เอ่อ ตื่นสายก็ยังไปทำงานได้ไม่ใช่หรอ??

ทุกฝ่ายก็ต้องร่วมกันรับผิดชอบ

อ่านแล้วแปลกๆ

ไม่ไปทำงานทั้ง 3 วันเลยเหรอ

เห้ย น่าจะโดนไล่ออกเพราะไปทำงานสาย ไม่ใข่ไม่ไปทำงาน = ='
ทำงานที่ไหนเนี๊ย อยู่ทีมะัฒนาแอนดรอยด์ป่ะ ฮ่าๆ ล้อเล่น ><

ถ้าทำงานดีจริง คงไม่น่าโดยไล่ออกง่ายๆหรอกนะ

เจ้านายคงเขม่นอยู่แล้ว

วันๆเล่นแต่ facetime facebook
แอบเล่นเกมในไอโฟน รึป่าว

สลด

บริษัทอะไรเอ่ย ทำอะไรก็ผิด

ตัวเองตื่นสาย แต่จะให้ผู้อื่นรับผิด? อายุ28 ?

ไม่ค่อยเกี่ยวนะครับ ถ้าอยู่ๆนาฬิกาปลุกพัง... จะให้ร้านขายนาฬิกามารับผิดชอบ?

ผมว่าตรรกะมันแปลกๆ แต่ก็นะ ไม่ได้เกิดกับผมเอง แค่แสดงความเห็นครับ

ปัญหาเยอะชิบ แต่ก็ขายได้เยอะชิบ

ซื้อมือถือสุดแพงเพื่อมาแทนนาฬิกาปลุก? ผมคิดว่า จริงอยู่ที่ปัญหาเล็กน้อยแบบนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่มันก็ไม่ใชเรื่องของ Apple ที่ต้องรับผิดชอบต่อการถูกไล่ออกจากงานนะครับ

ถ้าอยู่ดีๆ ตื่นมาสายโพดๆ เพราะนาฬิกาไม่ปลุก เป็นผมก็โทษนาฬิกาก่อนนั่นแหละครับ
แค่คราวนี้ นาฬิกานี้ยี่ห้อดังไปหน่อย แถมเป็นทุกเครื่องด้วย (ทุกวันนี้ผมก็ใช้โทรศัพท์ปลุก)

เรื่องการตกงานทาง Apple อาจไม่เกี่ยวโดยตรง แต่ถ้าแสดงความเสียใจ+ขออภัยเล็กน้อยมันก็ไม่น่าจะขาดทุนอะไรนะครับ อย่างน้อยก็ในของปัญหาโดยตรงก็พอ(ปัญหาไม่ปลุก) ดูแล้วเจ้าของจดหมายเค้าก็ขอให้ช่วยแจ้งปัญหาก่อนจะทำให้มีโอกาศเตรียมตัวได้ครับ ถ้าแจ้งไม่ทัน การขอโทษก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้เกินเลยอะไร

ปล. เค้าไม่ซื้อ iphone4 มาเป็นนาฬิกาปลุกอย่างเดียวหรอกครับ เค้าใช้มันเป็นนาฬิกาปลุกด้วย เพราะเค้าคิดว่า มันจะเป็นนาฬิกาปลุกที่ทำงานได้อย่างถูกต้องเท่านั้นเอง ไม่ใช้ความผิดของคนใช้แต่อย่างใด

เธอควรไปซื้อนาฬิกาปลุกราคาเท่า iPhone มาใช้นะครับ

หากเจอปัญหานาฬิกาในวันแรก วันที่สองก็ควรเตรีมพร้อมรับกับปัญหา และในวันที่สามเมื่อเจอปัญหามาแล้วสองวันไม่น่าจะนิ่งนอนใจในปัญหานั้น
ปล. คือไม่หวังพึ่งนาฬิกานั้น

