เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาในโลกของนักลงทุน มีข่าวลือออกมาว่าแอปเปิลเตรียมที่จะเข้าซื้อบริษัทต่าง ๆ ตั้งแต่ Facebook, Adobe Systems, โซนี่หรือแม้กระทั่ง Walt Disney
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม Facebook ได้ออกมาประกาศแล้วว่ายังไม่มีการเจรจากันระหว่าง Facebook และแอปเปิล ส่วนเรื่องของการเข้าซื้อ Walt Disney นั้นเคยเป็นข่าวมาแล้วในปี 2006 โดยในตอนนี้สตีฟ จ็อบส์เองก็ได้นั่งอยู่บนบอร์ดบริหารของ Disney อยู่แล้วในฐานะที่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของ Disney หลังจากที่ Disney ทำการเข้าซื้อ Pixar
ณ เวลานี้หากนับเงินที่มีเก็บไว้เพื่อการลงทุน (กว่า 5.1 หมื่นล้านดอลลาร์) และมูลค่าในตลาดของแอปเปิล แอปเปิลถือว่าเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา แอปเปิลเองก็ได้ทำการว่าจ้าง Adrian Pericaa ซึ่งเคยทำงานให้กับ Goldman Sachs มาทำงานกับแอปเปิลเต็มเวลา เพื่อหาตัวเลือกที่น่าสนใจในการลงทุนให้กับแอปเปิล
ที่มา - 9 to 5 Mac
Comments
เอ้าาา Microsoft ว่ายังไง ถ้าซื้อ Facebook ได้นี้น่ากลัวนะ อิอิ
ถ้า Apple เข้าซื้อ Facebook จริง ในอนาคตคงโดนยัดเยียดอะไรบางอย่างที่เห็นชอบเพียงศาสดาเป็นแน่แท้
ตีฟจ๊อ : ไออยากให้ยูเปลี่ยนสีเป็นสีอื่นบ้าง เบื่อสีน้ำเงิน
มาร์ซุ : แต่ไอมองไม่เห็นสีอื่นนี่นา ...
หุหุ ผมน่าจะเพิ่มคำว่า Feature อีกสักคำ อิอิอิ (โดนย้อนเรย 555+ อึ้งไปพักนึง แล้วคิดว่า.........เออเนอะ)
ถ้าซื้อ Facebook จริง คือ เปลี่ยนเกมส์ Flash เป็น HTML5 ทั้งหมด
คนไทยก็จะตีจากหาเจ้าใหม่ ในโลกนี้ไม่ได้มีแค่ Facebook ที่เดียว
ซื้อ Adobe ขึ้นมาละฮาตูมเลย
kurtumm
+1
Jusci - Google Plus - Twitter
+๑
+1 เหมือนไมโครซอฟย์สมัยก่อนเลยหรือเปล่า มีปัญหากับบริษัทไหนซื้อมันซะเลย
:D
แต่ผมก็อยากเห็นนะ ว่าถ้า Apple ซื้อ Adobe แล้วจะเกิดอะไรขึ้น
อยากรู้ว่าจะปรับราคาให้ถูกลง เหมือนที่เคยว่า Abobe ทำโปรแกรมราคาแพงเกินมาตราฐานของ Apple รึเปล่า
(จำไม่ได้แล้วว่าพูดตอนไหน)
อยากเห็น iOS ใช้ flash ได้อ่ะ
Flash ก็จะไม่ใช่สิ่งอันตรายสำหรับผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ apple
อีกต่อไป เพราะได้รับการเจิม เรียบร้อยแล้ว
ก็เลิกทำผลิตภัณฑ์ Adobe สำหรับระบบ Windows น่ะสิ - -"
แล้วก็จะเกิดการย้ายค่ายขนานใหญ่จากฝั่งพีซีมาแมค //กร๊ากกกกกกกก
แล้วแอปเปิลก็จะโดนฟ้องผูกขาด //ชัวววววร์!!!
เอา Flash ไปดอง หรือกลับลำมาสนับสนุน Flash 555
จะเหมือน Oracle ซื้อ Sun ไหม
Sony ??? มาได้ไง
ARM ยังเป็นไปได้มากกว่านะผมว่า
ซื้อ Sony นี่นึกภาพไม่ออกจริง ๆ ใหญ่กว่า Apple แหว่งหลายเท่าเลยนะนั่น (หรือเราเข้าใจผิดหว่า...)
