ลูกค้าของ MySQL รุ่น Enterprise ที่ต้องเสียเงินค่าใช้งาน ได้รับอีเมลแจ้งจากเซลส์ของออราเคิลว่า ออราเคิลเตรียมจะเปิดราคาใหม่ของ MySQL Enterprise ในเร็วๆ นี้ และเซลส์ยังเตือนว่าถ้าอยากประหยัดก็ควรซื้อหรือต่ออายุตั้งแต่วันนี้ เพราะราคาใหม่จะแพงขึ้นกว่าเดิมแน่นอน
ข่าวอีกสายรายงานว่าออราเคิลจะตัดรุ่นถูกที่สุด 2 รุ่นคือ Basic กับ Silver ออก เหลือเพียง Gold กับ Platinum และอาจปรับราคาขึ้นไปอีก (ดูตารางราคาปัจจุบันประกอบ)
นักวิเคราะห์ประเมินว่าการปรับราคาอาจทำให้ลูกค้าหนีไปใช้ PostgreSQL หรือ EnterpriseDB แต่ก็ช่วยให้ฝ่าย MySQL ของออราเคิลมีรายได้ที่มั่นคงมากขึ้นเช่นกัน
ที่มา - The Register, Infoworld
Comments
Oracle เอาอีกแล้ว
ชักไม่ชอบ oracle ตะหงิดๆ
Evil สุดๆช่วงนี้ ฮ่าาาาาา
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
แต่ว่าไปแล้ว นี่มันถูกที่สุดของกลุ่มฐานข้อมูลของออราเคิลนะ ถ้าตัวต่ำสุดๆของมัน (SE One) ก็ 5800 USD ต่อชิป นี่ตัวใหญ่สุดยังต่อเครื่องแม่ข่ายเลย
เด๋วก่อน นี่มันโครงสร้างราคามันเป็น subscription (ต่อปี) ไม่ใช่ซื้อขาดนี่หน่า (perpetual)
ราคา(ที่ซื้อมา)ที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับหน้าที่(ที่ต้องเลี้ยงตัวเองให้ได้)อันใหญ่ยิ่ง
เสียดาย Sun เป็นที่สุด
ก็ตั้งราคาแบบของ Sun แล้วเป็นไงครับ สุดท้ายก็อยู่ไม่ได้
PostgreSQL ถ้าคนหนีมาใช้เยอะจะถูกซื้อแล้วปฏิบัติเยี่ยงออราเคิลหรือไม่
เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่าอนาคตของ MySQL ที่เป็นของฟรีจะเริ่มเลือนหายไป ซื้อเพื่อเอาส่วนดีไปขายแล้วที่เหลือ "ดอง"
เค้าใช้ mysql รุ่น enterprise กันเพราะอะไร เพราะราคา ความสามารถ หรือเพราะรัก
ความสามารถเดิม ๆ เลยครับ
เพียงแต่มี Technical Support, Enterprise Tool ที่ช่วยอำนวยความสะดวก
ที่สำคัญเลยคือการ Support สำหรับระบบที่สำคัญมาก ๆ ครับ ซึ่งการ Support เป็น 24x7
มันต่างจากราคาเก่ามากมั้ยอ่ะครับ อยากรู้
สงสัย Postgresql กับ firebirdsql จะได้ติดท๊อปฮิตกันเสียที
Oracle be Evil จริงๆ
I need healing.
-*-
ผมใช้เพราะมันติดมาจาก appserv ครับ :D
ตบหัวเข่าหนึ่งฉาดดังๆ แล้วพูดว่า "ตูว่าแล้ว"
+1 นึกภาพออกเลย..
