว่า ... คำว่าเปิดของผู้บริโภคอาจหมายถึงรั้วบ้านในฝั่งพวกเขา แต่คำว่าเปิดในฝั่งพวกเขาอาจจะหมายช่องเล็กๆในรูกุญแจแล้วผู้บริโภคก็หาทางไปแงะรู (crack) กันเอง
แอปเปิล มะละกอ ส้ม กล้วย
{$user} was not an Imposter
ส้ม กล้วย! ส้ม กล้วย! ส้ม กล้วย!
กล้วย! กล้วย! กล้วย!
-- ทฤษฎี ความแก่ ยิ่งแก่ยิ่งเหมือนน้ำเต็มแก้ว --
ที่ผมเคยร้องมัน กล้วย ส้ม นะ= ='
May the Force Close be with you. || @nuttyi
พูดได้ชัดเจนดี
อะนะ....
โอ้ย...สมัยนี้เค้าเลือกข้างกันทั้งนั้น ออกมาแถลงให้ชัดเลยก็ดี จะได้จบๆไป
ใครอยากใช้อะไรก็ใช้ไป ตลาดเป็นของผู้บริโภค จะมาทะเลาะกันทำไม
ใครจะอยู่ข้างศาสดาเผด็จการ หรือว่าน้องหุ่นเขียวตลาดเสรี
iPhone ออกขายปี 2007 แต่ Adobe จะพิสูจน์ว่า Flash บนมือถือมัน Work ในปี 2010 นี่นะ...
จะรอชม Flash บน Window Mobile 7 ว่าจะแจ่มแค่ไหน
จริงๆ เดิม Adobe เค้าก็อยากพิสูจน์ใน iPhone แต่ กล้วยส้ม -_-a (หมายถึง Apple นะ) เค้าไม่เป็นทางให้ อีกทั้งยังกีดกัน (เพราะเค้ามีหุ้นอยู่ HTML5 จะไปสนับสนุนคู่แข่งทำไม)
เค้ากีดกัน เพราะไม่ยอมให้มี flash app มาแข่ง ios app ใน app store
ส่วน HTML5 เป็นข้ออ้างเฉยๆ เค้ารู้ว่าพวก web มันยังไม่ rich experienced
พอที่จะมาแข่ง
รอดูกันต่อไป
Adobe ยังไม่ได้พิสูจน์ว่ามัน work เลย กี่ปีมาแล้วนี่
ลองดูแล้วจะรู้ครับ http://www.youtube.com/watch?v=Y0BMBiYEKVE
ไม่ได้ลงแล้วจะพิสูจน์ได้ยังไงอะครับ
อันไหนดีหรือไม่ดี ผมก็ใช้ทั้งคู่ ขี้เกียจเลือก
Flash บน android เป็นยังไงบ้างอ่ะครับ ถามคนใช้ android หน่อย
ปล. Flash บน unbuntu ผมนี่เจอ soccersuck ไปค้างเลย - -''
นั่นสิ ต้องถามคนใช้ว่าเป็นไงบ้าง
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
+1 บน UBUNTU hang บ่อยมากเมื่อเปิดผ่าน FIRE FOX
ผมไม่เคยเข้า soccersuck แต่เล่นเกมบน facebook ทุกวันก็โอเคดีนะครับ
lewcpe.com, @wasonliw
มองในแง่ของนักพัฒนาที่เป็นทีมเล็ก ๆ อาจจะสองหรือสามคนนี้ เหนื่อยเลยน่ะครับ เพราะจะเลือกหลายๆข้างมากนัก ก็ทำไม่ได้สะดวกเท่าไหร่ เพราะการทำ cross platform นั้นมันมี Cost เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเงิน, เวลา, Know How อีกล่ะ แล้วถ้าต้องทำ App for mobile ที่สนับสนุนทั้ง iOS, Android แถมถ้า MeeGo อีกล่ะ โอ็ยย โอ็ยย เลยล่ะครับ
ผมก้อเป็น Developer ของ iPhone อยู่เหมือนกันครับ ซึ่งยอมรับต้นทุนในการผลิตนั้นสูงกว่า Andrioid ครับเพราะถ้าคุณไม่ซื้อเครื่อง Mac มาก้อใช้ Xcode ไม่ได้ (เคยลองลง VMWare ใช้งานบน PC แล้วมันขัดใจจริงๆครับ) และต้องลงทุนในการซื้อเครื่อง Mac มาใช้ ยอมรับว่าการเรียนรู้นั้นค่อนข้างจะปรับตัวพอสมควรจาก C#, C/C++ OOP ที่ถนัด กลับต้องมาเรียน Objective-C ที่แตกต่างกันอยู่พอสมควรเลยครับ (ใครจะบอกว่าง่ายหรืออย่างไรไม่ทราบส่วนตัวผม ผมต้องปรับ Syntax ของภาษา ใหม่แทบจะทั้งหมดเลย) ส่วนAndroid นั้นใช้ JAVA เป็นแกนในการพัฒนาครับ! แน่นอนใครถนัดอยู่แล้วก้อสบายครับ ทำความเข้าใจ ชุด Android SDK และสถาปัตยกรรมของเค้าหรือ API ที่ Google ปล่อยออกมาก็ไม่น่ายากนักที่จะเรียนรู้
