ช่วงหัวค่ำวันนี้ ไมโครซอฟท์ได้แถลงข่าวเปิดตัว Windows Phone 7 อย่างเป็นทางการ โดยประกาศตัวเครื่องโทรศัพท์ชุดแรกจำนวน 10 รุ่นจากผู้ผลิตทั้งหมด 4 บริษัท ซึ่งจะเริ่มวางขายในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้าใน 10 ประเทศ (ยังไม่มีประเทศไทย)
ก่อนจะไปถึงบทวิเคราะห์ ผมขอย้อนข้อมูลของ Windows Phone 7 ทั้งที่ประกาศมาก่อนหน้านี้ และเพิ่งประกาศในวันนี้ก่อนนะครับ
ผู้ผลิตมือถือที่ร่วมเปิดตัว WP7 มีด้วยกัน 4 รายคือ HTC, Samsung, LG และ Dell รายที่เคยเป็นข่าวแต่ยังไม่มาจริงคือ Sony Ericsson
รายละเอียดของมือถือแต่ละยี่ห้อ ดูได้จากข่าวที่คุณ nuntawat เขียนแยกตามยี่ห้อไว้
มือถือทุกรุ่นมีสเปกใกล้เคียงกันคือ ซีพียู Snapdragon 1 GHz ส่วนขนาดหน้าจอและกล้องจะต่างกันไปตามแต่ละรุ่นย่อย รวมถึงฟีเจอร์เฉพาะรุ่นบางอย่าง เช่น คีย์บอร์ด QWERTY หรือลำโพงเพิ่มพิเศษในกรณีของ HTC Surround เป็นต้น
วิดีโอแนะนำมือถือเฉพาะรุ่นที่ขายในสหรัฐคราวนี้
มือถือแต่ละรุ่นจะแยกย้ายกันไปขายตามแต่ละเครือข่าย เครือข่ายในประเทศเดียวกันมักจะไม่ได้มือถือซ้ำกัน ส่วนประเทศที่วางขายแบ่งได้เป็น 3 ทวีป คือ
(รายละเอียดดูใน press release ของไมโครซอฟท์)
ราคาที่เปิดเผยของ AT&T อยู่ที่ 199 ดอลลาร์แบบติดสัญญาสองปี คาดว่าเข้ามาบ้านเราคงสองหมื่นนิดๆ ระดับเดียวกับ iPhone 4 หรือ Samsung Galaxy S ครับ
โลกแห่งสมาร์ทโฟนนั้นคุ้นเคยกับธรรมเนียม "เซอร์ไพรส์" ของแอปเปิลไปเสียแล้ว มิหนำซ้ำ คู่แข่งอย่างกูเกิลและ RIM ก็ดำเนินแนวทางนี้ ทำให้เรา "คาดหวัง" ว่างานแถลงข่าวจะมีอะไรแปลกใหม่ให้ร้อง wow ไปอีกสามวัน และงานของไมโครซอฟท์ก็ไม่เว้น
แต่ไมโครซอฟท์ก็ยังเป็นไมโครซอฟท์ ทุกอย่างที่เราเห็นในงานแถลงข่าววันนี้ เป็นสิ่งที่ไมโครซอฟท์โชว์มาหมดแล้วตั้งแต่งาน Mobile World Congress ที่บาร์เซโลนาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ สิ่งที่ประกาศเพิ่มมีแค่รายการฮาร์ดแวร์พร้อมเปิดตัวเท่านั้น
ถ้ามองแบบเข้าข้างไมโครซอฟท์หน่อย ก็ต้องบอกว่าไมโครซอฟท์เพียงลำพังคงไม่สามารถซุ่มเงียบสร้างแพลตฟอร์มมือถือสุด wow อยู่ 1-2 ปีได้ ไมโครซอฟท์ระยะหลังหันมาใช้ยุทธศาสตร์ release early, release often แม้ว่าจะเสียความตื่นเต้นไปบ้าง แต่มันก็แลกกลับมาด้วยความเห็นอันมีค่าจากคู่ค้าและนักพัฒนาภายนอกนั่นเอง
Windows Phone 7 ที่เราเห็นในวันนี้ ไม่ต่างอะไรจาก SDK ที่แจกกันมาหลายเดือนแล้ว ถ้าให้สรุปคร่าวๆ อีกครั้ง Windows Phone 7 เปลี่ยน UI เป็นหลักครับ โดยหน้า home screen ทำเป็นช่องแสดงข้อมูลที่เรียกว่า Live Tiles ตามภาพ
