บทความนี้เป็นบทความแปลโดยตรงจากโครงการ Intel Atom Developer โดยได้รับการสนับสนุนจากอินเทลครับ
ตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา อินเทลเปิดตัวหน้าร้าน AppUp Center รุ่นเบต้า ในช่วงเบต้า AppUp เป็นที่รู้จักว่ามันเป็นหน้าร้านขายซอฟต์แวร์ที่รองรับซอฟต์แวร์ภาษา C/C++ เป็นหลัก อย่างไรก็ตามความเข้าใจนี้ไม่ได้ให้คุณค่าของ AppUp อย่างถูกต้องนัก บทความนี้จะเป็นการแนะนำเบื้องหน้าและเบื้องหลักว่าคุณสามารถคาดหวังอะไรจาก AppUp ได้บ้าง
หน้าร้านขายแอพลิเคชั่นจำนวนมากที่เกิดขึ้นเร็วๆ เป็นปรากฏการณ์ที่สำคัญมาก สมารท์โฟนนั้นเป็นอุปกรณ์รูปแบบใหม่ที่ต้องการบริการหน้าร้านเพื่อกระจายแอ พลิเคชั่นให้นักพัฒนาที่ต้องการขายและผู้ซื้อที่ต้องการซื้อแอพลิเคชั่น เหล่านั้น ช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีอยู่ในทุกวันนี้ไม่เหมาะกับแอพลิเคชั่นเหล่านี้ โทรศัพท์ต้องการช่องซื้อขายเพียงทางเดียวเพื่อความสะดวกในการค้นหาและซื้อขายแอพลิเคชั่น ด้วยโมเดลของหน้าร้านขายแอพลิเคชั่นนี้ คุณจะสามารถหาแอพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์ของคุณได้ทุกที่ทุกเวลา คุณไม่ต้องตามหาแอพลิเคชั่นจากเว็บไซต์จำนวนมาก, ติดตั้งซอฟต์แวร์ด้วยตัวติดตั้งสารพัดแบบ, อ่านรีวิวที่ไม่เป็นมาตรฐานเดียวกัน, และมีช่องทางจ่ายเงินที่ต่างกันออกไป หน้าร้านขายแอพลิเคชั่นเหล่านี้จะมีมาตรฐานสำหรับกิจกรรมที่จำเป็น เช่น การกระจายแอพลิเคชั่น, ค้นหา, ให้คะแนน, จ่ายเงิน, และติดตั้ง ซึ่งจะทำให้ผู้ซื้อเข้าซื้อได้ง่าย และนักพัฒนาสามารถขายแอพลิเคชั่นได้ง่าย
อย่างไรก็ตาม ตลาดนี้กำลังพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง อุปกรณ์รูปแบบใหม่ๆ จะมาในรูปร่างหน้าตาที่ต่างออกไปจากเดิม การแยกหน้าร้านตามจำนวนผู้ผลิต, ผู้ให้บริการเครือข่าย, หรือแยกตามจำนวนอุปกรณ์จะทำให้เกิดการกระจาย น่าสนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเราสามารถลงแอพลิเคชั่นลงในโทรทัศน์, เน็ตบุ๊ก, แท็บเล็ต, และอุปกรณ์ฉลาดอื่นๆ นอกเหลือจากสมาร์ทโฟน เราต้องทำอย่างไรจึงจะหาแอพลิเคชั่นมาลงในอุปกรณ์ได้เหมือนอย่างที่เราทำได้ ในโทรศัพท์ และถ้าเราเคยซื้อแอพลิเคชั่นบางตัวบนพีซีหรือโทรทัศน์แบบสมาร์ท แล้วตอนนี้เราอยู่นอกบ้าน กำลังทำงานผ่านเน็ตบุ๊ก แล้วเราต้องการใช้งานแอพลิเคชั่นเหล่านั้น จะเป็นอย่างไร? และถ้าคุณเป็นนักพัฒนาที่สร้างชิ้นส่วนของแอพลิเคชั่นที่ช่วยให้นักพัฒนา อื่นๆ สามารถพัฒนาแอพลิเคชั่นได้ง่ายขึ้น จะเป็นอย่างไรถ้าคุณสามารถส่งชิ้นส่วนเหล่านั้นไปยังหน้าร้านเพื่อขายให้นัก พัฒนาอื่นๆ
ตอนนี้สิ่งที่ขาดไปคือรูปแบบที่จะช่วยให้นักพัฒนาสามารถ นำแอพลิเคชั่นหรือคอมโปเนนท์เข้าไปยังหน้าร้านที่รองรับอุปกรณ์ได้หลากหลาย รูปแบบ, เข้ากันได้กับผู้ให้บริการทุกราย, และยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถใช้งานแอพลิเคชั่นที่เคยซื้อไปแล้วบนอุปกรณ์ อื่นๆ
AppUp เข้ามาตอบปัญหาเหล่านี้ AppUp เป็นหน้าร้านที่เปิดโอกาสให้นักพัฒนาสามารถส่งแอพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์ หลากหลายรูปแบบและหลายระบบปฎิบัติการ ผู้ซื้อจะสามารถติดตั้งโปรแกรมไคลเอนต์ AppUp บนหลายๆ รายการของแอพลิเคชั่นที่เคยซื้อไปแล้วบนเครื่องอื่นๆ จะสามารถใช้งานได้เมื่อผู้ใช้เปลี่ยนเครืองหรืออุปกรณ์
