Nikkei Electronics Asia ได้ลงบทสัมภาษณ์ Shantanu Narayen CEO ของ Adobe พูดคุยเกี่ยวกับ Flash ซึ่งรวมถึงกรณีพิพาทกับ Apple ซึ่งสอดคล้องกับ ข่าวเก่าจาก Telegraph จุดประสงค์ของ Open Screen Project ที่ใช้แนวคิดแบบเดียวกับ PDF ที่ได้มีการใช้งานอย่างแพร่หลายทั่วโลก จนไปถึงการมาของ HTML5 ว่าจะอยู่ร่วมกับ Flash ได้อย่างไร และบทบาทของเทคโนโลยี Flash ที่จะช่วยให้ E-book มีสีสันมากขึ้น
ที่มา - Nikkei Electronics Asia
Shantanu Narayen CEO ของ Adobe ได้ให้สัมภาษณ์ใน Nikkei Electronics Asia พูดถึง Flash และ E-book ไว้ดังนี้ครับ
กรณีพิพาทกับ Apple
Shantanu บอกว่าจะทำธุรกิจต่อไปกับคนที่ต้องการใช้ Flash ซึ่งทางบริษัทกำลังผลักดันให้ Flash สามารถใช้ได้หลายแพลตฟอร์มและหลายอุปกรณ์ ซึ่งมีบริษัทอีกเยอะมากที่ต้องการ Flash โดยสามารถดูได้จากรายชื่อบริษัทที่เป็นสมาชิกของ Open Screen Project ซึ่งเป็นโปรเจ็คที่ให้ไลเซนส์ฟรีสำหรับ Flash และ Adobe AIR
สำหรับ Apple ก็สามารถปิดกั้นการใช้ Flash ได้ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ทาง Adobe จะหยุดพัฒนาฟังก์ชั่นของ CS5 ที่สามารถสร้างไอโฟนแอพจาก Flash ได้ แน่นอนว่าคงจะมีหลายคนต้องรู้สึกแย่แน่ๆ แต่ทุกอย่างต้องดำเนินต่อไป (แน่นอนล่ะ ก็ใช้ Flash ไม่ได้แล้วนี่)
Open Screen Project
สำหรับ Open Screen Project นั้นมีจุดมุ่งหมายจะให้มีการใช้ Flash อย่างแพร่หลายดั่งเช่นที่ทำให้ PDF แพร่หลายไปทั่วโลกมาแล้ว โดยการให้ใช้ Flash Player และ AIR Runtime ได้ฟรีและหารายได้กับโปรแกรมที่ใช้สร้างสรรค์ผลงาน ซึ่งเหมือนกับแนวคิดของ Acrobat
HTML5 และ Flash
จะเรียกได้ว่า Adobe ไม่มีปัญหากับ HTML5 เลยก็ได้ครับ เพราะ Shantanu บอกว่า ถ้า HTML5 ดัง Adobe ก็จะได้เงินจากโปรแกรมทำเว็บอีกเยอะ ส่วน Flash ก็ไม่มีปัญหา เพราะ Flash ไม่ได้มีไว้แค่แสดงภาพเคลื่อนไหว วิดีโอ หรือเว็บแบบ interactive เท่านั้น เพราะมันสามารถเอาไปใช้ได้กับโฆษณา เกม หรือแม้แต่การแสดงภาพ 3 มิติ
E-book
ด้วยตลาด E-book ที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง Adobe เองก็มีโปรแกรมที่สนับสนุนในทุกช่วงของการสร้างผลงาน และยังมีบริการสำหรับการเอาเนื้อหาจากหนังสือออนไลน์ด้วย
เขาได้แนะนำให้ดูตัวอย่างของการใช้เทคโนโลยี Flash ใน Wired Magazine ซึ่งเขาได้ชูจุดที่แตกต่างจาก เทคโนโลยี E-book ของ Apple ซึ่งก็คือ การเข้าถึงเนื้อหาได้จากหลายอุปกรณ์ และจากการสำรวจที่แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้ต้องการรูปแบบของสื่อที่หลากหลายมากกว่านี้ ซึ่งจะทำให้อุปกรณ์ E-book ในยุดต่อไปจะมาในรูปแบบจอสี และแสดงภาพเคลื่อนไหวได้
แต่ถึงอย่างไรก็ตามรูปแบบต่างๆของ E-book (EPUB, PDF และ Flash) ก็จะอยู่คู่กันไป โดย Flash จะอยู่ในรูปแบบของมัลติมีเดีย และ EPUB กับ PDF ก็จะสามารถเอาไปใช้ในการเรียนการสอนได้
Comments
ผมว่าหัวข่าวมันยาวไปนิดนะครับ แต่ถ้าบีบไม่ลงแล้วก็ไม่มีปัญหาครับ
เปลี่ยนใหม่แล้วครับ ไม่แน่ใจว่าจะชัดเจนพอรึเปล่า
พิพาษ => พิพาท นะครับ
แก้แล้วครับ ขอบคุณครับ
อยากให้ คิดทะลุกรอบไปเลย เช่นทำ virtual OS platform
ต้องทำให้ end customer ใช้ง่ายที่สุด ทำระบบ UI ระบบ install/uninstall
ทำเป็น ก้อนเดียว virtual disk ไปเลยก็ได้ เพื่อความสะดวก
แล้วก็มี Flash store ขายพวก clip ,media, game
อาศัยด้านที่ตัวเองครองตลาดอยู่ เปิดตลาดขาย digital asset
ไปด้วยก็ยิ่งดี พวก ภาพ, photoshop, illus
ทำตัวเป็นตลาดนี่แหละดี
มีระบบ account ระบบ sync
อื่น ๆ ทำได้อีกมาก
virtual OS platform
-> JVM >> .NET
virtual disk
-> HTML5
Flash store
-> App Store ก็ขายแฟลช
ขอยืนยันจุดยืนว่า
ADOBE ใช้แพลทฟอร์มชาวบ้าน แล้วขายโปรแกรมสร้าง Asset แบบนี้ต่อไปก็ดีแล้ว
เอาทรัพยากร มาทำโปรแกรม 3D ให้ครบวงจร ไปเลยดีกว่า
ทำไม Macromedia ถึงโดน Adobe ซื้อกิจการไปครับ
มองกาลไกล
มองการณ์ไกลครับ กาล - ใช้กับพวกเวลาครับ เช่น กาลเวลา อดีตกาล
ทำไมบทสัมภาษณ์หลังๆ มานี่เหมือนตัดพ้อ น้อยใจ?