ข่าวต่อไป จ๊อบส์ตอบกลับมา

"Use alarm Clock" - -

ผมว่าถ้าฟ้องร้องกัน น้องคนนี้ชนะครับ

อ่านหัวข้อตอนแรกผมนึกว่า เธออยู่ apple แล้วเป็นคนเขียนโปรแกรมนาฬิกาปลุกแล้วเจอ bug ... apple เลยไล่เธอออก ซะอีก

เหมือนเคยอ่านแล้วเลย

อ่านในจดหมายต้นฉบับได้ความว่า สาเหตุไม่ได้มาจากตัวเธอเอง

พี่สาวคนนี้มีปริญญาศิลปศาสตร์ 2 ใบ แต่ตอนนี้หางานไม่ได้เลยมาเป็นเด็กเสิร์ฟไปก่อน

แต่วันสิ้นปีเธอทำงาน 2 กะรวดตั้งแต่ บ่าย 3 โมงครึ่งถึงตี 4 จนกลับถึงบ้านได้นอนตอนตี 5 ก็เลยตั้งนาฬิกาให้ปลุกตอน 10 โมงเช้าให้ทันทำงานกะเที่ยงวันปีใหม่ซึ่งสำคัญมาก ทำงานดึกและเหนื่อยขนาดนี้ใครจะไปตื่นเองไหว

ตอนที่โดนเรียกไปไล่ออกเจ้าของร้านบอกว่าเธอทำงานดีแต่มาสายแบบนี้มันไม่ยุติธรรมกับลูกจ้างคนอื่น ตอนนี้เธอตกงานในเวลาที่หางานยากสุดๆ ไม่มีเงินแต่มีค่าใช้จ่ายมากมาย

และด้วยเหตุนี้ "คุณจ็อบ" มีส่วนทำให้เธอโดนไล่ออกโดยตรง ถ้าเตือนซักนิดว่ามันจะไม่ปลุก เธอจะได้หาซื้อนาฬิกาปลุกเรือนละ $5 มาใช้แทน iPhone ที่ต้องผ่อนจ่ายเดือนละ $100

สุดท้ายนี้ "สวัสดีปีใหม่" และหวังว่าคราวหน้าจะเตือนกันซักหน่อยนะ ถ้าอะไรมีโอกาสจะเสียอีก
ป.ล. ค่า iPhone เดือนนี้คงจ่ายช้าไปหน่อยนะ

• ตอบคำถามได้แล้วว่าทำไมถึงโดนไล่ออก และทำไมพี่สาวคนนี้ถึงบอกว่าไม่ใช่ความผิดเธอ

อยากคุยกับศาสดาก็ไม่บอก อิอ

ผมมองว่า
การที่เธอตั้งนาฬิกาปลุกเพื่อให้ตื่นทันไปทำงาน ถือว่าเธอมีความรับผิดชอบในส่วนของเธอ(บ้างแล้ว)นะ

มันเป็นแค่โทรศัพท์ไม่ใช่เหรอ?

ใช่ครับ มันเป็นแค่โทรศัพท์ แต่มันเป็นโทรศัพท์ที่มีราคาแพงที่ถูกโฆษณาว่าทำได้หลายอย่าง
ยกตัวอย่าง ถ้าคุณซื้อรถราคามหาแพงคันหนึ่งมา แล้วอยู่ๆวันหนึ่ง คุณพบว่าวันนี้คอมที่คอยคุมระบบการจ่ายไฟของรถไม่ทำงาน ทำให้คุณเอารถไปใช้งานวันนั้นไม่ได้ พอตอนเย็นโทรถามช่าง ช่างบอกว่า "อ๋อ ไม่มีอะไรมากครับ แค่โปรแกรมมันรวนนิดหน่อยก็เป็นอย่างนี้แหละครับรุ่นนี้ เจอทุกคน พรุ่งนี้ก็ใช้ได้ครับ" แต่วันนี้ภรรยาคุณคลอดลูกพอดี ก็แค่ไปไม่ทันเห็นหน้าลูกตอนคลอด ไม่มีเรา ลูกก็คลอดได้จริงไหมครับ?
แปลว่า เราดวงซวยเอง หรือ เราไม่มีความรับผิดชอบที่ไม่ได้ซื้อรถอีกคันไว้รึเปล่าครับ?

ของมันก็เสียกันได้ ทำไมนาฬิกาปลุกใน iPhone จะเสียบ้างไม่ได้?

อันนี้น่าคิดครับ แต่ถ้าตามข่าวกันหน่อย จะพบว่ามันเป็นBugของ iOS
(ซึ่งถ้าจำไม่ผิด เคยอ่านเจอว่ามีคนพบBugอันนี้ก่อนจะถึงวันปีใหม่ และจริงๆมันก็เคยเกิดเหตุไม่ปลุกมาแล้วครั้งหนึ่งถ้าจำกันได้)โทรศัพท์ไม่ได้เสียเพราะเธอทำตก หรือเพราะว่ามันเก่า เพราะหลายคนที่ลง iOS ก็รายงานว่าเจอปัญหานี้เช่นกัน

คราวนี้ Bugเล็กน้อยของโทรศัพท์ราคาแพงที่มีผลทางอ้อมทำให้บางคนตกงาน สำคัญมากแค่ไหนที่CEOของบริษัทผู้ผลิตจะออกมาขอโทษ?

โดนไล่ออกเอง แล้วหาเรื่องโทษนู่นโทษนี่รึเปล่า?

ไม่สำคัญหรอกครับว่ามันจะเป็นปัญหาใหญ่หรือเล็กจากโทรศัพท์ และโปรดอย่าบอกว่า ผู้หญิงคนนี้มีประวัติการทำงานที่เจ้านายกะว่าจะให้ออกอยู่แล้ว เพราะเราไม่รู้ข้อเท็จจริงใดๆ

ถึงการโดนให้ออกของเธอ"อาจจะ"เป็นความผิดของเธอ 99% แต่อีก 1% ที่ทำให้เธอตื่นสายก็ไม่ควรจะเกิดขึ้นจากการที่โปรแกรมนาฬิกาปลุกทำงานผิดพลาด (ที่สำควรจะแก้ไขได้)

ถ้ามันไม่เกี่ยวกับโทรศัพท์ราคาแพงที่บางคนเอามาใช้เป็นนาฬิกาปลุก (ซึ่งผมก็ใช้)
ถ้ามันไม่เกี่ยวกับความรู้สึกที่ว่า "นี่ ถ้าใช้โทรศัพท์เครื่องอื่นปลุกก็คงไม่โดนไล่ออก"
ถ้ามันไม่ทำให้ความมั่นคงในสภาพการเงินของผู้หญิงคนนั้นไม่แน่นอนเพราะใช้โทรศัพท์เครื่องนั้น

Dear Mr. Jobs ก็ไม่จำเป็นต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบโดยการขอโทษหรอกครับ

รถยนต์ที่วิ่งไม่ได้ วิทยุที่ไม่มีเสียง คอมพิวเตอร์ที่เปิดไม่ติด แอร์ที่ทำงานแต่ไม่เย็น

สินค้าที่ไม่ทำหน้าที่ของมันเอง แบบนี้ผมว่าน่าจะฟ้องร้องได้นะครับ
แต่กรณีที่ถูกไล่ออกก็อีกเรื่องนึง

ผมว่าฟ้องได้ครับ

ใครบอกนาฬิกาปลุกในโทรศัพท์ไม่สำคัญ ผมว่าคนที่ใช้นาฬิกาปลุกเพราะรู้ว่าตื่นเองไม่ไหว
ถึงได้ตั้งปลุกไงและที่สำคัญผมว่าเกิน 80% ใช้โทรศัพท์ตั้งปลุก หากเทียบกันดูกับนาฬิกาปลุกที่เป็นเครื่อง
เรายังไว้ใจไม่ได้เลยเพราะไม่รู้ว่าถ่านจะหมดวันไหน แต่กับโทรศัพท์เรารู้และเชื่อใจมันแน่นอนก่อนที่เราจะหลับ
ว่าพรุ่งนี้มันจะปลุกเราแน่นอน เพื่อให้เราตื่นไปทำอะไรก็ตามที่เราตั้งใจจะทำมัน คุณจ๊อบ ควรออกมาขอโทษ
หรือยอมรับในข้อผิดพลาดของผลิตภัณฑ์ตัวเองบ้างครับ..ซักเล็กน้อยก็ยังดี

