ที่งาน CES 2011 เว็บไซต์ Engadget ได้สัมภาษณ์ Matias Duarte ซึ่งปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่าย user experience ของ Android
บทสัมภาษณ์นี้ยาว 25 นาที อาจจะยาวไปนิดแต่ผมแนะนำให้ดูเป็นอย่างมาก ตัวคุณ Matias เองเป็นนักออกแบบที่มีส่วนกับบริษัทมือถือดังๆ ทั้ง Sidekick และ webOS มาแล้ว ล่าสุดเขาย้ายมาอยู่กูเกิล และมีบทบาทสำคัญต่อการออกแบบ Honeycomb (ซึ่งทุกคนดูวิดีโอ กันไปแล้ว) เป็นอย่างมาก
การทำงานที่กูเกิล
Matias บอกว่าเป้าหมายในชีวิตของเขาคือออกแบบคอมพิวเตอร์ที่ "ไม่ห่วย" (เขาบอกว่าปัจจุบันยังห่วยแต่ก็ดีขึ้นกว่าเดิม)
เขาย้ายมากูเกิลเพราะเป็นยุคของ mobile computing และไอเดียรากฐานของ Android แตกต่างจากทุกที่ที่เขาเคยทำงานมา คือเป็นการสร้างแพลตฟอร์มกลางที่ใช้ได้กับฮาร์ดแวร์จำนวนมาก ต่างจากที่ทำงานเดิมๆ ของเขาที่บริษัทเดียว ทำผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ไม่เปิดร่วมกับใคร
เขาเข้ามาทำงานหลัง Froyo แต่ก็มีเวลาทำ Gingerbread ไม่มาก เลยปรับ UI ส่วนของคีย์บอร์ด, การเลือกและคัดลอกข้อความ และรายละเอียดอีกเล็กๆ น้อยๆ
เขาเล่าว่ากูเกิลวางแผนจะออก Gingerbread ก่อน แล้วถึงค่อยคิดว่าควรมีฮาร์ดแวร์รองรับ จึงเป็นที่มาของ Nexus S ในภายหลัง (เขาเปรียบเทียบว่า Gingerbread คือเครื่องยนต์รุ่นใหม่ และ Nexus S คือรถต้นแบบที่เอาไว้โชว์เครื่องยนต์)
Honeycomb
Matias เล่าว่า Honeycomb เป็นจุดเริ่มต้นของ Android ในทิศทางใหม่
Honeycomb สามารถใช้ได้กับฮาร์ดแวร์ที่ไม่มีปุ่มจริง เพราะออกแบบมาให้รับ virtual buttons ทั้งหมดแต่แรก
เขาบอกว่าใน Android รุ่นแรกๆ ต้องออกแบบให้รองรับมือถือที่มีปุ่มกด แต่ในกรณีของ Honeycomb ที่ใช้กับแท็บเล็ต ปุ่มจะใช้ลำบากเพราะเครื่องเอียงได้รอบทิศ เอื้อมไปกดปุ่มยาก จึงออกแบบเป็น virtual buttons แทน
อย่างไรก็ตาม Honeycomb ยังใช้กับมือถือแบบมีปุ่มกดได้ ขึ้นกับผู้ผลิตฮาร์ดแวร์จะเลือกใช้
ประเด็นด้าน UI อื่นๆ ที่ถูกแก้ไขใน Honeycomb คือการกดปุ่มค้างเพื่อสลับโปรแกรม ซึ่งคนไม่รู้จักจะไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ทางออกก็คือเพิ่มปุ่มบนหน้าจอที่กดแล้วจะเห็นรายการของโปรแกรมที่เปิดอยู่แทน
Android จะยังใช้การกดปุ่มค้างต่อไปในกรณีอื่นๆ เช่น การเลือกข้อความ และจะพัฒนาให้สม่ำเสมอมากขึ้น
ปัญหาอีกอย่างของ Android ที่โดนบ่นมากคือต้องสั่งงานผ่านเมนูที่ถูกซ่อนไว้ ซึ่งใน Honeycomb จะเปลี่ยนเป็น button bar ให้เห็นปุ่มชัดๆ โดยปุ่มจะเปลี่ยนไปตามสถานการณ์การใช้งาน
Matias ยืนยันว่า button bar สามารถใช้กับอุปกรณ์ขนาดเล็กกว่าแท็บเล็ตได้
เขาปิดท้ายว่า Honeycomb ที่เห็นในงาน CES 2011 เป็นเพียงแค่ "ส่วนหนึ่ง" เท่านั้น ยังมีของใหม่อีกมาก
ที่มา - Engadget , PocketNow
Comments
ขนม
กินง่าย กินที่ไหนก็อร่อย?
อยากรู้ว่าไม่ห่วยในสายตาของ Matias Duarte เป็นอย่างไร
ฟังจบเลยครับ ผมว่าคุณ Matias นี่เจ๋งใช้ได้เลยนะ พูดเก่งดี
บ. ของหลายๆท่านในนี้ มีกันป่ะครับ ฝ่าย user exp เนี่ย ?
มีแต่ Developer experience ครับ
ปัญหาอีกอย่างของ Android ที่โดนบ่นมากคือต้องสั่งงานผ่านเมนูที่ถูกซ่อนไว้ << เป็นยังไงครับ
ตรงที่มีแสง
เข้าใจว่า เป็นการแตะค้างเพื่อเรียกเมนูพิเศษครับ คล้าย ๆ คลิกขวา
ที่เคยใช้มาก็รู้สึกเหมือนกันครับ ถ้าเป็นกรณีเดียวกับที่ผมรู้สึกนี่ คือเวลาจะสั่งงานอะไรในโปรแกรม (เหมือน menu bar บนพีซี) จะต้องกดเรียก popup menu จากปุ่ม menu ที่เป็นปุ่มจริงๆ บนมือถือ ซึ่งก็ไม่มีทางอื่นให้เรียกใช้นอกจากต้องกดปุ่มจริงๆ ปุ่มนี้ (หรือกดค้างบนจอได้หว่า? ต้องลอง) แถมถ้าไม่กดดูก็ไม่รู้ด้วยว่ามีเมนูอะไรบ้างเพราะก็ถูกซ่อนไว้นั่นเอง
ประมาณว่า คนส่วนใหญ่จะมองหาว่ามีอะไรบนหน้าจอก่อน อย่าง WinMo มันก็จะโชว์เมนูของโปรแกรมบน softkey ที่อยู่บนหน้าจอเลย ก็เลยรู้ว่ามีเมนูให้เรียกได้นะ ..แต่ android ความรู้สึกมันเหมือนซ่อน menu ไว้ ต้องกดปุ่มบนแป้นจริงก่อนถึงจะโชว์ออกมา ใช้ใหม่ๆ ก็งง ใช้โปรแกรมบางตัวลืมไปเลยว่ามันมีเมนูด้วยก็มี ถ้าแก้ได้ตรงนี้ก็ดีครับ
+1 เผลอๆ บาง app ต้องกดแตะค้างถึงจะมีเมนูพิเศษซ่อนขึ้นมาอีก
ผมเคยใช้แอพ Twicca บนน้องด๋อย เวลาแตะค้่างจะมีเมนูขึ้นมาและถ้าแตะค้างบน list ในเมนูนั้นอีกก็จะมีโผล่ซ่อนมาอีก โอ้ววว แม่เจ้า! อารมณ์นั้นเหมือนค้นพบขุมทรัพย์ใหม่
ไม่รู้ว่ามันทำให้เราสนุกขึ้นสะดวกขึ้น หรือเพิ่มความนอยด์ขึ้นหว่า ต้องมานั่งเทสกับแอพอื่นใหม่หมด 555 (มีอะไรซ่อนอีกป่ะวะ)
ความรู้สึกเหมือนกันเลยครับ...
เหมือนหา Easter Egg เจอ ^_^
สรุปว่ายังใช้ยากสำหรับคนทั่วไปหรือยังไง
เค้าให้ความเห็นว่ามันยังง่ายได้มากกว่านี้ครับ
^
ก็มันเป็นจอมือถืออ่ะนะ ก็เข้าใจว่าถ้าใส่ menu bar เข้าไป มันก็เกะกะ
ซ่อนไว้ก็ดี แต่บางทีก็หาไม่เจอ หรือคาดไม่ถึงว่ามันซ่อนอยู่
กดปุ่ม Reply ที่ความเห็นที่ต้องการตอบกลับสิจ๊ะ