ไมโครซอฟท์โฆษณา Live Tiles เป็นจุดขายหลักของ WP7 โดยบอกว่า "แค่ชำเลืองมองก็ได้ข้อมูลครบแล้ว" ตามสโลแกน "Glance and Go" และตรงกับใจความของโฆษณาที่หลุดมาก่อนหน้านี้
ผมแปะโฆษณาที่ออกมาเพิ่มอีกตัวตรงนี้เลยแล้วกันครับ
เบราว์เซอร์ใช้ IE, ค้นหาด้วย Bing, ดูแผนที่ด้วย Bing Maps อันนี้คงไม่ต่างอะไรจากสมาร์ทโฟนตัวอื่นๆ แค่เปลี่ยนมาใช้บริการออนไลน์ของไมโครซอฟท์แทนทั้งหมด
ในส่วนของอีเมล อาจมีจุดขายคือชื่อ Outlook ฟีเจอร์คงไม่มีอะไรต่างจากโปรแกรมอีเมลบนมือถือตัวอื่นๆ แต่ที่ผมดูวิดีโอในงานเปิดตัวและคิดว่าเป็น killer feature มากๆ คือ "เปิด PowerPoint แล้วไม่เพี้ยน" เสียดายไม่มีรูปภาพให้ดู
อันที่น่าสนใจคือแนวคิดเรื่อง "Hub" หรือหน้าจอรวมมิตรข้อมูล แยกตามประเภทของงานที่เราสนใจ ในเบื้องต้นไมโครซอฟท์ให้เรามา 6 อย่าง
Music + Videos Hub ตามชื่อคือดูหนังและฟังเพลง จุดที่เข้ามาเสริมคือบริการ Zune Pass ของไมโครซอฟท์ ฟังเพลงไม่จำกัดขอแค่เสียค่ารายเดือน (เมืองไทยน่าจะอดตามสูตร)
Pictures Hub บริหารจัดการรูปภาพ เหมือนกับสมาร์ทโฟนคู่แข่งอื่นๆ เพิ่มมานิดเดียวคือรูปจะถูกอัพโหลดไปไว้บนอินเทอร์เน็ตให้ทั้งหมด
People Hub หน้ารวม contact และสถานะใน social network คนที่ใช้พวก HTC Sense มาคงคุ้นเคยดีอยู่แล้ว
(ผมมีข้อกังขากับแนวคิดการรวมสถานะไปไว้ใน contact ว่ามันจะมีคนเข้าไปอ่านจริงๆ หรือ เพราะเอาเข้าจริงเราก็อ่านสถานะผ่านโปรแกรม Twitter/Facebook โดยเฉพาะแทน)
Office Hub ไมโครซอฟท์โชว์ฟีเจอร์นี้น้อยมาก ทั้งที่มันควรเป็นฟีเจอร์เด็ด มันเปิดไฟล์ของ Microsoft Office ได้แน่ๆ รวมถึงไฟล์ที่เก็บอยู่ใน SharePoint (แต่จะมีสักกี่คนกันที่ใช้ SharePoint โดยเฉพาะผู้ใช้ทั่วไป) สำหรับการแก้ไขเอกสาร อันนี้ต้องรอดูในรีวิวครับ
Games Hub เรื่องการต่อเชื่อมกับ Xbox Live อันนี้เห็นกันมานานแล้ว ส่วนเกมที่เปิดตัวเพิ่มในคราวนี้คือ 4 เกมดังจาก EA อันประกอบด้วย
ส่วนเกมอื่นๆ ที่เปิดตัวพร้อมเครื่อง เคยลงเป็นข่าวไปแล้ว ดูรายชื่อได้จาก Press Release ส่วนเกม
Marketplace Hub สุดท้ายคือ Marketplace ร้านขายของออนไลน์ของไมโครซอฟท์ โปรแกรมเปิดตัวพร้อมเครื่องได้แก่ Twitter, Netflix, IMDb ฯลฯ
ประเด็นอื่นๆ ด้านซอฟต์แวร์
ถ้าเราเอาความหวือหวาของแอปเปิลเป็นที่ตั้ง เราย่อมผิดหวังกับงานแถลงข่าวครั้งนี้ของไมโครซอฟท์อย่างแน่นอน
แต่ถ้าใช้กรอบวิเคราะห์ด้านยุทธศาสตร์มาประเมิน ผมว่าไมโครซอฟท์ทำการบ้านมาดีทีเดียว เพราะสามารถสร้างแพลตฟอร์มมือถือที่ "ไม่แพ้" คู่แข่ง (แม้ว่าจะยังไม่ชนะ) ภายในเวลาเพียง 8 เดือน นับจากที่ประกาศไว้ใน Mobile World Congress
ถ้าย้อนดูสองสามปีที่แล้วไมโครซอฟท์เงียบเหงามากนะครับ
จะเห็นว่าระยะห่างมันไกลขึ้นเรื่อยๆ ถ้าแอปเปิลสามารถออก iPhone 4 ได้ และไมโครซอฟท์ยังไม่สามารถออกอะไรที่ดีกว่าสาย WM 6.x ก็คงต้องพับเสื่อกลับบ้านไปในปีนี้
แต่สุดท้ายเราก็เห็นว่า WP7 ออกมากู้หน้าได้สำเร็จในระดับหนึ่ง ถ้าเอาเฉพาะตัวระบบปฏิบัติการและแอพพลิเคชันที่ติดมาด้วย มันทำได้เกือบทุกอย่างที่คู่แข่งทำได้ ไมโครซอฟท์กลับมา "ทันสมัย" ในระดับเดียวกับ iPhone และ Android ปล่อยให้โนเกียยังเคว้งอยู่ในกลุ่มระบบปฏิบัติการมือถือรุ่นเก่า
ฟีเจอร์ของ WP7 ยังไม่สมบูรณ์นัก เฉกเช่นเดียวกับ iPhone รุ่นแรก ในแง่ธุรกิจมันคงรอฟีเจอร์สมบูรณ์พร้อมทั้งหมดไม่ได้ ต้องเข็นเท่าที่ "พอรับได้" ออกมาก่อน ก่อนที่จะสายเกินไป แล้วที่เหลือค่อยๆ ปรับปรุงเพิ่มเติมไปเรื่อยๆ ซึ่งเราเห็นแอปเปิลและกูเกิลใช้ยุทธศาสตร์นี้มาก่อนแล้ว (Android รุ่นแรกแย่กว่านี้ด้วยซ้ำ ถ้าเห็น Android รุ่นแรกแล้วคงจินตนาการถึงทุกวันนี้ลำบาก)
จุดที่ผมคิดว่าน่าจับตาคือ WP7 วางรากฐานที่สำคัญให้กับ Windows Phone ในอนาคตหลายประการ เช่น
ไมโครซอฟท์เป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่มาก และเราจะเห็นว่าในทุกๆ ด้านของ WP7 มีบริการอื่นๆ ของไมโครซอฟท์คอยเสริมอยู่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Xbox, Office, Bing, Windows Live ฯลฯ ซึ่งไม่มีคู่แข่งคนไหนมี (กูเกิลไม่มีเพลงและเกม แอปเปิลไม่มีแผนที่และ search)
ถ้าไมโครซอฟท์ฉลาดพอ อีกไม่ช้าเราจะเห็นการประสานเชื่อมต่อกันของผลิตภัณฑ์ฝ่ายต่างๆ ของไมโครซอฟท์ เพื่อมาปรากฎกายบน WP7 และช่วยผลักดันแพลตฟอร์มโดยรวมให้น่าสนใจมากขึ้น ที่เด่นที่สุดคงเป็นเกมทั้งจาก Xbox และ Microsoft Games Studio เดี๋ยวเราคงได้เห็นภาคเสริมยิบย่อยของ Age of Empire, Microsoft Flight, Halo, Gears of Wars, Fable แห่กันมาลง WP7 เป็นแน่แท้
ผมคิดว่าสิ่งที่สรุปสาระสำคัญของการเปิดตัว WP7 ในครั้งนี้คือ press release อันหนึ่งของไมโครซอฟท์ ซึ่งตั้งชื่อว่า A Fresh Start for the Smartphone
การเปิดตัว WP7 ไม่หวือหวาจนน่าประหลาดใจ แต่มันคือก้าวแรกสำหรับการกลับมาใหม่ (fresh start) ของยักษ์ใหญ่อย่างไมโครซอฟท์ และเมื่อเดินออกมาจากบ้านด้วยก้าวแรกอย่างมั่นคงแล้ว ก้าวที่สองและสามก็จะเดินเร็วขึ้นเรื่อยๆ
จับตาดูวิวัฒนาการของ Windows Phone กันให้ดีๆ ครับ มันจะพัฒนาตัวเองไปอย่างรวดเร็วแน่นอน และจับตาการแข่งขันของวงการสมาร์ทโฟนด้วยเช่นกัน สองสามปีก่อนเรายังมีแค่ Windows Mobile, Symbian (และ BlackBerry ในโลกอันห่างไกล) อยู่เลย วงการนี้เพิ่งอยู่ในยุคอรุณรุ่งเท่านั้น!!!
Comments
อยากได้สักเครื่องแล้วสิ
ผมชอบส่วนบทวิเคราะห์ครับ
น่าเล่นมากกกก
ประเด็นคือ "ถ้าไมโครซอฟท์ฉลาดพอ"
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ผมเชื่อว่า องกรระดับ MS เจ๋งพอที่จะทำได้อยู่แล้วครับ
แต่ปัญหาด้านการเมืองภายในนั้นก็เป็นอีกเรื่องนึงครับ
ก็ cloud computing ไงครับ ตอนนี้ก็มีอยู่ให้เห็นแล้ว เช่น Voice Recognition ทั้งรับ ทั้งเปล่งเสียงผ่าน WCF แถมมี Translator ที่มาจาก Bing อีก
เห็นด้วยว่า keynote นั้นไม่ "WOW" เหมือนกับ keynote ของ Apple (ซึ่งมักจะ WOW ได้ทุกครั้ง) โดยเฉพาะในส่วนของ Ballmer ผมว่าเค้าไม่ค่อยมีศิลปะในการพูดเท่าไหร่ (เค้าพูดคำว่า wonderfully บ่อยจนผมแอบรำคาญนิดๆ)
แต่การทีี่ปล่อยข่าวมาเนืองๆ ผมก็เห็นว่ามีประโยชน์ดังที่คุณ mk ว่าแหละครับ ในฐานะมวยรอง จะรออุบเงียบแล้วมาเปิดตัวเปรี้ยงปร้าง ก็เกรงว่าจะดึงดูดใจได้ไม่เท่าไหร่ สู้เปิดไพ่ให้เห็นกันจะๆไปเลยแต่แรกคงจะเหมาะแล้วสำหรับ WP7
ได้แต่รอว่า operator ในไทยเจ้าไหนจะเอารุ่นไหนเข้ามา
วิเคราะห์ได้ดีคับ ผมชอบ wp7 ตรงที่ ตัว OS มันให้แอพเริ่มต้นเพียงพอสำหรับชีวิตประจำวันแล้ว ไม่จำเป็นต้องหาโหลดเหมือน android ยิ่งมี samsung hub หรือ htc hub แทบไม่ต้องโหลดไรเพิ่มเลย
ปล.ตรง people hub มันมี What's New ด้วยไม่ใช่หรอคับ มันก็คล้ายๆข่าวล่าสุดที่ดูใน facebook
ถ้า MS ใช้สิ่งที่ตัวเองได้เปรียบเข้ามาร่วมด้วย เช่น Office หรือ Windows7 ที่มีอยู่บนPCทั่วโลก หรือ flash player อะไรก็แล้วแต่ น่าจะช่วยกระเตี้องขีดความสามารถแข่งขันได้ดีขึ้น
เรื่อง Flash นี่พอมีลุ้นครับ จากข่าวเก่าที่ MS ดอดไปคุยกับ Adobe
แค่คิดก็ซี้ดดด
ตกลงที่ Samsung บอกว่า Super AMOLED ขาดสต็อกนี่กั๊กไว้ให้ WP7 หรือครับนี่ น่าตกใจพอควรนะสำหรับผม
แต่สำหรับ OS มาใหม่ เปิดตัวมาพร้อมกัน ๔ ยี่ห้อ ๙ รุ่นถือว่าเยอะมากเลยนะครับ จำได้ว่า Android เปิดมารุ่นเดียว ขอให้มันเจริญๆ ขึ้นแล้วกัน
+1
ไม่ใช่ว่า MS เขาเหมาทั้ง Stock หรอกหรือครับ มันเลยขาดตลาด
= =" ยังไม่มีมือถือ WP7 ยี่ห้อ Microsoft เลยนะครับ..
Microsoft ไม่ได้ผลิตฮาร์ดแวร์มือถือนี่ครับ :)
ตัวแทนในการซื้อขาย การตลาด การเงิน มันมีวิธีพลิกแพลง แต่ประเด็นเดียว เงินมา ของไป เงินใครก็ไม่สำคัญจริงมะ
ชอบย่อหน้านี้จริงๆ
+1
marketplace เสียตังเท่า apple เลย -_-"
แต่นโยบายต่างกัน ค่าสมาชิกรายปี $99 แต่สามารถส่ง Paid App ได้ไม่อั้น ส่วน Free App จำกัดที่ 5 Programs ตลอดการเป็นสมาชิกไม่ว่าคุณจะต่อสมาชิก 3 ปี ก็มีได้แค่ 5 ไม่ใช่ 15 Programs นะอย่าเข้าใจผิด
มันทำให้ตลาดไม่เสีย ของฟรีมากเกินไป จะทำให้นักพัฒนาไม่อยากมาลงแข่ง ถ้าต้องการจะฟรีมากกว่า 5 โปรแกรม ก็ง่าย ๆ เลย กำหนดราคา Paid App = 1 cent
ชอบบทวิเคราะห์มากครับ ส่วนตัวผมว่าอีกสัก 3-6 เดือนตลาดนี้คงดุเดือดกันน่าดูชม ส่วนตัวผมค่อนข้างชอบการควบคุมสเปคเครื่องของทางไมโครซอฟต์เพราะเป็นแนวคิดที่ดีในเรื่องของประสบการณ์การใช้งาน อีกจุดที่น่าสนใจคือเรื่องความเข้ากันได้กับโปรแกรมต่างๆ ซึ่งข้อนี้น่าจะมองเห็นภาพกันมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปสักระยะว่าไมโครซอฟต์จะทำได้ดีแค่ไหน สำหรับคนที่ไม่ค่อยเปลี่ยนโทรศัพท์บ่อยๆ แบบผมคงตัดสินใจเลือกกันได้แบบไม่ยากเลย
เรื่องเกมไมโครซอฟต์เองก็มีฐานลูกค้าเก่าคือ Xbox Live อยู่แล้วหากพัฒนาอย่างจริงจังและมีการแชร์ระบบเก็บแต้มด้วยก็สามารถดึงแฟนๆ กลุ่มนี้มาได้พอสมควร
ทนใช้ 6.1 มานานแล้ว ได้เวลาเก็บสตางค์แล้วสินะ
Happiness only real when shared.
เหมือนกันเล้ย แต่จะซื้อนี่ขอคิดอีกที
(ยังไม่มีประเทศไทย)
(แซว)จริงๆ ผมว่าข่าวต่อๆ ไป ไม่ใส่ผมก็เข้าใจว่าอย่างนั้นอยู่แล้วน่ะครับ แต่ถ้าข่าวไหนเปิดตัวอะไรใหม่แล้วมีประเทศไทยด้วยรบกวนใส่ให้ตัวเป้งๆ เลยนะครับ เอาสัก h1 h2 ไปเลย แถมด้วยใส่เป็น featured ทิ้งไว้สักสามเดือนไปเลยทีเดียว ฮ่าๆ
Ton-Or
ผมไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมสิ้นค้าพวกนี้ถึงเลือกเปิดที่สิงคโปรก่อนที่ไทย ทั้งๆที่ในไทยขายดีออก ไม่ว่าแย่งชิงกันซื้อไอโฟนที่ราวดูยังกับว่าแจกฟรี หรือ ถึงขนาดต่อคิว 3-4 ชม. เพื่อซื้อโดนัทกินยังได้ อิอิ
ผมก็แอบสงสัยนะ แต่ก็คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องของกฏหมาย ไม่ก็เรื่องภาษา
ถ้าไปดูสิงคโปร์ต่อแถวก็ไม่แพ้กันเลยครับ ดีไม่ดียอดรวมจะดีกว่า
lewcpe.com, @wasonliw
สิงคโปร์กำลังซื้อมากกว่านะ อีกอย่างเป็นประเทศที่เจริญแล้ว มีกฎระเบียบ แถมที่นู่นยังมี zone ของ xbox live แล้วด้วย
เพราะสิงค์โปรขายดีกว่าไงครับ
"ทั้งๆที่ในไทยขายดีออก" ประโยคนี้มันยังไม่ได้เปรียบเทียบอะไรเลยนี่ครับ
อาจจะเป็นจริงอย่างท่านด้านบนว่าไว้ก็ได้ครับ ก็หวังว่าจะเปิดตัวได้เร็วๆ จะได้มีตัวเปรียบเทียบเยอะๆ
ถ้ามีจริงก็แยกเป็นข่าวใหม่ให้เฉพาะเลยครับ
มากด like ฮ่าๆ
Ton-Or
ส่วนตัวผมคิดว่า Windows และ Android ยังไม่สามารถเป็นสิ่งที่ซื้อมาแล้วใช้ได้เลย เมื่อเทียบกับ iPhone
แต่อย่างที่เขียนไว้แล้วคือ MS มีข้อได้เปรียบหลายอย่าง เพราะเป็นบ. ใหญ่ ก็คงต้องรอว่าจะสามารถ "รวม" ทุกอย่างของบริษัทเข้ามาได้หรือไม่, หรือจะโดนฟ้องอีก (monopoly? antitrust?) ก็ต้องรอดูกันไป