Apple ไม่เคยผิดครับตั้งแต่เรื่องสัญญาณหายหล่ะ
ผมว่าเดี๋ยวได้มีลากมือถือค่ายอื่นมาตั้งปลุกโชว์อีก ว่ามือถือค่ายอืนก็มีปัญหาไม่ปลุกเหมือนกัน

หลายๆ คน ตอบว่า ตื่นสายเองไ่ม่ใช่ความผิดของโทรศัพท์ แต่ถ้าโทรศัพท์มี feature บางอย่าง แล้ว feature บางอย่างนั้นใช้งานไม่ได้อย่างที่ควรจะเป็น มันเป็นสิ่งที่บกพร่องที่ผู้ผลิตควรจะต้องแก้ไขหรือเปล่า? แล้วถ้ามันเกิดผลเสียหายต่อผู้ใช้ขึ้นมา อะไรคือจุดแบ่งระหว่างสิ่งที่ผู้ผลิตควรจะต้องออกมารับผิดชอบ ออกมาขอโทษ หรือว่าก็ช่างมัน

"อย่าไปใช้มือซ้ายโทรสิ"
"ก็อย่าไปใช้มันปลุกตอนวันปีใหม่สิ"

นี่คือความรับผิดชอบเหรอ? (ผมยกตัวอย่างเฉยๆ นะครับ)

บางคนอาจจะมองว่า iPhone คือโทรศัพท์นะ ฟังก์ชันหลักของโทรศัพท์คือใช้โทร เพราะงั้นส่วนของนาฬิกาปลุกคือของแถม บางคนอาจจะรู้สึกว่านี่มันเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาวชัดๆ เรื่องมันจิ๊บจ้อยมาก แต่ถ้ามันเ็ป็นหนึ่งใน feature ของสินค้าที่ขาย ไม่ว่าจะเป็น core function หรือ extra function ก็ตาม ถ้าผู้บริโภคเอามาใช้และมีปัญหา ผู้ผลิตก็สมควรจะต้องรับผิดชอบ รับผิดชอบกันขนาดไหนก็ค่อยว่ากันครับ

เห็นสองความเห็นที่โดนใจ
- "ถึงแม้มันจะไม่ปลุกก็ควรตื่นเอง" ถ้าคนเราตื่นเองได้จะใช้นาฬิกาปลุกแต่แรกทำไม FAIL!!!
- "โดนไล่ออกจะให้รับผิดชอบ" ความรับผิดชอบมันไม่ต้องเท่ากับความเสียหายที่เกิดก็ได้ แค่รับผิดชอบในส่วนที่มันผิดก็อาจจะพอแล้ว แต่นี่ยังไม่เคยทำ ชิมิ ชิมิ

โดยปกติแล้วใครที่นอนเป็นเวลาเดียวกันเป็นประจำ จะตื่นเองในเวลาเดียวกันทุกวัน นอกเสียจากว่าจะนอนดึกหรือเพลียจัด สำหรับรายนี้สงสัยจะฉลองเพลินไปหน่อยแล้วไปโทษไอโฟน แทนที่จะมีความระวังการใช้ชีวิตมากกว่านี้

อาจจะมี Law firm ติดต่อไปแล้วก็ได้นะ

แอร์น้ำหยดลงบนคอมผมพัง
ผมควรฟ้อง บ.ผลิตแอร์รึเปล่า?
ผมควรเรียกเงินค่าแอร์เครื่องนั้นคืน
หรือค่าคอมด้วย?
(แอร์ยังเย็นดี ทำงานได้นะ)

