มหากาพย์ iPhone 4 ยังไม่จบง่ายๆ หลังจากที่ สมาคมผู้บริโภคสหรัฐยืนยันปัญหาสัญญาณ iPhone 4 และไม่แนะนำให้ซื้อ และหลังจากแอปเปิลแถลงข่าว [ยอมรับ|ไม่ยอมรับ]ปัญหา ทาง Consumer Reports ก็ยังคง "ไม่แนะนำ" ให้ซื้อ iPhone 4 อยู่ดี
เวลาผ่านไปอีกหลายเดือน แอปเปิลยุติการแจกกรอบยางให้กับผู้ใช้ iPhone 4 ในวันที่ 30 กันยายนนี้ Consumer Report ได้ออกมาวิจารณ์แอปเปิลอีกครั้ง ว่าผู้บริโภคมีสิทธิลดลง เพราะหลังจากวันที่ 30 กันยายน ผู้ใช้จะต้องยื่นเรื่องขอกรอบไปยังแอปเปิล และจำนวนกรอบที่มีให้เลือก 7 แบบ ลดลงมาเหลือกรอบของแอปเปิลเพียงอย่างเดียว
Consumer Report ยังยืนยันคำเดิมว่ากรอบยางของ iPhone 4 ใช้แก้ปัญหาได้ แต่ "การผลักภาระให้ผู้บริโภคต้องหาทางแก้ปัญหาที่เกิดจากการออกแบบ เป็นสิ่งที่รับไม่ได้" และยังยืนยันว่า "ไม่แนะนำ" ให้ซื้อ iPhone 4 เช่นเดิม
ที่มา - Consumer Report, Business Insider
Comments
ยังไงๆ ของเค้าก็ขายได้ครับ
Ho
ก็ยังอยากได้ มาทับกระดาษ อยู่ดี ^^
ต่างคนต่างทำหน้าที่กันไป สมบูรณ์แบบบ้าง ไม่สมบูรณืแบบบ้าง
แต่สุดท้ายแล้วผู้บริโภคเองที่เป็นผู้ตัดสินว่า รับได้หรือไม่ได้
รับได้ ของสิงนั้นก็จะกลายเป็นของที่ถูกต้อง และยังคงอยู่ต่อไป
รับไม่ได้ ของสิงนั้นก็จะกลายเป็นของที่ไม่ถูกต้อง และหลุดไปจากการเกื้อหนุน
นี่ต่างหากครับ คือการตลาดที่เป็นจริง มันอยู่ที่ความต้องการของตลาด ไม่ได้อยู่ที่ความสมบูรณ์แบบของผลิตภัณฑ์
งั้นก็หน้าที่เค้าถูกแล้วครับ ที่เป็นเสียงหนึ่งให้ได้ยิน (เสียงดังด้วยที่โ่น่น) ว่ามันพลาดตั้งแต่ในขั้นตอนการออกแบบกันเลยทีเดียว
เป็นหน้าที่ของผู้ซื้อว่า รับฟังทั้งหมด ทั้งข้อดี ข้อด้อย แล้วมาดูว่ามันเหมาะกับการใช้ประโยชน์ตัวเองหรือไม่ เหมาะกับจริตตัวเองหรือเปล่า ก่อนที่จะจ่ายเงินสองหมื่นลงไป ไม่มีใครเอาปืนมาจี้หัวบังคับให้ซื้อครับ
และเมื่อเลือกแล้วก็ต้องอยู่กับสิ่งที่มันเป็น จนกว่าจะถึงคราวจากลากันไป
+1
คุณพูดเหมือนผมต่อว่า Consumer Report 555 ผมบอกแล้วว่าต่างคนต่างทำหน้าที่กันไป
ซึ่งนั้นหมายความว่า Consumer Report ก็ได้ทำหน้าที่อย่างถูกต้อง และสมบูรณ์แล้ว
ในขณะที่ apple ก็ทำตามหน้าที่ของตนที่จะออกผลิตซึ่ง(มันก็มีข้อเสียจริงๆ)แต่ apple พอใจกับผลงานตัวเองนั้นก็
หมายความว่า apple คิดว่าตนเองได้ทำหน้าที่สมบูรณ์แล้ว
ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้บริโภค เพราะปัญหาบางปัญหา
หลายคนก็คิดว่าถือปัญหา เลือกที่จะไม่ซื้อ ซื้อก็เสียตังฟรีๆ ^^
หรือหลายคนก็คิดว่าไม่ถือปัญหา เพราะปัญหานั้นไม่เกิดกับเครื่องเขาเหล่านั้น
หรือหลายคนคิดว่าไม่เป็นปัญหา เพราะหลับหูหลับตายอมรับข้อด้วย
สุดท้ายแล้ว ผู้บริโภคก็ตัดสิน ซึ่งผู้บริโภคก็ทำหน้าที่สมบูรณ์เช่นกัน
ปล. ขอเน้นยำ้ครับว่าผมไม่ได้ว่าพ่ายใดเลย เพราะต่างคนต่างทำหน้าที่เหมาะสม
และผมก็ขอ คอมเม้นตามผู้ก่อตั้งเว็บที่พลักดันให้ทุกคอมเม้น เป็นไปในแง่ 0 เป็น+1 เพื่อเชิงสร้างสรรค์ เพราะผมเกลียดการแบ่งพ่าย และไม่ควรกล่าวหาว่าพ่ายตรงข้ามตัวเองสิ้นคิดหรือโง่ เพราะนั่นคือความชอบและรสนิยม ^^
เพราะผมเกลียดการแบ่งพ่าย
ฝ่ายรึเปล่า พ กับ ฝ อยู่ห่างกันพอควรนะ
พาย + ฝ่าย = พ่าย = ไพ่..