ทำอย่างนี้เหมือนเป็นการฆ่า MySQL อย่างช้าๆ
เจ็บใจแทน SAP อุตส่าห์สนับสนุน MySQL ไปทั้งเงิน ทั้ง SAPDB หวังจะเอามาเป็น Oracle killer สุดท้าย oracle เก็บไปซะงั้น
หันมาใช้ FirebirdSQL อย่างผมกันดีกว่า ฟรีจริง ไม่มีบริษัทเป็นเจ้าของซื้อกันไม่ได้
PostgreSQL ก็ดีนะครับ แต่ยังไม่ตรงใจเพราะใช้แบบ embeded ไม่ได้
ยังเลือกไม่ถูกจะหัด FirebirdSQL หรือ PostgreSQL เพิ่มดี
ตัว License term ฟรีเหมือนกันครับ และ SQL ก็คล้ายๆกันแหละ
แต่ถ้าคนใช้ Delphi หรือ Lazarus. FirebirdSQL จะดีกว่าครับ เพราะมี tool ที่เข้าถึงง่าย
แต่ถ้าใช้ ODBC JDBC .NETprovider ก็เหมือนๆกัน
และถ้าใครใช้แบบ embeded ก็คือเอา DB ทั้งตัวฝังไปกับโปรแกรมเรา โดยไม่ต้อง install db ในเครื่องลูกค้า ก็ต้องเป็น firebird เท่านั้น
ผมเชียร์เพราะใช้หากินอยู่ ประสปการณ์ 8 ปีครับกับ FB
add facebook มาได้ singnoi@gmail.com มีอะไรก็ถามได้ครับ มั่นใจว่า เรื่อง FB เนี่ยไม่รองใครเพราะใช้หากินได้
ดูออกตั้งแต่แรกแล้วว่า ที่ Sun ซื้้อ MySQL ทีแรกเพราะ จะส่งต่อไปให้ Oracle แน่ๆ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเพราะ เป็นพันธมิตรกันอยู่แล้ว
SAP ก็ซื้อ Sybase
SAP น่ะตัดสินใจถูกแล้วที่ซื้อ Sybase เพราะ MS SQL Server มันลอก Sybase มาเลย การทำงานหลัก ๆ เลยเหมือนกันหมด ส่วน MySQL มันก็ง่ายดีอ่ะนะ แต่ก็ยังใช้รุ่น Community ได้อยู่ไม่ใช่หรือ?
จะบอกว่า MS SQL Server ลอก Sybase คงไม่ถูกต้องมั๊งครับ ต้องบอกว่าทั้งสองตัวมันมาจากต้นกำเนิดเดียวกันมากกว่า แล้วแต่ละเจ้าก็แยกกันพัฒนาทีหลัง
ธรรมดาของการค้า จะซื้อมาทำไมถ้าไม่ขายให้ได้เงิน
+1 ทำธุรกิจนะครับ ไม่ใช่บริจาคทาน
That is the way things are.
มันเป็นผลงานของชุมชนที่ร่วมกันพัฒนาเพื่อให้ชาวบ้านทั่วไปสามารถนำมาใช้ได้อย่างอสระ (free)
และผู้พัฒนาไม่ได้รับรายได้จากการเขียนโปรแกรม (ทำด้วยใจและรักสนุก)
ซึ่งเจ้าของโครงการ (เทียบได้กับผู้จัดการ) ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าโปรเจ็คที่ร่วมกันผลิตนี้
เป็นของชุมชนตลอดไปและยังใช้ได้เหมือนเดิม ส่วนที่พัฒนาใหม่จะถูกส่งเข้าโครงการ
และถูกรวมเป็นหนึ่งเพื่อให้ชาวบ้านได้นำไปใช้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์
ต่อมาวันหนึ่งเจ้าของโครงการบอกว่าไม่มีตังค์ขายโปรเจ็คนี้เลยละกัน ชาวบ้านเหวอ