ผมว่าที่ผิดคือคนใช้ ที่ไว้ใจเทคโนโลยีนั้นมากเกินไป
ส่วนถ้าโดนกับตัว ก็คงทำได้แค่ว่า โทษดินฟ้าแล้วคราวหลังไม่ใช้เทคโนโลยีห่วยๆ นั้นอีก

ทำไมไม่เอานาฬิกาเอ้ย...ไอโฟนเครื่องนั้นตั้งเวลาย้อนหลังแล้วดูว่ามันปลุกหรือไม่ ถ้ามันไม่ปลุกค่อยว่ากันอีกที มัวแต่ใช้อคติส่วนตัวเถียงกัน

ขอไว้อาลัยสาวก 1 คนผู้ออกรับกระสุนแทนท่านศาสดา

ศาสดาจ๊อบจะออกมาขอโทษมั้ยน้อ

สาวกแถเลือดกระจาย

ขอมอบ โลห์ ให้ทุกท่าน..

กลายเป็นดราม่ายาว

เอ่อ..ไม่รู้จะกดอธิบายตรงไหนดี

มัวแต่บอกให้พิสูจน์อยู่นั่น
ทำไมไม่ลองหาข้อพิสูจน์ขัดแย้งของตัวเองมามั่งล่ะครับ
หาง่ายกว่าเยอะเลย
เอาแค่คนเดียวเท่านั้น ที่นาฬิกาปลุกในวันที่ 1 คุณจะชนะทันที

เส้นทางศาสดาจอมแถ
ตอน คดีปริศนาสาววัย 28 ถูกไล่ออกจากงาน

ผมในฐานะนักอ่านข่าวได้ใช้วิจารณญาณส่วนตัวเพื่อพิจารณาว่าข่าวของผู้หญิงคนนั้นเกิดขึ้นจริงหรือไม่ โดยไม่ใช้ความเอนเอียงส่วนตัวหรือข่าวที่ได้รับจากแหล่งข่าวอื่น แล้วใปฟันธงกับเหตุการณ์ตามเนื้อข่าวนี้ โดยสรุปเนื้อหาของข่าว คือ

สาววัย 28 ปี ถูกไล่ออกจากงานด้วยการให้เหตุผลว่าไอโฟนของเธอไม่ปลุกในวันที่ 1 ทำให้ตื่นสาย

ซึ่งผมได้ตีกรอบการพิจารณาไว้ดังนี้
1.ไอโฟน ไม่ปลุกทำให้เธอตื่นสาย
2.ไอโฟนปลุก แต่เธอไม่ตื่น
3.ฉลองเพลินแล้วตื่นสาย หาแพะแก้เก้อเพื่อผลบางอย่างในการได้กลับมาทำงาน

ย้อนกระทู้กผมได้กล่าวไว้คือ ผมไม่ได้บอกว่าไอโฟนปลุกหรือไม่ปลุก แต่มีคนบอกว่าเป็นทุกเครื่อง ผมแย้งไปว่าถ้าอ้างทุกเครื่องก็มีความจำเป็นที่ต้องแสดงให้เห็นว่าเกิดทุกเครื่องจริงๆ มีหลักฐานยืนยันได้ ถ้าหาไม่ได้ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะกล่าวเช่นนั้น แน่นอนว่าการอ้างอิงแบบนี้ศาลไม่รับฟัง

บางคนบอกว่านั่งเทียน บางคนถามว่าได้อ่านไหม ต้องบอกตรงๆ ก่อนว่า สื่อที่ผมแสดงออกเฉพาะคดีความสาววัย 28 กับไอโฟนของเธอเท่านั้น ผมจะบอกนัยๆ ว่า คนเราไม่ได้สนใจทุกเรื่องราวเหมือนกัน แน่นอนว่าผมมีเรื่องที่น่าสนใจส่วนตัว และคุณก็มีเรื่องที่น่าสนใจส่วนของคุณ ดังนั้นจะมาถามว่าได้อ่านไหม ซึ่งได้อ่านไหมของคุณอยู่ตรงส่วนไหนของโลกไม่รู้ ถ้าถามผมๆ ก็จะถามกลับแบบนั้นถึงผู้หญิงที่ถูกไล่ออกจากงาน คำตอบผมว่าไม่ต่างกัน มิฉะนันทุกเรื่องราวบนโลกนี้เมื่อเกิดขึ้นจะถูกถามว่าได้อ่านไหม ซึ่งเป็นการพูดทางอ้อมว่า "โง่แล้วเสือก" [นอกเรื่อง]ตัวอย่างเช่น คนขับรถถูกบุคคลลึกลับขับรถมอเตอร์ไซต์ตามแล้วชี้ที่ล้อ พอเธอจอดจึงถูกทำร้าายและถูกปล้น พอไปแจ้งความถูกลอกว่า "คำเตือนก่อนหน้านี้ได้อ่านไหม" [/นอกเรื่อง]

