สตีฟ จ็อบส์ตอบอีเมลอีกแล้ว คราวนี้คู่สนทนาเป็นนักศึกษาสาววัย 22 ปีชื่อ Chelsea Kate Isaacs
เรื่องมีอยู่ว่า Chelsea เป็นนักศึกษาวิชานิเทศศาสตร์ และต้องทำการบ้านให้เขียนข่าวมหาวิทยาลัย Long Island University ที่ศึกษาอยู่ กำลังจะสั่งซื้อ iPad ให้กับนักศึกษาใหม่ทุกคน เธอคิดว่าในข่าวควรมีความเห็นจากแอปเปิลด้วย จึงติดต่อไปยังฝ่ายประชาสัมพันธ์ของแอปเปิล แต่โทรไปฝากข้อความ 6 ครั้งกลับไม่สามารถติดต่อใครสักคนในแอปเปิลได้เลย
เพื่อนของเธอแนะนำไอเดียแบบขำๆ ว่าให้เมลไปหาสตีฟ จ็อบส์สิ เธอเห็นด้วยจึงเขียนอีเมลไปแบบละเอียด ตัวเธอเองไม่ได้หวังอะไรแต่จ็อบส์กลับตอบมาเสียอย่างนั้น!
ข้อความค่อนข้างยาว แถมมีตอบกลับไป-มาหลายรอบ ผมไม่แปลละกันนะครับ
เมลจาก Chelsea
Mr. Jobs, I humbly ask why Apple is so wonderfully attentive to the needs of students, whether it be with the latest, greatest invention or the company's helpful customer service line, and yet, ironically, the Media Relations Department fails to answer any of my questions which are, as I have repeatedly told them, essential to my academic performance."
เมลตอบจากจ็อบส์
Our goals do not include helping you get a good grade. Sorry
เมลตอบจาก Chelsea
I never said that your goal should be to "help me get a good grade." Rather, I politely asked why your media relations team does not respond to emails, which consequently, decreases my chances of getting a good grade. But, forget about my individual situation; what about common courtesy, in general —- if you get a message from a client or customer, as an employee, isn't it your job to return the call? That's what I always thought. But I guess that's not one of your goals.
เมลตอบจากจ็อบส์
Nope. We have over 300 million users and we can't respond to their requests unless they involve a problem of some kind. Sorry.
เมลตอบจาก Chelsea
You're absolutely right, and I do meet your criteria for being a customer who deserves a response: 1. I AM one of your 300 million users. 2. I DO have a problem; I need answers that only Apple Media Relations can answer. Now, can they kindly respond to my request (my polite and friendly voice can be heard in the first 5 or 10 messages in their inbox). Please, I am on deadline.
เมลตอบสุดท้ายจากจ็อบส์
Please leave us alone.
Chelsea โกรธมาก เธอให้สัมภาษณ์ว่าไม่เคยคิดว่าผู้บริหารบริษัทคนไหน จะพูดกับลูกค้าแบบนี้
แน่นอนว่ามีโอกาสที่อีเมลของ Chelsea จะปลอมนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน อีเมลฉบับเต็มดูได้จากที่มา
ที่มา - Gawker
Comments
+1
ถ้าของจริงนี่ดราม่าสุดๆ
แต่ถ้าของปลอม ก็ดราม่าสุดๆเช่นกัน - -"
ปลอมรึเปล่าไม่รู้ แต่ชอบ ^ ^ โหดดี
Job ตอบเมล์ก็แปลกแล้ว นี้มีตอบกลับด้วย
Emails from Steve Jobs
ใช่สาวกมะม่วงตัวจริงหรือเปล่าเนี่ย = =?
วิธีตอบนี่ ใกล้เคียงศาสดามาก จบใจความในประโยคเดียว
แต่ถ้าศาสดาเกรียนมหาเมพขนาดนี้ก็.....
แรกๆ ก็ตอบดีแล้วนะ แต่ตื้อไม่เลิกในเรื่องไม่เกี่ยวกับ service ปกติ ตัดบทเลย
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
สาวกรึเปล่าท่าน? ^^
ในอีเมลฉบับเต็มมีรายละเอียดว่า Chelsea ใช้บีบีส่งเมลล์
แล้วก็มีคนมาคอมเมนต์ว่า นี่ไงปัญหา ฮาๆ
นั่นสินะ 555+
+1
แนวจริงๆ
อยากรู้ศาสดา อยู่กับผู้คนได้มั้ยในชีวิตจริง
ลองอ่านประวัติเค้าดูสิครับ จากหนังสือผมขอตอบว่า "ลำบาก"
ถ้าของจริงก็>>> หยิ่งชิบหาย
ถ้าหยิ่งแล้วดัง รวย มีสาวกเยอะๆ แบบนี้ก็ไม่เลวนะครับ
ผมกลับมองว่าแบบนี้มัน "เลว" น่ะสิ - -'
ถ้าเมลที่ว่านี้เป็นเรื่องจริงนะ
Ton-Or
นักศึกษาสาววัย 22 ปี... เออ เข้าใจว่าตอนเมล์ส่งไปบอก คงไม่ได้ใส่คุณสมบัติพื้นฐานเรื่องนี้ไว้ด้วย ผู้บริหารงานยุ่งก็คงจะรำคาญเมลนะครับ แต่ถ้าปิดท้ายเมล์นิดนึงด้วย คุณสมบัติและภาพถ่าย อาจทำให้ผู้บริหารตอบดีกว่านี้ถึงขั้นเชิญทานอาหารค่ำเพื่อตอบคำถามก็ได้นะก๊าบ
ต้องระบุเพิ่ม สัดส่วน? สีผิว? ส่วนสูง? น้ำหนัก? รสนิยมในการมีอย่างว่า?
