บริษัทวิจัย Forrester Research ออกรายงานพยากรณ์อนาคตของจาวา หลังอยู่ภายใต้การกำกับทิศทางจากออราเคิล รายงานชิ้นนี้ Forrester หาข้อมูลจากการสัมภาษณ์บริษัทใหญ่ๆ ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับจาวา รวมถึงสัมภาษณ์นักพัฒนาทั้งผ่านเว็บไซต์และในงานสัมมนาอย่าง JavaOne
ตัวรายงานฉบับเต็มขายราคา 499 ดอลลาร์ แต่เราก็พออ่านเนื้อหาบางส่วนของรายงานได้จากบล็อกของ Forrester และเว็บไซต์บางแห่งที่ได้อ่านรายงานฉบับนี้
เนื้อหาแบบสรุปก็คือ นโยบายใหม่ของออราเคิลจะทำเงินจากจาวาได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการที่คนใช้จาวาน้อยลง และจาวาจะมีสถานะคล้ายกับ COBOL คือใช้เฉพาะในองค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น
Forrester ชมออราเคิลว่าเข้ามาแก้ปัญหาเรื่อง "ความล่าช้า" ในการออกจาวารุ่นใหม่ๆ โดยตั้งเป้าออก Java SE 7 และ Java SE 8 ภายในอีก 2 ปีข้างหน้านี้ (ดูภาพแรกประกอบ) การออกรุ่นอย่างสม่ำเสมอเป็นผลดีต่อลูกค้าองค์กร ที่จะวางนโยบายล่วงหน้าได้ว่าควรปรับรุ่นตามบ่อยแค่ไหน
แต่ Forrester บอกว่าสิ่งที่ออราเคิลยังไม่ได้แก้ไขคือ "ความซับซ้อน" ของแพลตฟอร์มจาวา ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่ทำให้จาวาด้้อยกว่า .NET นอกจากนี้ นโยบายการควบคุมแบบ "บนลงล่าง" (top-down) ของออราเคิล จะทำให้จาวาไม่ถูกใช้ในตลาดใหม่ๆ อย่าง rich internet platform, business process management และมีฟีเจอร์ด้านเทคนิคตามไม่ทันภาษาใหม่ๆ อย่าง Ruby ด้วย
Forrester แจกแจงว่าออราเคิลเข้ามาเปลี่ยนทิศทางของจาวาเดิม ดังนี้
โดยสรุปก็คือ Java 7 และ Java 8 จะเดินหน้าต่อไป แต่จะจำกัดอยู่เฉพาะในวงของออราเคิลและพาร์ทเนอร์ใกล้ชิด องค์กรขนาดใหญ่จะชอบการเปลี่ยนแปลงนี้ ส่วนนวัตกรรมใหม่ๆ จากโครงการโอเพนซอร์สจะไปเกิดที่อื่นแทน และองค์กรขนาดเล็กที่ไม่ต้องการพลังของจาวา จะมองหาเครื่องมืออื่นๆ อย่าง LAMP และ HTML5
ที่มา - Forrester Blog, NetworkWorld
ภาพประกอบจาก ReadWriteWeb (1), ReadWriteWeb (2)
เว็บไซต์ ReadWriteWeb เล่นประเด็นนี้เยอะ โดยตั้งโพลสอบถามผู้อ่านว่ามองหาแพลตฟอร์มอื่นใช้แทนจาวาหรือไม่ ผลที่ได้คือ "ใช่" รวมกันประมาณ 57% รายละเอียดดูกันเองตามลิงก์ครับ
Comments
WTH!
กำลังคิดว่า Forester พยากรณ์ช้าไปมั้ยครับ ผมว่า Developer ทั่วๆ ไปก็มองเห็นทิศทางของตลาดตั้งแต่ Oracle ประกาศนโยบายแล้วนะ
นักพัฒนาเห็นภาพ เเต่อาจจะไม่ได้มีอำนาจตัดสินใจในองค์กรก็ได้ครับ
รายงานฉบับนี้น่าจะขายให้กับพวกที่มีอำนาจตัดสินใจในองค์กร หรือพวกระดับบริหารมากกว่า
อย่างนี้เรียกว่า Lobby อ้อมๆ ได้มั้ยครับ
หวังว่าจะได้เห็น การสร้างภาษาใหม่ และใช้งานอย่างจริงจัง จากูเกิลในเร็วๆ นี้
ผมว่า Google จะจับภาษาเดิมๆ มาแต่งตัวใหม่มากกว่านะ
ถ้า GG มองเห็นหนทางการทำรายได้จากมันนะ แต่ดูท่าจะยาก
เห็น roadmap แล้วน่าเป็นห่วง ตัวLambda .net มีมาหลายปีละ ของjava กว่าจะออก ปลายปีหน้า
...เห้อ
พวกพื้นฐานใช้คล่องละ เตรียมลงลึกไปอีกขั้น
พอพูดว่า "Java จะกลายเปนภาษาสำหรับ Server"
ผมก็มองว่า มันก็ไปเข้าทางกระแส Cloud พอดีนะ
ถ้าการเขียนโปรแกรม Cloud เริ่มแพร่หลายมากขึ้น ก็กลายเปนช่องตีกลับทันทีเลย
มองว่า oracle พยายามทำให้เหมือน abap มากกว่า คือ sap คุมอยู่เจ้าเดียว ที่เหลือเป็น partner จะใช้ต้องจ่าย license ส่วน dev ต้องจ่ายค่าสอบ cert
มันเริ่มไม่ฟรี และอาจแพงด้วยนี่สิ !!!