ด้วย AppUp คุณจะได้ประโยชน์ที่เคยได้จาก AppStore ของ Apple แต่จะสามารถเข้าถึงผู้ให้บริการหลายเจ้าและอุปกรณ์ที่หลากหลายกว่า
AppUp ต้องการจุดเริ่มต้นในบางที่ก่อนจะไปถึงจุดหมาย เนื่องจากเน็ตบุ๊กของอินเทลนั้นอยู่ในตลาดขนาดใหญ่ ขณะที่มันขาดแอพลิเคชั่นที่เหมาะสม ในปี 2009 ปีเดียวเน็ตบุ๊กมียอดขาย 40 ล้านเครื่อง มากกว่า iPhone งานวิจัยคาดว่าจะมีเน็ตบุ๊กในตลาดถึง 140 ล้านเครื่องในปี 2014 แปดเดือนที่ผ่านมาของช่วงเบต้าของ AppUp โครงการนี้มีแอพลิเคชั่นในโครงการแล้วกว่า 700 แอพลิเคชั่น หน้าร้าน AppUp จะอนุญาตให้ผู้ซื้อสามารถติดตั้งแอพลิเคชั่นได้บนเน็ตบุ๊ก 5 เครื่องต่อ 1 ชื่อผู้ใช้ ดั่งนั้นเน็ตบุ๊กทั้งหมดที่ล็อกอินด้วยชื่อเดียวกันจะสามารถเข้าถึงแอ พลิเคชั่นทั้งหมด
สำหรับการพัฒนา อินเทลเริ่มต้นด้วยการรองรับภาษา C/C++ และวินโดวส์ในช่วงเริ่มต้น และจะมีการกระจายที่กว้างขึ้นหลังจากนี้ ตัว SDK ในรุ่นเบต้านั้นยังเล็กและเน้นในส่วนของการติดตั้งและตรวจสอบสิทธิ์ในการ ใช้งานซอฟต์แวร์ เพื่อจะแน่ใจได้ว่าแอพลิเคชั่นที่มีการรันขึ้นมานั้นถูกซื้อมาอย่างถูกต้อง และใช้งานบนเครื่องที่ได้รับอนุญาตหรือไม่
นอกเหนือไปจากนั้นแล้ว อินเทลยังตระหนักถึงบริการและชิ้นส่วนของซอฟต์แวร์ที่จะช่วยให้นักพัฒนา สร้างและขายแอพลิเคชั่นได้เร็วขึ้น ในรุ่นเบต้านี้จึงมีการรองรับทั้งบริการและชิ้นส่วนซอฟต์แวร์ในหน้าร้านนี้ ด้วย การเปิดกว้างให้กับบริการและชิ้นส่วนซอฟต์แวร์เช่นนี้เริ่มส่งผลที่ชัดเจน ให้กับอินเทลและนักพัฒนาบ้างแล้ว ที่วันที่เราได้เห็นโซลูชันที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถพัฒนาได้อย่างหลากหลาย กว่าที่ตัว SDK เองเปิดไว้
นอกจาก C/C++ แล้วอินเทลเพิ่งเปิดตัว runtime ของ Adobe AIR และเร็ว ๆ นี้เราจะมี SDK สำหรับ .NET, Silverlight, และ Java สำหรับการพัฒนาบน AppUp ในอนาคต
อย่างไรก็ตามภาษาเขียนโปรแกรมเหล่านี้ไม่ได้เป็นเงื่อนไขสำหรับการพัฒนา แอพลิเคชั่นบน AppUp นักพัฒนาสามารถใช้ Wrapper เพื่อนำ SDK ไปใช้งานในภาษาใดๆ ก็ได้ที่วินโดวส์รองรับ แม้แอพลิเคชั่นของคุณจะไม่ได้พัฒนาในภาษาที่ SDK สนับสนุนโดยตรงคุณก็ยังสามารถพัฒนาผ่านทาง Wrapper ที่มีได้ โดยตัวแอพลิเคชั่นของคุณจะทำงานบนแพลตฟอร์มเดิมต่อไป การที่ AppUp เปิดให้นักพัฒนามีทางเลือกอย่างอิสระนี้เป็นหัวใจสำคัญของมัน คุณสามารถพัฒนาแอพลิเคชั่นด้วยเครื่องมือที่คุณชอบ หรือที่เหมาะกับแอพลิเคชั่นที่คุณกำลังพัฒนา
ในตอนนี้ AppUp ใช้งานได้บน Windows และ Moblin เพราะเป็นการตั้งเป้าหมายไว้ที่เน็ตบุ๊กเป็นหลัก เมื่ออินเทลรองรับ AppUp บนอุปกรณ์ชนิดอื่นๆ ระบบปฎิบัติการที่รองรับก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย MeeGo เป็นระบบปฎิบัติการเต็มรูปแบบที่รองรับทั้งเน็ตบุ๊ก, สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, โทรทัศน์, และอุปกรณ์อื่นๆ MeeGo คือส่วนที่ดีที่สุดของ Moblin และ Maemo จากโนเกียและอินเทล MeeGo รุ่นเน็ตบุ๊กได้เปิดตัวมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เราคาดว่ารุ่นสำหรับโทรศัพท์และแท็บเล็ตจะออกมาในเดือนตุลาคมนี้ การพัฒนากำลังเป็นไปอย่างรวดเร็ว และเราคาดว่า AppUp จะตามตามไปทุกที่ที่อุปกรณ์เหล่านี้เกิดขึ้น