แต่น่ากลัวเรื่อง Facebook แฮะ
ส่วน Adobe นี่ถ้าได้ไป ฝั่ง PC นี่แย่เลยนะนั่น ไม่เอา Autodesk ไปด้วยเลยล่ะ เหอ ๆ
ทำไมไม่เป็น Google ที่ซื้อ Facebook
บ้าไปแล้วชัดๆ
facebook Sony Adobe disney บริษัทพวกนี้ใหญ่โตไม่แพ้ Apple เลยนะ
facebook น่าจะเล็กกว่าค่อนข้างเยอะนะคับ ส่วนบริษัทอื่นนี่ไม่ใหญ่กว่าแต่คงไม่น่าเทคโอเวอร์ไหว
งั้นมาซื้อสื่อไอทีแห่งหนึ่งในเมืองไทยให้หน่อย
หมายถึง Beartai หรือเปล่า
ใหญ่หรือไม่ใหญ่ในประเด็นของการลงทุน เค้าวัดกันที่เงินสดที่บริษัทมีกว่า 5.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ไม่ใช่ขนาดจำนวนพนักงาน หรือจำนวนบริษัทลูก เงินมันเยอะเลยต้องคิดให้ดีๆ ว่าจะใช้เงินซื้อใจสาวกต่อไปนานๆได้ยังงัย
ลุ้นให้ซื้อ adobe ครับ 55555
ซื้อ Sony อารยธรรมจะกลับมาอีกรอบ
iPlayStation, PSP touch :P
ซื้อ SonyEnix ก็จะมีเกมส์ไว้ต่อกรกับ XBox Live
ม่าย อารยธรรม + ศาสดาผมสู้ไม่ไหวนะ
ถ้าเป็นบริษัทพวกนี้น่าจะตอบว่า "บริษัทเราไม่ได้มีไว้ขาย"
ไม่ได้แอ้ม facebook หรอก
ประเด็นคืนตอนนี้แอปเปิลรวยมาก เงินในมือเยอะสุดๆ ตามหลักทุนนิยมก็มักจะหาซื้อบริษัทอื่นๆ ไปเรื่อยๆ
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
เป็นการลงทุนที่น่าสนใจดีกว่ากองเงินทิ้งไว้ แต่ถ้าบริหารไม่ดีมันจะเน่าเหมือน Goldman Sachs หรือเปล่า ?
ผมคิดว่า cisco มีเงินเยอะสุดนะเนี้ย
+1 แค่เห็นธุระกิจภาพยนตร์ผมว่า sony ก็ใหญ่พอสมควรแล้ว
Walmart market cap $196.19 billion
Apple market cap $282 billion
@TonsTweetings
ในข่าวน่าจะหมายถึงความสามารถในการลงทุนขนาดใหญ่ที่สุด จึงนับเป็น Apple
ยืนยันคุณ iterator คับว่า exxon ที่ 1 ครับ
ข่าวคงกล่าวถึงโลก IT มากกว่าคับ
ผมว่า Disney โอกาสโดนจะมากกว่านะ
น่ากลัวตรง FB นี่แหละ
ถ้าซื้อ Disney จะได้เห็นมิกกี้เมาท์ ใช้ iphone ป่าวอ่ะ หรือ ลุงโดนัล ถือ ipad งี้ กูฟฟี้ก็ฟัง ipod เหอๆ
Wall-E ไงครับใช้ iPod
แถมตอนตื่นนอนใช้เสียงเดียวกับบูท Mac OS X ด้วย (ถ้าจำไม่ผิด)
ฮ่าๆๆๆ นั่นไง!
Apple กับ Disney จะอึ่ยกันแน่นอน อิอิ
ทำไมต้องจะ "อึ่ย" กันด้วย
ฟังดูน่ากลัวชอบกล >.<
ถูกแล้วครับ Wall-E เป็น Macintosh เครื่องหนึ่งครับ 5 5 +
twitter.com/exfictz
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปผมว่าแอปเปิ้ลครองโลกแน่ๆ เหลือแค่ว่าเมื่อไหร
{$user} was not an Imposter
ถ้าเป็นแบบนั้นเรียกผมเป็นพวก Anti Apple ได้เลย
ผมไม่ชอบแนวคิด High-end user ของ Apple เลยครับ
ทำเงินเป็นอย่างเดียว ไม่คิดที่จะทำเพื่อส่วนรวมซะบ้าง
ผมยอมให้ Microsoft หรือ Google ครองดีกว่า
ไม่ค่อยเห็นด้วยซักเท่าไหร่ครับ ถ้าทุกคนคิดแบบนี้ เขาจะซื้อ Benz e-class ทำไม ในเมื่อ camry ก็ทำได้เหมือนกัน
คุณเข้าใจ reply ผมว่าอย่างไรอยู่ครับ?
ตอนนี้ผมคิดว่าคุณยังไม่เข้าใจสิ่งที่ผมต้องการจะสื่อนะครับ
ผมไม่เห็นด้วยที่ว่า High-end user ครับ Apple ก็มีตลาดของเขา งานดีไซน์ งานวิจัย ศิลปะที่ไปพร้อมกับเทคโนโลยี ผมคิดว่าก็เหมาะสมกับราคานี่ครับ
ผมไม่เข้าใจตรงที่บอกว่า "ทำเงินเป็นอย่างเดียว ไม่คิดที่จะทำเพื่อส่วนรวม" ผมมองว่า ถึงแม้ตัวจ็อบส์อาจจะไม่มีข่าวบริจาคใหญ่โต แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นคนไม่ดีนะครับ
ส่วนเรื่องใครจะครองโลก ผมคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ธุรกิจเป็นธรรมดาที่ต้องแข่งขันกัน การเข้าซื้อบริษัทก็มีเป็นปกติอยู่แล้ว มีเบอร์ 1 ก็ต้องมีเบอร์ 2 เป็นธรรมดา
ไม่ได้ชวนทะเลาะนะครับ ผมไม่ได้ anti บริษัทใดทั้งนั้น ยังไงเราก็ต้องเสียเงินให้บริษัทเหล่านั้นอยู่ดี
ผมหมายถึงถ้า Apple ครองโลก
ในตลาดก็จะมีแต่สินค้าของ Apple สิ่งเป็นสินค้าระดับ High-end user
ซึ่งคนบ้านๆ หรือคนชอบอยู่แบบบ้านๆ ไม่ซื้อหรือไม่มีปัญญาซื้อ
ทั้งที่พวกเขาก็มีความต้องการเหมือนกัน
และที่ว่าไม่คิดที่จะทำเพื่อส่วนรวม หมายถึง Apple ทำตลาดอยู่กลุ่มเดียวนั้นล่ะ
จากคำกล่าวของ Apple ที่ว่า เราไม่สามารถทำโทรศัพท์ดีๆในราคาถูกๆได้ นั้นล่ะทำให้ผมคิดแบบนี้
ขนาดโนเกีย ยังทำ โทรศัพท์ที่มี function จำเป็นครบตกไม่แตกง่ายในราคาคนบ้านๆแบบผมซื้อได้เลย
เรื่องนี้ถ้าถามว่า Apple ผิดด้วยหรือ? ผมก็จะตอบว่าไม่ผิดในทางเศรษฐกิจทุนนิยม
ส่วนมากผมจะเขียนเขียนหรือพูดแบบสั้นน่ะครับ ความหมายมันอาจจะขาดหายไป
เพราะถ้าลงรายเอียดทั้งหมดมันอาจจะไปกระทบอะไรหลายๆอย่าง กลายเป็นเรื่องยาวน่ะครับ
ผมชอบเขียนแบบให้คนอื่นไปต่อยอดเอาเองครับ
ห่วงอะไรขนานน้านนน
ถ้าตาลุงมันครองโลกได้จริง เดี๋ยวก็มีพวก killer product จากยี่ห้ออื่นเกิดขึ้นมาเอง เพื่อมาเก็บตลาดล่างที่ตาลุงทำราคาสู้ไม่ได้
อย่างสมัยก่อนโน้น... ตลาดกล้องถ่ายรูป มีแต่กล้องเยอรมัน ถึงจะมีคุณภาพดี แต่ราคานี่ก็รู้ๆ กันว่าแพงสาดดดด
แล้วญี่ปุ่นก็ผลิตกล้องแข่ง จนปัจจุบันเป็นไง กล้องเยอรมันแทบจะตายสนิท กล้องญี่ปุ่นครองโลกไปแล้ว -_-"
pุคล่าอาณานิคมเหรอไง ^^
ยุคล่าอาณานิคมเหรอไง ^^
Facebook ไม่ยอมขายแน่นอน !
ไม่รับ Autodesk ไปด้วยล่ะครับ อิอิ
facebook คงไม่อยากขายให้ google หรอกครับเพราะว่า google เคยเมิน facebook ทีนึง (หรือเปล่า)
adobe, autodesk โดนงาบ ผมคงเป็นคงนึงที่ซวย
Sony ถ้าเป็นส่วน Electronics น่าจะไม่น่าสนมั้ง อยู่ช่วงไม่ค่อยดีด้วย แต่ธุรกิจประกอบก็พอไหว
ผมว่า Adobe หรือ Disney น่าสนใจครับ แต่จริง ๆ Apple ไม่ต้องซื้อ Disney แค่ tie กันประมาณนึงก็พอมั้ง ยกเว้นจะเข้าสู่ธุรกิจ content จริง ๆ
Facebook ไม่น่าจะขาย potential ที่จะเจริญเติบโตต่อไปสูงมาก
เจ้าของยังหนุ่มและมีไฟ และน่าจะมีจุดมุ่งหมายอะไรหลายอย่างไว้
Sony คงจะยาก บริษัทญี่ปุ่น Sony เคยถือเป็นความภูมิใจอันดับหนึ่ง
ของอุตสาหกรรมอิเลคทรอนิกซ์ของญี่ปุ่น เงินคนญี่ปุ่นมีมากพอ ตอนนี้ต้องการงานให้คนญี่ปุ่นทำ
Adobe มีความเป็นไปได้ เพราะ core value อยู่ในสายเดียวกันไม่แตกต่าง
กันจนเกินไป
อยากเห็น apple ไปลงทุนในอุตสาหกรรมอื่นบ้าง เช่น renewable energy, green tech
หรือ ลงทุนในด้าน hw เพิ่ม เช่น battery, user interface
เรื่อง renewable energy กับ green tech นี่คงลงทุนไปแล้วแต่เราอาจจะไม่ได้ยิน หรือได้เห็น ยกเว้นสิ่งที่มันสะท้อนออกมา จากการออกแบบผลิตภัณฑ์ในเรื่องการประหยัดพลังงาน การเลือกใช้วัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่เช่น กระจก หรือ AL และ การที่พยายามเอาสารพิษสาระพัดออกจากผลิตภัณฑ์ ลดน้ำหนักให้เบา เตรียมสำหรับการ recycle ลดขนาดบรรจุภัณฑ์ การลงทุนในด้าน hardware เพิ่มก็คงมีมากขึ้น ตั้งแต่การทำ Unibody Macbook แบตเตอรี่ก็ทำเองไม่ได้ซื้อเขาใช้แบบสมัยก่อน Chip A4 ก็ให้ PA Semi ออกแบบเพื่อ optimized การใช้งานตามความต้องการให้ได้มากที่สุด เรื่อง UI ก็จดสิทธิบัตรหวงก้างเอาไว้เพียบ แล้วก็ไล่ฟ้องเค้าไปทั่ว จนมีศัตรูเยอะ
เชื่อว่าคงคิดอะไรไว้อีกเยอะ...จดสิทธิบัตรเอาไว้ก็มาก ใช้หรือไม่ใช้ก็อีกเรื่องหนึ่ง ศาสดาก็ชอบบอกว่าเทคโนโลยีเก่าๆมันล้าสมัย จะดันของใหม่เท่าเดียว ถือว่าบริษัทมีเงินเยอะ...จะทำอะไรก็ได้ แต่จะทำอะไรก็ต้องมีคู่แข่งเจ๋งทุกที
ที่คุณสารธยายมาผมว่าคนซื้อผลิตภัณฑ์ apple จำนวนมากคงเคย
ผ่านหูผ่านตามาหมดแล้ว (รวมทั้งผมด้วย)
มันอยู่ในคำอธิบายถึงภาพลักษณ์ใน กระบวนการขายเลยทีเดียว
แต่เผอิญผมไม่ได้ซาบซึ้งมากนักเลยท่องไม่ได้
และผมยังจำได้ว่า ที่ apple เริ่มสนใจจัดการเรื่องสารพิษและสิ่งแวดล้อม
ก็เพราะมีองค์กรณ์สิ่งแวดล้อมโจมตีเกี่ยวกับ ปัญหาของผลิตภัณฑืแอปเปิ้ล
(มันเสียภาพลักษณ์ "รักษ์โลก" ของบรรดากลุ่มเป้าหมาย)
แต่สิ่งที่เรารู้กน ก็รู้มาในรูป ประชาสัมพันธ์ จากทาง apple