ผมพยายามอธิบายให้หาข้อพิสูจน์สำหรับคดีนี้ (เขาไม่ได้แจ้งความแต่ผมเรียกว่าคดี) แต่ถูกกล่าวหาว่า เป็นสาวก แถแทนศาสดา
คดีที่เกิดขึ้นผมพยายามหาเหตุผลแห่งความเชื่อโดยการตัดปัจจัยความเป็นไปได้ออกทีละข้อ ดังนี้

ข้อ 1 ให้พิสูจน์ด้วยการนำไอโฟนเครื่องที่เธอใช้มาทดสอบด้วยการตั้งเวลาย้อนหลัง เพื่อเป็นประโยชน์กับตัวเธอเอง ไม่ใช่คำอ้างเฉยๆ ถ้าผิดก็ว่าไปตามผิด จะเคลม จะฟ้องร้อง หรือเรียกร้องหาความรับผิดชอบก็ทำไป
ผมเชื่อว่าหลายคนใช้ความเอนเอียงในอคติส่วนตัวและข่าวในการตัดสินคดีความในข้อนี้

ข้อ 2 อันนี้พิสูจน์ได้เช่นเดียวกัน แต่ข่าวไม่ได้รับการพิสูจน์ (เท่าที่อ่านจากข่าว)

ข้อ 3 ไม่ได้ตั้งปลุกเลย เป็นธรรมดาของคนเมื่อมีความผิดก็จะพยายามหาเหตุผลอื่นมาอ้างเพื่อให้ต้นพ้นผิด [นอกเรื่อง]ผมเชื่อว่าหลายคนอ้างมาทำงานสายเพราะรถเสีย รถติด ลูกไม่สบาย[/นอกเรื่อง]

ถ้าพิสูจน์ด้วยหลักฐานแล้วมันจะเป็นผลดีต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เช่น ได้งานคืน หางานใหม่ได้โดยไม่ถูกกังขา ทำได้แต่ไม่ทำ ก็ไม่รู้เหตุผลอะไร

ผมพยายามสื่อแต่คงจะสั้นไป หลายคนบอกว่าไอโฟนไม่ปลุก ผมไม่ได้พูดถึงไอโฟนทั่วโลกไม่ปลุก แต่กำลังพิจารณาคดีความเฉาะที่เกิดขึ้นตามข่าวเท่านั้น คือ ผู้หญิงคนนั้นกับไอโฟนของเธอ พยายามสื่อแล้วแต่ถูกนักอ่านข่าวหลายคนตอบโต้ด้วยอคติในความเชื่อส่วนตัวจากข้อ 1 ทำให้เหตุผลหรือเงื่อนงำอื่นตกไป

การพิจารณาคดีความศาลจะไม่รับฟังจนกว่าคนนั้นจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในคดี ในข่าวนี้ ถ้าจะอ้างคอมเมนต์ๆ นั้นจะต้องถูกได้รับการแต่งตั้งหรือการใดก็ได้ให้ได้รับการยอมรับเสียก่อน หรืออาจจะให้เจ้าของข่าวยืนยันตามนั้น

ผมเซ็งอยู่เรื่องคือทำไมเวลามีข่าวที่หาแพะไม่ได้ ต้องโทษนักข่าวฟระ!