iPAtS
"ส่วนตัวผมคิดว่า Windows และ Android ยังไม่สามารถเป็นสิ่งที่ซื้อมาแล้วใช้ได้เลย เมื่อเทียบกับ iPhone"
จริงหรอครับ?? ก็ไม่เห็นต้องลงโปรแกรมอะไรเพิ่มนี่นา ก็ทำงานได้ทุกอย่าง
ในแง่ ui ครับคนทั่วไปที่ไม่ใช่ power user อย่างเราๅจะเข้าใจยากมาก
แม่ผมอายุ 53 ละ ก็แม่บ้านธรรมดาก็ใช้ Galaxy 5 ได้สบายๆนะครับ เล่นเกมส์เปิดเว็บอ่านข่าวเสื้อแดงได้ก็สอนแม่ทางโทรศัพท์สั้นๆก็ใช้ได้แล้ว
กับน้องๆทำงานบัญชีหลายๆคน มี HTC touch กันหลายคนเค้าก็ใช้ได้ดีแชทได้ โหลดเกมส์ได้เหมือนกัน
ผมว่า Android มันพร้อมใช้นะ
good job ms
สำหรับผมยังไม่ครบนะ ปกติผมมักดูปฏทินนัดหมายว่านัดหมายที่จะเกิดขึ้น (upcoming) คืออะไร นัดหมายอันถัดไปคืออะไร (หน้าจอแบบโนเกีย เต็มที่ก็แบบ HTC Widget)
อันนั้นมีในหน้า lock screen นิครับ
ถ้าจำไม่ผิดมันจะขึ้นแค่อันเดียวนะครับ แต่ผมชอบให้มันขึ้นหลายๆ อันคล้ายกับ Symbian UI (ประมาณว่าจำไม่ได้ก็หยิบขึ้นมาดู ไม่ต้องไปกดมากมาย)
ที่ Hub ก็มีนะครับ
Jusci - Google Plus - Twitter
ที่ Hub ผมเข้าใจว่าตรงไอคอน Outlook มันบอกแค่มีจำนวนนัดหมายเท่านั้นครับ แต่ถ้าจะดูรายละเอียดก็ต้องกดเข้าไปอีกที
ป.ล. สงสัยผมคงยึดติดกับ Symbian UI มากเกินไป คงต้องปรับตัวหน่อยแล้ว...
Me too
มันจะมี Hub แยกจาก Outlook ครับ Outlook ไว้สำหร้บเมลเฉย ๆ (มั้งนะครับ - นึกถึง MS Outlook != Outlook Express) ลองดูในเว็บ OMNIA 7 ส่วนของ Life in Motion > Lives Tiles ละกันครับ อันนี้น่าจะเป็น Hub ของ Calendar ครับ
บน WM6 (เดิม ๆ) ก็แยกระหว่างเมล, sms ออกจาก appointments เหมือนกันนะครับ ผมคิดว่า MS คงไม่ตกม้าตายกับเรื่องแค่นี้หรอกครับ
Jusci - Google Plus - Twitter
เดี๋ยวเราจะรอดูละกัน MS
WP7 ล็อค spec เครื่อง, ล็อคการเปลี่ยนหน้าจอหลัก น่าจะทำให้แต่ละยี่ห้อขายแข่งกันยากขึ้น เพราะซื้อยี่ห้อไหนก็เหมือนๆ กัน ทำอะไรได้เหมือนๆ กัน แต่ Samsung นี่จอ AMOLED ได้เปรียบ พอเอามาเทียบกัน จอชนะใส ความสามารถอื่นๆ ก็เหมือนๆ กัน
เกมเยอะใช้ได้เลย น่าจะเป็นตัวเลือกสำหรับคนชอบเล่นเกมบนมือถือได้ ดีกว่า Android แต่ยังเหมือนๆ iPhone (ของ EA 4 เกมนั่นมีใน iPhone หมดและ The Sim กับ NFS ของ iPhone มีอีก versionแล้ว) ต่อไปน่าจะดีขึ้น และอาจดีกว่า iPhone ด้วย เพราะ Jobs ไม่ค่อยง้อบริษัท 3rd Party มากนัก
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ผมว่าดีนะ ผู้ผลิตจะได้แข่งกันเรื่องคุณภาพวัสดุและ Design แทน
โฆษณาแอบคล้าย dtac แต่ประเด็นต่างกันแฮะ
"It's time for a phone to save us from our phones"
ไม่รู้ผมเข้าใจผิดรึเปล่า แต่ประเด็นเค้าผมว่าคล้ายๆดีแทคนะครับ คือโฆษณาสื่อให้เห็นว่าทุกคนเอาแต่เล่นโทรศัพท์จนไม่สนใจอะไรเลย และ Windows Phone ก็มาแก้จุดนี้ (คล้ายๆกับว่า แค่ชำเลืองคุณก็เห็นข้อมูลทุกอย่างบนมือถือแล้ว เทียบกับโฆษณาเก่าๆของ WP น่ะครับ)
แล้ว DTAC ก็นำ WP7 มาโฆษณาร่วมด้วย O_o
ชอบบทความครับ ขอบคุณครับ...