ในช่วงเริ่มแรกนี้หน้า ร้านของ AppUp Center รุ่นเบต้าจะเป็นชื่อของอินเทล อย่างไรก็ตามรูปแบบการติดตั้งจริงจะเป็นไปตามความต้องการของผู้ให้บริการและ ผู้ผลิตที่นำ AppUp Center ไปติดตั้ง โดยอาจจะมีการลบแบรนด์ออกหรือเปลี่ยนแบรนด์เป็นของบริษัทที่นำไปติดตั้งเอง แม้อินเทลต้องการเปิดเผยแผนการเหล่านี้แต่่เนื่องจากเราต้องเคารพความ สัมพันธ์ของเรากับคู่ค้า ในตอนนี้แผนการเหล่านี้จึงยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ดังนั้นขอให้คุณติดตามข้อมูลว่าคุณจะพบกับ AppUp Center ได้ที่ใดอีกบ้าง
เรื่องที่พูดมาทั้งหมดจะไม่มีความหมาย หากนักพัฒนาไม่สามารถสร้างไร้ได้จากแอพลิเคชั่นได้จริง เนื่องจากเรายังอยู่ในสถานะเบต้า คงยังเร็วเกินไปที่จะบอกได้ว่า AppUp ช่วยนักพัฒนาสร้างรายได้ได้ดีแค่ไหน แต่อย่างที่พูดไปก่อนหน้านี้ เรากำลังอยู่ระหว่างการขยายช่องทางและอุปกรณ์ที่จะใช้งาน AppUp เราเชื่อว่า AppUp จะขยายศักยภาพในการสร้างรายได้ให้กับแอพลิเคชั่นต่างๆ ได้ เรายังเชื่อว่าจะมีโอกาสสำหรับนักพัฒนาที่พัฒนาส่วนช่วยเหลือนักพัฒนาอื่นๆ ให้สามารถสร้างและขายแอพลิเคชั่นได้ เราได้พบนักพัฒนาบางคนสามารถขยายโอกาสไปเกินกว่าธุรกิจปรกติของพวกเขาด้วย การขายส่วนของซอฟต์แวร์ให้กับนักพัฒนารายอื่นๆ ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับนักพัฒนาอาจจะเป็นการพิจาณา AppUp ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นนี้ขณะที่ AppUp กำลังพัฒนาออกไปจากสถานะเบต้า นักพัฒนาที่ส่งแอพลิเคชั่น, บริการหลัก, และชิ้นส่วนที่สำคัญ ตั้งแต่แรกๆ จะมีความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จสูงในอนาคตข้างหน้า
ผมตระหนักว่าได้พูดถึงด้านดี AppUp มามากแล้ว อย่างไรก็ตามผมเป็นพนักงานของอินเทลและทำงานบนโครงการนี้โดยตรง ในฐานะผู้จัดการชุมชนผมควรรับฟังคนอื่นๆ ว่าพวกเขาคิดอย่างไรบ้างกับ AppUp และนี่เป็นความเห็นบางส่วนจากนักพัฒนาที่พัฒนาบน AppUp คำถามสำหรับนักพัฒนาเหล่านี้มีเพียง "ทำไมต้อง AppUp?" คุณเองก็สามารถแสดงความเห็นได้ว่า "ทำไมต้อง AppUp?" โดยแสดงความเห็นเอาไว้หรือลิงก์ไปยังหน้า YouTube ของคุณ
หมายเหตุ : แม้ว่านักพัฒนาเหล่านี้ไม่ได้รับเงินเพื่อให้แสดงความเห็นเกี่ยวกับ AppUp แต่ Kasprzak และ Lee Bamber เป็นนักพัฒนาที่ได้รับรางวัลจาก Atom Developer Challenge ส่วน Chris Skaggs เป็นพนักงานของ Code Monkey ที่อินเทลว่าจ้างให้พอร์ตแอพลิเคชั่นมายัง AppUp
ข่าวและบทความหมวด - Intel AppUp Center ได้รับการสนับสนุนจากอินเทล เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการ Intel Atom Developer Program ให้กับนักพัฒนาในประเทศไทย
Comments
หากนักพัฒนาไม่สามารถสร้างไร้ได้จากแอพลิเคชั่นได้จริง
น่าจะเป็น รายได้ ใช่ปะครับ
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB