เราเคยเห็นคนเอา iPad ไปปั่น, iPhone ไปยิง, Macbook ไประเบิด แต่ส่วนใหญ่เป็นการทำเพื่อความสนุกสนานหรือโฆษณาสินค้า แต่ Michael Tompert และ Paul Fairchild ศิลปินชาวอเมริกันร่วมกันสร้างงานศิลปะ โดยการเอาสินค้าของแอปเปิลมาทำลาย ด้วยการเจาะ หั่น เฉีอน เผา และระเบิด จนได้ภาพที่สวยงาม (รึเปล่า)
ภาพที่น่าประทับใจคือ Magic Mouse ที่หั่นซะจนกลายเป็นซูชิ กับอีกภาพคือ iPad ที่ถูกเผาจนไหม้แต่ยังมีภาพคีย์บอร์ดอยู่บนหน้าจอ ลองดูภาพได้ข้างใน
คำเตือน : ภาพสะเทือนใจ ไม่เหมาะกับคนสาวกขวัญอ่อน
ที่มา - Tuaw
Comments
อย่างนี้บ้านผมไม่กลายเป็นพิพิธภัณฑ์รึ?
น่าจะใส่ [ใจไม่แข็งห้ามดู] ที่หัวข้อด้วยน่าจะดี
I need healing.
Arttttttttt !!
เสียดายของ 555+
もういい
สะเทือนใจคนไม่มีตังซื้อผลิตภัณฑ์แอปแปิ้ลอย่างผมจริงๆ แต่พอทำลายแล้วมันก็ขยะชัดๆนี่เอง
+1 สะทือนใจด้วยอีกคนค่ะ
+1 สะเทือนใจ
ผมว่ามันเป็นอะไรที่เจ๋งมาก ผลิตภัณท์ของแอปเปิลแม้ตอนถูกทำลายยังคงงดงามได้ขนาดนี้
เส้นริ้วการแตกร้าวของกระจกที่คอยแผ่ขยายลงมาสู่ภาพคีย์บอร์ดที่ยังเลือนติดอยู่พิกเซล
การพริ้วไหวของพลาสติกเผยให้เห็นภาพลักษณ์ภายใน
โครงโลหะบิดเบี้ยวอย่างมีบุคลิคขานรับกับการระเบิดออกของสีสันบ่งบอกตัวตนของมันเอง
ตัวตนของแอปเปิลก็ยังคงอยู่แม้วินาทีสุดท้าย
นี้แหละที่ทำให้ผมคิดว่ามันเจ๋ง
อันนี้ฮา
{$user} was not an Imposter
'จารย์เหลิมชัยมาเองเลยแฮะ
ชอบ คห. นี้จัง
+1 like
+1
ตัวการโลกร้อน
งานนี้เคยอ่านเจอใน designboom.com ครับ มีคำอธิบายถึงงานชิ้นนี้ว่า
ผมว่าน่าสนใจตรงประโยคสุดท้าย
งานชิ้นนี้ต้องลองไปอ่านคำอธิบายของศิลปินครับ แล้วจะเห็นได้เลยว่าเค้าเก็บกดจริงๆ
อารมณ์ประมาณว่าเค้าซื้อไอพอดทัชให้ลูกชายคนละเครื่อง แล้วสองคนนั้นก็แย่งกันเพื่อที่จะเล่นเกมของอีกเครื่องนึง ทะเลาะกันไปมาจนเค้าโมโห เลยจับไอทัชเขวี้ยงลงพื้น แตกกระจาย แล้วมีสารเคมีเยิ้มออกมา แล้วก็เลยเกิดแรงบันดาลใจอะไรซักอย่าง รีบคว้ากล้องมาถ่ายภาพเก็บไว้ (เก็บกดจริงๆ) แล้วพัฒนาต่อมาเป็นงานข้างบนนี้
ทีมา: http://www.designboom.com/weblog/cat/10/view/12267/destroyed-apple-products.html
คีย์บอร์ดยังโผล่มาอยู่เลยอะ.. ! *0*
คงเพราะสินค้าพวกนี้ราคาไม่แพงมากเมื่อเทียบกับรายได้ของเขา
แต่บ้านเราถือว่าแพงมาก ใช้กันมือหนึ่ง มือสอง มือสาม... ขายต่อ ๆ กันไป
ใช้กันจนคุ้มค่าสมกับที่ใช้ทรัพยากรโลกสร้างมา
บางภาพดูแล้วคิดว่า
"มันคืออะไรฟระครับ"
= ="
Dream high, work hard.
นอกจากมีความเป็นศิลปินสูงแล้วยังต้องรวยด้วย
มองดีๆแล้วเขาอาจติดต่อของเอาสินค้าที่ไม่ผ่าน QC หรือไม่ก็ชำรุดแล้วมาทำก็ได้
ซ้ำครับ ขออภัย
สยองมาก
งดงามจริงๆ คับ แต่ก็สะเทือนใจเมื่อนึกว่ามันเป็นของใช้
positivity
ภาพหลังๆ ดูแล้วตาลาย
มันดูดีเพราะจัดแสงด้วยสินะ
อยากถามคนถ่ายด้วยเสียงแบบโน้ตอุดมครับ "ว่างมากหรืออย่างไร?"
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
ถ้ามีเงินซื้อก็เอาเถอะครับ ยังไงศาสดาก็ได้เงิน
เสียดาย
บางคนบอกว่า "ศิลปะ"
บางคนบอกว่า "ไร้สาระ"
เอาของมือสองมาถ่ายก็ได้ครับ หรือเครื่องตกน้ำซื้อบนอีเบย์ยิ่งถูกใหญ่
ต้องใช้ใจมองสินะ
บางคนเข้าแถวซื้อข้ามวันข้ามคืนเพื่อมากระทืบก็มี ไม่จำเป้นต้องเป้นของเสียหรือของมือสองครับ ฝรั่งเค้ามีวิธีดิสเครดิต และ viral แบบแปลกๆ เพียบ
อารมณ์เหมือนดาราไปเที่ยวผับ คนภายนอกก็มองว่าดาราเสเพล เอาแต่เที่ยวกินเหล้า หารุ้ไม่ ดาราหลายๆ คนถูกผับพวกนี้จ้างไปโดยเฉพาะเลย
ย่อหน้าหลังเป็นอีกมุมมองที่ไม่เคยคิดเลยจริงๆ
ประชด??
โอ๊ยยยดูแล้วใจไม่ดีเลยเหมือนดูคลิปนั่งทำกระต่าย
รู้สึกแย่เหมือนกัน ทำให้นึกถึงเรื่องเก่าๆ
ตอนเด็กๆเคยทำงานศิลปะส่งอาจารย์ แล้วโดนบอกว่าห่วย แล้วอาจารย์ท่านก็ปล่อยลงพื้นตกลงไปแตกกระจาย แล้วก็เยียบซำ้
ความรู้สึกเดียวกับตอนนั้นเลย
คนทำงานศิลปะด้วยกันน่าจะเข้าใจว่างานที่ถูกทำลายมันเป็นยังไงนะครับ
การที่อาจารย์ตอบสนองด้วยวิธีนี้ก็แย่หน่อย คืองานสวยไม่สวย ก็ติแบบสร้างสรรค์ได้ ไม่ควรไปเยียบย่ำ อย่างไรก็ตามคนที่ทำชิ้นงานด้วยมือ/กำลังของตัวเอง ถึงจะห่วย ไม่สวย แต่ก็มีความมานะบากบั่นอยู่เต็มเปี่ยมในชิ้นงานนั้น
และถ้าคุณกำลังเสียใจ หรือร้องไห้ ก็จงภูมิใจเถอะว่า อย่างน้อยคุณกำลังเสียใจในความทุ่มเทของคุณที่ใส่ลงในชิ้นงานที่โดนเขี่ยทิ้งอย่างไม่ใยดีนั้นเอง แต่ถ้าคุณไม่เสียใจหรือร้องไห้เลย นั่นก็แปลว่าคุณยังพยายามไม่ดีพอนั่นเอง
ชอบความเห็นแบบนี้ครับ ทำให้ใครหลายๆคนได้จุดประกายความคิดขึ้นมา จะได้อยู่ต่อไป ไม่ได้มองในแย่ร้ายๆเพียงเท่านั้น
ถ้าเป็นงานศิลปะผมก็รู้สึกแบบนั้นนะ ต่อให้ไม่ใช่เจ้าของงานเองก็เหอะ
แต่อันนี้มันเป็นผลิตมาเยอะๆแบบนี้ ก็เฉยๆอะ
(กระซิบ)อ.คุณเค้าไม่มีหัวใจหวะ
เขาอิจฉาคุณครับ เชื่อผมสิ
การแสดงออกแบบนั้นมีแต่คนกักขฬะแหละครับที่ทำได้
คนปกติไม่ทำกันหรอก
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
ตอนเรียนปีหนึ่ง อดหลับอดนอนส่งงานชิ้นแรก อาจารย์เอางานของทุกคนไปกองรวมกัน แล้วโยนลงจากห้อง (ชั้นสอง) ลงไปที่ถนน อึ้งไปทั้งห้องเลยครับ
ตอนหลังมารู้ว่า อาจารย์อยากให้ 1. คนที่(คิดว่าตัวเอง)เก่ง ได้รู้ว่างานของเขาก็ถูกปฏิเสธได้เช่นกัน 2. ให้ทุกคนรู้ว่า ต่อให้ทำงานมาดีแค่ไหน ถ้าลูกค้าไม่ชอบ มันก็แค่นั้นเอง
เดี๋ยวนี้นับถือท่านมากครับ
เป็นเรื่องปกติของคณะสถาปัดเลยนิครับ (แต่ผมไม่ชอบวิธีแบบนี้เลย)
ทันตะด้วยครับ
ทันตะ = แพทย์+ถาปัตย์ = ='
May the Force Close be with you. || @nuttyi
โอ้ รู้จริง :P
สวยดีครับ ผมชอบ
การจัดวางองค์ประกอบ การจัดแสงในการถ่ายรูปสวยดี
ลุ้นอยู่ว่าจะมี Mac Pro Xeon รึเปล่า :D
ไม่ค่อยมีใครเขาทำกันไงเขาเลยดัง อยากดังเมืองฝรั่งต้องทำอะไรที่มีกระชากใจกันสุดๆ อย่างน้อยๆ แฟนบอย Apple จำชื่ออาจารย์คนนี้ขึ้นใจแน่ : )
ชอบรูป Ip โดนยิงทะลุจัง
แต่ขำคำกำกับมากกว่า ฮาๆๆ
รูปที่ 6 เปน iPod Nano รูปคนด้วยกำลังชูมือ มีใครเห็นเหมือนกันปะ
มันเป็น ศิ๊ลปะ !!!!
FAIL!
ไปซื้อของมือสองรอยเยอะๆ ไม่ก็หาของเสียแล้วขายซากมาทำ มันก็ไม่แพงแล้ว เห็นขายกันราคาต่ำเตี้ยเรี่ยดิน
ดูเเล้วสิ่งเเรกที่นึกคือ.. Apple ขาวสวยหมวยเอ็กเเต่ปลอบบางซะมากกว่า
ผมมองว่ามันแปลก แต่ไม่เหนว่ามันสวยเลยครับ
ยิงเผาขนกันเลยทีเดียว ยังมีเขม่าเกาะอยู่เลย
We need to learn to forgive but not forget...
ทำไปได้
ไอพอดนาโนสีเหลืองเหมือนตั้งท่ากังฟูอยู่เลยเเฮะ
งง รูปสุดท้ายมันรุ่นอะไร ? แปลกใจตรงกางจอได้ 180 และก็ข้อต่อบานพับจอ มันเป็นแบบนั้นหรอ ?
ก่อนพัง - just an industrial design object
พังแล้ว - the art object
หลายคนให้ความคิดเห็นว่าเป็นงานที่ใช้ต้นทุนสูง ผมว่ามันไม่สูงเลยนะ หากคิดว่าศิลปินจำนวนมากต้อง "burnout" ชีวิตตัวเองทั้งชีวิตเพื่อให้ได้งาน
ไอพอดนาโน ดูเหมือนเปลือกลูกอมที่เด็กกินแล้วไม่ทิ้งเลย