อาทิตย์ก่อนเพิ่งมีข่าว ปัญหาใหม่ของ iPhone 4 กระจกร้าวเพราะโดนกรอบแข็งขูด? คราวนี้บริษัทประกัน SquareTrade ซึ่งให้บริการ "ประกันภัยมือถือ" ได้เผยสถิติจากลูกค้าของตัวเองว่า iPhone 4 มีอัตราเสียจากกระจกแตกสูงกว่า iPhone 3GS ถึง 82% เมื่อนับระยะเวลาหลังวางขาย 4 เดือนเท่ากัน
SquareTrade บอกว่าลูกค้าประกันของตัวเองรายงานว่าเกิดอุบัติเหตุกับ iPhone 4 (ทุกอย่าง รวมกระจกแตกด้วย) สูงกว่า iPhone 3GS คิดเป็นสัดส่วน 68%
ทาง SquareTrade คาดว่าเมื่อผ่านไป 12 เดือน สัดส่วนอุบัติเหตุของ iPhone 4 จะสูงกว่า iPhone 3GS ประมาณหนึ่งเท่าตัว (ดูกราฟประกอบ)
ส่วนกรณีของกระจกนั้น ทาง SquareTrade บอกว่าไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเกิดจากการขูดกับเคสหุ้มเครื่องหรือไม่ แต่ 25% ของลูกค้าที่รายงานเข้ามา มีเรื่องกระจกด้านหลังแตกร้าวด้วย
SquareTrade สรุปว่ากระจกของ iPhone 4 นั้นแตกง่ายเท่ากับ iPhone 3GS เพียงแต่มีพื้นที่ให้แตกเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวเพราะมีกระจกด้านหลังหุ้ม อย่างไรก็ตาม iPhone 4 ถือเป็นอุปกรณ์ที่ผลิตมาอย่างดี มีอัตราเสียเองน้อยกว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ
ที่มา - SquareTrade
สถิติอื่นๆ ดูจากกราฟครับ สำหรับคนที่ข้องใจ เขามีรายงานฉบับเต็มให้ดาวน์โหลดไปอ่านนะ
Comments
เหมือนเดิม ยังไงก็ขายได้
ยังไงก็ต้องชื่มชมท่านศาสดา ที่ทำให้สาวก addict ได้ถึงเพียงนี้
เป็น1ในความสามารถที่ CEO ทุกคนควรจะมี
ขอชมอีกศาสดาอีกอย่าง ที่ทำให้พวก anti ดิ้นพรากๆ ได้ทุกข่าว 555
ขอชื่นชมสาวกทุกท่านด้วย ที่บางทีแอนตี้ไม่ทำอะไร ก็สะกิดใจให้ดิ้นพรากๆได้ทุกข่าว
หลังพวก anti แซง zealot นะ โดนเฉพาะพวก android fanboy 555
iTroll ?
นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่ Zealot ยังไม่ทันทำอะไรก็มีพวก Anti มาสร้างกระแสชวนทะเลาะด้วยสำนวนเสียดสีที่จริง ๆ แล้วไม่มีเนื้อหาอะไรประเทืองปัญญาแม้แต่น้อย สิ่งนี้ช่วยยืนยันอีกครั้งว่าการทะเลาะถกเถียงกันเกี่ยวกับ Apple หลายครั้งก็เริ่มโดยฝ่าย Anti ไม่ใช่ฝ่าย Zealot
ดังนั้นเลิกพูดเถอะครับว่า Zealot ทำให้พวกคุณหมั่นไส้จนต้องออกมาใช้คำพูดแบบนี้ ผมว่ามันกลับกันมากกว่า ถ้าจะอ้างว่าข่าวเก่า ๆ ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ผมก็ยังสงสัยอยู่ดีว่าตั้งแต่อดีตมานั้นฝ่ายไหนกันแน่ที่เป็นฝ่ายเริ่มก่อน ถ้าลองนับสถิติดูอาจจะพบตัวเลขที่น่าสนใจและได้ข้อสรุปว่าฝ่าย Anti ใช้คำพูดเสียดสีก้าวร้าวเป็นจำนวนมากกว่าและบ่อยกว่าฝ่าย Zealot ก็เป็นได้
ยิ่งไปกว่านั้นถ้าจะนับย้อนหลังต้องนับกลับไปนานแค่ไหน 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี 2 ปี 4 ปี 8 ปี หรือนับย้อนไปจนถึง Apple ก่อตั้งบริษัทขึ้นมา ผมเห็นหลายคนชอบอ้างว่าที่ฝ่าย Anti มีพฤติกรรมเสียดสีแบบนี้เพราะฝ่าย Zealot เริ่มก่อน การพูดแบบนี้ก็ถูกในมุมหนึ่งแต่ก็ใช่ว่าจะถูกเสมอไป เพียงเพราะแค่อีกฝ่ายหนึ่งเริ่มก่อนเมื่อนานมาแล้วมันไม่ได้หมายความว่าอีกฝ่ายจะมีความชอบธรรมในการเสียดสีก้าวร้าวดักคอไว้ก่อนตลอดไป ผมเห็นช่วงหลังฝ่าย Zealot ก็ไม่ได้พูดจาบูชา Product แบบไร้หลักการเท่าไรแล้ว ดังนั้นเลิกอ้างเถอะครับว่าที่ตัวเองชอบจิกกัดชาวบ้านเป็นเพราะชาวบ้านทำตัวน่าหมั่นไส้
นิสัย อคติ จริต การกระทำ คุณเป็นแบบนี้เองต่างหาก
That is the way things are.
