แนวทางการหารายได้แบบ Promoted Tweet ของทวิตเตอร์นั้นเปิดตัวมาตั้งแต่เดือนเมษายน และเริ่มทดสอบให้บริการจริงด้วยการโฆษณา Toy Story 3 มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยก่อนหน้านี้การโฆษณานี้เป็นโฆษณาที่ได้รับเชิญจากทางทวิตเตอร์เอง โดยผู้โฆษณาไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ แต่วันนี้ทวิตเตอร์ก็เริ่มเก็บค่าบริการแล้ว โดย "เริ่มต้น" ที่ 100,000 ดอลลาร์ต่อทวีต
ทวิตเตอร์อ้างว่า 5% ของผู้ใช้ที่มองเห็น Promoted Tweet จะมีการตอบสนองต่อโฆษณา (เข้าใจว่าเป็น reply, retweet, หรือ favorite) ซึ่งตัวเลขนี้ดีกว่าการโฆษณาแบบอื่นๆ อย่างมาก ลูกค้ารายหนึ่งคือ Virgin America ให้ใช้ Promoted Tweet เพื่อแนะนำบริการใหม่ และวันที่โฆษณานั้นก็ทำให้เป็นวันที่ยอดขายของ Virgin America สูงติดหนึ่งในห้าของวันที่ขายดีที่สุด
ด้านบริษัทโฆษณานั้นยังตั้งคำถามกันอยู่หลายอย่างเช่นการวัดผลของแคมเปญโฆษณานั้นจะทำได้อย่างไรบ้าง และหวังว่าทวิตเตอร์จะให้เครื่องมือวัดผลที่ดีกว่านี้
ที่มา - Wall Street Journal
Comments
โอ่ว ราคาสุดยอดมากครับ Product ที่จะเอาไปลง โฆษณานี่ ต้องมีรายได้มหาศาลอะ ถึงไปลงได้
ใหม่ๆอาจจะได้ผล แต่นานๆไปคนจะชินเปล่า แล้วมองเป็น แค่โฆษณา ไม่น่าสนใจข้ามๆไปเหมือนเดิมเปล่า
แล้วถ้ามีถี่ๆจะให้คนเลิกเล่น Twitter ไปเลยเปล่า ยิ่งขี้รำคาญกันอยู่
ถ้าทวีตเต็มที่ 140 ตัวอักษรต่อหนึ่งทวีต ราคาจะอยู่ที่ตัวอักษรละ 715 เหรียญหรือเงินบาทที่ 22,143 บาท
แพงใช่เล่น ถ้าโปรโมตทวีตขอแฟนแต่งงาน ก็โดนไปเต็มแสนเหรียญ
จะรอดูว่าจะมีเซเลบท่านใดใช้บริการนี้บ้าง
หารจำนวน RT / impression / CTR น่าจะเหมาะกว่านะครับ
ผมมองว่าสิ่งที่ตามมาหลังจากการทวีตเป็นผลพลอยได้มากกว่าหน่ะครับ ผู้ที่จะมาลงอาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนักหรือว่าอาจจะไม่เป็นที่สนใจเลยก็เป็นได้ แต่สุดท้ายแล้วทีมโฆษณา เอเจนซี่น่าจะมีการวิเคราะห์เชิงลึกมากกว่านั้นละครับ ผมเองก็คิดแบบชาวบ้านๆที่ห่างไกลเรื่องเงินๆทองๆ
ผมมองว่า สินค้าหรือโฆษณาที่ทำให้เกิดการบอกต่อ (reply หรือ RT) ในที่นี้ มันมีศักยภาพในการโฆษณาอยู่ในตัวมันเองอยู่แล้วน่ะครับ (ในข่าวที่ยกมา เป็น toy story 3 กับ virgin) จึงไม่น่าจะยกมา benchmark ได้นะครับ
ในทางกลับกัน ถ้าให้ผลิตภัณฑ์อย่างน้ำพริกเผาแม่ประนอม ใช้บริการ promoted tweet ผลที่ได้มันน่าจะต่างกันเยอะ
อ๋อออ การวัดผล ก็ง่ายๆ ครับ ประสบผลสำเร็จเมื่อมีคนพูดถึงเราเยอะๆ ใส่ #hashtag เราเยอะๆ จะด่าจะชมไม่เป็นไรครับ กระจาย brand เราพอ
อ่าว .. ไม่ได้พูดถึงการที่ให้คนทวีตอะไรก็ได้แล้วใส่แท๊คของสินค้า ใครทวีตเยอะสุดได้ iPad หรอครับ? ว๊าๆๆ .. ผิดข่าวครับ ขอโทษที
บล็อกของผม: http://sikachu.com
กดผิด