ผมกำลังจะบอกว่า เราต้องดูข้อมูลประกอบ ซึ่งทางตะวันตกเขาจะเน้นเรื่องความโปร่งใส
ฝรั่งเขาดูตัวเลข และการวัดผลครับเขาถึงเจริญ
แต่ผมว่ามีบางข่าวทำให้รู้สึกน่าสงสัย เช่นข่าวนี้
http://www.justmeans.com/Why-is-Apple-Dodging-CSR-Reporting/9843.html
http://sustainabilityfrinq.wordpress.com/2010/02/19/apple-refuses-a-sustainability-report/
บางทีจะวัดอะไรพวกนี้ มันต้องมีไม้บรรทัดที่มีมาตรฐานวัด
ไม่ใช่ใครอวดอ้างได้สวยหรูกว่ากัน
ผมไม่ได้มีอคติกับ apple นะครับ ไม่อย่างงั้นคงไม่ได้ซื้อผลิตภัณฑ์หลายชิ้น
แต่ผมนอกจากดูหน้าตาภายนอกแล้ว
ชอบดุข้อมูลรายละเอียดเหตุผลที่มาที่ไปด้วย ก่อนที่จะเชื่อ
เรื่อง renewable engery
ที่ผมหมายถึง ลองเอาความสร้างสรรค์ไปบุกเบิกด้านใหม่ ๆ ดูบ้าง
อย่างเช่นที่กูเกิ้ลลงทุนใน winfarm
น่าจะเป็น Adobe ที่จะถูกซื้อไปเก็บกรุ แล้วเข็น Software ของ Apple ออกมาแทนและครองตลาดหลักจำพวก Digital Graphic
Adobe ก็เคยสู้ macromedia flash ไม่ไหว เลยซื้อมาเป็นของตัวเองซะเลย
แต่ถ้า apple ซื้อ adobe คงทำเพื่อเป็นการกำจัดคู่แข่งมากกว่า
Apple จะซื้อในลักษณะไหน?
จะว่าไป The Walt Disney Company บริษัทมันยักษ์ใหญ่(มากๆ)เลยนะ จะยอมหรอ? หรือจะซื้อ Pixar กลับมา?
ไม่สนใจสโมสรฟุตบอลบ้างเหรอ
น่าให้มาซื้อสโมสรในไทยมั่ง อิอิ
ฟุตบอลสโมสรไหนดีครับของไทยเนี่ย เอ๊ะซื้อไปแข่งชกมวยโลกป่าวครับเนี่ย
ที่เป็นไปได้มากที่สุดตอนนี้ก็คงเป็น Facebook ละมั้ง
แต่ผมคิดว่าถ้า Apple จะซื้อ Sony
น่าจะไปซื้อ EA น่าจะเป็นไปได้มากกว่านะ
เพราะเหลือตลาดเกมส์ที่ Apple ยังไม่ได้เริ่มจริงจัง
แต่ถ้าซื้อ Adobe ตึ่งโป๊ะมาก - -
ถ้าพูดถึงความคุ้มค่า Facebook คุ่มค่าที่จะลงทุนสุด เพราะยังไม่ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์ ถ้าหากนำตลาดในอีก 2-3 ปีข้างหน้า มูลค่าคงเพิ่มจากปัจจุปันมาก
ปัจจุปัน Apple เริ่มหันมามองตลาด Social Network มากขึ้น สามารถนำ Facebook ไปผูกกับ iOS ได้ด้วย น่าจะทำให้ภาพรวมของบริษัทต่อกรกับ Google และ Microsoft ได้สมน้ำสมเนื้อขึ้น
Adobe แน่เลยครับ เศร้า...
ความเป็นไปได้ที่สุดในมุมมองผมคือ ซื้อ facebook และ facebook จะยังคงเป้นแบบเดิม แต่มันจะ support กับ mac อย่างสุดกึ๋น
หลังจากนั้น facebook จะค่อยๆมีหน้าตาคล้ายๆ iphoto+mobile me
แล้วพอคนใช้ facebook ได้ง่ายอยู่แล้ว ก็จะเป้นเรื่องง่ายมากๆที่จะหันมาใช้ MacOS
ผมเชื่อว่า Sony แบรนด์ของเค้าเองแข็งแกร่งมากพอกว่าที่จะเอาไว้ขายนะ
fb ก็อีกกำลังเจริญเติบโต เป็นผมๆไม่ขายง่ายๆ แน่นอน
....ที่เหลือไม่แน่
อยากเล่นเกม PSP บน iPhone
Apple จะจัดให้มั้ยเนี่ย
{$user} was not an Imposter