** ตรงนี้ผมออกจะตลกตรงที่ว่า Google ปล่อย SDK สำหรับ Mac OSX มาแต่ Apple ไม่เห็นมี Xcode for Windows หรือ Linux เลยอ๊ะ 555+ เรื่องนี้ถือว่าเป็นการปิดกันเห็นทาง EU กำลังฟ้องกันอยู่เลยว่า Apple ปิดกั้นไม่ให้คนอื่นเข้าถึงเลยประมาณนั้น ตอนนี้ Apple อาจจะเป็นประเภทเดียวกับ Microsoft สมัยที่รุ่งๆเลยก้อได้ (monopoly)
กลับมาที่การพัฒนาต่อครับน่ะครับ.. ตัว Android SDK เองนั้นเปิดกว้างให้นักพัฒนาแทบทุกสายพันธุ์เลยก็ว่าได้ แม้กระทั้งตัว OS เองก้อสามารถ run Flash ได้อีกจึงทำให้นักพัฒนา Flash นั้นยิ้มเลยล่ะครับเพราะอย่าลืมว่า App ประเภทเกมนั้น Flash มีมากมายครับบางตัวทำเงินได้เป็น ล้านๆ เหรียญเลย (เอาง่ายๆเกมบน Facebook นั้นแหละ) มันเป็นอีกเหตุผลนึงทื่ทำให้นักพัฒนาหลายๆค่ายต่าง หันไปพัฒนา App ให้กับ Android นั้นเอง ส่วน Apple นั้นก้อ ออกมาบอกว่า Flash นั้นไม่ดีพอสำหรับ iPhone ในหลายๆเรื่องทั้งความแม่นยำในการ Touch ทั้ง Security, Stable, และอื่นๆโดยยกให้ HTML5 เป็นอนาคตสำหรับนักพัฒนา Flash อีกต่างหาก อันนี้เองอาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งของ Flash Developer ที่มองว่าจะต้องเสีย cost ในโยก Platform ไปยัง iPhone อีกสู้ปรับๆให้เข้ากับ Android จะดีกว่าไหม
** สำหรับผมแล้วมองในแง่ของความรู้และความแปลกใหม่ในที่ได้รับจากการพัฒนา App บน Mac หรือ iPhone ครับเพราะมันแปลกและใหม่ครับ สนุกดี อาจจะเป็นเพราะอยู่กับ Windows Platform อยู่นาน [-__-'']
สำหรับผมมองตลาดผู้ใช้ App ใน iPhone แล้วตอนนั้นและตอนนี้ผมเชื่อว่าคนที่ยอมจ่าย เงินผ่าน AppStore นั้นยังมีสัดส่วนที่เยอะกว่า Android Market ครับ เนื่องจากสัดส่วนที่ AppStore สร้างไว้นั้นมีสูงจริงๆครับ ซึ่งแน่นอนไม่ช้าก้อเร็วสัดส่วนนี้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงในเร็ววันนี้ โดยที่เราไม่อาจคาดเดาได้ แต่เนื่องจาก Android OS เองนั้นเป็น Open Source ที่หลายๆค่ายมือถือเอาไปใช้เป็น Platform ใหม่สำหรับ Smart Phone ของตัวเองจึงทำให้น่าเชื่อว่า Android จะสามารถพัฒนาไปได้อีกหลายขุมกำลังเพราะมีค่ายมือถือต่างๆเข้าร่วมเยอะ ส่วน Apple นั้นเป็นกระบี่เดียวดายครับ คงไม่มีทางที่จะปล่อย iOS ของตนให้ Open Source แน่นอนครับไม่มีใครทุบหม้อข้าวตัวเองหรอกครับ~~ แต่ที่แน่ๆครับ Nokia ต่างหากที่กำลังปวดหัวแน่นอนครับเพราะมัวแต่ชะล้าใจใน Symbian OS ของตนเองว่าเป็นเจ้าตลาดอยู่~ ไม่รู้เมื่อไหร่จะยอมเปลี่ยนตัวเองไปใช้ Android เหมือน Samsung, Moto หรือค่ายอื่นๆที่หันหัวเรือไปทางนั้นกันซะหมดแล้ว~ Nokia ต้องยอมรับว่า Symbian OS ของตนนั้นไม่สามารถสู้กับตลาด Smart Phone (บนๆ) ในปัจจุบันที่ดุเดือด ดังในอดีตได้แล้ว~ (ขนาดตัว CEO ของ nokia ที่ออกไปแล้วยังออกมายอมรับเลยว่ามีปัญหา ไม่แน่ใจชื่ออะไรจำไม่ได้ เหอะๆ)