เคยคิดเรื่อง up version ของแอนดรอยด์เหมือนกัน
up โดยตรงทันทีเลยไม่ได้ ต้องรอผู้ผลิตเครื่องเป็นคนปล่อยออกมา
ก็เลยต้องรอลุ้นกันเป็นพักๆว่าจะได้ใช้รุ่นใหม่ไม๊ เครื่องเราจะรันไหวไม๊
แต่ความหลากหลายของ สเปค ก็ช่วยให้เครื่องมีราคาหลายระดับให้ซื้อตามกำลังทรัพย์
"จงเลือก Nexus One"
There's a phone for that, Nexus one.
"ระยะทางพิิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์ OS"
ผมชอบแนวคิด UI ของ Ms ตัวนี้มากเลยแฮะแหวกแนวมากเลย
ถ้าเข้าไทยเมื่อไหร่ ผมซื้อเลยนะเนี่ย UI แบบนี้ พอดีชอบอ่ะ แนวดี
ชักกังวลว่าถ้าไม่มีโซนไทยให้ซื้อแอพ(แบบแอนดรอย) แล้วยังมีจำกัดแอพฟรีอีก อย่างนี้ พี่ไทยจะมีแอพใช้ไหมหว่า
รอ Jailbreak ผมก็รอแบบนี้อยู่ 555
ต้องไม่ลืมว่า MS มีสำนักงานในไทยที่ใหญ่พอสมควร ในขณะที่กูเกิลไม่มี และแอปเปิลมีแต่ขนาดเล็กมากครับ เทียบกับ Ovi ของโนเกียอาจจะดีกว่า
+1 เงินหนักดีด้วย ^^
จำได้ว่า Google มีออฟฟิซในไทยนะครับ
ไม่มีครับ
ลุ้นๆอยู่บ้าง แต่ก็คงยาก
มีใกล้สุดก็สิงคโปร์ แต่เห็นว่ากว่าจะเข้าได้นี้ยากโคตร
น่าไปลองเล่นดูมากๆ เลย
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ที่หนักหน่อยก็เห็นจะเป็น บริษัทต่างๆที่ทำเครื่องให้ได้ตรงตามสเป็กของ MS
และต้องทำโทรศัพท์ Android พร้อมกับการซัพพอร์ตอีกสาระพัด งานนี้ลงทุนกันพอสมควร
ทั้ง Samsung LG htc แล้วอีกไม่ช้า Motorola น่าจะมาร่วมวงทำ Window Phone ด้วย
งานนี้ต้องรอลุ้น ว่าจะแย่งตลาดของ Android และ iPhone รวม RIM ด้วยที่ไม่มีผลิตภัณฑ์
แข็งๆออกมาขายแข่งในช่วงนี้ได้อย่างไร
AIS น่าจะเป็นเจ้าแรกๆที่เอาเข้ามาขายในบ้านเรา....ผมเดาเอานะ
เพราะสายสัมพันธ์กับ Singtel บริษัทแม่ที่แข็งแกร่ง
ผมว่าหน้าจออกแบบได้ห่วยมาก ผมเห็นหลายๆ คนถล่มโนเกียที่หน้าจอแบบนี้ แต่พอเป็นของโฟน 7 กลับเป็นอีกอย่าง
nokia version ไหนครับที่เป็นหน้าจอแบบนี้?