เปนผมนี่ชวนไปดินเนอร์ละ 5555
รู้ว่าขี้เหม็นก็ยังจะเอานิ้วไปจิ้ม 555+
Sent via BlackBerry from T-Mobile ..<< นี่คือปัญหา 555
วันๆนึง jobs ต้องอ่านจดหมายกี่ พันฉบับเนี่ย เห็นใครๆก็ส่งหาแกได้
drama
แอบรู้สึกว่าเกรียนทั้งคู่...
Sent via BlackBerry from T-Mobile จบบบบ.... = =''
ใช้มือถือพิมพ์เมล์ยาวขนาดนั้นได้ ไม่ธรรมดาจริงๆ
ใช้ blackberry พิมพ์เมล มันไม่ได้ยากอะไรเลยครับ
สงสัยไม่เคยใช้มือถือเขียน java (แล้วค่อย compile ตอนเจอคอมฯ) อิอิ
เจ๊ แก ก็ทำไม่ถูกนะ
ไปหา ผลการวิจัยที่เขาทำดีกว่า หรือไม่ก็ทำวิจัยเองเสีย
มีหรือป่าวหละ ที่บริษัทไม่ฉวยโอกาสตอบว่าของของเขาดี
เหมือนไปถามคนขาย MLM ว่าสินค้า ยาสีฟันเขาหน่ะ
ช่วยให้การทำงานระหว่างวันดีขึ้นหรือป่าว เขาก็จะหาวิธีตอบจนได้หละ
แต่ยังไงผมว่า เมล์นี้ ปลอม แน่นอน
เขาไม่ได้อยากได้ผลวิจัยนี่ครับ แต่อยากได้ความเห็นจากคนของแอปเปิล
ความเห็นส่วนตัว ผมคิดว่า ปลอม แต่ถ้าจ๊อบจะตอบจริงๆ ล่ะก็ ก็น่าจะได้ไม่ต่างจากเมล์นี้เท่าไหร่
วัยทองคำ อิอิ
ถ้า CEO ต้องมาคอยตอบคำถามแบบนี้แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปทำงานล่ะ เหอๆ
คงมีคำมาใช้เล่นเพิ่ม We disagree กับ Please leave us alone
แกมีลูกมีเมียหรือเปล่าครับ
เกี่ยวกันตรงไหนหรอคับ มีลูกมีเมีย
แกคงไม่เข้าใจว่าจะเอาเกรดไปไหนมากกว่าคับ เพราะแกก้อไม่ได้เรียน
ไม่เกี่ยวหรอก ที่ผมสงสัยเพราะดูจ๊อบส์เป็นคนที่บุคลิกพิเศษกว่าคนอื่นเขาอย่างข้างบนโน้นว่าไว้น่ะ
please leave me alone
ป.ล.ผมว่าไม่จริงเหมือนกัน
สรุปแล้วว่าจริงหรือไม่จริงอะครับ ข่าวนี้ ยังสงสัย
ไม่มีใครรู้ครับ อีเมลมันปลอม header ได้อยู่แล้ว ส่วนมากแหล่งข่าวจะนำ header มาเปิดเผยเพื่อแสดงความจริงใจ ส่วนคนอ่านก็พิเคราะห์กันเอาเอง
ข่าวที่ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง น่าจะมีบอกอะไรเพิ่มไว้ที่หัวข่าวด้วย จะดีใหมครับ
เหมือนพวกข่าวลือหรือว่าอะไรแบบนี้
ฟังหูไว้หูดีกว่า
ถ้ามาไทยขึ้นเดี่ยวไมค์คงจะดังนะนี่เฮีย
ผมว่าไม่จริงหรอก
Jobs จะมานั่งทะเลาะตอบโต้กันทำไม
ผมว่าคงจะเป็นการดีถ้าเพิ่มคำว่า [ข่าวลือ] ลงไปบนหัวข้อข่าวจนกว่าจะได้รับการยืนยันทางเทคนิคว่านี่เป็นการตอบโต้ของ Steve Jobs จริง ๆ เพราะผมเคยเห็นข่าวอื่น ๆ บางข่าวก็มี [ข่าวลือ] แปะหัวข่าวเอาไว้เหมือนกันในกรณีที่ยังไม่มั่นใจกับเนื้อหาของข่าว ผมเลยไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมในกรณีนี้กับลักษณะข่าวที่สร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีแก่ผู้อื่นแบบนี้จึงไม่แปะคำอธิบายเพิ่มแบบนั้นเอาไว้ หากแต่เขียนไว้ในบรรทัดสุดท้ายในเนื้อหาข่าวเพียงอย่างเดียวว่าผู้อ่านต้องใช้วิจารณญาณเอาเองซึ่งถ้าใครอ่านไม่ถึงตรงจุดนี้หรืออ่านข้ามไปแบบผ่าน ๆ ก็อาจจะเข้าใจผิดได้ว่าข่าวนี้เป็นความจริง
ผมไม่เข้าใจว่าที่นี่มีหลักการตั้งชื่อหัวข้อข่าวอย่างไรเพราะตัวผมเองก็เป็นผู้อ่านเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยังไม่เคยเขียนข่าวที่นี่มาก่อน จึงอนุมานเอาเองว่าหลักการทั่วไปสำหรับการตั้งชื่อหัวข้อข่าวที่มีคำว่า [ข่าวลือ] นั้นน่าจะใช้กับข่าวที่ยังไม่มีหลักฐานมายืนยันแน่ชัดว่าเนื้อหาของข่าวเป็นเรื่องจริงและที่มาของข่าวมีความน่าเชื่อถือ ซึ่งหลักฐานนั้นเป็นสิ่งที่ Blognone ยืนยันหนักแน่นอยู่บ่อย ๆ ว่าเป็นหลักการของตนเองดังที่เคยได้ถกเถียงกันไว้ในหลาย ๆ ข่าวก่อนหน้านี้ ดังนั้นผมจึงเห็นว่าควรจะเพิ่มคำว่า [ข่าวลือ] เข้าไปในหัวข้อข่าวด้วยโดยเฉพาะข่าวนี้ซึ่งเข้าข่ายทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียงแบบนี้
That is the way things are.
+1
เห็นด้วย
อันนี้เป็นความผิดของคนอ่านเองหรือเปล่าครับ
ส่วนเรื่อง [ข่าวลือ] นั้นคือข่าวที่ไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แหล่งข่าวส่วนมากปกปิดตัวตน แต่สำหรับข่าวนี้ เจ้าของเรื่องเผยชื่อและหน้า มีอีเมลมาโชว์ชัดเจน (แปลว่าคู่สนทนาฝั่งหนึ่งมีหลักฐานยืนยัน) เพียงแต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าจริงหรือไม่ด้วยเหตุผลทางเทคนิคเท่านั้น ผมคิดว่าการระบุว่า "ไม่สามารถพิสูจน์ได้" ในเนื้อข่าว ก็ถือว่าพอเพียงแล้ว
นอกจากนี้ เรื่อง "อีเมลไม่สามารถพิสูจน์ได้" ก็เป็นสิ่งที่ผู้อ่านทุกคนควรรู้อยู่แล้วด้วยครับ Blognone ไม่ใช่เว็บสำหรับคนทั่วไป ถ้าไม่รู้ก็คงต้องพิจารณาตัวเองล่ะครับ
"ก็เป็นสิ่งที่ผู้อ่านทุกคนควรรู้อยู่แล้วด้วยครับ Blognone ไม่ใช่เว็บสำหรับคนทั่วไป ถ้าไม่รู้ก็คงต้องพิจารณาตัวเองล่ะครับ"
+1000
ใช้ BB ถามแล้วอ้างว่าตัวเองเป็น 1 ในลูกค้าผลไม้บาป?
เค้าไม่ได้เป็นลูกค้า แต่ต้องการข้อมูลจากแอปเปิลไปทำรายงานส่งอาจารย์ ถึงเป็นลูกค้าก็ไม่ได้อยู่ดี มันไม่เกี่ยวกับ customer service
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เค้าอาจมี ipodtouch เพิ่มเหมือนผม
หรือว่า อาจใช้เครื่อง MacBook ก็ได้หนิครับ ^^
ตอบ บีบี ด้วย ทีโมบาย เนี่ยนะ น่าเพิ่มส่วนนี้ในหัวข้อด้วย
มันเป็นสาระตรงไหนล่ะครับ? ถ้าส่งด้วย iPhone แล้วจ็อบส์จะตอบ?
