หากจะบอกว่า "คนตาบอดก็สามารถมองเห็นสีได้" คนทั่วไปอาจบอกว่าเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อตาบอดแล้วจะเห็นสีได้อย่างไร แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน ทำให้คำกล่าวนี้เป็นไปได้แล้ว!
หลายคนอาจพอทราบกันอยู่แล้วว่า บน iPhone นั้น มีฟังชั่น VoiceOver ซึ่งอยู่ในส่วนของ Accessibility บน iPhone ให้คนตาบอดสามารถใช้งานตัวโทรศัพท์และแอพพลิเคชันเสริมที่นำมาลงเพิ่มได้
Color Identifier เป็นแอพพลิเคชันที่สามารถพูดชื่อสีของอะไรก็ตามที่กล้องจับภาพอยู่แบบ realtime เมื่อคนตาบอดส่องกล้องของ iPhone ไปจับอยู่ที่อะไรสักอย่าง ตัวแอพพลิเคชันก็จะทำการวิเคราะห์สี โดยคิดจากค่าพื้นฐานของแต่ละสี ที่จะมีค่าเป็น เลขฐาน 16 ทั้งหมด 6 หลัก และแสดงผลออกมาเป็นคำศัพท์ เช่น หากส่องกล้องไปบนท้องฟ้า สิ่งที่ได้กลับมาอาจจะเป็น สีฟ้าในเฉดต่างๆ หรือสีเทา ถ้าคุณส่องกล้องไปในสวนดอกไม้ ก็จะได้สีเขียวและสีต่างๆ ของดอกไม้แต่ละดอก ออกมาเป็นต้น
ตัวแอพพลิเคชันนั้นสามารถแสดงผลออกมาเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งก็มีคำศัพท์ที่ใช้บอกชื่อของสีมากมาย เช่น "Atomic Orange", "Cosmic, Hippie Green", "Opium"
ที่มา: บล็อกของ Austin Seraphin ผ่าน Geek.com ผ่าน ทวีตของ @PerBusch
ความเห็นผู้เขียน: แอพพลิเคชันนี้จะมีประโยชน์มากสำหรับคนตาบอดสีที่มองเห็นเลือนรางหรือเคยมองเห็นมาก่อน จะซาบซึ้งกับสีสันต่างๆ ที่ตัวแอพพลิเคชันนั้นพูดให้ฟังได้ นี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในส่วนของเทคโนโลยีของคนตาบอดที่จะสามารถเข้าใจโลกของคนปกติได้มากขึ้น
Comments
ถ้าบอดมาตั้งแต่กำเนิดเขาจะรู้ได้ไงว่าสีฟ้า เป็นยังไง
สีแดงเป็นยังไง รู้แต่ชื่อ
"สีแดงที่ผมเห็น กับสีแดงที่คุณเห็น เป็นสีแดงเหมือนกันหรือเปล่า?"
เคยคิดเหมือนกัน 55
May the Force Close be with you. || @nuttyi
แก้ไขแล้วครับ แต่ตรง ที่มา ยังไม่ค่อยแน่ใจ ผมสลับใหม่อย่างนี้ถูกไหม หรือต้องตัดอันใดอันหนึ่งอย่างไร?
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
เวลาเขียน ที่มา ให้เอาเว็บต้นข่าวแรกสุดไว้ทางซ้าย จากนั้นใช่คำว่า "ผ่าน" ตามด้วยเว็บที่อ้างอิงมา และเวลาเขียน เขียนที่มาเป็นบรรทัดเดียวกัน ไม่ใช่ขึ้นบรรทัดใหม่
อีกอย่าง ที่หัวข่าว แก้ app เป็น แอพพลิเคชัน
แก้แล้วครับ แต่ถูกไหมอะ?
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
จริงๆ แล้ว จะบอกว่าเขียนให้กระชับกว่านี้ทั้งข่าวเลยครับ
เพราะเมื่อพิจรณาดูเนื้อหาต่อความยาวข่าวแล้ว รู้สึกว่ายาวมากเกินไปแฮะ
อย่างย่อหน้าแรกเป็น hook ที่ดีครับ แต่เกริ่นแล้วก็ไม่ยอมเข้าเนื้อหาทันที ดันมีย่อหน้าที่ 2 มาคั่น ซึ่งพออ่านแล้วก็งงว่า เจ้าย่อหน้าที่ 2 เนี่ยเกี่ยวกับเนื้อข่าวตรงไหน
ถ้ายกย่อหน้าที่ 2 ทิ้งไปแล้วจับย่อหน้าที่ 3 มาต่อทันทีเลย จะทำให้ย่อหน้าแรกดูดี มีเหตุผลในการดำรงอยู่มากขึ้นครับ
หรือไม่งั้นก็ต้องยุบรวมย่อหน้าแรกเข้ากับย่อหน้าที่ 2 ครับ ตย. "แม้ว่าบน iPhone จะมีส่วน Accessibility ก็ตาม ... แต่เทคโนโลยีทำให้คนตาบอดสีเห็นสีได้แล้ว"
ย่อหน้าที่ 4 ลงตัวอย่างทำไมครับ? ถ้าจะลงเพื่อบอกว่าโปรแกรมทำอะไรได้บ้างไม่ต้องลงก็ได้ครับ แต่ถ้าจะแสดงให้เห็นว่า มันไม่ได้มีความสามารถแค่เพียงบอกสีพื้นฐาน (Red, Green, Blue) แต่สามารถบอกได้ถึงความแตกต่างของสีอย่าง Turquoise, Aqua, Cyan ก็ยังตัดตัวอย่างทิ้งไปแล้วอธิบายเอาในเนื้อข่าวได้อยู่ดีครับ
ส่วนตัวคิดว่าตัวอย่างที่ดีควรมาจากการใช้งานจริงครับ ซึ่งในกรณีนี้เป็นการปฏิสัมพันธ์ระหว่า iPhone กับโลกจริง ดังนั้นก็น่าจะยกวีดีโอมาประกอบครับ เอามาอย่างนี้ไม่เห็นภาพครับ