พอขายไปแล้วโปรเจ็คนี้ยังใช้ได้อิสระแต่ไม่เหมือนเดิม
ออปชั่นบางอย่างที่นักพัฒนาช่วยกันขึ้นมาโดยไม่ได้รับค่าจ้างถูกแยกออกไปและรวมอยู่ใน
เวอร์ชั่นเสียตังค์ ส่วนเวอร์ชั่นชุมชนถูกตัดนั่นตัดนี่ออก แล้วควบคุม (ดอง) การเติบโต
เพื่อไม่ให้เป็นคู่แข่งกับเวอร์ชั่นเสียตังค์
การพัฒนาของชุมชนเมื่อส่งเข้าโครงการ ผู้จัดการจะพิจารณาว่าจะรวมอยู่ในเวอร์ชั่นชุมชนหรือเสียตังค์
แน่นอนว่าเขาย่อมเห็นรายได้ของตัวเองเป็นหลัก แล้วผู้พัฒนาล่ะ
มันเหมือนกับว่านี่คือการตัดตอนชุมชน.......โอเพ่นซอร์ส ไม่ให้เติบโตแข่งกับสินค้าของตัวเอง
ร่ายซะยาว เหมือนอธิบายว่าไม่เข้าใจหรือว่ามันเป็นอย่างนี้
สุดท้ายถ้าชุมชนไม่พอใจ แยกตัวออกมาซะก็เท่านั้น หลายสิ่งอย่างมีสัญญาอณุญาตป้องกันอยู่แล้ว ใยจะกังวลว่าจะไม่มีฟรีให้ใช้ หากเลือกทางเดินร่วมกับบริษัทที่อาจขายวันไหนก็ไม่รู้มันก็ลงเอยอย่างนี้แหละ โลกความเป็นจริงคนกินข้าว ไม่ได้กินแค่อากาศ เงินเป็นปัจจัยหลักแน่นอน
ตัวอย่าง ubuntu หากเจ้าของเขาจะทำอะไรก็เป็นสิทธิ์ เคยมีชุมชนเรียกร้องบางอย่าง เขายังบอกหากคุณอยากให้เป็นยังไงคุณต้องออกแรงมากกว่าเพื่อน ไม่ใช่บอกแค่ความต้องการ พื้นที่ blognone ก็ไม่เว้น แม้ชุมชนจะร่วมสร้างก็ตาม น้อยนักที่จะมีแนวคิดสุดโต่งแบบ gnu ที่หวังให้มันฟรีจริงๆ
มันเป็นการต่อสู้ของเรื่องเงินกับความฝัน บางคนขายฝันหากได้เงินมากพอ
แนวคิดของ GNU ไม่ได้ห้ามคิดเงินนะครับ
GPL ไม่ได้ห้ามขาย แต่อนุญาตให้ใช้เสรีเช่นกันครับ บางทีอาจรวบรัดว่าฟรี แต่มันก็ฟรีจริงถึงแม้จะมีข้อจำกัดสัญญาอนุญาตบ้าง
เสรี != ฟรี นะครับ
คือถ้าคิดถึงตรงนี้แล้วมันก็น่าเจ็บใจแทนส่วนที่พัฒนาโดยชุมชน (โดยไม่มีค่าตอบแทน) อยู่ แต่ในเมื่อเขาตัดสินใจขาย ก็ต้องขึ้นอยู่กับคนที่ซื้อไป ซึ่งถ้าเอาจริงๆ (และถ้า Oracle ไม่ได้เป็นเจ้าของ patent ของ tech ที่ใช้ใน MySQL) คนที่ไม่พอใจคงเตรียม fork ออกไปแทนที่จะอยู่กับ Oracle เป็นแน่
We need to learn to forgive but not forget...
ผู้ก่อตั้งก็ย้ายไปตั้ง MariaDB แล้วไงครับ
ผมมองว่าชุมชนที่ส่งโค้ดเข้าไป ได้คืนไปแล้วตั้งแต่วันที่รับโค้ดเข้าไปส่วนหนึ่งของโครงการครับ
ถ้ารับไม่ได้กับการเซ็นในแบบฟอร์มมอบสิทธิในโค้ด อาจจะไม่ควรส่งเข้าไปแต่แรก
lewcpe.com, @wasonliw
โอว.. โหดร้าย
มันเริ่มแล้วไงครับ
ราคาที่เพิ่มขึ้นไม่ได้เป็นความสุข