ego จัดมาก แค่ทำการบ้านก็ต้อง เมล์ไปถามคนอื่น
ถ้า CEO ต้องมาตอบการบ้านเด็กทุกคนก็ตายครับ ไม่ต้องทำมาหากินกันแล้ว
เข้าใจว่าเป็นรายงาน ที่ขอความเห็นของทาง Apple ประกอปนะครับ มันต่างจากการถามการบ้านอยู่เยอะเหมือนกัน
:: DigiKin8 ::
ไร้สาระมากถ้าอ้างว่าใช้สินค้าอื่นถามแล้วไม่ตอบ ถ้าคนที่ถือบีบีๆอยู่ไปถามเรื่องไอโฟนกับคนขายไอโฟน แล้วคนขายไอโฟนเห็นใช้บีบีๆ คือเค้าจะไม่เซอวิส ไม่ตอบคำถาม ไม่ชวนเชื่อ ไม่สนับสนุนให้เปลี่ยนมาใช้ สินค้าของเค้า ? ถ้าทำแบบนั้นได้คือต้องมั่นใจว่าถ้าเสียลูกค้าคนนี้ไปยังไงร้านก็อยู่ได้ แบบนี้ถูกมั๊ยครับ ถ้าเหตุผลอื่นเช่น ยุ่งมาก ไม่มีหน้าที่ต้องตอบเหตุผลพวกนี้ก็ว่าไปอย่าง คิดว่าจ๊อบคงไม่ได้มีความคิดแบบนี้แน่ๆครับ
ส่วนคำตอบอื่นๆถือว่าสมเหตุผลอยู่แล้วครับ ว่าจ๊อบไม่สามารถตอบคำถามได้ตลอดและทั้งหมดเพราะลูกค้าเยอะมาก ยากเกินกว่าจะไขข้อข้องใจเป็นรายๆไป ถือเป็นการตัดไฟต้นลม ไม่งั้นอีกหน่อยก็มีคนถามไปเยอะแน่ๆ แทนที่จะไปถามฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์
ส่วนตัวคิดว่า น่าจะผิดตั้งแต่ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์แล้วหละ เพราะดูแล้ว ถ้าไม่จนใจจริงๆคงไม่มีใครอยากเมลล์ไปถามศาสดา
ถ้าเนื้อความข่าวเป็นจริงละก็นะครับ
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
ถ้าถามความเห็นแล้ว PR ไม่ตอบนี่ไม่เห็นว่าผิดตรงไหน นอกขอบงาน และถ้าตอบแปลว่าใครอยากถามอะไรก็ต้องตอบรึเปล่าครับ ปกติ PR เค้าพูดได้เฉพาะเรื่องที่บริษัทให้พูดอยู่แล้ว ถ้ามาถาม service ทั่วไปเกี่ยวกับสินค้าแล้วไม่ตอบสิผิดเต็มๆ และที่บอกจนใจจริงๆ นี่ เพราะเค้ายังหาข้อมูลไม่ได้และใกล้กำหนดส่ง เค้าก็คงทำได้ เขียนส่งไปไม่เสียอะไรหนิ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ผมว่าคน อีเมล์ไปหา steve jobs เยอะมากครับ เพราะเห็นว่าแกตอบเมล์บ่อย ๆ
แต่ CEO ทั่ว ๆ ไปเค้าก็คงไม่มาสนใจเรื่องแบบนี้อยู่หรอกคับ
อย่างเช่น สมมติว่าเดกในข่าวหรือเพื่อนร่วมชั้น ทำรายงานของบริษัท อื่น ๆ เช่น at&t, comcast etc.. แล้วเมล์ไปหา CEO ของบริษัทนั้น ๆ ผมว่าเค้าก็คงไม่ตอบเหมือนกันคับ ไม่ได้เกี่ยวกะใช้ไอโฟน หรือ BB หรอกคับ
อันนี้ไม่ใช่ความผิดของ CEO หรอกคับ
ผมว่าเด็กคนนี้คงอยากได้ข้อมูลแบบ exclusive มากเกินไปคับ
อีกอย่างร้าน apple store ใน new york ก็มีอยู่นะคับผมว่า เดินไปถามความเหนเค้าตรง ๆ ก็คงได้คำตอบล่ะม้้งคับ
ปล. แต่เอาชื่อเดกคนนี้ ไปหาใน fb ก็มีชื่อนี้ และ มหาวิทยาลัยที่เรียนตรงกับที่ข่าวรายงานครับ
ผมว่าฝรั่งนี่ตลกร้ายนะ อิอ
ว่าแต่ Blognone เคยส่ง email หา Jobs กันบ้างมั้ยครับ ? :D
:: DigiKin8 ::
ผมว่าฝรั่งนี่ตลกร้ายนะ อิอ
ผมว่าฝรั่งนี่ตลกร้ายนะ อิอ
แป่ว