กด Like
ผมเองก็ไม่ชอบสาวกที่ออกมาชาบู Apple แล้วดูถูกคนใช้อย่างอื่น
แต่ที่ไม่ชอบเหมือนกันคือ Anti ที่ยังไม่ทันมีสาวกมาทำอะไรก็ออกตัวมาด่าว่าเค้าก่อนแล้ว
กด Like ด้วยคน
เห็นว่าคนอื่่นน่าเกลียด ก็ไม่น่าไปทำตัวอย่างเขานะ
I need healing.
++100 คับ
Zealot นานๆจะมาแบบจังรัยๆซักคนสองคน(ผมเคยอ่านความเห็นพวกนี้ต่ะก่อนก็หมั่นไส้เหมือนกัน)
แต่ชาว Anti นี่แรงดีไม่มีตกทุกวันทุกฤดูกาล กี่คนผมไม่ได้สังเกตรู้แต่มีให้เห็นทุกข่าวที่เกี่ยว/โยงได้ถึง Apple และแน่นอนฝั่ง Anti มักปลอดภัยเสมอไม่ว่าจะเสียดสียังไงก็ตาม - -"
เห็นด้วยครับ
หลังๆนี้ Anti มาทุกฤดูกาล.. แม้ว่า Zealot ไม่โผล่เลยก็ตาม
ผมนับ zealot ในข่าวนี้ได้เยอะเลยครับ แต่พวกเขาอาจไม่รู้ตัวมั้งนะ
+1
ถ้านับอย่างนั้นคุณ mk ก็จัดเป็นพวก anti ล่ะนะ
+1
อ้าว เพิ่งรู้เหรอครับ
blog ที่เป็นสื่อกลาง แต่ admin เลือกข้าง?
ใครบอกว่าบล็อกนี้เป็นสื่อกลางเหรอครับ?
สื่อต้องกลางด้วยเหรอครับ?
สื่อไหนกลางจริงๆมั่งครับ ไม่ใช่กลางกลวง กลางแต่ปาก
ผมอยากทราบ?
สื่อที่ดีต้องพยายามเป็นกลางครับ
เผอิญเราทำสื่อที่ไม่ค่อยดีเท่าไรครับ สาวกแอปเปิลไม่ค่อยชอบเรา คงรับคำว่า "ดี" ไม่ได้
แล้วสื่อที่ดีเป็นกลางกับนักโทษหนีคดีมั้ยครับ
เป็นกลางกับโจรมั้ยครับ
เป็นกลางกับผู้ก่อการร้ายมั้ยครับ
สื่อมวลชนทั่วไป ผมก็เห็นว่ามีงานสองอย่าง คือแสดงข้อเท็จจริง กับแสดงความคิดเห็น
หนังสือพิมพ์ไหนๆ ก็มีทั้งข่าว และคอลัมน์
ระหว่างการเขียนข่าว ก็จำเป็นต้องเขียนความจริง และก็มักจะพยายามเป็นกลาง
ทั้งที่บ่อยครั้งก็ทำไม่ได้ เช่นมีข่าวออกมา ข้อเท็จจริง สรุปผล บางส่วนที่ต้องคาดเดา มันก็มีอคติ ความเอนเอียง
แม้แต่เขียนข้อเท็จจริง การเลือกใช้คำ เลือกความจริงส่วนไหนมาพูดก่อน
ก็สื่อความหมายที่เอนเอียงได้
หนักว่านั้นคือ ผมไม่เคยเห็นคอลัมน์ไหนที่เป็นกลาง
ล้วนแต่เป็นการวิเคราะห์และสรุปผลด้วยอคติหรือความเชื่อของคนเขียนคอลัมน์นั้นๆ
คอลัมน์ไม่จำเป็นต้องเป็นกลาง ความเป็นกลางของความคิดเห็น มันก็อยู่ที่ว่ากลางของใคร
แต่มันก็เป็นสื่อที่ดีเหมือนกัีน
สื่อที่ดี เป็นกลางกับความเลวได้หรือไม่?
ไม่มีใครบอกแบบนั้นนะครับ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ไม่เคยเป็นกลางครับ เขียนบอกไว้ในหน้า Guideline มานานมากแล้วครับ
ผมตั้งเว็บนี้ขึ้นมาเพื่อเผยแพร่อุดมการณ์ทางความคิดที่ผมเชื่อครับ ซึ่งอาจจะไม่เหมือนของคุณก็ได้
อืม ครับ ที่นี่เป็นอย่างนี้นี่เอง
ใช่ครับ ไม่พอใจก็สร้างสื่อที่ตัวเองพอใจขึ้นมาให้เห็นครับ
เท่าที่อ่านดูหลายคนก็ comment โต้แย้งอย่างมีหลักการนะครับ ไม่รู้แบบไหนที่คุณ mk จัดว่าเป็นสาวกบ้าง น่าสงสัยเหมือนกันนะครับว่าสาวกเค้าดูกันอย่างไร
That is the way things are.
^ อย่างงี้ล่ะครับ
ตีความหมายคำพูดผมกันไปถึงไหนครับ ความหมายมันก็มีเท่าทีผมพิมพ์เท่านั้น
งั้นผมขอขยายความที่ผมพิมพ์ไปละกันนะครับ
ผมชื่นชมคุณ สตีฟ จอบ ที่เขาสามารถทำให้ลูกค้าของเขายังมี loyalty ต่อสินค้าของบริษัทไม่เสื่อมถอย แม้ว่าสินค้าของเขาจะออกมาแล้วคุณภาพที่ไม่ดีเท่าที่ควร แต่ก็ยังไม่ยอมรับว่าสินค้าของเขานั้นผิดพลาด เพราะถ้าเขายอมรับเมื่อไร loyalty ของลูกค้าเสื่อมถอยลงอย่างแน่นอน
ถ้าผมเป็น CEO ผมก็ทำแบบเดียวกับเขานั้นล่ะ
ผมถึงบอกว่ามันเป็นสิ่งที่ CEO ควรจะมี
เพราะหน้าที่ของ CEO คือรักษาผลประโยชน์ของนักลงทุน
หลายๆคนน่าจะไปลองดูหนังเรื่อง Yes man นะครับมันได้ข้อคิดในการคิดที่ดีเชียวล่ะ
ป.ล. อีกอย่างจนถึงบัดนี้ผมยังไม่รู้เลยครับว่า Zealot มันหมายถึงอะไร
"ชื่มชมท่านศาสดา ที่ทำให้สาวก addict ได้ถึงเพียงนี้"
เป็นผมๆก็ตีความแบบพี่ๆด้านบนนะครับ "สาวก", "addict" รู้ๆกันอยู่ว่าคำพวกนี้มักเป็นสรรพนามที่ใช้กันเวลาเสียดสี Apple ในเว็บนี้
คำว่า addict ความหมายก็มักใช้ในแง่ร้ายหรืออย่างน้อยก็กลางๆไม่บวก
ส่วน Zealot เอาง่ายๆก็คือสาวกนั่นแหละครับ
+1
แข็งขึ้น เปราะขึ้น = =''
ประโยคคลาสสิกที่ข่าวเกี่ยวกับ iphone4 ต้องมี
ก็มันเป็นข้อเท็จจริง เป็นหลักวิทยาศาสตร์- -"
ลองไปคิดดูดีๆว่าที่เค้าโฆษณาเค้าสื่อถึงอะไร
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
ข่าวผิดแล้วครับ ต้องขึ้นหัวข่าวว่า "สแควร์เทรดรายงานว่า ไอโฟน 4 มีอัตราการเสียเองต่ำมาก"
และมีอัตราการเสียหายจากของเหลวลดลงจาก 20% เหลือเพียง 17% เท่านั้น
การเสียหายจากสาเหตุอื่น ลดลงจาก 4% เหลือ 1%
หา.. อะไรนะ กระจกเหรอ..
ไม่ใช่ความผิดของแอปเปิ้ล เป็นความผิดของผู้ใช้ที่ทำแตกเอง
กระจกอยู่ดีๆ มันแตกได้เองซะทีไหน
ลงชื่อ
บร๊ะสาวก
ฮ่าๆๆ
ผมสงสัยว่า กระจกด้านหน้ากับด้านหลัง วัสดุเดียวกันหรือไม่
It's not bug, it's feature.
ผมอยากได้นะ แต่ผมกลับคิดว่า รอ iphone 5 ดีกว่า เพราะ 4 รู้สึกจะมีอะไรให้ apple เรียนรู้เยอะพอสมควร
New model beta 1
:: DigiKin8 ::
พี่ฮาร์ท เอามาเขียน app เล่นสิพี่ อิอิ
++10 ครับ
ผมอยากได้เหมือนกัน แต่ยังไม่เอาไม่ใช่เพราะยังไม่สมบูรณ์ แต่!!!
...ไม่มีตังค์คับ...คงต้องรอ iPhone6-7 โน่นหล่ะมั้ง - -"
มีสถิติ iPod Touch บ้างไหมครับ
รอดูค่ายอื่น เอามากัด
ของสาวก พัง = ซื้อใหม่
ศาสดาก็แฮปปี้
ของ Anti
Appleดี/Appleไม่ดี => เสียดสีสาวก + เสียดสีApple - -"
ก็ไม่แปลกนะ สูงกว่า 3GS 82% จริง ๆ มันควรจะสูงขึ้น 100% ด้วยซ้ำ 82% ถือว่าต่ำกว่าคาดนะ
เพราะ 3GS มีกระจกด้านหน้าด้านเดียว แต่ 4 มีกระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
เวลาทำร่วง 3GS ก็มีโอกาสที่จะร่วงทางฝั่งกระจกแค่ 1 ใน 2 แต่ถ้าเป็น 4 ก็จะร่วงโดนกระจกด้านใดด้านหนึ่งอยู่แล้ว
โอกาสมันก็ต่างกันอยู่เท่าตัว
(แต่ถ้า Devil อยู่แถว ๆ นั้นโอกาสที่ทำร่วงแล้วลงด้านกระจกเป็นถึง 100% อ้างอิงจากหนังเรื่อง DEVIL)
นี่ผมกำลังใช้ตรรกะผู้นิยมชมชอบแอปเปิ้ลอยู่หรือเปล่าเนี่ย...
ถ้ามองในแง่นี้ ก็ถือว่ากระจกของ iPhone 4 ทนกว่า 3GS นะ
เข้าใจคิดดีครับ
ตามข่าวเค้าก็ให้ข้อมูลมาแบบนี้แหละครับ
ความแข็งแรงเท่ากับ 3GS แต่ได้กันรอยขีดข่วนเพิ่มมา(บางคนยังเข้าใจว่าเค้าอ้างว่ามันแตกยากขึ้นซึ่งมันไม่ใช่เลยคนละเรื่อง)
มีด้านให้แตกเพิ่มขึ้น 100% แต่แตกจริง เพิ่มขึ้นแค่ 82% ผมว่าดูยังไงก็เป็นการพัฒนาในแง่ดีนะ แต่หัวข้อข่าวพาเข้าใจผิดมากกว่า
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
ผิดยังไงครับ? ผมว่าก็ถูกแล้ว
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ผมไม่ได้หมายถึงว่าเขียนผิด หรือแปลความผิดครับ
แต่ที่จะสื่อคือมันนำพาให้คนอ่าน"เข้าใจ"ผิดมากกว่าครับว่ากระจกของ iPhone4 อ่อนแอกว่า 3GS ยิ่งถ้าอ่านผ่านๆแล้วล่ะก็แล้วใหญ่
เพราะข้อเท็จจริงที่อยู่ล่างสุดก็บอกแล้วว่าเหตุที่มันเป็นช่นนั้น มาจากการที่มันมี พื้นที่ ให้แตกมากกว่า 3GS เท่าตัว แต่ไม่ได้เกี่ยวกับความแข็งแรงเลย
เพราะอันที่จริงเมื่อพื้นที่เพิ่ม 100% แต่แตกเพิ่มแค่ 68% ก็แปลว่ามันแข็งแรงขึ้นด้วยซ้ำนี่ครับ
แต่หัวข้อข่าวมันนำพาไปในทางที่ว่ามันเป็นปัญหาในแง่ลบ ทั้งๆที่ดูจริงๆแล้วมันก็เป็นแง่บวกด้วย
สรุปประเด็นก็คือข่าวมันมีทั้งแง่ลบและแง่บวก แต่หัวข้อมันนำพาไปแง่ลบอย่างเดียว ซึ่งอาจจะเป็นมาตั้งแต่ต้นทางแล้ว อันนี้ผมก็ไม่ทราบนะครับ แต่ปัจจุบันสื่อก็มักจะชอบสร้างหัวข้อข่าวแบบนี้อยู่แล้วจนแทบจะเป็นเรื่องปกติ จึงอยากจะช่วยกันพัฒนาให้มันดียิ่งขึ้นครับ
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
ผมก็ตอบแบบเดิมทุกครั้งครับ
ถ้าคุณคิดว่าสื่อปัจจุบันไม่ดี
แสดงให้โลกเห็นสิครับ ว่าสื่อที่ดีเป็นยังไง
ในข่าวเขาก็บอกชัดเจนนะครับว่า กราฟเปอร์เซ็นต์การแตกของเครื่องเทียบกันระหว่าง iphone 3gs กับ iphone4
แต่ส่วนที่ว่ามีกระจกมากขึ้นมันก็เป็นการวิเคราะห์ปัจจัยที่ทำให้เปอร์เซ็นต์มันมากกว่าเท่านั้นเอง
เวลาผมเป็นคนซื้อผมคงไม่สนใจหรอกครับ
ว่าพื้นที่สัมผัสจะเป็นเท่าไหร่
อัตราส่วนของการแตกต่อพื้นที่สัมผัสเป็นเท่าไหร่
ผมรู้แค่ว่าแตก ก็คือแตก
ถ้าใช้ตรรกะนี้ สร้างของชิ้นนึงมา
มีกะจก 1 ด้าน อัตราการเสียหาย 70%(ของผู้ใช้ทั้งหมด)
ผมออกรุ่นใหม่ใหม่ให้มีกระจก 2 ด้าน กระจกต้องแตกถึง 140%(ของผู้ใช้ทั้งหมด) ถึงจะเท่าเดิม
ซึ่งตามหลักความจริงแล้วเป็นไปไม่ได้ที่จะมีของเสียมากกว่าของที่ถูกซื้อไป
ต่อให้เสียทุกชิ้้นเลย ยังถือว่าความเสียหายลดลงกว่าเดิมหรอ?
ลองคิดให้อีกแบบนึงคือใช้ set
กระจกของรุ่นใหม่แตก 5%
เลข 5 นี่มาจากไหน?
ตอบ : กระจกด้านหน้าแตกอย่างเดียว + กระจกด้านหลังแตกอย่างเดียว + กระจกแตกทั้งสองด้าน
เอ่อ ก็นั่นแหละครับ มันมีส่วนของเครื่องที่แตกทั้งสองด้านอยู่ด้วย
May the Force Close be with you. || @nuttyi
++100 คับ
หัวข่าวบอกชัดเจนว่า iPhone4 โอกาศกระจกแตกมากกว่า iPhone3Gs เขาวัดที่ผลสุดท้ายว่าเครื่องไหนสามารถเกิดปัญหาที่กระทบต่อผู้ใช้ได้มากกว่า ไม่ใช่สังเกตว่ากระจกอะไรดีกว่า เขาวัดที่ Product ครับไม่ใช่ที่วัตถุดิบที่ใช้
ถ้าจะคำนวนแบบนั้น 140% ที่ได้ออกมามันจะกลายเป็น 140% ของด้านที่แตกไปสิครับ ซึ่งถ้าคิดมาเป็นอย่างนั้นจะไม่แปลก เพราะของเดิม 1 ผู้ใช้ มี 1 ด้าน ของใหม่ 1 ผู้ใช้มี 2 ด้านนะครับ ถ้าเอามาเทียบกันตรงๆผลก็ต้องออกมาแปลกอยู่แล้วเพราะ นิยามของผู้ใช้ของอันแรกกับผู้ใช้ของกันที่ 2 มันไม่เหมือนกันจะเอามาเทียบตรงๆมันไมได้
ถ้าจำคำนวนแบบนี้ต้องคิดเป็นพื้นที่ด้วยเช่น เครื่องแรกแตก 100% ของพื้นที่ทั้งหมด(เท่ากับด้านเดียว)เครื่อง 2 แตก100% ของพื้นที่ทั้งหมด (เท่ากับ 2 ด้าน)จะเห็นว่าถ้าคำนวนแบบนี้จะออกมาเท่าเดิมก็คือ 70% ไงครับ
ส่วนที่ว่าคิดแบบ Set นั่นต้องดูข้อเท็จจริงประกอบด้วยครับว่าเป็นเช่นไร แต่ข่าวก็ไมได้ระบุไว้ เพียงแค่บอกเหตุผลของตัวเลขที่เพิ่มไว้ว่า เพราะมันมี 2 ด้าน ซึ่งก็น่าจะชัดเจนแล้ว
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
แปลกสิครับ
เพราะคนซื้อ 100 คน แต่มีผู้เสียหาย 140 คนได้ไง
ถ้าจะบอกว่าซื้อกระจก 200 บาน แต่แตกแค่ 140 บานนี่ไม่แปลก
แต่จะมีเงื่อนไขว่า บังคับ 1 คน ซื้อกระจก 2 บาน
และถ้าแตกบานใดบานหนึ่ง ผมก็ต้องเสียตังเปลี่ยนทั้งสองบานอยู่ดี
May the Force Close be with you. || @nuttyi
If the glass on your iPhone cracked, you're dropping it the wrong way.
This comment was posted by steve jobs. Check it out at his twitter @ceostevejobs.
นอกจากท่าจับที่ถุกต้องแล้วยังมีท่าตกที่ถูกต้องด้วยเหรอเนี่ย = ="
เอาจริงหรือเอาฮาเนี่ย 555
ฮากันไป เอิ้กๆ
สรุปว่า @ceostevejobs นี่เขาจริงเหรอครับ เหมือนคุ้น ๆ ว่าไม่ใช่ หรือผมเข้าใจผิด
ถ้าจริงจะได้ follow มั่ง ชอบเห็นเขาแถครับ ขอบคุณครับ
จริงก็แย่แล้วครับ
แต่ Follow ไปก็ดีนะครับมันน่าจะมีอะไรฮาๆมาอ่าน ^^
It's real steve jobs Na kub. This account has been confirmed from many sources kub
edit ; reply repeated
+1000 ฮาจริงๆ
แตกง่ายขึ้น 82% แต่ข่าวเรื่องการแตกเพิ่มขึ้นมากกว่า 1,000%
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
สงสัยต้อง Gen 5 จริงๆ ดีนะยังไม่ได้ซื้อ..
มีข่าวได้ตลอดอย่างกับดารา
การเสียดสี ไม่ใช่การถกกันด้วยปัญญา หรือการหาหลังฐานข้อเท็จจริงมาพูดคุย(FACT)
ผมว่าการใช้ความรสึก ไม่ว่าจะเพราะ คึกคะนอง ความสนุก ความหมั่นใส้ หรืออะไรก็แล้วแต่
มันย่อมมีผลกระทบต่อจิตใจอีกฝ่ายเฉกเช่นเดียวกัน
ประเด็นมันอยู่ที่ว่า สมมุติถ้าคุณเป็นเจ้าของ iphone4 แล้วทำมันร่วง มีโอกาสที่เครื่องจะเสียเพราะอาการกระจกแตกมีมากกว่าเดิมหนึ่งเท่าตัว
ซึ่งแน่นอน หมายถึง โอกาศที่คุณต้องจ่ายค่าซ่อมมีเพิ่มขึ้นตามไปด้วย และข่าวจากบริษัทประกัน ที่ต้องประเมินความเสี่ยงต่อความสูญเสีย เพื่อกำหนดเบี้ยประกัน ในกรณีนี้
ก็จะมากกว่ารุ่นเดิม
ดังนั้นคุณมีต้นทุนของความเป็นเจ้าของ แอบแฝงอยู่มากกว่าเดิม แต่สุดท้ายก็นั่นแหละครับ ความคุ้มค่าเป็นเรื่องของเจ้าของเป็นผู้ตัดสินเอง
อีกหน่อยคงต้องกระจกกันกระสุนซะแล้วมั้ง
ใส่ไว้ที่หน้าอกป้องกันกระสุนยิงเข้าที่หัวใจได้ด้วย 555
4.7% นี่ยังน้อยกว่ายี่ฮ้ออื่นอีกเหรอเนี่ย อยากรู้ว่าของยี่ฮ้ออื่นเค้าเป็นยังไงกัน
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ชอบแมค อยากได้แมค แต่ใช้วินโดว์
ชอบแมค
อยากได้ Android Phone
รอ Chome OS
ใช้ Windows
และเขียนโปรแกรมบน Linux
Contradiction จริงๆ