ย่อหน้าที่ 5 (เข้าใจว่า) ความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนควรเอาไว้หลังที่มาจะดีกว่าครับ
ตรงที่มา ไม่ต้องเคาะระหว่าคำว่า "ที่มา" กับที่มานะครับ ทำให้มันอยู่บรรทัดเดียวกันไปเลย
ย่อหน้าที่ 2 คือผมเข้าใจว่า การทำงานของโปรแกรม อ้างอิงกับฟังชั่นของ VoiceOver บนเครื่องนะครับ คือถ้าไม่อธิบายไว้ก่อน หลายคนอาจจะไม่เข้าใจว่า คนตาบอดสามารถใช้ iPhone ได้อย่างไร หากเห็นว่าดูไม่ดี อาจจะสลับระหว่างย่อหน้าแรกกับย่อหน้าที่ 2 จะพอได้ไหมครับ
ปล. แต่การเขียนข่าวก็ระบุไว้ว่าให้ใช้สำนวนตัวเองนี่นา ถ้าเรื่องสำนวนไม่ผ่าน แล้วไม่ได้ขึ้นหน้าแรก ผมก็รับได้แฮะ
ย่อหน้าที่ 4 คือในคำแปลภาษาไทย ผมมิสามารถระบุสีที่เป็นคำแปลแบบละเอียดเพียงพอ อย่างที่เข้าใจเลยครับ คือว่าตัวโปรแกรมมันสามารถระบุสีสันได้อย่างหลากหลายมาก และผมไม่สามารถหาวีดิโอมาประกอบได้
ส่วนความเห็นส่วนตัว ถ้าเห็นว่าเอาไว้หลังที่มา ก็แก้ไขแล้วครับ
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
ผมแค่แนะนำและยกตัวอย่างบางแบบให้ดูเฉยๆ ครับ (จริงๆ ไม่ชอบยกตัวอย่างเลย เพราะกลัวโดนเอาตัวอย่างไปใช้ทั้งดุ้นเหมือนกัน) ยังไงก็อยากเห็นเขียนในสำนวนตัวเองอยู่แล้ว
แต่ที่กลัวว่าข่าวยาวไป เพราะคนอ่านมีเยอะนะครับ (ผม) คิดว่า การเขียนข่าวให้กระชับน่าจะดีกว่า เพราะไม่เสียเวลาทั้งคนเขียนที่ต้องประดิษฐ์ข้อความมากเกิน และไม่เสียเวลาคนอ่านด้วยครับ
เท่าที่ผมอ่านเวอร์ชันล่าสุดก็ใช้ได้แล้วครับ เพียงแต่ใช้คำฟุ่มเฟือยพวก "ที่" "จะ" "มัน" "อาจ" มากเกินไปนิด ผมแก้ไปนิดหน่อยแล้ว ลองดูครับ
เย้ๆ ได้ปล่อยขึ้นหน้าแรกแล๊ววว ข่าวแรก (ในชีวิต) เลยนะเนี่ย :d
ป.ล. tag accessibility อยากใส่อยู่เหมือนกัน แต่ดูในหน้ารวม tag แล้วไม่เห็นมี เลยไม่อยากสร้างใหม่ _<
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
"...สามารถสแดงผล..." >>> "...สามารถแสดงผล... " ครับ
แก้ไขแล้วครับ
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
ยินดีด้วยครับ
ส่วนเรื่อง tag ไม่ต้องซีเรียสมากครับ เดี๋ยวผมมาเติมๆ ให้อยู่แล้ว
^__^
แถม iPhone ในมุมมองผู้ใช้ตาบอด (คนไทยนะ) http://nupomme.exteen.com/20091023/review-iphone
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เจ๋งมากก
ทั้ง Apple และคนเขียนบล็อกเลย
ปล. ถึงศาสดาจะไม่ค่อยสนใจคนปกติ :P แต่สนใจคนตาบอดด้วยนะเออ
ปัญหาต่อไปคือ จะแปลสีที่โปรแกรมมันอ่านให้ฟังออกไหม... (ที่ยกตัวอย่างมาในข่าว ผมไม่รู้จักซักอัน)
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
แปลว่า...คนที่ใช้ iphone จะต้องเป็นคนที่ใช้ภาษาอังกฤษเท่านั้น
ส่วนภาษาอื่นๆ ในโลกนี้อีก 8000 กว่าภาษาไม่มีความหมายแต่อย่างใด?
เอ่อ... จริงๆ แล้ว ตัวฟังชั่น VoiceOver ของ iPhone รองรับกว่า 26 ภาษานะครับ http://www.apple.com/accessibility/iphone/vision.html
เพียงแต่โปรแกรมนี้มันคงไม่มีแนวคิดที่จะแปลให้ทุกภาษาแค่นั้นเอง
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
Try my link in the comment above.
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
คนที่ใช้ภาษาอังกฤษ ก็ทำซอฟท์แวร์ภาษาอังกฤษ
คุณใช้ภาษาไทยก็ทำซอฟท์แวร์หรือปลั๊กอินภาษาไทยไปสิครับ
Please leave us alone.
Sent via BlackBerry from T-Mobile
นี้มาแขวะไม่ดูตาม้าตาเรือเลย
iPhone มันอ่านภาษาได้เยอะอันดับต้นๆ ของโลกมือถือแล้ว แถมเป็นฟังก์ชั่นที่มาพร้อมเครื่อง ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มอีก แล้วจะยังเอาอะไรอีก