คนทำงานด้วย Java และอยู่องค์กรใหญ่ ยิ้มรับข่าวดี ค่าตัวขึ้นแล้ว ซื้อตัวกันให้อุตลุด
คนทำงานด้วย Java และอยู่องค์กรขนาดกลางถึงเล็ก ต้องเริ่มปรับตัว ศึกษาอย่างอื่นเพิ่ม เพราะบริษัทอาจจ่ายค่า License ไม่ไหว หรือ อาจจำเป็นต้องย้ายไปบริษัทที่ใหญ่ขึ้นที่มีกำลังซื้อดี
ผมชอบข่าวดีนี้ ก่อนนี้ Java มีทั้ง Spring, EJB หลากหลาย Framework เกินไป เพราะหากไปหัด Spring แล้ว ก็คงไม่อยากจะไปหัด EJB อีก พอตอนนี้ Oracle มาคุมทำให้ไม่ต้องไปหัด Framework เจ้าอื่นแล้วจะหางานไม่ได้ หัด EJB ที่ Oracle คุม มันเห็นทิศทางอนาคตมากกว่า ถ้าถามความรู้สึกในลักษณะของเจ้าของธุรกิจ จะชอบความมั่นคงของเทคโนโลยี เพราะมันเปลี่ยนแปลงเวอร์ชั่นสูงขึ้น แต่แก่นที่ร่ำเรียนมาของพนักงานในบริษัทมันไม่หายตาม แค่เรียนรู้เพิ่มอีกนิด ไม่ต้องผวาว่ามันจะหยุดการพัฒนาแบบที่ผ่าน ๆ มา แล้วต้องทำให้หันไปหา Framework เจ้าอื่น
เขียนข่าวได้แจ่มจริงๆ
เยี่ยมมาก
กลุ้มกำลังเขียน app ขายด้วย java อยู่เป็นแบบนี้เริ่มไม่สบายใจแล้ว
ใช้ .NET ซิครับ ตัว Professional ราคา 18,000 บาท แต่มีให้ใช้ทุกอย่างรวมถึง Report ด้วย
android ฤๅจะได้ไปซบ C#
ไม่แน่อาจไปซบ Objective-C ฮา คราวนี้ port ง่าย
ผมว่า Android หนีไปทาง C/C++ แล้วนะ
อย่างนี้พวกภาษาอื่นๆที่ใช้ jvm จะเป็นยังไงเหรอครับ
But my university teach only Java T.T
Comment via #Kindle edition
ก็น่าจะเพียงพอแล้ว?
ม.ผมสอน c กับ java ครับ ที่เหลือไม่สอนแต่ต้องทำเป็น c# php ruby ฯลฯ แล้วแต่ชอบ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ของผมรู้สึกว่า c ก็ไม่ได้สอนน่ะครับ ที่เหลือก็จับกันเองตามใจชอบ แต่ส่วนมากงานออกมาก็เลยเป็น java กัน
But my university teach only Java T.T
Comment via #Kindle edition
เท่าที่เรียนกับ Dr.วีรศักดิ์ ซึงถาวร เมื่อหลายปีก่อนมาก (น่าจะ 5ปีละ)
อาจารย์ท่านก็บอกว่า ภาษา Java เหมาะสำหรับการทำด้าน Server มากกว่า
ไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะเอามาทำ App ใช้ในเครื่องทั่วไป
เพราะมันบริโภคแรมแอนด์ซีพียูเยอะมาก เครื่อง Desktop เอาไม่อยู่ครับสำหรับในสมัยนั้นเลยบอกว่า เต่าเรียกเทพ ขี่ช้างจับตั๊กแตนต้องใช้ Java สำหรับปัจจุบัน แรมถูก ซีพียูมีหลายคอร์ ในระดับ Enterprise แล้วถือว่าคุ้มค่ามากหากใช้คู่กับ RedHat + Oracle ทุกอย่างอู้หู (ที่ตกใจนี่ค่า License ครับ)
CentOS คู่กับ PostgreSQL แทนได้ไหม (ที่ตกใจค่าครูแทน)
ทำไมต้อง RedHat + Oracle
แต่ที่รู้ตอนนี้ทั้งคู่เริ่มจับมือกันทำตลาดด้วยกันแล้วนะ ดูจากงานสัมนาจะเกี่ยวก้อยกันมา
คนทำ java ก็จะค่าตัวแพงขึ้น ดีๆ หรือคนทำ java ก็ค่อยๆ หายไปเหมือน COBOL
ผมว่ามันก็ทั้งสองพร้อมๆ กันนั่นแหละครับ