ผมเห็น VDO hand on มันลื่นหัวแตกเลย มันห่วยตรงไหนอ่ะคับ หรือหมายถึง UI ผมว่าแล้วแต่คนชอบนะ
ที่บอกว่าห่วยอาจจะเป็นเพราะเคยแค่ดูรูป
แต่ถ้าลองดูวีดีโอ อาจจะคิดอีกแบบ
ไม่เห็นจะห่วยเลย ออกจะแนว เก๋และเทรนด์จะตายครับ
เรื่อง UI ผมว่าเป็นเรื่อง ความชอบของแต่ละบุคคล สำหรับคุณ และหลาย ๆ คนมันอาจจะห่วย แต่สำหรับอีกหลาย ๆ คนแล้ว นี่ละเจ๋ง
วัดกันเรื่องความสวย ความชอบ และสไตล์ของแต่ละบุคคลคงจะยากที่จะวัดได้
สำหรับผม ผมชอบสไตล์แบบนี้ เลื่อนได้ทั้งสี่ทิศ ดูชุดข้อมูลเดียวกันเลื่อนบน-ล่าง ดูข้อมูลชุดอื่นก็เลื่อนไปซ้าย-ขวา ไม่ต้องไปกดที่ปุ่ม หรือเรียกเมนูเพื่อจะเปลี่ยนชุดข้อมูล
หน้าแรกเป็นสี่เหลี่ยมใช้สัญลักษณ์บอกข้อมูล ทำรูป Outlook แล้วก็เลข 7 ดูแว๊บเดียวก็บอกได้ว่า มีเมล 7 เมล ไม่ต้องเขียน You got 7 e-mails in your inbox อะไรประมาณนี้ครับ เมื่อแสดงข้อมูลน้อย ทำเรียงเป็นบรรทัด ก็มีช่องว่าง ๆ ด้านหลัง
ปล. ออกนอกหน้าไปไหมเนี่ย...
Jusci - Google Plus - Twitter
เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าโนเกียเคยทำจอแบบนี้มาก่อน
UI ก็เคยเห็นบน Windows Phone 7 รายแรก ในขณะที่ Nokia ไปเล่นอยู่กับ Widget
ประเภทจอ ก็เห็น Nokia มี AMOLED แค่รุ่นเดียว
งงกับข้อความของคุณมาก
น่าสนใจแฮะ
WM เป็นตัวเดียวที่ไม่อยากมีไว้ครอบครอง
กำหนดสเป็กเครื่องให้เท่ากันหมด แบบนี้ก็ขายราคาถูกๆไม่ได้สิครับ
แล้วคนระดับล่างจะหามาใช้ยังไงละเนี๊ย...
หมายความว่าแกจะจับตลาดกลาง-บน อย่างเดียวเลยมั้งครับ ฮ่า
แต่ก็หลากหลายกว่า iPhone ที่จับแต่ตลาดบนนะครับ
+1.1 :D
ถ้ามีรุ่นที่ต่ำกว่าหมื่นเจอกัน
รอรุ่นที่รับ complete 4G เลย
เก็บตังเรื่อยๆ
ลง Garmin ได้ จะดีใจสุดขีดเลย
ก็ดีนะครับ จะได้ไม่อะไรก็ iPhone เกือบเหยีอบกันตายที่บูต AIS
ีมีใครแถวนี้เริ่มอยากเปลี่ยนย้าย Android เป็น Windows Phone7 บ้างยังคับ :)
ไม่เปลี่ยนได้ไหม แบบว่าอยากซื้อเพิ่มฉลองแฟนท้องลูกคนที่ 2 น่ะ
(แต่แม่เครียดนี้ไม่ดีกะเด็กมั้ง งั้นเอาไว้ก่อนละกัน....)
ก็ดี .. รอดูว่า OS ใหม่จะเป็นแค่เรื่องของการเมืองยังไง >_<
my blog
เห็น UI ครั้งแรกแล้วชอบมาก แปลกดีครับ แต่เป็นแบบชอบในความสวยนะ ไม่รู้ใช้จริงจะ practical แค่ไหน
จะมีลง Tablet รึปล่าว? ถ้ามีจะรอเก็บตัง.
เกือบปีแล้วนี่หว่าาาาา เพิ่งเห็นนน ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ไกลกว่าเดิมมากเลยยย
もういい