แบ่งไพ่?
คุณพูดเหมือนผมต่อว่า Consumer Report 555 ผมบอกแล้วว่าต่างคนต่างทำหน้าที่กันไป
ซึ่งนั้นหมายความว่า Consumer Report ก็ได้ทำหน้าที่อย่างถูกต้อง และสมบูรณ์แล้ว
ในขณะที่ apple ก็ทำตามหน้าที่ของตนที่จะออกผลิตซึ่ง(มันก็มีข้อเสียจริงๆ)แต่ apple พอใจกับผลงานตัวเองนั้นก็
หมายความว่า apple คิดว่าตนเองได้ทำหน้าที่สมบูรณ์แล้ว
ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้บริโภค เพราะปัญหาบางปัญหา
หลายคนก็คิดว่าถือปัญหา เลือกที่จะไม่ซื้อ ซื้อก็เสียตังฟรีๆ ^^
หรือหลายคนก็คิดว่าไม่ถือเป็นปัญหา เพราะปัญหานั้นไม่เกิดกับเครื่องเขาเหล่านั้น
หรือหลายคนคิดว่าไม่เป็นปัญหา เพราะหลับหูหลับตายอมรับข้อด้วย
สุดท้ายแล้ว ผู้บริโภคก็ตัดสิน ซึ่งผู้บริโภคก็ทำหน้าที่สมบูรณ์เช่นกัน
ปล. ขอเน้นยำ้ครับว่าผมไม่ได้ว่าฝ่ายใดเลย เพราะต่างคนต่างทำหน้าที่เหมาะสม
และผมก็ขอ คอมเม้นตามผู้ก่อตั้งเว็บที่พลักดันให้ทุกคอมเม้น เป็นไปในแง่ 0 เป็น+1 เพื่อเชิงสร้างสรรค์
ขอให้อย่าตีความว่าผมอยู่ฝ่ายใด เพราะผมเกลียดการแบ่งฝ่าย และไม่ควรกล่าวหาว่าฝ่ายตรงข้ามตัวเองสิ้นคิดหรือโง่ เพราะนั่นคือความชอบและรสนิยม ^^
เห็นด้วยครับว่าผู้บริโภคเป็นคนตัดสินใจเองว่ารับได้หรือไม่ได้ แต่มีข้อมูลมาช่วยในการตัดสินใจมันก็ดีกว่าไม่มีเลยแต่ในทางกลับกันมันก็เป็นผลดีอีกทางหนึ่งสำหรับ Apple เพราะลูกค้าจะได้รับทราบข้อมูลในระดับหนึ่งแล้วถึงปัญหาต่างๆ ของ iPhone 4 หากลูกค้าคนนั้นยังมีความต้องการซื้อไปใช้อีกก็เท่ากับยอมรับในปัญหาของมัน แสดงว่าลูกค้ามีความต้องการใช้ iPhone 4 มากกว่าที่จะไปสนใจเกี่ยวกับปัญหาของมัน หากปัญหาของ iPhon 4 เกิดขึ้นกับลูกค้ารายนั้นจริงๆ ทาง Apple ก็ไม่ต้องมาเสียเวลาอธิบายเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นให้ลูกค้ารายนั้นรับฟังอีก เพราะลูกค้ารู้ถึงปัญหาและวิธีแก้ปัญหาที่มีข้อมูลออกมาออกมามากมาย โดยทาง Apple เองไม่ต้องมาเสียเวลาอธิบายอะไรเลย แค่ให้เวลาแก้ไขปัญหาของมันเองและ Apple ก็คอยสอดแทรกในจุดที่พอจะบรรเทาปัญหาได้..แต่วิธีนี้ก็ไม่สามารถที่จะใช้ได้กับทุกกรณีแต่ที่ Apple ทำได้เพราะฐานลูกค้าที่ชื่นชอบในสินค้า Apple (บางคนใช้คำว่า “สาวก” ) ที่มีความเหนียวแน่นมากๆ ก็ดูตัวอย่างที่ชัดเจนเช่นคอมพิวเตอร์ Macintosh ออกมาแต่ละรุ่นความสามารถของเครื่องก็ไม่ได้ต่างไปจาก PC เลย มีหลายๆ รุ่นที่ PC เหนือกว่าด้วยซ้ำไป และราคาก็ถูกกว่า Macintosh มาก แต่ Mac ก็ยังขายได้ อย่างน้อยก็ลูกค้าที่จงรักภักดีต่อแบรนด์ Apple แม้ว่าที่ผ่านๆ มายอดขายก็ไม่เคยกระทบทางฝั่ง PC ซะด้วยซ้ำ นี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่สินค้า Apple ยังคงอยู่ได้จนถึงวันนี้ และที่สำคัญอีกเรื่องคือ Design ที่หลายครั้งได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบของสินค้า IT ไปเลย คิดว่าคงจะพอทราบๆ กันอยู่แล้วว่ามีอะไรบ้าง...
คิดเอง
ตัดสินใจเอง
ถูกก็ถูกเอง
ผิดก็ผิดเอง
สบายใจกว่าเยอะ
ความชอบของเราเองคงให้คนอื่นมาร่วมตัดสินใจคงจะไม่ดีแน่...คิดถูกหรือคิดผิด เราควรเป็นคนเลือกเองเพราะถ้าให้คนอื่นช่วยตัดสินใจหากตัดสินใจถูกต้องก็มีความสุขกันไป แต่ถ้าผิดขึ้นมาล่ะ ใครจะรับผิดชอบความรู้สึกตรงนี้...
อยากได้กะปิดันหยิบน้ำปลามาให้ =_=
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
อยากรู้จังว่าในหน่วยงานนี้มีคนใช้ iPhone 4 ไหม?
ผมรับได้ครับ
ซื้อมาใช้แล้ว
We disagree, this is the greatest phone.
Sent from my shuffle.
ก็ตัวเลือกอื่นมันไม่มีที่ใกล้เคียงอ่ะ
Galaxy S ก็ยังไม่ถึงขั้นคู่แข่งตัวจริง แล้วจะมีตัวไหนบ้างในตลาดมองไม่เห็นเลย
แล้วยังไง?
ตรง "[ยอมรับ|ไม่ยอมรับ]ปัญหา" นี่กะเล่นมุกหรือเปล่าครับ ^__^
Honestly, iPhone 4 users feel a little jealous about my GREATEST SAMOLED Galaxy S screen and lite-weight it has.
So, yeah.
ผมใช้ Galaxy S อยู่ แต่ตอนนี้อยากได้ iPhone 4 มากกว่าครับ
ผมเองก็ไม่แนะนำให้ซื้อครับ!!!
เพราะมันแพง!!
ชอบความเห็นบนๆครับ เรื่องผู้บริโภคเป็นผู้ตัดสิน :)
และก็ยังคงให้คะแนนเป็นมือถือที่ดีที่สุดในตลาดอยู่เหมือนเดิม .. งง
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
อาจารย์ผมเคยมีกฏการให้เกรดแนวๆ นี้นะ คะแนนมี 4 section เท่าๆ กันเกรดคิดจากคะแนนรวม แต่ห้ามคะแนนใน section ใดๆ ต่ำกว่า lower bound ไม่งั้น F ทันที
lewcpe.com, @wasonliw
เหมือนรีวิวของ IGN ไงครับ ที่คะแนนสุดท้ายไม่ได้มาจากคะแนนเฉลี่ย
อธิบายได้ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคครับ ผู้บริโภคบางส่วนใช้ปัจจัยบางประการเป็นหลักในการตัดสินใจซื้อ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลกระทบต่อกฎเกณฑ์สำหรับการแข่งขัน
เอาน่าๆ
ใครใคร่ใช้ก็ใช้
ใครไม่ใคร่ใช้ก็รอ iPhone 5 ไปละกัน... เอิ้กๆ (ล้อเล่นน๊า อย่าคิดมากๆ)
ขนาด HTC Legend ของผม multitouch ยังเอ๋อๆ ผมก็รักมันน๊ะ อิอิ