ทั้งนี้ทั้งนั้นผมว่าคนที่จะได้ประโยชน์ที่สุด คือ คนที่มองเห็นประโยชน์ของสิ่งที่เรามีแล้วนำไปสร้างสรรค์หรือต่อยอด แล้วจึงนำสิ่งที่ได้กลับและแบ่งบันให้กับสังคมบ้าง คนนั้นแหละครับน่ายกย่อง
ปล.01 ไม่อยากเห็นฝั่งไหนตีกันทะเลาะกัน อยากอ่านความคิดเห็นที่ช่วยกันสร้างสรรค์ครับ
ปล.02 comment นี้เอามาจาก manage.co.th ที่ผมไป post ไว้ (ผมหนีมาเพราะทะเลาะกันทำไม่ก้อไม่รู้ เราคนไทยไม่ได้อะไรเลยจากการทะเลาะกัน)
เขียนแฟลชไม่เป็น แต่ไม่ชอบ ตลาดปิด เกมส์เฟสบุ๊คก็ไม่ค่อยจะเล่น รอซักพักศึกษาแอนดรอยไปพลางๆ เดี๋ยวยังไงตลาดขายแอพบนด๋อยมันก็ต้องมาแหละ สำหรับแอนดรอย ผมว่าแอปเปิ้ลปิดแบบนี้เดี๋ยวมันจะต้องหลุดมาเป็นรองแอนดรอยเยอะแน่ๆ
ไปถามร้านขายมือถือตอนนี้ SSGS ขายดีมากๆ เห็นผู้หญิงใช้กันบ้างแล้ว ส่วนความเห็นคนที่ใช้ทั้ง 3GS พร้อม SSGS ก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าชอบ SSGS หมดทุกคนตรงที่ปรับแต่งได้เยอะกว่า หลายคนยังชอบมากกว่าด้วยซ้ำ
ขืนแอปเปิ้ล ปิดต่อไป ก็จะเจ็บเองแหละ เหตุที่คนใช้แอปเปิ้ลแล้วติด ก็เพราะหงุดหงิดความยุ่งยากของ WP หรือ Symbian ในการลงแอพ แล้วก็ความช้า แต่พอมี Android สเปคเทพๆออกมาเรื่อยๆ และที่สำคัญแต่ละบริษัทก็ไปโมให้มันใช้ง่ายขึ้น เพิ่มส่วนที่ไอโอเอสไม่มี ตัดส่วนที่ยุ่งยากทำให้และลบข้อเสียของไอโฟน ทำให้ android ทั้ง ง่าย ยืดหยุด ประสิทธิภาพสูง ในราคาที่ถูกกว่า
สรุป นอกจากเรื่องปริมาณแอพซึ่งมันจะทันกันในเวลาไ่ม่เกิน 2 ปี แน่ๆ ยังไงแอนดรอยน่าจะสดใสกว่า เพราะผู้ใช้สมาร์ทโฟน จะเปลี่ยนจากใช้อย่างเดียว มาเป็นเรียนรู้ที่จะปรับแต่งตามใจตัวเองมากขึ้น และ Adobe ตัดสินใจถูกแล้วที่ไม่มอง Apple แต่ไปเลือกจับมือกันไว้กับเจ้าของมือถืออีก 20 กว่าเจ้า ใครที่คิดว่าเป็นยักษ์จะยืนอยู่คนเดียว มันก็ล้มได้เหมือนกัน งานนี้มีความเป็นไปได้สองทาง ยอดขายแอพเปิ้ลไม่เิ่พิ่มจากเดิม แต่จะโดนแทะลูกค้าไปเรื่อยๆ กับอีกทางคือจะยอมอ่อนลงให้กับการเปิดกว้างมากขึ้น อาจจะไม่ใช่แค่เปิดให้ Adobe แต่อาจจะรวมถึงการพัฒนาจากแพลทฟอร์มอื่น หรือยอมให้แอพที่ซ้อนทัพกับแอปเปิ้ลได้ลงใน AppStore บ้าง
ตอนนี้ Apple คิดว่าตัวเองเป็นยักษ์เหมือนที่ อเมริกาเคยคิดว่าตัวเองเป็นพี่เบิ้ม ควบคุมได้ทุกอย่าง แต่ช่วงเวลานี้มันจะมาไวไปไวสำหรับ Apple แน่นอน หากยังไม่ยอมปรับตัวอยู่เช่นนี้
แล้วแต่จ๊อป
หมอนี่เป็นใคร บังอาจมาท้าทายศาสดา
รอดูห่างๆ ตีกันเสร็จก็ค่อยเข้าไปหยิงคว้ามา อาา .. สบายใจ ตีกันไปเห้อ อิอิ
adobe สู้ต่อไป
สิบเก้าบริษัทจากยี่สิบบริษัทชั้นนำ..... หายไปหนึ่ง ใครน้อออ
พิสูจน์ได้ว่าขนาดเล่น flash บน Notebook เสียงพัดลมยังหึ่งเลยครับ 555
+1
เป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้ hardware ให้คุ้มค่าครับ 5555
burn in..
May the Force Close be with you. || @nuttyi